นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 108 - สโตนวอยด์
ปากทางเข้าถ้ำสว่างขึ้นในทันทีหลังจากที่เดวิดกล่าวจบ และมันจ้าเสียจนเดวิดต้องหรี่ตาหลบ ยังไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เหมือนเดิม ต้องรีบสื่อสารกับ AI ของตัวเองอีกครั้ง ลดความสว่างของไฟฉุกเฉินลง ให้เหลือเป็นเพียงแสงสว่างที่พอมองเห็นได้เท่านั้น เดวิดไม่อยากให้ใครเห็นมาแต่ไกล ว่าที่นี่มีคนอยู่!
หลังจากนั้น เดวิดก็ค่อย ๆ มุ่งหน้าลึกเข้าไปในถ้ำ ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความระมัดระวัง ร่างกายนั้นเตรียมพร้อมรับเหตุการณ์ไม่คาดขวัญอย่างเต็มที่ กลิ่นเหม็นที่ยังคงลอยตลบอบอวลอยู่ไม่สามารถทำอะไรกับเขาได้อีก ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเดวิดคุ้นชินกันมันแล้ว หรือว่าเขาแค่พยายามไม่สนใจเท่านั้น
เดวิดเดินลึกเข้าไปได้เพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น เขาก็ต้องหยุดชะงักลงอย่างประหลาดใจ เพราะมันมีป้ายเหล็กที่ผุพังฝังอยู่กับพื้นถ้ำข้างหน้า มันโผล่พ้นทรายขึ้นมาแค่ไม่ถึงครึ่งแผ่นเท่านั้น และเต็มไปด้วยสนิมที่ทำให้แทบไม่สามารถระบุได้ว่ามีข้อความอะไรอยู่บนนั้นบ้าง
เดวิดตัดสินใจหยิบมันขึ้นมาปัดฝุ่นทำความสะอาด และสังเกตมันอย่างละเอียด ก่อนที่จะอ่านตัวอักษรบางคำที่ถูกสลักอยู่บนนั้นได้
‘สโตนวอยด์’
จากขนาด และร่องรอยของตัวหนังสือที่เขียนอยู่บนแผ่นโลหะอันนี้ มันน่าจะเป็นป้ายชื่อสถานที่ หรืออะไรสักอย่าง แต่มันก็หลงเหลือให้สามารถแกะรอยได้เพียงเท่านั้น ส่วนอื่น ๆ นั้นถูกสนิมกินจนไม่สามารถแยกแยะได้แล้ว ว่ามันเป็นข้อความอะไร?
เดวิดกระพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะตัดสินใจโยนมันทิ้งลงไปที่พื้นเหมือนเดิม ก่อนจะมุ่งหน้าอย่างระมัดระวังต่อไป และหลังจากนั้นไม่นานนัก สภาพภายในถ้ำนี้ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป มันไม่ใช่ถ้ำที่แคบยาวอีกแล้ว แต่ยิ่งเดินเข้าไป มันยิ่งมีขนาดที่กว้างขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุด เดวิดก็เข้ามาถึงส่วนที่กว้างขวางราวกับเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ เขาต้องหยุดยืนอย่างตะลึง สายตาจ้องไปที่อาคารหลังหนึ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่ในนั้น
ถ้ำแห่งนี้น่าจะเป็นสถานที่ที่ถูกปรับปรุงขึ้นมาด้วยฝีมือของมนุษย์ ให้เป็นที่ตั้งขององค์กร หรือหน่วยงานอะไรบางอย่างแน่นอน นี่คือความคิดที่ผุดขึ้นมาในหัวของเดวิด
หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น เพราะความคิดต่อมาก็คือ เขาน่าจะได้พบกับอะไรที่สามารถใช้เป็นประโยชน์ได้อย่างแน่นอน
เดวิดเริ่มสำรวจภายใน ‘ห้องโถง’ ใหญ่นี้อย่างระเอียด และพบว่ามันมีทางแยกออกไปอีกไม่น้อยเลยทีเดียว จากที่เขาสามารถนับได้ มันมีไม่ต่ำกว่า 20 เส้นทางแล้ว แต่เดวิดเลือกที่จะไม่สนใจทางแยกเหล่านั้นก่อน เขามุ่งตรงเข้าไปในอาคารที่ตั้งเด่นอยู่กลางโถงทันที แต่แล้วสีหน้าท่าทางที่ตื่นเต้นของเขาก็ต้องสลายไป เมื่อผ่านเข้าไปด้านในได้ไม่นานนัก
สภาพด้านในนั้นบ่งบอกอย่างชัดเจนว่า มันผ่านการรื้อค้นสำรวจอย่างละเอียดมาแล้วหลายครั้ง และเป็นไปตามที่คาดจริง ๆ หลังจากเดวิดใช้เวลาเกือบชั่วโมงในการตรวจสอบ เขาไม่พบกับอะไรที่สามารถใช้ประโยชน์ได้เลยแม้แต่อย่างเดียว
สีหน้าของเขานั้นเริ่มมืดมนลงตั้งแต่ช่วงครึ่งชั่วโมงแรกแล้ว การต้องทนอยู่กับกลิ่นเหม็นที่ไม่พึงประสงค์อันร้ายกาจของพวกฉลามบกนี่ เป็นอะไรที่เกินจะทนอยู่แล้ว แต่เขายังต้องเสียเวลา เสียแรงค้นหาโดยไม่ได้อะไรตอบแทนกลับมาเลยแม้แต่นิดเดียว มันทำให้เขาจิตตกเป็นอย่างมาก
แต่แล้วเดวิดก็กระตุ้นตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง มันยังมีสถานที่ที่เขายังไม่ได้ทำการค้นหาอยู่อีก บางทีเขาอาจมีโชคหลงเหลืออยู่บ้างก็ได้!
เวลาอีก 3 ชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เดวิดแทบจะขุดพื้นของถ้ำแห่งนี้ขึ้นมาแล้วด้วยซ้ำ แต่ผลที่ได้ก็ยังเหมือนเดิม เขาไม่พบอะไรที่พอจะใช้ประโยชน์ได้เลย จนเขาต้องหยุดยืนนิ่งอยู่กับที่ สะบัดหัวไปมาแรง ๆ ให้กับความโชคร้ายของตนเอง
อันที่จริงแล้ว นี่เป็นเรื่องที่ควรจะคิดได้อยู่แล้วตั้งแต่ต้น นักเรียนใหม่ชุดนี้ ไม่ได้เป็นนักเรียนชุดแรกที่ถูกส่งมาร่วมกิจกรรมการแข่งขันที่พื้นที่แห่งนี้เลย จากนักเรียนจำนวนมากที่เคยสำรวจพื้นที่เหล่านี้มานับครั้งไม่ถ้วน โชคของเดวิดคงจะสูงจนทะลุฟ้าจริง ๆ หากจะพบกับพื้นที่ลับที่ตกสำรวจ หรือแม้แต่เซรั่มสักหยดจากในถ้ำแห่งนี้ได้
เดวิดทรุดตัวลงนั่งลงที่พื้นแล้ว พยายามรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับมาจากการสำรวจเข้าด้วยกัน จากร่องรอยที่เขาพบ สรุปได้ง่าย ๆ ว่าที่นี่ถูกฉลามบกใช้เป็นรังของพวกมันมาเป็นระยะเวลาที่นานพอสมควรแล้ว พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพที่เขาไม่อยากจะนึกย้อนกลับไปเลยด้วยซ้ำ
แต่เหมือนกับว่า มีบางอย่างสะกิดใจของเขาขึ้นมาแวบหนึ่ง ทำให้ต้องยกมือขึ้นเกาหัวตัวเองเพื่อใช้ความคิด พยายามนึกย้อนว่ามีส่วนใหนที่ตัวเองละเลย หรือมองข้ามไปบ้าง ที่นี่กลายเป็นรังของฝูงฉลามไปแล้ว?
แล้วตาของเดวิดก็เป็นประกายขึ้นมาอีกครั้ง ใช่แล้ว! เขายังไม่เคยเจอกับรังของเจ้าฉลามบกจ่าฝูงนั้นเลยนี่นา ถ้ำเล็ก ๆ ตามทางแยกที่เขาเข้าไปสำรวจมา มีขนาดที่ใหญ่พอ ๆ กันทั้งหมด และน่าจะเป็นที่อยู่อาศัยของฉลามบกชั้นต่ำเท่านั้น อาจจะเป็นของพวกชั้นกลางด้วยก็ได้
แต่เขายังไม่พบอะไรที่แสดงถึงความเกี่ยวข้องกับเจ้าฉลามบกระดับสีดำขั้นสูงตัวนั้นเลย
สายตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นอีกครั้ง ถ้ารังนอนของเจ้าจ่าฝูงนั่นไม่ได้อยู่บนพื้นดิน อาจจะเป็นไปได้ว่ามันใช้ทักษะพิเศษของตัวเอง ซ่อนรังของตัวเองอยู่ใต้ดินก็ได้! เขาต้องพยายามหามันให้เจอ
อีกหนึ่งเหตุผลที่เขามุ่งหน้ากลับมาที่นี่ นอกจากการหาที่พักสำหรับคืนนี้แล้ว ยังเป็นเพราะความแปลกประหลาดของเจ้าฉลามขั้นสูงตัวนั้นด้วย ไม่มีทางที่สิ่งมีชีวิตระดับสีดำขั้นสูง จะมีทักษะพิเศษได้ ถ้าไม่ได้รับการกระตุ้นอย่างเหมาะสม และเดวิดต้องการหาตัวกระตุ้นนั้นให้เจอ มันจะคุ้มค่าเป็นอย่างมาก ถ้าเขาสามารถเจอมันได้จริง ๆ
ปัญหาเดียวที่เหลืออยู่ในตอนนี้ คือมันไม่ได้อยู่ภายในถ้ำนี้ หรือถ้าจะให้กล่าวอย่างถูกต้อง มันไม่ได้อยู่บนพื้นดินภายในถ้ำนี้ และเขาไม่สามารถที่จะขุดพื้นถ้ำเพื่อเสาะหาไปจนหมดได้ เดวิดไม่มีทั้งเวลา และกำลังคนที่จะทำอย่างนั้นเลย
นั่นทำให้ความคิดนี้ถูกปัดตกไปอย่างรวดเร็ว และดูเหมือนว่าจะเหลือเพียงทางเลือกสุดท้ายเท่านั้น
‘แหวกธรณี’
เขาต้องใช้ทักษะพิเศษที่เพิ่งได้รับมา ดำดินลงไปค้นหาด้วยตัวเอง นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่เดวิดคิดขึ้นมาได้ในตอนนี้แล้ว
มันเป็นความสามารถที่กระตุ้นกล้ามเนื้อให้ปล่อยคลื่นความถี่พิเศษออกมา ทำลายโครงสร้างโมเลกุลของหิน ดิน และทรายลงชั่วคราว ทำให้พวกมันอ่อนนุ่มจนสามารถเคลื่อนตัวผ่านไปได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าในตอนนี้ เดวิดจะยังไม่รู้ถึงความสามารถทั้งหมดของมัน แต่ระหว่างที่เดินทางมายังที่ถ้ำแห่งนี้ เขาได้ทดลองเพิ่มเติมเกี่ยวกับทักษะนี้มาไม่น้อยเหมือนกัน
อย่างน้อย ๆ เขาก็พบแล้วว่า มันใช้กับไม้ไม่ได้ เขาลองกับต้นไม้ไปหลายครั้ง แต่มันก็เป็นการเสียเวลาเปล่าทั้งหมด และเขายังค้นพบอีกว่า ถ้าส่งคลื่นความถี่ออกไปกระทบกับของอย่างอื่น ที่ไม่ใช่หินดินทราย คลื่นที่สะท้อนกลับมาจะให้ความรู้สึกที่แปลก ๆ ถึงขึ้นที่ทำให้ร่างกายของเขานั้นอึดอัดขึ้นมาทีเดียว มันน่าจะสามารถใช้แทนโซน่าสำหรับค้นหาสิ่งของใต้ดินได้บ้าง แม้ว่าระยะทำการของมันจะแคบเกินไปหน่อยก็ตาม
เสียง ‘หวึ่ง’ ดังออกมาเบา ๆ จากร่างกายของเดวิด เพราะเขาเริ่มกระตุ้นการใช้ทักษะแล้ว พื้นดินที่อยู่ใต้ตัวของเขาเริ่มทรุดลงไปตามรอยที่นั่งอยู่ คราวนี้เดวิดไม่ได้มีอาการตกใจอีกแล้ว เขาสามารถควบคุมความเร็วในการจมลงไปในพื้นได้เสียด้วยซ้ำ
และเมื่อเขาจมลงไปในดินหมดทั้งตัว เดวิดก็เริ่มควบคุมกล้ามเนื้อตัวเองอย่างตั้งใจอีกครั้ง ให้มันปล่อยคลื่นความถี่ออกมาจากท่อนบนของร่างกายเท่านั้น
ตามปกติแล้ว สิ่งที่เดวิดกำลังทำอยู่นั้นเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้เลย การควบคุมทักษะพิเศษอย่างสมบูรณ์ ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน!
นั่นเป็นสิ่งที่ความสามารถพิเศษเหล่านี้ ถูกระบุว่าเป็น ‘ทักษะพิเศษ’ ไม่ใช่เทคนิค หรือทักษะธรรมดาทั่ว ๆ ไป ไม่เคยมีใครควบคุมและประยุกต์การใช้งานมันได้อย่างสมบูรณ์มาก่อนเลย อาจจะมีบ้าง ที่หลังจากการฝึกฝนอย่างหนักมาหลายปี จะสามารถปรับใช้มันให้ตรงกับความต้องการของตัวเองได้มากขึ้น แต่ก็เป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ ของทักษะพิเศษนี้เท่านั้น
แต่ด้วยความสามารถในการควบคุมร่างกายได้อย่างสมบูรณ์ของเดวิด นี่เป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก!