[ตอนฟรี] ตอนที่ 60 : อู่หมิงเยว่ช่วยข้าด้วย
เมื่อได้ยินเสียงนี้ หัวใจของเซียวเฉินก็เต้นไม่เป็นจังหวะและเขาก็หันหน้าไปมองทันที
หญิงงามในชุดเกราะสีน้ำเงินปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับท่วงท่าอันกล้าหาญและดวงตาฟีนิกซ์ที่โดดเด่น
บนหัวของนางมีเขามังกรครามคู่หนึ่งยื่นออกมา
จะเป็นใครอื่นได้นอกจากหลงปี้ชรือ
“นางเป็นคนจากรังจู่หลง...” หัวใจของเซียวเฉินจมลงเล็กน้อย
ถึงแม้เขาจะรู้ว่าการเข้าร่วมของหลงปี้ชรือในครั้งนี้อาจมาเพื่อกระดูกมังกรโบราณเหมือนกัน
แต่เขาก็ไม่คาดคิดว่าจะหลงปี้ชรือจะหาที่นี่พบเร็วขนาดนี้
ในมือของหลงปี้ชรือกำลังถือกระดูกสีครามชิ้นหนึ่ง
ด้วยการอาศัยกระดูกชิ้นนี้ ทำให้นางสามารถรับรู้ตำแหน่งของกระดูกมังกรได้อย่างคลุมเครือ จากนั้นก็ลงมือค้นหามันด้วยตัวเอง
ในตอนนี้ เมื่อนางเห็นกระดูกมังกรทั้งห้าเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระดูกมังกรเทวะ ดวงตาอันงดงามของหลงปี้ชรือก็อดไม่ได้ที่จะเป็นประกายด้วยสีเพลิง
มีกระดูกมังกรเทวะไม่มากนักแม้แต่ในรังจู่หลง
“ยอดเยี่ยม ภารกิจนี้สามารถทำให้สำเร็จแล้ว” หลงปี้ชรือถอนหายใจด้วยความโล่งอก
แม้ว่าเรื่องการจัดการกับจวินเซียวเหยาจะถูกพักไว้ แต่อีกภารกิจหนึ่งก็เสร็จสิ้นเรียบร้อย
หลงปี้ชรือถอนสายตาของนาง จากนั้นถึงสังเกตเห็นว่าเซียวเฉินกำลังยืนอยู่ข้างกระดูกมังกร
เมื่อเห็นว่าเป็นเผ่ามนุษย์ หลงปี้ชรือจึงขมวดคิ้วและพูดด้วยความสงสัย: “คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีมนุษย์ที่มาถึงก่อนข้า เห็นแก่อารมณ์ที่ยังดีอยู่ของข้ามังกรสาว จงไปให้พ้นซะ”
หลงปี้ชรือโบกมือของนางโดยไม่สนใจเซียวเฉิน
“ฮึ่ม แม่นางคนนี้ช่างโอหังซะจริง เจ้าไม่เห็นข้าอยู่ในสายตาเลยรึ?” เซียวเฉินขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม
“เห็นเจ้าในสายตา?” หลงปี้ชรือเอียงศีรษะเล็กน้อย และมุมปากของนางก็ยกขึ้นยิ้มเสียดสี
“เจ้าคิดว่าเจ้าคือจวินเซียวเหยารึ? ข้ากลัวจวินเซียวเหยา แล้วข้าก็ต้องกลัวมดปลวกอย่างเจ้าด้วยรึ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลงปี้ชรือ ดวงตาของเซียวเฉินก็ระเบิดความเกรี้ยวกราดออกมา
“จวินเซียวเหยานู่น จวินเซียวเหยานี่ จวินเซียวเหยาอยู่นั่นล่ะ ข้าเซียวเฉินจะด้อยกว่ามันได้ยังไง!”
เซียวเฉินที่ตะโกนอย่างกะทันหัน ทำให้หลงปี้ชรือก็ตกใจเล็กน้อยโดยไม่รู้ว่าทำไมเจ้ามนุษย์ที่อยู่ข้างหน้าถึงกลายเป็นบ้า
“มังกรสาวแล้วมันทำไม ยังไงเจ้าก็ต้องมานอนบนท้องข้าอยู่ดี!” เซียวเฉินเริ่มลงมือโจมตีก่อน
“เจ้าเด็กมนุษย์ชั้นต่ำ แส่หาความตาย!” หลงปี้ชรือเลิกคิ้วขึ้นและเคลื่อนไหวเช่นกัน
ร่างของทั้งสองเข้าปะทะกันในทันทีจนทำให้เกิดคลื่นพลังปราณ
“หือ ระดับการบ่มเพาะของเจ้า?” หลงปี้ชรือรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
นางคาดไม่ถึงเลยว่าเด็กมนุษย์ตรงหน้าของนางจะมีระดับการบ่มเพาะอยู่ที่ขอบเขตสะพานศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลาง
นี่เทียบได้กับอัจฉริยะผู้โปรดปรานของสวรรค์แล้ว
แม้แต่นาง หลงปี้ชรือ ก็มีระดับการบ่มเพาะอยู่เพียงแค่ขอบเขตสะพานศักดิ์สิทธิ์ขั้นสมบูรณ์
บูม! บูม! บูม!
การโจมตีของทั้งสองปะทะกัน ทำให้ชั่วขณะหนึ่งทั้งคู่ถึงกับสูสี
ในตอนนั้นเอง เสียงของปรมาจารย์ชิงหลงก็ดังขึ้นในความคิดของเซียวเฉิน “เซียวเฉิน ตอนนี้มันยังไม่สายเกินไป เจ้ารีบหาทางเอากระดูกมังกรออกไปดีกว่า สถานการณ์จะแย่ลงแน่ถ้าเกิดไปดึงความสนใจคนอื่นเข้า”
เหตุผลที่ปรมาจารย์ชิงหลงไม่เคลื่อนไหวมันเป็นเพราะเขาทำแบบนั้นไม่ได้
ด้วยพื้นฐานการบ่มเพาะกึ่งเทวะของเขา ทันทีที่เขาเคลื่อนไหว ผู้อาวุโสจากขุมกำลังอมตะที่อยู่ด้านนอกคลังสมบัติลับจ้าวเทวะอาจสัมผัสถึงเขาได้ทันที
ดังนั้นเซียวเฉินจึงพึ่งพาได้แค่ตัวเองเท่านั้น
“เข้าใจแล้ว ต้องปิดฉากให้ไว!”
เซียวเฉินตัดสินใจพร้อมกับเงยหน้าขึ้นฟ้าและร้องคำรามจนร่างกายของเขาเต็มไปด้วยแสงสีฟ้า
จากนั้นภายใต้ดวงตาที่สั่นไหวเล็กน้อยของหลงปี้ชรือ ร่างกายของเซียวเฉินก็ถูกปกคลุมด้วยเกล็ดสีครามพร้อมกับมีปีกงอกออกมาจากหลังของเขา มันดูเหมือนกำลังกลายร่างเป็นครึ่งมังกร
กลิ่นอายของเซียวเฉินพุ่งทะยานสูงขึ้นสู่ขอบเขตหวนคืนหนึ่งเดียวทันที
“นี่... นี่คือเคล็ดแปรผันมังกรฟ้าของรังจู่หลง เจ้าได้มันมาจากไหน?” หลงปี้ชรือตะลึงเล็กน้อยและไม่ค่อยอยากจะเชื่อ
นางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเด็กจากเผ่ามนุษย์จะสามารถฝึกฝนเคล็ดแปรผันมังกรฟ้าได้ถึงขนาดนี้
“ฮึ่ม สิ่งที่จะทำให้เจ้าตกใจจะตามมาหลังจากนี้นี่แหละ!”
เมื่อเห็นการแสดงออกที่ตกใจของหลงปี้ชรือ นี่ทำให้เซียวเฉินรู้สึกพอใจเล็กน้อยในใจ
เขาชกออกไปพร้อมกับรูปแบบแสงของมังกรสีน้ำเงินหลายร้อยเส้น แสงของกำปั้นน่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง
แต่เห็นได้ชัดว่าหลงปี้ชรือไม่ง่ายเหมือนปอกกล้วย
นางได้ผสานเข้ากับแก่นแท้มังกรสองแก่นโดยสมบูรณ์ และความแข็งแกร่งของนางนั้นมากยิ่งกว่าหลงฮ่าวเทียนเสียอีก
มือของหลงปี้ชรือสะบัดออกราวกับมังกรแท้สะบัดหางและปลดปล่อยอักขระปราณออกมาเป็นชุด
เซียวเฉินชกออกไปปะทะเข้ากับอักขระเหล่านั้นจนเกิดความผันผวนอันน่าทึ่ง
ทั้งสองฝ่ายโต้กันไปมาอย่างสูสี
“แม่นางคนนี้ขวางทางจริงๆ ...”
เมื่อเห็นว่าเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะปิดฉากหลงปี้ชรือได้อย่างสมบูรณ์ คิ้วของเซียวเฉินก็ขมวดอย่างมืดมน
เพียงเมื่อสถานการณ์ถึงทางตัน
จู่ๆ พลังปราณก็ระเบิดออกจากระยะไม่ไกล ทำให้พื้นแตกเป็นเสี่ยงๆ ตามทาง
เมื่อสัมผัสถึงการโจมตีอย่างกะทันหันนี้ หลงปี้ชรือก็ตกใจและรีบหลบไปด้านข้าง แต่มันยังคงเฉียดกับร่างกายของนางจนกระอักเลือดออกมาเล็กน้อย
“ใครกัน!” ดวงตาของหลงปี้ชรือระเบิดออกด้วยความโมโห
สตรีงามที่มีผ้าคลุมหน้าสีขาวและดวงตาของนางเป็นเหมือนสายน้ำในฤดูใบไม้ร่วงได้ปรากฏตัวออกมา
“หมิงเยว่ เป็นเจ้านี่เอง ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่กันล่ะ!?” เซียวเฉินแสดงสีหน้าประหลาดใจอย่างคาดไม่ถึง
การปรากฏตัวของอู่หมิงเยว่เป็นสิ่งที่เซียวเฉินคาดไม่ถึงโดยสิ้นเชิง
“เซียวเฉิน เจ้าปลอดภัยดีไหม?” อู่หมิงเยว่มองไปที่เซียวเฉินด้วยความเป็นห่วง จากนั้นก็มองไปที่หลงปี้ชรืออย่างเย็นชาด้วยดวงตาอันงดงามของนาง
“เจ้าเป็นใคร?” ดวงตาของหลงปี้ชรือแสดงความตื่นตัว
นางรู้สึกได้ว่าสตรีสวมผ้าคลุมหน้าสีขาวคนนี้ไม่ธรรมดาแน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นระดับการบ่มเพาะหรือสถานะของนาง
“ไปซะ ของเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไกลเกินเจ้าจะเอื้อมถึง” น้ำเสียงของอู่หมิงเยว่ไม่แยแส เผยให้เห็นความองอาจขององค์หญิงใหญ่แห่งราชวงศ์เทพโดยไม่รู้ตัว
“เจ้ากล้าสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องของรังจู่หลงรึ?” ดวงตาของหลงปี้ชรือแสดงความเฉยเมย
“รังจู่หลงนั้นทรงพลังมากก็จริง แล้วมันยังไงต่อ?” อู่หมิงเยว่ไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นอู่หมิงเยว่เผชิญหน้ากับรังจู่หลงเพื่อตัวเขาเอง หัวใจของเซียวเฉินก็เริ่มรู้สึกสั่นไหว
เขาสาบานว่าในอนาคตเขาจะแต่งงานกับอู่หมิงเยว่และจะดูแลนางเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม เพียงเมื่อกลิ่นดินปืนเริ่มคุกรุ่น
น้ำเสียงเย็นชาก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“หึ กระดูกมังกรนี้ไม่ใช่ทั้งของรังจู่หลงและพวกเจ้าทั้งสอง แต่เป็นของบุตรแห่งพระเจ้าต่างหาก”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ การแสดงออกของหลงปี้ชรือ อู่หมิงเยว่ และเซียวเฉินก็เปลี่ยนไปทันที
เห็นเพียงชายหนุ่มในเกราะรบสีเงินปรากฏขึ้น
เขามีใบหน้าที่ตรงไปตรงมา มีรอยหยักแผลเป็นบนแก้ม บุคลิกของเขาเย็นชาราวกับน้ำแข็ง และทั่วร่างกายก็ถูกห่อหุ้มไปด้วยอักขระสายฟ้า
มันคือลำดับห้าแห่งตระกูลจวิน จวินว่านจี๋!
“จวินว่านจี๋ เจ้ามาที่นี่ได้ยังไงกัน!” ดวงตางดงามของหลงปี้ชรือสั่นไหว
“ก็ต้องขอบคุณเจ้าหนูขาวตัวน้อยตัวนี้แล้วล่ะ” จวินว่านจี๋มองไปที่เซียวเฉินด้วยความเฉยเมยและหยอกล้อในสายตาของเขา
ก่อนหน้านี้จวินเซียวเหยาได้ส่งข้อความเสียงไปยังจวินว่านจี๋ บอกให้เขาลอบติดตามเซียวเฉิน
จวินว่านจี๋มึนงงในตอนแรก ลอบติดตามเด็กหนุ่มธรรมดาแล้วจะได้อะไร
แต่ตอนนี้ หลังจากที่ได้เห็นกระดูกมังกรโบราณสี่ชิ้นและกระดูกมังกรเทวะแล้ว จวินว่านจี๋ก็มีความเชื่อมั่นต่อจวินเซียวเหยาโดยสมบูรณ์
“เป็นไปได้รึเปล่าที่นายท่านสามารถอนุมานถึงความลับบางอย่างได้ ไม่งั้นจะรู้ได้ยังไงว่าเจ้าเด็กคนนี้จะมีโชคแบบนี้” จวินว่านจี๋ถอนหายใจในใจ
แต่ตอนนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดของเขาคือการช่วงชิงกระดูกมังกรทั้งห้านี้
เมื่อเห็นจวินว่านจี๋ปรากฏตัว ใบหน้าของเซียวเฉินก็แดงก่ำ เส้นเลือดในขมับเต้นตุบตับ และอวัยวะภายในของเขาก็ร้อนระอุด้วยความเดือดดาล
เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าเขาถูกจวินเซียวเหยาลอบวางอุบายอีกแล้ว
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เซียวเฉินจึงหันหน้าไปพูดกับอู่หมิงเยว่ “หมิงเยว่ ได้โปรดช่วยรับมือชายคนนี้ด้วยกันกับข้า!”
*** หลังจากตอนที่ 61 เป็นต้นไปจะเริ่มติดเหรียญนะครับ และจะลงวันละ 2 ตอน เว้นวันอาทิตย์เหมือนเดิม ***
(หากมีคำแนะนำหรือข้อติเตียน สามารถคอมเมนท์เพื่อบอกกล่าวได้นะครับ ^ ^ ขอบพระคุณมากครับที่สละเวลาอ่านจนจบ)