ตอนที่ 66 มอนสเตอร์ภัยพิบัติอันดับ 103(อ่านฟรี)
ตอนที่ 66 มอนสเตอร์ภัยพิบัติอันดับ 103
ลุคกับนิโคลนั่งอยู่ในรถจ้องมองไปยังมนุษย์ที่นอนแน่นิ่งอยู่ตรงหน้า พวกเขาทั้งสองไม่มีใครขยับตัว แต่กวาดสายตามองไปรอบ เพื่อมองหาว่ามีใครซุ่มซ่อนโจมตีอยู่แถวนี้หรือเปล่า
“ใช้เจ้านี่มันช่วยมองกลางคืนได้” ลุคแบมือส่งหินตาแดงเกรดสีม่วงชิ้นหนึ่งให้กับนิโคล
นิโคลไม่ได้ถามมาก แค่รับมาและลองใช้งาน ก่อนที่เธอจะพบว่าเธอสามารถมองเห็นได้ชัดเจนราวกับกลางวัน ทำให้ใครที่อาศัยความมืดหลบซ่อนอยู่ยากที่จะรอดสายตาของเธอไปได้
ตัวของลุคปรากฏชุดเกราะหมาป่าเกรดสีฟ้าชุดหนึ่ง เพราะเขาเปลี่ยนชุดเกรดสีส้มให้เป็นคลื่นพลังตอนเลื่อนระดับแล้ว
เขาเปิดประตู ก่อนจะปรากฏดาบในมือ ดาบตะขาบเล่มนี้ยังเป็นเกรดสีส้มที่ใช้ดาบตะขาบเกรดต่ำ ๆ ที่เหลือจากการวางขายมายกระดับ ซึ่งนับเป็นไอเทมเกรดสีส้มเพียงชิ้นเดียวที่เขามี
แต่ไอเทมระดับ F ไม่ค่อยมีผลต่อเขามานัก เพราะพลังของลุคอยู่ในระดับ E แล้ว
นิโคลไม่ได้ลงมาด้วย แต่เธอย้ายตัวเองไปนั่งลงที่นั่งคนขับและคอระวัง ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะได้ถอยหรือตอบโต้ได้ทัน
ลุคเดินเข้าไปใกล้ก็พบว่าแท้ที่จริงเป็นมนุษย์ที่มีร่างกายอ้วนใหญ่คนหนึ่ง อยู่ในสภาพบาดเจ็บ เสื้อผ้าขาดเปรอะเปื้อนราวกับขอทานที่ผ่านภัยพิบัติมา
ชายร่างอ้วนใหญ่ขยับตัวเล็กน้อยเพื่อเงยหน้าขึ้นมา
“ขอยาแก้ไข้หน่อย...เอ๊ะ! นายมันเหนือมนุษย์คนนั้น”
“คุณคือ อีลิก”
ทั้งลุคและอีลิกต่างตกใจที่พบกับคนคุ้นเคยที่นี่ เพราะสถานที่ผีสางแบบนี้มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะมาพบกันแบบนี้
“คุณมาทำอะไรที่นี่ดูแล้วเหมือนจะไม่สบาย” ลุคถามอย่างระวัง เพราะไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้อีลิกไม่สบายได้
“ฉันป่วยนิดหน่อย นายมาที่นี่ได้ติดกระเป๋าพยาบาลเหนือมนุษย์มาใหม่ ให้ฉันยืมยาหน่อย” อีลิกกล่าวไปก็ซีดน้ำมูกไป
ลุคหันไปส่งสัญญาณให้กับนิโคลว่าปลอดภัย พอนิโคลลงมาก็แปลกใจไม่แพ้ลุคที่มาพบกับอีลิกที่นี่ ก่อนหน้านั้นพวกเขาไม่รู้ว่าอีลิกมีพลังระดับใด แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าอีลิกคือระดับ E
“ระดับ E กลับมีสภาพบาดเจ็บแบบนี้ ป่านี้อันตรายจริง ๆ” ลุคกล่าวกับนิโคล
“อืม ดูเหมือนจะอันตรายกว่าเดิม” นิโคลพยักหน้าเห็นด้วย เพราะอีลิกไม่ใช่เหนือมนุษย์ระดับ E ธรรมดาแต่เป็นระดับ E สูงสุด
ทั้งสองคนช่วยกันอีลิกขึ้นรถ ก่อนจะขับเข้าไปที่หมู่บ้านด้านหน้า แต่พอเข้าไปใกล้ก็พบว่าหมู่บ้านที่นิโคลพูดถึงส่วนใหญ่กับโดนทำลายไปกลายเป็นซากปรักหักพัง ร่องรอยยังคงดูใหม่ เหมือนพึ่งโดนทำลาย
ใจกลางหมู่บ้านมีหลุมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมา พวกเขาระวังตัวมากขึ้นไม่ได้เข้าไป
“มันไปแล้ว” อีลิกที่นอนแผ่กายเต็มเบาะหลังทั้งสองกล่าว
“คุณรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่เหรอ” นิโคลหันไปถาม
“เรื่องมันยาว ไปหาที่พักตรงนั้นได้ยังเหลือบ้านครึ่งหลัง” อีลิกชี้ไปตรงด้านหนึ่ง
ลุคและนิโคลเกิดความสงสัยว่าที่นี่มันเกิดอะไรและเกี่ยวอะไรกับอีลิกพวกเขาจึงพาอีลิกไปยังบ้านที่เหลือครึ่งหลัง ซึ่งพอจะให้เป็นที่พักในคืนนี้ได้
อย่างน้อยก็ดีกว่านอนกลางดินกินกลางทราย
...
หลังจากเข้ามาอีลิกก็พาร่างที่อ่อนแอของตัวเองไปนั่งพิงกำแพง ขณะที่ลุคหยิบเอาชุดกล่องพยาบาลฉุกเฉินที่เหนือมนุษย์มักจะมีติดตัวเมื่อออกไปทำภารกิจภายนอก ซึ่งข้างในกล่องมียาเฉพาะระดับสูงที่ใช้กับเหนือมนุษย์โดยเฉพาะวางให้กับอีลิก
อีลิกหยิบยาที่ใช้กับพวกอาการไข้ออกมา ก่อนจะกินมันลงไป พอได้ยาก็ทำให้จิตใจของอีลิกถอนหายใจอย่างโล่งอก
นิโคลหาเศษไม้มากองก่อเป็นกองไฟง่าย ๆ ขึ้นมาและหยิบอาหารมื้อเย็นออกมาเตรียมกิน
แสงไฟจากกองไฟกระทบใบหน้าของคนทั้งสาม ก่อนที่อีลิกจะรับเอาอาหารมากินด้วยความหิวกระหาย
“บอกได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณทำไมถึงมีสภาพแบบนี้ แล้วเกิดอะไรขึ้นกับหมู่บ้านนี้” ลุคอยากรู้ที่มาที่ไปของอีลิก ว่าเป็นยังไงถึงมาลงเอยที่นี่
“เรื่องมันยาว ฉันจะเล่าให้ฟังก็แล้วกัน”
อีลิกเริ่มเล่าเรื่องว่าเขาได้รับภารกิจหนึ่งในการตามล่ามอนสเตอร์ระดับ E สูงสุดตัวหนึ่งที่ชื่อว่า กิ้งก่าสายรุ้งที่กำลังวิวัฒนาการไปเป็นมอนสเตอร์ระดับ D
กิ้งก่าสายรุ้งตัวนั้นก็กำลังสะสมพลังงาน จึงไล่จับคนกินไปเกือบร้อยคน มันเล็ดลอดการเฝ้าระวังเข้ามาในแถบชนบทได้ เพราะมีความสามารถพรางตัวในระดับหนึ่ง แต่อีลิกก็ไล่ล่ามันจนสุดท้ายก็มาถึงป่ากลายพันธุ์เอราบีเต้
แต่เพราะความสามารถในการพรางตัวของมันจึงไล่ล่ายากอีลิกเลยใช้แผนวางกับดักในเมื่อมันต้องกินเพื่อวิวัฒนาการไประดับ E เขาก็เลยหาเหยื่อมาล่อมัน
“ถ้าอย่างนั้นมันก็มาติดกับและคุณก็สู้กับมันจนบาดเจ็บ?” นิโคลเอ่ยถามอย่างสงสัย
“เออ...จะว่าอย่างนั้นก็ได้ ที่จริงฉันวางกับดักมัน แต่ใครจะคิดว่าในตอนที่เข้ามาที่ป่านี้ฉันกับติดไข้กลายพันธุ์ที่ไม่น่าจะมีที่ป่ากลายพันธุ์เอราบีเต้ทำให้อ่อนแอลงอย่างมาก แต่พวกนายไม่ต้องห่วงยาที่ฉันกินไปสามารถฆ่าเชื้อไข้หวัดนี้ได้ เพียงแต่ว่าเชื้อไข้หวัดแบบนี้ไม่ควรเจอที่ป่าแห่งนี้”
ถึงอีกจะพูดแบบนั้น แต่ลุคและนิโคลก็ขยับถอยห่างเล็กน้อย
อีลิกยิ้มเจื่อน ๆ ก่อนจะเล่าต่อ
“ถึงอาการไข้หวัดกำเริบ แต่ก็ไม่ได้หยุดภารกิจนี้ มอนสเตอร์กิ้งก่าสายรุ้งมันติดกับจริง ๆ ฉันและมันสู้กันอย่างนานจนในที่สุดก็ฆ่ามันลงไปได้”
“ฆ่าลงไปได้แล้วมันเกิดอะไรขึ้นที่หมู่บ้านนี้” นิโคลพบว่ามันเริ่มไม่สมเหตุสมผล เพราะเรื่องที่อีลิกเล่ามันขัดแย้งกัน ถ้าอีลิกฆ่าได้แล้วทำไมไม่กลับไป แล้วทำไมหมู่บ้านถึงโดนทำลาย
“ฉันฆ่ามันได้ แต่ที่นี่มันไม่ใช่มอนสเตอร์ที่อยู่เบื้องหลัง” อีลิกเว้นจังหวะ ทำให้ทั้งลุคและนิโคลแสดงความสนใจมากขึ้น
“มอนสเตอร์กิ้งก่าสายรุ้งเป็นเพียงร่างโฮสต์ให้กับมอนสเตอร์อีกตัวหนึ่งเท่านั้น มันเป็นมอนสเตอร์ที่ชื่อว่า แมงมุมปรสิต เป็นแมงมุมขนาดเล็กประมาณฝ่ามือ พวกมันมีความสามารถในการฝั่งตัวไปในร่างของสิ่งมีชีวิตอื่นและควบคุมให้มอนสเตอร์ที่โดนควบคุมอยู่ออกล่าให้มันได้”
“มอนสเตอร์แมงมุมปรสิต” ลุคสนใจชื่อนี้มาก ก่อนที่เขาจะหันไปเห็นว่านิโคลเผยสีหน้าหวาดกลัวออกมา
“เป็นอะไรหรือเปล่า”
“มอนสเตอร์แมงมุมปรสิตเป็นมอนสเตอร์ที่ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสายพันธุ์มอนสเตอร์ภัยพิบัติ ทำไมมอนสเตอร์นั้นถึงมาโผล่แถวนี้ได้” นิโคลกล่าวขึ้นมา
ลุคพึ่งเคยได้ยินการจัดอันดับแบบนี้เป็นครั้งแรก
อีลิกพยักหน้าและคลายข้อสงสัยให้กับลุค “มอนสเตอร์ในการจัดอันดับมอนสเตอร์ภัยพิบัติเป็นมอนสเตอร์ที่สร้างความเสียหายระดับภัยพิบัติได้ด้วยตัวความสามารถทางสายพันธุ์ของมัน อย่างมอนสเตอร์แมงมุมปรสิตจัดอยู่ในอันดับที่ 103 มอนสเตอร์ภัยพิบัติ
มันจะเป็นภัยพิบัติก็ต่อเมื่อไปถึงระดับ D เพราะเมื่อไปถึงระดับ D แล้วมันจะสามารถวางไข่ขยายเผ่าพันธุ์แมงมุมปรสิตได้ รองคิดดูว่ามีมอนสเตอร์ปรสิตที่ควบคุมมอนสเตอร์หรือมนุษย์ได้เป็นร้อยเป็นพันตัวดูสิ พวกมันจะบุกโจมตีล่าเพื่อเพิ่มโตและถ้าร่างที่ใช้อยู่ตายก็จะสลัดทิ้งและไปหาร่างอื่นต่อในทันที”
สีหน้าของลุคเผยแววความหวาดกลัวออกมาอย่างชัดเจน เพราะไม่คิดว่าจะมีมอนสเตอร์แบบนี้ด้วย ความน่ากลัวของมันคือการเป็นปรสิตเข้าไปควบคุมคน บางทีแม้แต่พวกเดียวกันอาจจะถูกแมงมุมปรสิตควบคุมอยู่ก็ได้
ลุคและเจนเหมือนจะนึกขึ้นได้เลยหันไปมองอีลิก อีลิกตกใจกับสายตาทั้งสองและพอเข้าใจความคิดได้
“ไม่ต้องห่วง แมงมุมนั้นจะควบคุมได้แค่พวกที่ระดับต่ำกว่าตัวเอง แบบนี้ฉันจึงต้องฆ่ามันให้ได้ก่อนที่มันจะเป็นระดับ D และกลายเป็นภัยพิบัติจริง ๆ” อีลิกรีบอธิบาย
ลุคและนิโคลถอนหายใจเล็กน้อย อย่างน้อยในตอนนี้แมงมุมนั้นก็ทำอะไรพวกเขาไม่ได้ เพราะพวกเขาทั้งสองก็อยู่ในระดับ E เช่นกัน
“แล้วมันมาอยู่ที่ป่ากลายพันธุ์เอราบีเต้ได้ยังไง” ลุคถามด้วยความสงสัย ที่จริงเข้าไม่ได้พูดออกไปว่า ‘หรือจะเกี่ยวกับมอนสเตอร์ดักแด้กำเนิดฟ้า’
“รอยแตกฉันตามล่ามันมาตลอด ก่อนจะพบว่ามีรอยแตกของมิติจากโลกสมบูรณ์อยู่ ที่จริงมันแค่รอยแตกชั่วคราว พบได้หลายครั้งในโลก รอยแตกแบบนี้จะพัฒนาไปเป็นประตูมิติที่เชื่อมต่อไปยังโลกที่สมบูรณ์ได้ แต่น่าเสียดายที่มันปิดไปแล้ว ส่วนแมงมุมปรสิตก็เลยติดอยู่ที่นี่”
มีเรื่องให้ลุคและนิโคลตกใจจนหน้าเหวออีกครั้ง รอยแตกโลกสมบูรณ์เป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อมากสำหรับเหนือมนุษย์ ในโลกนี้มีประตูที่เชื่อมต่อไปยังโลกสมบูรณ์แค่เพียง 2 แห่งเท่านั้น โลกสมบูรณ์ต่างจากชิ้นส่วนโลกต่างมิติ เพราะมันเป็นโลกที่เหมือนกับโลกมนุษย์อีกโลกหนึ่งเลย ถือเป็นแหล่งทรัพยากรที่สำคัญและช่วยพัฒนาอารยธรรมมนุษย์ได้ แต่ก็เป็นหายนะได้เช่นกัน เนื่องจากในโลกนั้นก็มีมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งมากมาย อย่างตอนที่ปรากฏประตูมิติเชื่อมไปยังโลกสมบูรณ์ก็เกิดหายนะมอนสเตอร์ในระดับที่อาจจะส่งผลถึงการสูญสิ้นเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้เลย
กว่าที่มนุษย์จะตั้งตัวและพัฒนาความแข็งแกร่งมีเหนือมนุษย์และฮันเตอร์ได้ถึงทุกวันนี้ ย่อมพัฒนามาจากสงครามกับมอนสเตอร์ที่โลกสมบูรณ์ โดยมีประชากรมนุษย์โดยเฉพาะทหารที่สู้กับมอนสเตอร์จนตายกันนับพันล้านคนได้เลยกว่าจะยืนหยัดในโลกสมบูรณ์ทั้งสองได้
“มันเกี่ยวกับเจ้านั้นไหม” นิโคลอดไม่ได้ที่จะถามออกมา
“เกี่ยวกับอะไร? จริงสิพวกนายมาที่นี่เพราะอะไร” อีลิกเหมือนจะนึกขึ้นได้จึงสอบถาม
ลุคไม่ได้คิดจะปิดบังจึงบอกเป้าหมายของเขา “พวกเรามาตามจับมอนสเตอร์ตัวหนึ่งเพื่อเอามันไปทำเป็นยาเพื่อรักษาน้องสาวของฉัน มันคือมอนสเตอร์ดักแด้กำเนิดฟ้า”
“เดี๋ยวก่อน มอนสเตอร์ดักแด้กำเนิดฟ้า หรือว่าจะเป็นยารักษาแหล่งกำเนิดคลื่นสมอง” อีลิกกล่าวออกมาอย่างตกใจ
ลุคเผยสีหน้าตื่นตกใจที่อีลิกรู้เรื่องนี้ เขาระวังตัวในทันที
“ฉันเดาถูกสินะ ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายรู้สูตรยามาจากไหน แต่เรื่องดักแด้กำเนิดฟ้าอาจจะเกี่ยวกับมอนสเตอร์แมงมุมปรสิต”
นิโคลเองก็พอเดาได้ แต่เธอไม่รู้เรื่องยาและความลับของดักแด้กำเนิดฟ้าว่ามันถูกควบคุมโดยสหพันธรัฐ จึงได้แต่ฟังเงียบ ๆ
ลุคไม่ยอมรับและปฏิเสธตรง ๆ แต่เขาอยากจะรู้ว่ามันไปเกี่ยวกันได้ยังไง
“ทำไมนายถึงคิดว่ามันเกี่ยวข้องกัน”
การถามของลุคทำให้อีลิกยืนยันได้ทันที
“ก็หลังจากที่ฉันล่ามันขนาดนี้ แต่มันไม่ยอมหนีและยังหาร่างมอนสเตอร์ตัวใหม่ ๆ ควบคุมมาพยายามฆ่าฉันไม่ยอมให้เข้าไปยังป่าด้านหนึ่งก็แสดงว่ามันกำลังกันฉันออกจากบางสิ่งที่มันหมายตาไว้อยู่”
“มอนสเตอร์ดักแด้กำเนิดฟ้า” นิโคลคาดเดาถึงเป้าหมายแมงมุมปรสิตตัวนั้น
“ใช่” อีลิกยืนยันและพูดอีกว่า “บางทีดักแด้กำเนิดฟ้าอาจจะออกมาจากรอยแตกของมิติหลังจากแมงมุมปรสิตออกมา แมงมุมนั้นคงพยายามหาอาหารโดยการไปที่เมืองปลายฝน บังเอิญมันโดนฉันไล่ล่าจึงหนีมาที่นี่คิดจะกลับเข้ารอยแตก แต่ก็บังเอิญพบกับดักแด้กำเนิดฟ้าทำให้มันเลือกจะไม่กลับไป แต่รอให้ดักแด้กำเนิดเป็นผีเสื้อนภาเพื่อสิงร่างควบคุมผีเสื้อที่พึ่งเกิดตัวนี้”
ลุคได้ฟังถึงความลับขั้นต่อไปของดักแด้กำเนิดฟ้า ซึ่งมันมากกว่าที่เขารู้ซะอีก
“นายรู้ได้ยังไง เกี่ยวกับข้อมูลพวกนี้”
“พ่อฉันเป็นผู้อำนวยการสำนักงานเหนือมนุษย์ประจำเมืองปลายฝน”
“หะ ผู้อำนวยการอีคอนเป็นพ่อของนาย” ทั้งลุคและนิโคลพูดออกมาพร้อมกับในใจที่อยากปฏิเสธ เนื่องจากทั้งสองเคยเห็นวิดีโอและรูปถ่ายของผู้อำนวยการอีคอนมาก่อน ซึ่งไม่เห็นจะเหมือนกับอีลิกเลย
แต่การที่อีลิกรู้เรื่องดักแด้กำเนิดฟ้าอย่างละเอียดก็เป็นเหมือนคำยืนยันให้กับลุคว่าชายคนนี้พูดจริง ไม่อย่างนั้นจะรู้ได้ยังไง
“ไม่น่าแปลก” ลุคไม่คิดว่าจะได้มานั่งคุยกับลูกชายของบุคคลสำคัญแบบนี้
“แล้วนายจะทำยังไงกับดักแด้กำเนิดฟ้า” ลุคกลับมาจริงจัง เพราะในเมื่อดักแด้กำเนิดฟ้าสำคัญจนสหพันธรัฐยังปกปิดไว้เป็นความลับในเมื่ออีลิกเป็นลูกชายของผู้อำนวยการก็นับเป็นฝ่ายของสหพันธรัฐไปแล้ว
นิโคลสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ลุคปล่อยออกมาอย่างเป็นปฏิปักษ์กับอีลิกอย่างชัดเจน
อีลิกรู้สึกกดดันจากลุคอย่างชัดเจนราวกับว่าถ้าเขากล้าแย่งชิงดักแด้กำเนิดฟ้าอาจจะต้องสู้ตายกับลุค
‘เป็นไปได้ยังไง พลังระดับ E และแข็งแกร่งมากด้วย’ อีลิกรู้เรื่องของทั้งสองดี เพราะรู้ว่าตอนทดสอบสถานะฮันเตอร์ทั้งสองเป็นแค่ระดับ F เท่านั้น แต่ตอนนี้เป็นระดับ E ก็น่าตกใจมากแล้ว แต่แรงกดดันของลุคกลับรุนแรงจนคุกคามเขาที่เป็นระดับ E สูงสุดได้
“มาร่วมมือกัน” อีลิกกล่าว
“ร่วมมือ?” ลุคไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้