ตอนที่แล้วตอนที่ 17
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 19

ตอนที่ 18


เมื่อเจี่ยงซวี่เปิดประตูเข้าไป ก็เห็นผู้กำกับจางและคนเขียนบทนั่งอยู่ด้วยกัน

เขาคำนับให้อย่างมีมารยาท กล่าวทักทายตามลำดับ และเริ่มแคสติง

หลังจากแสดงเสร็จ เจี่ยงซวี่ก็พูดขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจว่า “เมื่อกี้ตอนที่เดินเข้ามาผมเจอเฉิงอวี้ด้วย”

“เขาก็มาแคสติงเหมือนกับนายนั่นแหละ” ผู้กำกับจางพูด

“เขามาแคสบทอะไรเหรอครับ กู้ซูอวี่เหมือนกับผมหรือเปล่า”

“ไม่ใช่หรอก” ผู้กำกับจางตอบอย่างไม่ใส่ใจ “เขามาแคสบทจิ่งฮ่วน”

เจี่ยงซวี่ชะงักไป เขาเกือบจะหัวเราะออกมาแล้ว

เจี่ยงซวี่กลั้นขำเอาไว้ในใจ พูดขอบคุณอย่างมีมารยาทแล้วเดินออกจากห้องมา และตอนนั้นเขาถึงหัวเราะเสียงดังได้

จิ่งฮ่วน เป็นจิ่งฮ่วนจริงๆ ด้วย

บทนี้เหมาะกับเฉิงอวี้จริงๆ เจี่ยงซวี่ไม่รู้ว่าถ้าตอนนั้นเขาแคสบทผ่าน เขาเป็นกู้ซูอวี่ เฉิงอวี้เป็นจิ่งฮ่วน ถึงตอนนั้นเฉิงอวี้จะทำหน้ายังไงนะ

เขาน่าจะยกเลิกสัญญาและไม่เล่นเรื่องนี้ละมั้ง อย่างไรก็ตาม ถ้าให้เฉิงอวี้มาแสดงความรักกับเขา มันก็จะน่าขำเกินไปหน่อย

เจี่ยงซวี่อดขำออกมาไม่ได้ แต่เขาก็หวังว่าเฉิงอวี้จะแคสบทนั้นผ่าน

เฉิงอวี้กับซุนเมิ่งเดินมาถึงลานจอดรถชั้นใต้ดินแล้ว ในตอนที่เฉิงอวี้กำลังเดินอยู่ เขาก็ได้ยินเสียงคนเรียกว่า “พี่เฉิง”

เฉิงอวี้หันกลับไปมองอย่างสงสัย จากนั้นเขาก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยและเหมือนจะไม่คุ้นเคย

เซี่ยฮุยวิ่งเหยาะๆ เข้ามายืนอยู่ตรงหน้าเฉิงอวี้พร้อมโค้งตัวให้อย่างมีมารยาท “พี่เฉิง พี่ก็มาแคสติงเหมือนกันเหรอครับ”

เฉิงอวี้มองใบหน้าของเซี่ยฮุย ที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินแสงไม่ค่อยสว่างนัก ทำให้เฉิงอวี้เห็นใบหน้าของคนที่อยู่ข้างหน้าช่างคุ้นเคยมาก

เฉิงอวี้สับสน “นายคิดว่าหน้าตาตัวเองขี้เหร่มากเหรอ”

เซี่ยฮุยชะงักไป พร้อมถามอย่างอึดอัดว่า “ทำไมพี่พูดแบบนี้ล่ะครับ ผมทำอะไรผิดเหรอ”

“ถ้าหากไม่ได้คิดว่าตัวเองขี้เหร่ แล้วทำไมนายต้องทำตัวเป็นคนอื่นล่ะ ใบหน้าที่แท้จริงของนายจะให้คนอื่นเห็นไม่ได้เหรอ”

ตอนนั้นเซี่ยฮุยรู้สึกอึดอัดมากกว่าเดิม เขาพูดอย่างติดๆ ขัดๆ ว่า “พวกเขาช่วยผมแต่งหน้าให้เป็นแบบนี้”

“นายเองก็โตแล้ว น่าจะมีความคิดเป็นของตัวเองได้แล้ว”

เมื่อพูดจบเฉิงอวี้ก็เดินไปที่รถของตัวเอง จากนั้นเขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง จึงหันหลังกลับไปมอง

“มีอะไรเหรอ” ซุนเมิ่งถาม

“ตรงนั้นมีคน” เฉิงอวี้มองไปด้านหนึ่งแล้วพูดเสียงเรียบว่า “เขากำลังถ่ายรูปอยู่”

ซุนเมิ่งเดินเข้าไป จึงเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง

“ขอโทษค่ะ ขอโทษ” ผู้หญิงคนนั้นรีบกล่าวขอโทษ “ฉันเพิ่งเคยเจอพวกคุณ ก็เลยอยากถ่ายรูปลงในวีแชต”

ซุนเมิ่งเห็นดังนั้นจึงตรวจสอบรูปภาพของเธอ รูปนั้นเป็นรูปเฉิงอวี้กำลังก้มหน้า เพราะว่าแสงน้อย จึงทำให้รูปดูเงียบเหงาและมืดมนเล็กน้อย

“ได้ไหมคะ” ผู้หญิงคนนั้นกระซิบถาม

ซุนเมิ่งพูดอย่างจนใจ “ก็ได้ ครั้งหน้าอย่าทำแบบนี้อีกนะครับ ยังดีที่ผมไม่ว่าอะไร ถ้าเป็นดาราคนอื่น เขาคงยึดโทรศัพท์มือถือของคุณแน่”

“เข้าใจแล้วค่ะ” ผู้หญิงคนนั้นพูดเสียงเบา

ซุนเมิ่งเดินกลับไปหาเฉิงอวี้อีกครั้ง จากนั้นพูดว่า “ไม่เป็นไร เธอแค่ถ่ายรูปเฉยๆ”

เฉิงอวี้ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก ค่อยๆ เดินขึ้นรถตัวเองไป

หลังจากที่ขึ้นรถมา เขาก็เอาหัวพิงเบาะ ในใจรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล

“ถ้าเจี่ยงซวี่แคสผ่าน ฉันไม่เล่น” เขาพูดกับซุนเมิ่ง

ซุนเมิ่งรู้ดีอยู่แล้วว่าเขากับเจี่ยงซวี่ไม่ถูกกัน ดังนั้นก็เลยไม่ได้พูดโน้มน้าวอะไร พร้อมบอกว่า “เข้าใจแล้ว”

เฉิงอวี้หลับตาลงและงีบหลับไป

ในตอนที่เจี่ยงซวี่กำลังเตรียมตัวเข้าลิฟต์ คนที่เดินออกมาจากมาลิฟต์คือเซี่ยฮุย

เจี่ยงซวี่มองเซี่ยฮุยอย่างตกใจ เซี่ยฮุยกล่าวทักทายเขาอย่างมีมารยาท “พี่เจี่ยงสวัสดีครับ”

“มาแคสติง”

“อื้อ”

“แคสบทไหนเหรอ” เจี่ยงซวี่ถาม

“กู้ซูอวี่” เซี่ยฮุยตอบอย่างตรงไปตรงมา

เจี่ยงซวี่ยิ้มเล็กน้อย แล้วเขาก็หลุดขำออกมา

เซี่ยฮุยไม่รู้ว่าเจี่ยงซวี่หัวเราะทำไม ผู้จัดการของเซี่ยฮุยก็ขมวดคิ้วมอง

เจี่ยงซวี่โบกมือแล้วพูดว่า “ไม่ได้ขำนาย พอดีฉันนึกอะไรตลกๆ ขึ้นมาได้น่ะ”

เขาเห็นว่าเซี่ยฮุยมีส่วนคล้ายหลินอันหลานอยู่หลายส่วน จึงตบบ่าอีกฝ่ายแล้วพูดว่า “ขอให้นายแคสผ่านนะ”

“ขอบคุณครับ” เซี่ยฮุยตอบอย่างมีมารยาท

“ไม่ต้องเกรงใจ” พูดจบเจี่ยงซวี่ก็เดินเข้าลิฟต์ไป

ประตูลิฟต์ปิดลง เขาก็อดหัวเราะอีกครั้งไม่ได้

เฉิงอวี้มาแคสบทจิ่งฮ่วน เซี่ยฮุยมาแคสบทกู้ซูอวี่ มันน่าขำเกินไปแล้ว เขาถอนหายใจแล้วพูดเบาๆ ว่า “บางทีนี่อาจจะเป็นโชคชะตาของเฉิงอวี้ละมั้ง ไม่สามารถอยู่กับหลินอันหลานในความเป็นจริง ก็ได้อยู่ในภาพยนตร์ แต่ในภาพยนตร์แล้วก็ยังเจอหลินอันหลานตัวปลอมอีก”

“คนอย่างนายก็เหมาะกับตัวสำรองอย่างเซี่ยฮุยแล้ว”

เจี่ยงซวี่หัวเราะขึ้นอีกครั้ง เขาคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นเขาหรือเซี่ยฮุยที่แคสผ่านมันก็น่าดูทั้งนั้น

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เจี่ยงซวี่ก็นึกถึงหลินอันหลานขึ้นมา

เขาติดต่อหลินอันหลานไม่ได้มาเดือนกว่าๆ แล้ว เขาส่งข้อความหาหลินอันหลาน แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ปลดบล็อกเขาเสียที

หลินอันหลานยังโกรธเขาอยู่อีกเหรอ

แต่หลินอันหลานน่าจะไปบ้านของเฉิงอวี้ตามที่เขาพูด

แม้ว่าตอนนั้นอีกฝ่ายจะยังโกรธเขามาก แต่ก็ไปตามที่อยู่ของเฉิงอวี้ตามที่เขาเคยบอกอยู่ดี

ก็เหมือนกับทุกครั้งที่เราทะเลาะกัน ไม่ว่าหลินอันหลานจะโกรธเขามากแค่ไหน อีกฝ่ายก็ให้อภัยเขาและเอื้อมมือมาดึงเขาลุกขึ้นจากพื้นอยู่ดี

เจี่ยงซวี่รู้ดีว่าตัวเองพิเศษสำหรับหลินอันหลานมาก

เพราะพวกเรามีกันแค่นี้ ต่างพึ่งพาและเชื่อใจกันและกัน

หลินอันหลานไม่เคยโกรธเขาจริงๆ หรอก แล้วก็ไม่มีทางคิดเล็กคิดน้อยกับเขา

เจี่ยงซวี่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วส่งข้อความไปหาหลินอันหลานว่า “นายยังโกรธฉันอยู่เหรอ”

จากนั้นระบบของวีแชตก็แจ้งเตือนว่า ‘ข้อความถูกส่งไปแล้ว แต่ฝ่ายตรงข้ามปฏิเสธการรับข้อความ’

เจี่ยงซวี่ถอนหายใจ ดูเหมือนว่าหลินอันหลานจะโกรธเขาจริงๆ

ไม่รู้เมื่อไหร่จะหายโกรธ

เจี่ยงซวี่คิดถึงหลินอันหลาน อยากคุยกับหลินอันหลาน เมื่อไม่มีหลินอันหลานอยู่ข้างๆ เขาก็รู้สึกเงียบเหงามาก

แต่ว่ายังไม่ใช่ตอนนี้

เขาเก็บโทรศัพท์ลงไปแล้วคิดในใจว่า รออีกหน่อยก็แล้วกัน นิสัยอย่างเฉิงอวี้ จู่ๆ หลินอันหลานก็มาทำดีด้วยแบบนั้น อีกฝ่ายต้องสงสัยอยู่แล้วว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเขา

ดังนั้นเขาจะให้เวลาหลินอันหลานหน่อยก็แล้วกัน

ครั้งนี้ถือว่าเขาทำผิดต่อเสี่ยวหลานแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด