บทที่ 81 ความแข็งแกร่งของหลินเป้ย

ในเวลานี้หลินเป้ยและหนิงเสวี่ย กำลังขี่ราชาหมาป่าสีคราม ซึ่งทำให้ฉินหลินตกใจมาก

เขานึกถึงเรื่องที่ราชาหมาป่าสีครามพุ่งเข้ามาก่อนหน้านี้ เป็นไปได้ไหมว่า ทั้งหมดเป็นฝีมือของหลินเป้ย?

“ใช่ข้าเอง วันนี้เป็นวันตายของเจ้า!”หลินเป้ยพูดอย่างเย็นชา

ทันทีที่คำพูดของหลินเป้ยจบลง สัตว์อสูรระดับ 3 ราชาหมาป่าสีครามก็ปรากฏตัวขึ้นรอบตัว

รวมสองตัวภายใต้หลินเป้ยและหนิงเสวี่ย มีราชาหมาป่าสีครามทั้งหมด 10 ตัว หากนับตัวที่ล่องูหลามยักษ์ด้วย มันมีมากถึง 11 ตัว

"ไม่ดีแล้ว!" ใบหน้าของฉินหลินเปลี่ยนไปอย่างมาก เมื่อเขาเห็นสัตว์อสูรระดับ 3 จำนวนมาก

แม้แต่ปรมาจารย์นักรบที่แข็งแกร่ง จากสมาคมเงามืด ก็เปลี่ยนสีหน้าของเขาอย่างมาก

มีปรมาจารย์นักสู้ที่แข็งแกร่งสองคนเฝ้าประตู หนึ่งคนจากกลุ่มนักรบรับจ้างสีโลหิต และอีกคนหนึ่งจาก สมาคมเงามืด

ด้านของกลุ่มนักรบรับจ้างสีโลหิตนั้น นำโดยฉินหลินในขณะที่ตระกูลโจวและสมาคมเงามืดนั้น นำโดยเจิ้งเซียว

การฝึกฝนของเจิ้งเซียวอยู่ในระดับปรมาจารย์นักรบขั้น 3 และความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่เลวนัก

แต่เมื่อเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรระดับ 3 จำนวนมาก มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเป็นคู่ต่อสู้

"หลินเป้ย ข้าไม่ได้คาดหวังว่าเจ้าจะมีสัตว์เลี้ยงจิตวิญญาณมากมายเช่นนี้ เราประเมินเจ้าต่ำไปจริงๆ"ฉินหลินพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม

หลินเป้ยเป็นผู้ฝึกสัตว์จิตวิญญาณ พวกเขารู้จากผางชงมาก่อน แต่ผางชงพูดอย่างชัดเจนว่า หลินเป้ยมีราชาหมาป่าสีครามระดับ 3 เพียงตัวเดียว

แล้วทำไมตอนนี้ มันถึงมีมากมายขนาดนี้?

นี่ไม่ใช่เรื่องหลอกลวงใช่ไหม!?

ถ้าผางชงอยู่ที่นี่ เขาจะต้องรู้สึกผิดแน่ๆ เขาไม่รู้ว่าหลินเป้ยจะมีสัตว์อสูรระดับ 3 มากมายขนาดนี้

พวกเขายังต้องการทราบว่าเหตุใด หลินเป้ยจึงมีสัตว์อสูรระดับ 3 จำนวนมากอีกด้วย

“มันไม่สำคัญอีกต่อไป ครั้งที่แล้วเจ้าโชคดี เจ้าหนีได้ อย่างไรก็ตาม วันนี้โชคของเจ้าไม่ดีนัก ไม่ใช่แค่เจ้า แต่ยังมีนักรบรับจ้างในหุบเขาด้วย ทุกคนต้องตาย และแน่นอนว่าคนจากตระกูลโจวและสมาคมเงามืดจะตายพร้อมกับเจ้า”หลินเป้ยหัวเราะเยาะ

"ทำไมเจ้ารู้ว่า ตระกูลโจวและสมาคมเงามืดอยู่กับเรา?"ฉินหลินตกใจ ปรากฎว่าทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขาอยู่ภายใต้การควบคุมของหลินเป้ย

พวกเขาคิดว่า หลินเป้ยไม่รู้แผนของพวกเขา

“แน่นอน ข้าเฝ้าดูการกระทำของเจ้ามาตลอดสองวันที่ผ่านมา และข้ายังสังหารพวกเจ้าไปสิบกว่าคนด้วย”หลินเป้ยกล่าว

"ไม่แปลกใจ ไม่น่าแปลกใจเลยจริงๆ!" ในที่สุดฉินหลินก็เข้าใจว่า ทำไมสมาชิกกว่าสิบคน ถึงถูกสังหารเมื่อ 2 วันก่อน มันกลายเป็นฝีมือของหลินเป้ย

ด้วยราชาหมาป่าสีครามจำนวนมาก มันจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะสังหารทีมของพวกเขา

พวกเขายังรู้จักหลินเป้ยน้อยเกินไป!

"หลินเป้ยเจ้าจะรับผลที่ตามมาของการต่อสู้กับกลุ่มนักรบรับจ้างสีโลหิตของเราได้หรือ? ถ้าเจ้าถอยตอนนี้้ ข้าจะแสร้งทำเป็นว่า ข้าไม่รู้เรื่อง ไม่เช่นนั้น กลุ่มนักรบรับจ้างสีโลหิตจะไม่ปล่อยเจ้าไปอย่างแน่นอน! "ฉินหลินตะโกนข่มขู่

แม้ว่าฉินหลินจะกลัว แต่เขาก็ยังต้องการใช้ชื่อกลุ่มนักรบรับจ้างสีโลหิต เพื่อไล่หลินเป้ยออกไป

"ฮ่าฮ่าฮ่า คิดว่าข้าโง่หรือไง ปล่อยเจ้าไป ให้เจ้าตามมาสังหารข้างั้นเหรอ?" หลินเป้ยหัวเราะเยาะ

ในโลกนี้ ผู้อ่อนแอถูกผู้แข็งแกร่งรังแก หากหลินเป้ยไม่มีระบบ เขาคงถูกใครบางคนสังหารตายไปนานแล้ว

ตอนนี้เขามีความแข็งแกร่ง แล้วทำไมเขาต้องกลัวกลุ่มนักรบรับจ้างสีโลหิตด้วย?

"หลินเป้ยแม้ว่าเจ้าจะมีราชาหมาป่าสีครามสิบตัว แต่เรายังมีคนอีกมากมายในหุบเขา เจ้าไม่มีกำลังพอที่จะจัดการกับเรา!"ฉินหลินตะโกน

“ไม่มีกำลังงั้นเหรอ เฮ้ แล้วนี่ล่ะ?” หลังจากหลินเป่ยพูดจบ เขาก็โบกมือ และปล่อยหมาป่าสีครามตัวอื่นๆ ทั้งหมด

หมาป่าสีครามเหล่านี้ มีความแข็งแกร่งระดับ 2 ขั้น 8 และออร่าปราณที่เปล่งออกมา ทำให้คนอย่างฉินหลินดูสิ้นหวัง

หมาป่าสีครามเกือบ 40 ตัว ปรากฏต่อหน้าหลินเป้ยทันที

หลินเป้ยสามารถควบคุมหมาป่าสีครามได้หลายสิบตัว? นี่มันช่าง ท้าทายสวรรค์จริงๆ!

เดิมที มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อแล้ว ที่หลินเป้ยสามารถควบคุมราชาหมาป่าสีครามได้ 11 ตัวได้

โดยไม่คาดคิด หลินเป้ยยังมีหมาป่าสีครามตัวอื่น ที่เขายังไม่ได้ปล่อยออกมาอีก

เมื่อมองไปที่กลุ่มหมาป่าสีครามที่ดุร้ายนี้ เขาไม่สามารถต่อต้านได้เลย

เจิ้งเซียวจากสมาคมเงามืดก็กลืนน้ำลาย เขาไม่คิดว่าหลินเป้ยจะแข็งแกร่งขนาดนี้

พวกเขาเคยได้ยินมาว่า ผู้ฝึกสัตว์จิตวิญญาณ มีสัตว์เลี้ยงจิตวิญญาณไม่มากนัก ตามตำนาน ผู้ฝึกสัตว์จิตวิญญาณที่ทรงพลังเท่านั้น ที่สามารถควบคุมสัตว์ร้ายได้หลายสิบตัว

พลังต่อสู้ของคนๆ เดียวนั้น เทียบเท่ากับกองกำลังขนาดใหญ่ ซึ่งมันน่ากลัวมาก

โดยไม่คาดคิด วันนี้พวกเขาได้พบกับผู้ฝึกสัตว์จิตวิญญาณแบบนี้ และยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นเหยื่อที่พวกเขาคิดว่า สามารถสังหารได้ง่ายๆ

"หลินเป้ยนี่เป็นความเข้าใจผิด จริงๆแล้วสมาคมเงามืดของเรา ไม่ต้องการเป็นศัตรูของเจ้า ดังนั้นเจ้าปล่อยเราไปได้ไหม?"เจิ้งเซียวกล่าวอย่างรวดเร็ว

“โอ้ เจ้าไม่อยากเป็นศัตรูกับข้าหรือ ไม่กี่วันก่อน เมื่อเจ้าสมาคมเงามืดขอคำอธิบายจากข้า ทัศนคติของเจ้าไม่ใช่แบบนี้ ทำไมสายลมถึงเปลี่ยนไปในตอนนี้ล่ะ?”หลินเป้ยเย้ยหยัน

คำพูดของหลินเป้ยทำให้เจิ้งเซียวหน้าแดง พวกเขาเข้ามาในภูเขาเทียนหยาง เพื่อจุดประสงค์ในการสังหารหลินเป้ย

อย่างไรก็ตาม ด้วยคำเชิญของนายน้อยสาม พวกเขาจึงสร้างพันธมิตรชั่วคราว เพื่อจัดการกับเสือขาวเนตรโลหิตก่อน แล้วจึงจะจัดการกับหลินเป้ย

ท้ายที่สุด พวกเราก็เป็นศัตรูกัน

"เจิ้งเสี่ยว เจ้าทำสิ่งนี้ได้อย่างไร?" ฉินหลินตะโกนใส่เจิ้งเสี่ยว

ในช่วงเวลาวิกฤต โดยไม่คาดคิด เจิ้งเสี่ยวต้องการปกป้องตัวเอง และละทิ้งพวกเขา

หากพวกเขาร่วมมือกัน พวกเขาสองคนจะเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่ง และโอกาสในการหลบหนี ก็จะสูงมาก

อย่างไรก็ตาม สิ่งต่างๆนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เจิ้งเซียวสามารถทิ้งได้หากต้องการ

หลินเป้ยไม่เชื่อสิ่งที่เจิ้งเซียวพูด สมาคมเงามืดกล้าที่จะสังหารเขา

หลินเป้ยไม่รังเกียจที่จะสังหารสมาคมเงามืดและตระกูลโจวทิ้งซะ

ตระกูลโจวมีคนดีไม่มากนัก และพวกเขาทั้งหมดต้องการสังหารเขา

ดังนั้นไม่ต้องพูดถึง ความเห็นอกเห็นใจ!

เมื่อสัตว์เลี้ยงจิตวิญญาณเหล่านี้เติบโตขึ้นในช่วงระยะเวลาหนึ่ง และพวกมันแต่ละตัว สามารถกลายเป็นสัตว์อสูรระดับ 3 ได้

ผู้ใต้บังคับบัญชาของหลินเป้ย จะเป็นสัตว์อสูรระดับ 3 ลายร้อยตัว ซึ่งเทียบเท่ากับปรมาจารย์นักรบที่แข็งแกร่งเกือบร้อยคน

ด้วยความแข็งแกร่งที่ทรงพลังเช่นนี้ ทำลายตระกูลโจวและสมาคมเงามืด เป็นเรื่องยาก?

นอกจากนี้ยังมีสมบัติต่างๆ ของระบบ ตราบใดที่หลินเป้ยมีเงิน สิ่งต่างๆไม่ง่ายงั้นเหรอ?

“น่าเบื่อ ไม่ว่าเจ้าจะพูดมากเพียงใด มันก็ไม่เปลี่ยนชะตากรรมของเจ้า ดังนั้นจงตายให้ข้าซะ”หลินเป้ยพูดอย่างเย็นชา

หลินเป้ยพูดคุยกับคนเหล่านี้มากเกินไป และเขาไม่ต้องการเสียเวลา

ดังนั้นเขาจะจัดการกับคนเหล่านี้ก่อน แล้วจึงเข้าไปในหุบเขา เพื่อสังหารทุกคนในนั้น

ด้วยคนที่แข็งแกร่งเป็นจำนวนมาก มันจะกลายเป็นค่าประสบการณ์มากมายให้กับหลินเป้ย

หลินเป้ยต้องการดูว่า เขาจะก้าวหน้าได้กี่ขอบเขต?

หลังจากได้รับคำสั่ง หมาป่าสีครามก็รีบพุ่งไปหาฉินหลิน และคนอื่น ๆ

เมื่อเห็นว่าหลินเป้ยไม่แสดงความเมตตา เจิ้งเซียวก็เปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยม และเริ่มสังหารหมาป่าสีครามด้วยอาวธจิตวิญญาณในมือของเขา

ฉินหลิน และเจิ้งเซียวเป็นปรมาจารย์นักรบที่แข็งแกร่ง หลินเป้ยจะไม่ปล่อยให้หมาป่าสีครามระดับ 2 โจมตีใส่พวกเขา

หลินเป้ยให้ราชาหมาป่าสีครามระดับ 3 พุ่งเป้าไปที่สองคนนี้แทน

หลินเป้ยและหนิงเสวี่ย ก็ลงจากราชาหมาป่าสีคราม และเสี่ยวเฮยก็เข้าร่วมการต่อสู้ด้วย

เมื่อเผชิญกับการปิดล้อมของสัตว์อสูรระดับ 3 จำนวนมาก ศัตรูก็เริ่มสูญเสียกันไปทีละคน และตายอย่างน่าอนาถในปากของหมาป่าสีคราม

นี่คือ กลยุทธ์การปิดล้อมด้วยฝูงหมาป่า และกลุ่มราชาหมาป่าสีครามระดับ 3

พวกเขาจะหยุดมันด้วยความแข็งแกร่ง เพียงเท่านี้ได้อย่างไร?