ตอนที่ 1245 มันไม่เหมือนกับที่พวกเจ้าคาดไว้สินะ..
ท่านยาย ได้มองไปที่ หลินฟาน ด้วยสีหน้าจริงใจ และกล่าวว่า : “พ่อหนุ่ม เห็นแก่หญิงชรา หายนะครั้งนี้ที่เราหยุนเหมินได้ประสบนั้น.. ในเวลานี้เราเองไม่จำเป็นต้องมาพูดถึงความคับข้องใจของเจ้า กับทางหยุนเหมินของข้า ..อีกต่อไปแล้ว ถ้าเจ้าสามารถช่วยพา ชิงเย้า ออกไปได้ มันก็มีแต่จะเป็นบุญคุณอันใหญ่หลวงของเราหยุนเหมิน ทั้งบุญคุณในครั้งนี้ ข้ารับประกันได้ว่าเจ้าจะได้รับประโยชน์อย่างไม่รู้จบในอนาคต”
หลินฟาน อยากรู้อยากเห็นเล็กน้อยแล้ว หยุนเหมิน กลับยินยอมถูกทำลายเสียมากกว่าจะมอบสมบัติที่ว่านั้นออกไป แล้วสมบัติที่ว่านั้นมันคืออะไร มันคุ้มค่าจริงๆ นะหรือ?
“หญิงชรา ..กำลังหมายความว่าไง?” หลินฟาน ได้ถาม
ท่านยาย กล่าวว่า : “ข้าไม่สามารถพูดรายละเอียดได้มากนัก ต่อไปเจ้าจะรู้”
หลินฟาน เห็นว่าเธอไม่ได้จงใจแสร้งทำเป็นเล่นกลหรือคิดจะหลอกลวงเขา ในใจก็ยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งขึ้น ตัวเขาเองไม่ได้โลภ แต่.. ‘ผลประโยชน์ที่ไม่รู้จบ’ จากปากของ ท่านยาย นั้น เพียงแค่ให้เขาพา หยุน ชิงเย้า ออกไป สําหรับเขาแล้วมันเป็นเพียงเรื่องของการกระทําของเขาเท่านั้น, เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งของเขากับ หยุนเหมิน และนี่อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ แต่เขาก็สามารถยอมรับมันได้
การที่เขาเดินทางมาไกลถึงหยุนเหมินในครั้งนี้ ก็เพื่อแก้ไขความขัดแย้งกับ หยุนเหมิน ..หรือไม่นั้น ข้อเท็จจริงมันก็ได้พิสูจน์แล้วว่าวิธีที่เขาคาดไว้ในก่อนหน้านี้มันไม่ได้ผล และในที่สุดก็ต้องใช้กําลังเพื่อปราบปรามหยุนเหมิน
แต่.. การปรากฏตัวของ ชายใบหน้าเหลี่ยม ผู้นี้ เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนชะตากรรมของ หยุนเหมิน ไปพร้อมกับการเปลี่ยนทิศทางของเรื่องระหว่างเขา กับหยุนเหมิน และนั่นมันก็ทำให้เขามีทางออกในการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ ได้อีกหนทางหนึ่ง
หลินฟาน พยักหน้า : “ตกลง ผมรับปากคุณ”
ท่านยาย ได้ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขมาก : “ขอบคุณ พ่อหนุ่ม”
หลังจากพูดคุยกันจบ ท่านยาย ที่ได้เพิ่งรักษาตัวเองเสร็จ เธอก็ได้ลุกขึ้นมา และเข้าไปร่วมการต่อสู้อีกครั้ง
ชายใบหน้าเหลี่ยมผู้นี้มีความแข็งแกร่งมากจริงๆ
ภายใต้การปิดล้อมโจมตีของผู้เชี่ยวชาญหลายคนจากทาง หยุนเหมิน เขายังคงรับมือไปได้อย่างง่ายดาย
การต่อสู้ยังคงดําเนินต่อไป แต่ผู้อาวุโสสองคนของ หยุนเหมิน ก็ได้เสียชีวิตลงไป ..ภายใต้ฝ่ามือของ ชายใบหน้าเหลี่ยม
ส่วนทางคนอื่นๆ ก็ต่างได้รับบาดเจ็บในระดับที่แตกต่างกันออกไป และในที่สุดรวมถึง หยุน จงเจิ้ง ท่านยาย และหยุน ชิงเย้า ต่างก็ได้รับบาดเจ็บจนล้มลงไปนอนกับพื้น
ชายใบหน้าเหลี่ยม ได้พุ่งเข้าจัดการกับทุกคน และเดินเข้าไปเหยียบย่ำ หยุน จงเจิ้ง จนตกไปอยู่ภายใต้ฝ่าเท้าของเขา
ภาพ.. ของ ผู้นำหยุน ผู้สง่างามที่ได้นั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่ในก่อนหน้านี้นั้น คาดไม่ถึงเลยว่าจะถูกลบหายออกไป ทั้งในเวลานี้ ผู้นำหยุน ก็ได้ถูก ชายใบหน้าเหลี่ยม ทุบตีจนล้มลงไปนอนกับพื้น และถูกอีกฝ่ายเหยียบย้ำจนมีสภาพที่น่าอับอายเช่นนี้ขึ้น และนี่.. ก็เป็นเรื่องที่ หยุนเหมิน ไม่เคยประสบมาก่อนนับตั้งแต่ครั้งอพยพย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่นี่ และนับได้ว่า ..สิ่งนี้ เป็นความอัปยศอดสูอย่างยิ่ง
ศิษย์สาวกของหยุนเหมินทุกคน ..ต่างล้วนเศร้าโศก และโกรธแค้น, ต่างก็พยายามรีบขึ้นมาช่วย ผู้นำ
ชายใบหน้าเหลี่ยม ได้ร้องตะโกนออกไปว่า : “มันไม่เหมือนกับที่พวกเจ้าคาดไว้สินะ.. หากพวกเจ้าใครกล้าเข้ามาอีก ผู้นำของพวกเจ้า ตาย!”
เหล่าศิษย์สาวกหยุนเหมิน ที่เห็นท่าทางเช่นนี้ ก็ต่างอดทน และไม่คิดจะรุดหน้าขึ้นไป
“ผู้นำหยุน ท่านพร้อมที่จะบอกที่อยู่ของสมบัติให้กับข้าแล้ว ..หรือยัง?”
ชายใบหน้าเหลี่ยม ได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มที่น่ากลัว มือหนึ่งก็ได้ดึง หยุน จงเจิ้ง ที่สูญเสียความสามารถในการต่อต้านไปขึ้นมา จากนั้นก็โยน หยุน จงเจิ้ง ออกไปด้านข้าง
เสียงกรีดร้องของ หยุน จงเจิ้ง ก็ดังกลับมาจากระยะไกล
ทุกคนในหยุนเหมินที่ได้ยินเสียง ต่างพากันเศร้าโศก และโกรธแค้นอย่างมาก แต่ไม่มีใครกล้าที่จะก้าวขึ้นไป นั่นเพราะมันไม่มีประโยชน์ พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย
อีกด้านหนึ่ง.. ทั้ง ท่านยาย และหยุน ชิงเย้า ที่ได้ล้มลงไปในจุดเดียวกันนั้น ทาง หยุน ชิงเย้า เธอเองได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย เธอยังคงสามารถกลับไปต่อสู้กับ ชายใบหน้าเหลี่ยมผู้นี้ได้ แต่ในเวลานี้เธอกลับต้องการรีบเข้าไปคว้า หยุน จงเจิ้ง กลับออกมาก่อน หยุน จงเจิ้ง เป็นอาจารย์ของเธอ และยิ่งเห็นเขาตกอยู่ในสภาพนี้ เธอก็ยิ่งวิตกกังวลมากขึ้น
แต่ท่านยายได้รีบคว้าดึงเธอเอาไว้ และหยุดเธอไม่ให้เข้าไปตาย..
ท่านยาย ได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง และได้มีเลือดไหลทะลักออกมาที่มุมปาก : “ชิงเย้า อย่าได้ไปตาย ยายเองมีอะไรจะพูดกับเจ้า”
หยุน ชิงเย้า ได้แต่หันกลับมาประคอง ท่านยาย ขึ้นมา และพูดด้วยความเป็นห่วงออกไปว่า : “ท่านยาย ท่านได้รับบาดเจ็บอีกครั้งแล้ว”
โดยไม่คาดคิด ขณะที่ หยุน ชิงเย้า ได้เพิ่งก้มตัวลง ทันใดนั้น ท่านยาย ก็ใช้นิ้วกดไปตามจุดต่างๆ บนร่างกายของ หยุน ชิงเย้า อย่างรวดเร็ว เมื่อนั้นร่างกาย หยุน ชิงเย้า ก็เหมือนกับหมดแรง และล้มลงไปกับพื้น เธอไม่สามารถขยับตัวใดๆ ได้อีก
หยุน ชิงเย้า ได้มีสีหน้าตกใจอย่างมาก : “ท่านยาย นี่ท่านคิดจะทําอะไร?”
ท่านยาย กล่าวว่า : “ชิงเย้า ในวันนี้เราจะปกป้องสมบัติของเรา หยุนเหมิน ด้วยการทําลายล้างตระกูล และเราจะไม่คิดยอมปล่อยให้ศัตรูได้มันไปสำเร็จ”
หยุน ชิงเย้า กล่าวว่า : “ข้ารู้ ข้าเองก็พร้อมที่จะตายอยู่ก่อนแล้ว!”
แต่ทาง ท่านยาย ได้ส่ายศีรษะ เพื่อปฏิเสธความคิดของ หยุน ชิงเย้า
ในเวลานี้.. แม้ว่าเธอจะไม่ได้พูด แต่ หยุน ชิงเย้า ก็เข้าใจอะไรได้ จากแววตาของท่านยาย เมื่อนั้นสีหน้าของ หยุน ชิงเย้า ก็ได้เปลี่ยนไป : “ท่านยาย ข้าไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ หากข้าจะอยู่รอด ทุกคนเองก็ต้องอยู่รอดด้วย ไม่งั้นข้าขอเลือกที่จะตายไปพร้อมกับทุกคน ยังดีเสียกว่า!”
ท่านยาย กลับใช้นิ้วชี้ไปแตะที่ตัว หยุน ชิงเย้า อีกครั้ง เมื่อนั้น หยุน ชิงเย้า ก็สูญเสียความสามารถในการพูดไป แม้เธอจะอ้าปากแต่กลับไม่สามารถส่งเสียงใดๆ ออกมาได้เลย
ท่านยาย ได้กล่าวอย่างช้าๆ ออกไปว่า : “ข้าได้ขอให้ ท่านหลิน ช่วยพาเจ้าออกไป”
หยุน ชิงเย้า ไม่สามารถขยับตัวได้ และเธอ.. ก็พูดไม่ได้ ได้แต่มองไปที่ ท่านยาย ด้วยสายตาของเธอ เพื่อบอกเธอด้วยสายตาว่า ‘อย่าได้ทําเช่นนี้’
แต่เห็นได้ชัดว่า ท่านยาย ได้ตัดสินใจไปแล้ว และท่านก็ไม่คิดที่จะเปลี่ยนใจ
ในเวลานี้ หยุน ชิงเย้า สังเกตเห็นว่า หลินฟาน ได้เดินเข้ามาแล้ว
หยุน ชิงเย้า ที่เห็นว่าเธอไม่สามารถโน้มน้าว ท่านยาย ได้ ก็ได้แต่มองไปที่ หลินฟาน ด้วยสายตาของเธอ เพื่อบ่งบอกเขาว่าอย่าได้ทําเช่นนี้
แต่ หลินฟาน เขากลับแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น และทําเป็นนั่งยองๆ ลง
ท่านยาย มองไปที่ หลินฟาน และได้พยักหน้าเพื่อแสดงความขอบคุณ
หลินฟาน ก็ได้พยักหน้าตอบรับกลับไปด้วยรอยยิ้ม
ในตอนนี้.. ยังไม่ใช่เวลาที่ดีที่จะพา หยุน ชิงเย้า ออกไป หลินฟาน ก็เลยได้นั่งลง และรอให้เวลามาถึง
สําหรับ หลินฟาน หยุนเหมิน ไม่มีความสําคัญใดๆ กับเขา และเขาก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ ชายใบหน้าเหลี่ยม คนนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้วางแผนที่จะเข้าไปแทรกแซงเรื่องราวระหว่างพวกเขา การพา หยุน ชิงเย้า ออกไป และแก้ไขความขัดแย้งกับ หยุนเหมิน นี่เป็นสิ่งเดียวที่เขาทําได้ และเต็มใจที่จะทํามัน
หยุน ชิงเย้า พยายามจะสบตากับ หลินฟาน อยู่หลายครั้ง แล้วใช้สายตาส่งสัญญาณบอก หลินฟาน ว่าให้ปฏิเสธคำพูดของ ท่านยาย แต่.. หลินฟาน คนนี้เขากลับไม่หันมาสบตากับเธอเลยด้วยซ้ำ ราวกับว่าเขาได้จงใจหลีกเลี่ยงสายตาของเธอ
สิ่งนี้ทําให้ หยุน ชิงเย้า ทั้งโกรธ และวิตกกังวล แต่เธอก็ไม่สามารถทําอะไรได้เลย..
ทันใดนั้น ท่านยาย ก็ได้เอื้อมมือออกไปจับมือของ หยุน ชิงเย้า นิ้วของเธอลูบไปเบาๆ ที่ฝ่ามือของ หยุน ชิงเย้า และดูเหมือนว่าเธอจะเขียนอะไรบางอย่าง การกระทํานี้ของเธอเป็นไปอย่างลับๆ และแม้กระทั่ง หลินฟาน ก็ไม่สามารถรับรู้ได้ หลังจากนั้นไม่นานเธอก็หยุด
ท่านยาย ได้มองไปที่ หยุน ชิงเย้า แววตาของเธอดูเหมือนจะถาม หยุน ชิงเย้า ว่า ‘จํามันได้หรือไม่’
หยุน ชิงเย้า ได้ให้คำตอบผ่านสายตาของเธอ แต่ในขณะเดียวกันนั้นดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยคําถาม เห็นได้ชัดว่าเธอไม่รู้ว่าเนื้อหาที่ ท่านยาย เพิ่งเขียนลงไปในมือของเธอนั้น ..มันหมายถึงอะไร
ท่านยาย กลับไม่คิดจะอธิบายอะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว ทั้งไม่สนใจ หยุน ชิงเย้า อีกต่อไป เธอนั่งขัดสมาธิ และเริ่มรักษาอาการบาดเจ็บ
เรื่องยังไม่จบ หยุนเหมินของพวกเขายังไม่จบ เธอต้องเตรียมพร้อมสําหรับการต่อสู้ เธอปราบ หยุน ชิงเย้า ลงได้แล้ว และได้ขอให้ หลินฟาน พา หยุน ชิงเย้า ออกไป และเผื่อว่าแผนนี้อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้.. บางทีต่อไป พวกเขาอาจยังมีโอกาสฆ่าศัตรูที่แข็งแกร่ง และคลี่คลายหายนะของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในครั้งนี้
ในเวลานี้ ชายใบหน้าเหลี่ยม ได้ถือ หยุน จงเจิ้ง เดินกลับมาด้วยมือข้างหนึ่ง แต่เห็นว่า หยุน จงเจิ้ง ในเวลานี้กลับเต็มไปด้วยเลือด และเขาได้ถูกทรมานโดย ชายใบหน้าเหลี่ยม จนสภาพของเขาดูไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ชายใบหน้าเหลี่ยม ได้โยน หยุน จงเจิ้ง ลงไปกับพื้น และเท้าข้างหนึ่งของเขาก็ได้ยกขึ้นเหยียบไปบนร่างของ หยุน จงเจิ้ง
ฉากนี้ ทุกคนในหยุนเหมินที่เฝ้าดูอยู่ เส้นเลือดของพวกเขาแต่ละคนต่างก็แทบจะระเบิดออกมา สายตาของพวกเขาบ่งบอกออกมาอย่างแน่ชัดว่า ..อยากที่จะรีบเร่งขึ้นไป ฆ่า ชายใบหน้าเหลี่ยม คนนี้
ชายใบหน้าเหลี่ยม ได้มองไปรอบๆ ฝูงชน และพูดอย่างเย็นชาออกไปว่า : “น่าเสียดาย.. น่าเสียดายจริงๆ ที่ผู้นำของพวกเจ้า ไม่คิดจะใส่ใจชีวิตของพวกเจ้าเลยแม้แต่น้อย เอาแต่ปฏิเสธที่จะบอกที่ซ่อนสมบัติแก่ข้า.. มาตอนนี้ข้าจะให้โอกาสพวกเจ้า และใครในหมู่พวกเจ้าที่รู้ว่าสมบัติมันซ่อนอยู่ที่ไหน และบอกที่อยู่ของมันมาให้กับข้า ข้าก็จะไว้ชีวิตของมันผู้นั้น! มีใครรู้บ้าง?”
แม้ว่า หยุน จงเจิ้ง จะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เขากลับยังหัวเราะ และร้องตะโกนเสียงดังออกมาได้ : “เจ้ายอมแพ้ซะเถอะ.. หยุนเหมินทั้งหมดมีเพียงข้าคนเดียวที่รู้ความลับนี้ พวกเขาไม่มีใครรู้ และถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้ แต่พวกเขาก็คงจะเหมือนข้า และจะไม่มีวันบอกเจ้า!”
สีหน้าของ ชายใบหน้าเหลี่ยม ดูหงุดหงิดขึ้นมาทันที เขาฆ่าคนในหยุนเหมินไปไม่น้อย และไม่คาดคิดว่าคนในหยุนเหมินจะไม่กลัวความตายจริงๆ ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป นี่มิใช่ว่า.. การกระทำในก่อนหน้านี้ของเขา, มันสูญเปล่างั้นเหรอ!