บทที่ 239: น้องฉิน! แตงกวานี่มันกลายพันธุ์!
หลังจากที่หลี่ไข่จากไปแล้วฉินหลินก็ไปที่ห้องทำงานของตนแล้วล็อคประตูเพื่อเข้าสู่โลกในเกม บรรจุเหล้าสมุนไพรชิงหลินสูตรเสริมหยางสร้างไตใส่ขวดเงิน แล้วก็เอากระเจี๊ยบเขียวเลเวล 2 ออกมาด้วย
ในห้องครัว เขามอบกระเจี๊ยบเขียวเลเวล 2 ให้อาจารย์หลินโดยบอกว่าให้ทำกับข้าวให้หลี่ไข่เย็นนี้ จากนั้นก็ไปที่สวนหลังบ้านพร้อมกับเหล้าสมุนไพรขวดเงิน
เมื่อฉินหลินมาถึงแปลงก็เห็นว่าหลี่ไข่กำลังใช้อุปกรณ์อะไรไม่รู้อยู่ข้าง ๆ แปลง
มีอุปกรณ์ที่ใช้ส่องแผ่นสไลด์ซึ่งก็น่าจะเป็นกล้องจุลทรรศน์
ซึ่งพืชที่เขากำลังทดสอบอยู่นั้นคือหัวไชเท้า
หลี่ไข่คือคนที่เมื่อรับปากแล้วคำไหนคำนั้น
“เป็นไงบ้างพี่หลี่” ฉินหลินถาม
หลี่ไข่วางหัวไชเท้าในมือลงแล้วส่ายหน้า “เหมือนครั้งนี้จะไม่มีโชค ฉันตรวจเบื้องต้นดูแล้วยังไม่เจอตัวไหนที่กลายพันธุ์เลย ส่วนระดับยีนจะมีการเปลี่ยนแปลงมั้ยก็รอตรวจสอบเชิงลึกอีกที”
ฉินหลินมองดูพืชผลสี่ชนิดที่หลี่ไข่เลือกมา หัวไชเท้า กวางตุ้ง ถั่วลันเตา และปวยเล้ง ไม่มีแตงกวาเสริมสวย...
และที่กำลังตรวจสอบอยู่นี้ไม่มีตัวไหนเลยที่กลายพันธุ์ แปลว่ากระเจี๊ยบเขียวก่อนหน้านี้กับมะเขือยาวอาจจะแค่โชคดีจริง ๆ ก็ได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความน่าจะเป็นอะไรใด ๆ
“น่าเสียดาย” ฉินหลินพูด
เขาส่งเหล้าสมุนไพรชิงหลินในมือให้หลี่ไข่ “ผมให้อาจารย์หลินทำกระเจี๊ยบเขียวเป็นมื้อเย็นให้แล้วนะ”
เมื่อหลี่ไข่เห็นเหล้าสมุนไพรชิงหลินเขาก็รับมันด้วยอาการเหมือนเด็กได้ของเล่น
‘ถ้ามีไอ้นี่อยู่ด้วยล่ะก็จะไม่ต้องอับอายต่อหน้าซิ่วหว่านแล้ว!’
“พี่หลี่มาดูแตงกวานี่หน่อยสิ เห็นมันสุกแล้ว” ฉินหลินพูดอย่างใจเย็นเป็นธรรมชาติ
หลี่ไข่พยักหน้าก่อนจะวางเหล้าสมุนไพรชิงหลินลงแล้วเดินไปดูที่บริเวณแปลงแตงกวาเสริมสวย บนค้างมีลูกแตงกวาอัดกันอย่างหนาแน่น
พอมองแตงกวาพวกนั้นแล้วหลี่ไข่ก็ถึงกับหยอกล้อว่า “ทั้งหน้าตาทั้งสีนี่ไม่ไหวเลยนาน้องฉิน ไหนมาลองชิมหน่อยซิ”
แตงกวาเป็นพืชผลที่กินดิบได้และเอาไปทำอาหารแบบกินดิบได้หลายอย่าง
หลี่ไข่เด็ดแตงกวามา 1 ลูกเช็ดกับเสื้อจากนั้นก็ยัดเข้าปาก
การกระทำอันรวดเร็วเกินไปนี้ทำให้ฉินหลินไม่มีแม้แต่เวลาจะห้าม
เพราะมันมีคุณสมบัติรสสัมผัสกับอร่อยติดลบซึ่งขนาดเจ้าหมาวั่งไฉยังต้องเตะทิ้งแล้วนอนไออยู่ตั้งนานแทบจะอ้วกเอาลำไส้หมาของมันออกมาเลยด้วยซ้ำ
แล้วฉินหลินก็เห็นได้ชัดเลยว่าสีหน้าการแสดงออกของหลี่ไข่เปลี่ยนไปอย่างเร็ว สีหน้าเป็นเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวม่วง ใบหน้าก็บิดเบี้ยวเหยเก
แล้วครู่ต่อมาก็ต้องคายแตงกวาในปากออกมาแล้วแลบลิ้นแทบอยากจะตัดแล้วโยนทิ้ง
แหวะ!
อู~ แหวะ!
…
ฉินหลินแสร้งทำเป็นไม่รู้ทันทีและถามว่า “เป็นไงบ้างพี่”
หลี่ไข่ที่ตอนนี้น้ำตาไหลพรากเพราะอ้วกหนักมากก็พยายามบอกว่า “ไอ้แตงกวานี่มันผิดปกติเกินไปแล้ว รสชาติอย่างกะแตงเน่าเลย! อุแหวะ!”
ฉินหลินที่รู้อยู่แล้วว่าแตงกวานี่มันไม่ได้ผิดปกติตรงไหนนั้นไม่อาจแสดงละครได้เต็มที่ แต่ก็ต้องพยายาม ดังนั้นเขาเลยหยิบแตงกวาส่วนที่เหลือในมือหลี่ไข่มาให้ดู “แต่มันก็ดูไม่เหมือนของเน่านะ ดูดิ”
หลี่ไข่รอนิ่ง ๆ อยู่แป๊บหนึ่ง คือจะรอให้อ้วกอีกซักทีก่อน จากนั้นค่อยหันมามองเนื้อแตงกวาตรงรอยกัดของตนซึ่งเนื้อแตงยังสดใหม่อยู่ดูไม่เน่าเสียอะไรตรงไหนจริง ๆ ด้วย
เห็นแบบนี้แล้วก็ต้องหน้านิ่วคิ้วขมวด “แล้วรสชาติมันจะอันตรายถึงตายขนาดนี้ได้ไงอะ โอย ๆ คิดถึงแล้วอยากอ้วกอีกรอบ”
“หรือว่าแตงนี่มันก็กลายพันธุ์ด้วย แต่ไปให้ผลด้านอื่นแทนก็เลยไม่อร่อย” ฉินหลินลองแย็บดู
“น่าจะใช่ เอาไปเช็กดูเลยเถอะ” หลี่ไข่ตื่นเต้นขึ้นมาทันทีเด็ดแตงกวามาอีกลูกเอาไปทดสอบกับเครื่องมือ
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็มีสีหน้าอึ้ง ๆ ไป “น้องฉิน แตงกวานี่มันกลายพันธุ์จริง ๆ ด้วย ถึงรสชาติมันจะห่วยแตก แต่กลับมีองค์ประกอบด้านการเสริมความงามเยอะมาก ไปตรวจสอบเชิงลึกก่อนดีกว่า ฉันอยากดูรายละเอียดทั้งหมด”
พูดพลางรีบวิ่งไปที่ห้องทำงานซึ่งมีอุปกรณ์ทดลองวางพร้อมไว้แล้ว ในอ้อมแขนก็มีแตงกวาและเหล้าสมุนไพรชิงหลินที่ลืมไม่ได้
ส่วนฉินหลินนั้นเด็ดแตงกวามา 1 ลูกแล้วกลับไปห้องทำงานล็อคประตูเพื่อเข้าสู่โลกในเกมอีกรอบ
แม้ว่าจะรู้อยู่แล้วว่าแตงกวาลูกนี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะเสื่อมคุณภาพลงเหลือเพียงเลเวล 1 แต่ก็ยังอยากเห็นโบนัสคุณสมบัติของมันด้วยตาตัวเองอยู่ดี
[แตงกวาเสริมสวย: เลเวล 1]
[แตงกวาที่ใช้เพื่อเสริมความงามชนิดพิเศษ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการวิจัยอย่างละเอียดรอบคอบโดยผู้เชี่ยวชาญเผ่าคนแคระ มันคือพรสำหรับผู้หญิง: ผิวขาวขึ้น +1, เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว +1!, รสสัมผัส -1, อร่อย -1, เอฟเฟกต์พิเศษที่ไม่รู้จัก +1]
โอเคยืนยันได้แล้ว เป็นไปตามคาดเลยที่เมล็ดพันธุ์เมื่อเอามาปลูกภายนอกแล้วจะเสื่อมคุณภาพลงเหลือเลเวล 1
แต่ยังมีคุณสมบัติอย่างหนึ่งที่ยังเหมือนเดิมไม่เพิ่มไม่ลดคือไอ้เอฟเฟกต์พิเศษที่ไม่รู้จัก +1 นี่แหละ
ไม่รู้ว่าตกลงแล้วมันคืออะไรกันแน่ และก็ไม่รู้ด้วยว่าหลี่ไข่จะตรวจจับและระบุรายละเอียดของมันได้มั้ย
เมื่อได้รู้ข้อมูลของแตงกวาเสริมสวยแล้วฉินหลินก็ออกจากเกม ด้านหลี่ไข่นั้นคงไม่อาจทำเสร็จในเวลาสั้น ๆ อยู่แล้ว ดังนั้นเขาเลยใช้เวลานี่ไปที่ห้องแล็บชิงหลิน ไปยังแปลงที่ครอบด้วยโครงสร้างกระจก
“สวัสดีครับฉินตง!” หยุนเฟย ซุปเปอร์ไวเซอร์แผนกรักษาความปลอดภัยในห้องแล็บเข้ามาทักทายทันที
ตอนนี้เขากำลังฝึกซ้อมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหลาย
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ย้ายจากบ้านไร่ยังไม่ได้มาตรฐานของเขา
“ไปทำงานต่อเถอะ เดี๋ยวฉันไปเดินดูเอง” แล้วฉินหลินก็ไปเช็กดูเมล็ดพืชที่ปลูกเมื่อวานนี้
แน่นอนว่าที่เขาโฟกัสจริง ๆ แล้วคือเมล็ดของผลโคล่าต่างหาก ส่วนเมล็ดพันธุ์อื่น ๆ เป็นแค่ ‘ป่า’ ที่ใช้ซ่อนผลโคล่าเท่านั้น
แปลงที่ปลูกผลโคล่านั้นเปียกชุ่มแปลว่าได้รดน้ำแล้ว พอพบว่าไม่มีปัญหาใด ๆ ฉินหลินก็โล่งใจ หลังจากเดินดูอีกรอบแล้วเขาก็ไปหาเฉิ่นลี่เพื่อเช็กสถานะและข้อมูลห้องแล็บชิงหลินฃ
แม้ว่าจะมอบความรับผิดชอบให้เฉิ่นลี่แล้วก็ตาม แต่เขาที่เป็นประธานก็ยังไม่อาจเพิกเฉยไม่รู้เรื่องอะไรของห้องแล็บได้
หลังจากรู้ทั้งหมดแล้วฉินหลินก็กลับไปยังบ้านไร่ในช่วงบ่าย
กลับมาห้องทำงานได้ไม่นานหลี่ไข่ก็วิ่งเข้ามาหา “ดู ๆ ๆ ข้อมูลของแตงกวานี่ มันกลายพันธุ์ได้โคตรสุดยอดเลย!”
‘เร็วขนาดนี้เลย?’ ฉินหลินแปลกใจเล็กน้อย เพราะกระเจี๊ยบเขียวกับมะเขือยาวก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะเร็วแบบนี้เลย
หลี่ไข่อธิบายว่า “แตงกวานี่มีส่วนประกอบที่ช่วยเสริมความงามกับความขาวแบบเดียวกับไข่คนสวยก่อนหน้านี้ แถมยังไม่ใช่น้อย ๆ ด้วย แตงกวาทั่วไปเทียบไม่ติดเลย!”
“ไม่ใช่แค่นั้นนา มันยังมีคอลลาเจน เคราติน... แล้วก็สารที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นมากขึ้นด้วย”
“พูดง่าย ๆ คือถ้าเอามาโปะหน้าล่ะก็อย่างแจ่ม ถึงฉันจะไม่รู้ว่าแตงกวาธรรมดามันดีแค่ไหนก็เถอะ แต่แตงกวานี่บอกเลยว่าสุดยอด”
“ถึงรสชาติจะชวนอ้วกก็เถอะ แต่ถ้ากลายพันธุ์แล้วได้ผลแบบนี้ยังไงก็ต้องมีแต่คนอยากได้”
ฉินหลินพยักหน้า
พี่หลี่ยังคงสุดยอดเหมือนเดิม สามารถตรวจจับคุณสมบัติทั้งหมดของแตงกวาเสริมสวยออกมาได้
หลี่ไข่พูดอีกว่า “แต่ก็มีองค์ประกอบอีกอย่างที่ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันใช้ทำอะไร รู้แค่ว่ามันจะร้อนขึ้นเมื่อเจอแรงเสียดทานจากภายนอก แปลว่าเมื่อถึงจุดหนึ่งมันอาจกลายเป็นสารกระตุ้นภูมิแพ้ที่อาจจะทำให้คนแพ้ง่ายระคายเคืองก็ได้”
เดาได้ว่าน่าจะเป็นคุณสมบัติเอฟเฟคต์พิเศษที่ไม่รู้จักนั่นแหละ
แล้วอะไรคือสารที่จะเกิดความร้อนขึ้นจนก่อภูมิแพ้วะ?
“แล้วมันส่งผลต่อระบบประสาทมั้ย” ฉินหลินถาม
“ไม่นะ มันไม่มีผลต่อระบบประสาทเลย คงแค่กระตุ้นอาการคันเฉย ๆ อะ ไม่น่าจะมีอันตรายอะไรหรอก ไม่ต้องสนใจก็ได้” หลี่ไข่ส่ายหัวแล้วอธิบาย
“เออ ฉันเจอว่ามันมีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่งกับมอยส์เจอไรเซอร์เข้มข้นกว่าที่มีระบุในมาสก์หน้าคุณภาพสูงในท้องตลาดอีกเยอะด้วยนะ”
“ต้องหาคนมาลองแตงกวานี่ดูก่อน จะได้เห็นกันไปเลยว่าผลมันเป็นยังไง”
ฉินหลินรู้อยู่แล้วว่าแตงกวาเลเวล 2 ใช้แล้วได้ผลยังไง และตอนนี้เขาก็อยากดูเหมือนกันว่าถ้าลดเหลือเลเวล 1 แล้วผลจะเหลือเท่าไหร่
เขาเลยให้หลี่ไข่ไปเด็ดแตงกวากับเตรียมมีดมา ส่วนตัวเองก็เอามือถือออกมาโทรหาคน
หลังจากนั้นไม่นานจ้าวโม่ชิงก็มาถึงห้องทำงานของเขา จากนั้นหลินหลานจื่อ จางกุ้ยจู เกาเหยาเหยา และแม้แต่ถังซิ่วหว่านเองก็ยังถูกเรียกตัวมาด้วย
พวกสาว ๆ ต่างก็งุนงงว่าทำไมจู่ ๆ เถ้าแก่ถึงเรียกให้มาหา
“มีอะไรรึเปล่าฉินหลิน” จ้าวโม่ชิงถาม
ฉินหลินพยักหน้า “อืม มีเรื่องอยากให้ช่วยลองหน่อยน่ะ พี่หลี่พัฒนาแตงกวาพันธุ์ใหม่ที่ทำให้ผิดขาวชุ่มชื้นขึ้นเลยเรียกพวกเธอให้มาลองดู”
ขณะที่คุย ๆ กันอยู่นั้นเองหลี่ไข่ที่ไปเก็บแตงกวากับเตรียมมีดก็กลับเข้ามา พอเห็นสาว ๆ ในห้องเขาก็รู้จุดประสงค์ของฉินหลินก็เลยแจกจ่ายแตงกวาให้กับพวกเธอคนละลูก
พอมาถึงถังซิ่วหว่าน ตอนเขายื่นแตงกวาให้เธอก็ดูเหมือนจะคิดอะไรแปลก ๆ แล้วก็สบสายตากันด้วยสายตาแปลก ๆ อีก
ความสวยงามย่อมดึงดูดใจผู้หญิงได้เสมอ
พวกหลินหลานจื่อเองก็เคยใช้แตงกวามาก่อนเหมือนกัน ตอนนี้พอได้ยินว่าแตงกวาพันธุ์ใหม่มีผลช่วยเสริมความงามแล้วก็เกิดสนอกสนใจขึ้นมา
พวกเธอก็รับมีดจากหลี่ไข่มาหั่นแตงกวาแล้วก็เอาโปะหน้า
ในไม่ช้าใบหน้าของสาว ๆ ก็ถูกถมด้วยชิ้นแตงกวาเหลือแค่ตา จมูก และปากเท่านั้นที่ไม่ได้โปะไว้
ผลของแตงกวาเสริมสวยเลเวล 2 ที่ปลูกในเกมนั้นสุดยอดมาก แม้เอามาปลูกนอกเกมแล้วจะเสื่อมถอยลงเหลือแค่เลเวล 1 ก็ตาม แต่ก็น่าจะรับรู้ได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนอยู่ล่ะหน่า
ซึ่งก็เป็นดังคาด เพราะสาว ๆ ต่างสัมผัสได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับใบหน้าของตนได้แทบจะในทันที เหมือนรูขุมขนทั่วใบหน้าเปิดออกและรู้สึกสบายหน้ามากขึ้น
“พี่โม่ชิงรู้สึกมั้ย” เกาเหยาเหยาตั้งสติจากความสบายแล้วถามน้ำเสียงตื่นตาตื่นใจ
“สบายหน้ามาก ๆ เลย เหมือนหน้ากำลังดูดซับอะไรบางอย่างอย่างตะกละตะกลามเลยพี่”
“หืม!” แม้ว่าจ้าวโม่ชิงจะกินไข่คนสวยบำรุงร่างกายได้ทุกเมื่อที่ต้องการจนผิวขาวกระจ่างใสเป็นธรรมชาติอยู่แล้วก็ตาม แต่เธอเองก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนเหมือนกันว่าผิวหน้าที่สัมผัสกับแตงกวาเริ่มมีการดูดซับความชื้น
แน่นอนว่าหลินหลานจื่อกับจางกุ้ยจูเองก็ไม่เว้น
พวกเธอมักจะมากส์หน้ากันบ่อย ๆ แต่ว่าก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย
หลังจากผ่านไปประมาณสิบนาทีสาว ๆ ก็เอาแตงกวาออก
ชิ้นแตงกวานั้นแห้งกว่าเดิมเล็กน้อยดูท่าจะถูกดูดซับความชื้นไปมากจริง ๆ
พวกเธอต่างมองหน้าซึ่งกันและกันด้วยแล้วก็ต้องแปลกใจ
จ้าวโม่ชิงที่กินไข่เลเวล 2 อยู่ตลอดทำให้ผิวพรรณดีมากอยู่แล้ว ดังนั้นผลของการใช้แตงกวาเลเวล 1 อาจจะไม่เห็นชัดนัก แต่สาว ๆ ที่เหลือกลับไม่ใช่ หน้าของพวกเธอดูขาวและชุ่มชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“ดีกว่ามากส์หน้าที่ฉันใช้เยอะเลย” หลินหลานจื่อบอก
“อืม ฉันก็เหมือนกัน” จางกุ้ยจูเห็นด้วย
ถังซิ่วหว่านบอกว่า “ก่อนที่ลูกฉันจะป่วย ฉันเคยใช้มาสก์หน้าของซีพีบีที่เป็นยี่ห้อแพง ๆ อยู่บ้างเหมือนกัน ชิ้นนึงตั้งสองร้อยยี่สิบหยวน แต่สู้แตงกวานี่ไม่ได้”
ฉินหลินได้ยินก็หูผึ่ง
แตงกวาเสริมสวยเลเวล 1 ใช้ดีกว่ามากส์หน้าราคาแพงขนาดนั้นนี่เป็นใครก็ต้องตกใจ
เขาหันไปพูดกับหลี่ไข่ทันที “ดูท่าเราต้องทำเมล็ดพันธุ์แตงกวานี่ให้เยอะ ๆ แล้วนะพี่หลี่”
หลี่ไข่เองก็รู้คุณค่าของแตงกวาแล้วตอนนี้เลยรีบพยักหน้าเห็นด้วยทันที “แตงกวาพวกนั้นโตเต็มที่แล้วแปลว่าอีกไม่นานก็จะเก็บเมล็ดได้ แล้วเราก็น่าจะได้เยอะซะด้วย”
ฉินหลินพยักหน้าแล้วบอกจ้าวโม่ชิงว่า “โม่ชิง ที่ห้าพันหมู่ไปหาคนมาบุกเบิกเพิ่มซักร้อยหมู่ให้หน่อยสิ เด๋วเก็บเมล็ดพันธุ์แตงกวาได้แล้วจะเอาไปปลูกเลย”
เมล็ดแตงกวาที่เก็บได้จากในสวนหลังบ้านน่าจะมากพอที่ปลูกในแปลง 100 หมู่ได้
แต่ถ้ามันไม่พอก็ซื้อเอาจากในเกม
แล้วเขาก็เริ่มพิจารณาว่าจะส่งเสริมการปลูกแตงกวาเสริมสวยนี่หลังจากที่ได้ปลูกในแปลง 100 หมู่แล้วได้ยังไง หรือว่าจะแค่ปลูกไว้ใช้ในบ้านไร่เท่านั้นดี เป็นเอกลักษณ์ที่สามารถเพลิดเพลินได้แค่ที่บ้านไร่ชิงหลินเท่านั้น
“โอเค เด๋วให้อวี้สุ่ยไปจัดการ” จ้าวโม่ชิงพยักหน้าตอบ แตงกวาเป็นพืชที่สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี แต่ในหน้าหนาวอาจต้องทำโรงเรือนให้มัน
แปลว่าขอแค่มีเมล็ดไม่ว่ายังไงก็ปลูกได้ทุกเมื่อ
จ้าวโม่ชิงที่ทดสอบแตงกวาเสร็จแล้วได้กลับไปที่ห้องทำงานของตนแล้วเตรียมการบุกเบิกแปลงใหม่ในที่ดิน
หลี่ไข่ตามถังซิ่วหว่านออกไปอย่างกระหนุงกระหนิงราวกับว่าแตงกวามันได้กระตุ้นหัวข้อส่วนตัวอะไรบางอย่างเข้างั้นแหละ
หลินหลานจื่อ จางกุ้ยจู และเกาเหยาเหยาก็ทำได้เพียงเดินกินอาหารเม็ดตามทั้งคู่ไป
หลังจากที่ทุกคนออกไปหมดแล้วฉินหลินก็เปิดหน้าจอเกมขึ้นมาดูแล้วสั่งให้ตัวละครทำกิจวัตรประจำวันให้เสร็จ
วันนี้ปลาก็เดิม ๆ ต้นไม่ก็ไม่มีอะไรน่าพอใจ ส่วนของป่าก็ยังไม่รีเฟรช
และพอเสร็จจากตรงนี้แล้วเขาก็ให้ตัวละครออกจากฟาร์ม ทว่ากลับได้เห็น NPC สวมแว่นตา หมวกทรงสูง และเสื้อคลุมแบบจีนที่ประตูฟาร์ม
เมื่อเห็น NPC นี้ฉินหลินก็ถึงกับต้องประหลาดใจ
เพราะนี่คือพ่อค้าชาวตะวันออกผู้ลึกลับที่เดินทางไปทั่วโลก!
มันคือ NPC ลึกลับที่ปรากฏตัวแบบสุ่ม ๆ โดยในเวอร์ชันเก่า ๆ จะเจอบ่อย แต่เวอร์ชันนี้ในเน็ตบอกว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะได้เจอ
เพราะว่าหมอนี่มันเดินทางไปรอบโลกและสองสามปีจะผ่านเมืองแร่ดิบซักครั้ง ซึ่งช่วงนั้นผู้เล่นอาจเอาตัวละครไปหาของป่า ขุดแร่ หรือทำอะไรอย่างอื่นอยู่จนต้องพลาดไป
อีกทั้งที่ที่มันจะปรากฏตัวแต่ละคนก็ยังเจอต่างกันอีกด้วย บางคนก็เจอที่ท่าเรือ บางคนก็เจอที่เมืองแร่ดิบ บางคนก็เจอมันนอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาล...
ดังนั้นการที่มันมาโผล่อยู่หน้าทางเข้าฟาร์มของเขาก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลก
และคนที่ได้เจอพ่อค้าชาวตะวันออกผู้ลึกลับนี่คือผู้เล่นที่โชคดี เพราะมันจะสุ่มขายเมล็ดพันธุ์ให้โดยที่เมล็ดพันธุ์นั้นไม่มีขายในร้านขายเมล็ดพันธุ์
ฉินหลินเองก็รู้ตัวว่าวันนี้ตัวเองโชคดีแล้ว
NPC เคลื่อนที่ที่ผู้เล่นหลายคนไม่เคยสัมผัสมาก่อนบัดนี้ดันได้มาป๊ะกัน
[หวัดดีสหาย ฉันเป็นนักพ่อค้าจากตะวันออกนะ มีเมล็ดพันธุ์ชนิดพิเศษอยู่ อยากซื้อไปดูมั้ย?]
ฉินหลินไม่ลังเลอยู่แล้ว เขาเลือกซื้อทันทีและรายการที่ให้เลือกก็ปรากฏขึ้นซึ่ง... มีแค่อย่างเดียว
เมล็ดกุหลาบราดยุกคิงแห่งทำเนียบขาว!
“เข้! ทำเนียบขาวเลยเอ่อ!” ฉินหลินเห็นชื่อก็ถึงกับอึ้งไปเลย
เพราะในโลกนี้ดอกไม้ที่มีคลาสสูงมาก ๆ คือดอกกุหลาบ เนื่องจากโดยส่วนใหญ่แล้วมันเป็นตัวแทนของความรัก
ยิ่งกุหลาบระดับสูง ๆ ก็ยิ่งแพง
กุหลาบจูเลียตที่แพงที่สุดมีราคาสูงถึง 4.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนกุหลาบดยุกคิงที่ไม่ได้แพงที่สุดนั้นอย่าได้คิดว่ามันไม่พิเศษ
ที่มันไม่เข้าพวกเพราะว่าที่เดียวในโลกที่สามารถเห็นกุหลาบประเภทนี้ได้มีเพียงที่ทำเนียบขาวแห่งประเทศดาวและแถบเส้นเท่านั้น
คนทั่ว ๆ ไปอาจรู้แค่ว่าดอกกุหลาบเป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศนั้น แต่ความจริงคือดอกไม้ประชำชาติที่แท้จริงของประเทศดาวและแถบเส้นคือกุหลาบดยุกคิงในทำเนียบขาวนั่นต่างหาก
สงสัยใช่มั้ยล่ะว่าประเทศดาวกับแถบเส้นมันไม่มีดยุคไม่ใช่เหรอ? ก็ใช่อยู่ แต่ประเทศที่เคยเป็นอาณานิคมของดาวกับแถบเส้นมันมีไง และประเทศนั้นก็มีดอกกุหลาบเป็นดอกไม้ประจำชาติด้วยเหมือนกัน
แต่ว่าเหตุใดดอกไม้ประจำชาติมันถึงชื่อว่ากุหลาบดยุกคิงนั่นน่ะช่างมันเถอะ คำถามที่ไม่รู้คำตอบมาตั้งแต่ประวัติศาสตร์แบบนั้นจะไปสนใจเพื่อ?
สิ่งสำคัญมันอยู่ตรงที่กุหลาบดยุกคิงแห่งทำเนียบขาวมันคือความภาคภูมิใจของประเทศดาวกับแถบเส้น
มันสามารถพบได้แค่ในทำเนียบขาวเท่านั้นซึ่งที่อื่น ๆ หาไม่ได้เพราะมันสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว
มันเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นเอกอุหนึ่งเดียวในโลกใบนี้เฉกเช่นกุหลาบนั่น ดังนั้นมันจึงเป็นตัวแทนแห่งความเชื่อความศรัทธาและเกียรติยศของประเทศดาวกับแถบเส้นนั่นเอง
ในโลกทั้งใบมีเพียงกลุ่มชนชั้นนำในประเทศเท่านั้นที่มีสิทธิได้เห็นกุหลาบดังกล่าวนี้ เอาจริง ๆ แม้แต่ประชาชนคนในชาติก็ยังแค่เคยได้ยินข่าวลือเท่านั้นเอง หรือไม่ก็อาจโชคดีเห็นผ่านกล้องในทีวี
แล้วตอนนี้... ไอ้พ่อค้าชาวตะวันออกผู้ลึกลับนี่กลับสุ่มขายเมล็ดพันธุ์ดังกล่าวให้เนี่ยสิ!
เมื่อฉินหลินเห็นก็ตัดสินใจซื้อมาอย่างไม่มีลังเล
เขาไม่ได้คิดหรอกว่าไอ้กุหลาบดยุกคิงแห่งทำเนียบขาวนี่เมื่อปลูกแล้วมันจะขายได้เท่าไหร่ แต่เขากำลังจะเกรียนต่างหาก เขาจะเอาไปวางไว้ในที่ดี ๆ ที่ใคร ๆ ก็สามารถเห็นได้
‘เอกอุหนึ่งเดียวไม่ซ้ำใคร?’
‘มีแค่ชนชั้นนำของประเทศตัวเองเท่านั้นที่ได้เห็น?’
‘เด๋วกูจัดให้ เอาให้คนธรรมดาทั้งประเทศกูดูได้กันแม่งหมดประเทศเลยนี่แหละ’
‘ความเชื่อกับเกียรติยศเหรอ?’
‘เด๋วกูจัดให้อีก เอาให้มันรู้ว่าความเชื่อกับเกียรติยศของพวกมึงจริง ๆ แล้วมันอยู่ตรงไหน ความเชื่อกับเกียรติยศที่ใคร ๆ ก็เชยชมได้อะนะ’
‘ไม่ทำเรื่องใหญ่หรอกหน่า แค่หยอก ๆ ให้ขายหน้านิดหน่อยก็เท่านั้นเอ๊ง’
‘และที่สำคัญคือกูพอใจไง’