1041 - น่าเสียดายที่ข้าไม่มีตระกูล
1041 - น่าเสียดายที่ข้าไม่มีตระกูล
“กรี๊ดดด”
วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นอีกาทองขนาดเล็กกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและบินหนีออกจากศีรษะขององค์ชายสิบ เขาละทิ้งร่างกายและพยายามหลบหนีอย่างสิ้นหวัง
อย่างไรก็ตาม เขาต่อต้านได้เพียงระยะหนึ่งในช่วงแรก และในไม่ช้ามือสีทองขนาดใหญ่ก็กวาดลงมาอีกครั้งพร้อมกับคว้าเอาวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเขากลับมาอย่างง่ายดาย
ในตอนนี้ยอดฝีมือเผาอีกาทองนับร้อยคนที่กระจายตัวอยู่รอบๆหยุดความเคลื่อนไหว ใบหน้าขององค์ชายใหญ่ซีดเผือดและเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นอย่างถึงที่สุด
“ใจเย็นๆก่อน!”
“ปล่อยเสี่ยวสือ ทุกอย่างคุยกันได้!”
องค์ชายใหญ่เผ่าอีกาทองตะโกนบอกผู้อาวุโส ด้วยความรู้สึกหวาดกลัว ตอนนี้องค์ชายของเผ่าอีกาทองเหลือเพียงสี่คนเท่านั้น พวกเขาไม่ได้กลายเป็นมหาอำนาจอันดับ 1 ของโลกอีกต่อไป
หากสูญเสียองค์ชายไปอีกคนรับรองว่ารากฐานของเผ่าอีกาทองจะต้องจบสิ้นในรุ่นของพวกเขาอย่างแน่นอน
“ไม่มีความจำเป็นอะไรต้องคุยกัน!”
คำพูดของเย่ฟ่านนั้นเย็นชาอย่างถึงที่สุด เขาบีบฝ่ามือสีทองเข้าหากันและวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ขององค์ชายสิบก็กรีดร้องอยู่เพียงชั่วครู่ก่อนที่เสียงนั้นจะดับลงอย่างรวดเร็ว
ผู้คนตกตะลึงอย่างถึงที่สุด เย่ฟ่านโหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก เขาไม่คิดจะเจรจากับฝ่ายตรงข้ามแม้แต่น้อย สิ่งที่เขาทำมีเพียงแค่สังหารศัตรูของเขาให้ด่าวดิ้นโดยไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายสามารถดิ้นรนได้
ในอดีตผู้คนรู้ว่าเย่ฟ่านสังขารยอดฝีมือระดับครึ่งเซียนขั้นสูงสุดไปมากมายนับไม่ถ้วน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นเย่ฟ่านลงมือด้วยตัวเอง
“เสี่ยวสือ!”
องค์ชายใหญ่และองค์ชายรองตะโกนด้วยความสิ้นหวัง เสียงกรีดร้องของพวกเขาดังก้องไปไกลหลายพันลี้ และแม้แต่ท้องฟ้าก็ยังเกิดความปั่นป่วนจากพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ปะทุออกมาจากร่างของพวกเขา
แน่นอนว่าทั้งสองคนไม่ได้ส่งเสียงกรีดร้องเพราะความโกรธแค้นเท่านั้น พวกเขากำลังเรียกหาลู่หยาและด้วยความขุ่นเคืองไม่รู้จบ
อย่างไรก็ตามก่อนที่ลู่หยาจะมาถึง สิ่งที่พวกเขาต้องทำเป็นอย่างแรกก็คือหลบหนีออกจากที่นี่ให้ได้
“ข้าบอกแล้วอย่างไรว่าในเมื่อพวกเจ้ารนหาที่ตายก็ควรจะอยู่ที่นี่ต่อ!”
เย่ฟ่านหยิบคันเกาทัณฑ์ขนาดใหญ่ออกมาและกระตุ้นพลังศักดิ์สิทธิ์ให้ปะทุออกมาอย่างรุนแรง
เส้นผมสีดำของเขาโบกสะบัดอย่างบ้าคลั่ง ใบหน้ามีรอยยิ้มเย็นชา พลังศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพถูกฉีดเข้าสู่คันเกาทัณฑ์อย่างต่อเนื่อง!
เย่ฟ่านปล่อยสายเกาทัณฑ์อย่างโหดเหี้ยม ลูกศรของเขาเป็นเหมือนสายรุ้งศักดิ์สิทธิ์ที่ไล่ตามอีกาทอง 2 ตัวที่อยู่บนท้องฟ้าไปอย่างรวดเร็ว
“ปัง!”
เลือดเนื้อของผู้อาวุโสเผ่าอีกาทองระดับครึ่งเซียนขั้นสูงสุดศาสตร์กระจายไปทุกทิศทาง เขาเสียสละตัวเองเพื่อปกป้ององค์ชายใหญ่อีกาทองโดยหวังว่าอัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่ของเผ่าพันธุ์จะหลบหนีออกจากที่นี่ได้!
“ครึ่งเซียนขั้นสูงสุดถูกสังหารอย่างง่ายดายแบบนี้!”
“ข้าเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้น เมื่อลูกศรถูกยิงออกไปจะไม่มีใครรอดชีวิตอย่างแน่นอน แม้แต่คนที่แข็งแกร่งกว่านี้ก็ยังตายมาแล้ว นับประสาอะไรกับชายชราที่อยู่ตรงหน้า!”
ผู้ชมทุกคนตกตะลึง ความหวาดกลัวเกาะกุมจิตใจของพวกเขา
“วู้..”
สายรุ้งแห่งสวรรค์อีกเส้นหนึ่งพุ่งทะลุท้องฟ้า อย่างไรก็ตามครั้งนี้ไม่มีผู้ใดปกป้ององค์ชายรองแห่งฎีกาทองและลูกศรศักดิ์สิทธิ์ก็แทงทะลุร่างกายของเขาทันที
“อ๊าก…”
ดอกไม้โลหิตบานอีกครั้ง และองค์ชายรองแห่งเผ่าอีกาทองก็กลายเป็นเมฆหมอกโลหิตกระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้า!
ในขณะนี้ผู้คนมากมายเริ่มถอยกลับด้วยความหวาดกลัว ไม่มีผู้ใดกล้าอยู่ใกล้รัศมีของเย่ฟ่านอีกต่อไป
ในฝูงชนชายหนุ่มปีศาจงูหน้าซีดด้วยความตกใจ เขาพยายามถอยหลังเพิ่งกลับเพื่อหลบหนีอย่างเงียบๆ
เจ้าของวังไป๋จิงคือผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกใบนี้ เพียงชื่อของเขาก็สามารถสั่นสะเทือนทั้งสวรรค์ที่พบแล้ว
อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่อยู่ต่อหน้านี่คือผู้ที่สามารถตั้งตัวเป็นศัตรูกับหยินเทียนเต๋อได้ ในอดีตแม้แต่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่ชิงก็ยังถูกเขาถล่มจนราบเป็นหน้ากลองมาแล้ว
“หนูน้อยเจ้าคิดว่าจะหนีไปที่ไหนพ้น”
หลี่เทียนปรากฏตัวต่อหน้าชายหนุ่มปีศาจงูด้วยดวงตาที่ชั่วร้ายอย่างถึงที่สุด
“เจ้าคือชายผู้สำส่อนที่สุดในโลก เจ้าคิดจะทำอะไร!” ชายหนุ่มปีศาจงูกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว
“แม้แต่เจ้าก็ยังกล้าเรียกข้าด้วยชื่อนี้หรือ?” หลี่เทียนกล่าวด้วยใบหน้ามืดมน
“ข้า…”
ชายหนุ่มปีศาจงูหวาดกลัวมากจนไม่สามารถพูดเหมือนเช่นปกติได้
…
ร่างของเย่ฟ่านตัดผ่านความว่างเปล่าและไล่ตามองค์ชายใหญ่แห่งเผ่าอีกาทองไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า
องค์ชายใหญ่แห่งเผ่าอีกาทองคือยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดรองจากลู่หยาเท่านั้น และในตอนนี้เมื่อเขารู้ว่าไม่สามารถหลบหนีจากเย่ฟ่านเขาก็หันกลับมาต่อสู้ด้วยความดุร้าย!
ฝ่ามือทั้งสองข้างขององค์ชายใหญ่แห่งเผ่าอีกาทองมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ 2 ประเภท อย่างแรกคือปีกสีดำสนิทที่สามารถเฉือนท้องฟ้าทำไรปฐพีด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
อีกอย่างคือวิญญาณสุริยันที่มีลักษณะคล้ายกับดวงอาทิตย์ขนาดเล็ก และทันทีที่เย่ฟ่านตามมาถึงเขาก็กดดวงอาทิตย์ในฝ่ามือเข้าหาเย่ฟ่านอย่างรวดเร็ว
ปัง!
ภายใต้เสียงระเบิดที่ดังขึ้นอย่างไม่สิ้นสุด สวรรค์พิภพสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ชายหนุ่มผมสีทองคำรามอย่างดุเดือด แสงศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงอาทิตย์ปะทุออกมาจากร่างของเขาด้วยกลิ่นอายแห่งความชั่วร้าย
ในขณะนี้ความว่างเปล่าแยกออกจากกันจากการปะทะกันของเขาและเย่ฟ่าน เส้นผมสีทองขององค์ชายใหญ่แห่งเผ่าอีกาทองโบกสะบัดอย่างบ้าคลั่ง
“พี่ใหญ่ถอยออกไป ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง!”
ในขณะที่องค์ชายใหญ่แห่งเผ่าอีกาทองกำลังต่อสู้อย่างสิ้นหวัง ลู่หยาก็ปรากฏตัวขึ้นในความว่างเปล่า ปีกสีดำซึ่งเป็นอาวุธครึ่งก้าวเต๋าสุดขั้วในมือของเขากวาดเข้าหาเย่ฟ่านอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า
“ปัง!”
ปีกสีดำของเขาเคลื่อนตัวผ่านความว่างเปล่าและทำให้โลกทั้งใบสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ในพริบตาท้องฟ้าเบื้องบนก็พังทลายลงมาจนมีลักษณะคล้ายกับวันโลกาวินาศได้มาถึงแล้ว
ฉากที่น่าสะพรึงกลัวทำให้ผู้บ่มเพาะทุกคนหลบหนีด้วยความหวาดกลัว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้ามันพลิกความรู้ความเข้าใจของพวกเขาไปหมดแล้ว
ความแข็งแกร่งที่ยอดฝีมือทั้งสามคนบนท้องฟ้าแสดงออกมามันไม่แตกต่างอะไรจากการโจมตีของเซียนโบราณแม้แต่น้อย!
ร่างกายของเย่ฟ่านสั่นสะเทือน กลางหน้าผากของเขามีรอยแยกปรากฏขึ้น จากนั้นเตาที่มีลักษณะโบราณก็ถูกผลักออกไปต่อต้านการโจมตีของปีกสีดำที่กวาดเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“ลู่หยาในที่สุดเจ้าก็มารนหาที่ตาย”
เย่ฟ่านกล่าวอย่างไร้ความปรานี มือสีทองขนาดใหญ่ของเย่ฟ่านกดเข้าหาองค์ชายใหญ่แห่งเผ่าอีกาทองในขณะที่เตาหลอมเซียนปะทะกับปีกสีดำ
ปัง!
“อา…”
องค์ชายใหญ่แห่งเผ่าอีกาทองกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ผมสีทองของเขาโบกสะบัดร่างกายถูกบดขยี้ รอยแตกลุกลามเข้าสู่หน้าผากของเขาและดูเหมือนว่าวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ขององค์ชายใหญ่อีกาทองพร้อมที่จะถูกทำลายได้ตลอดเวลา
ในท้องฟ้าลู่หยาระเบิดความโกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุด แสงศักดิ์สิทธิ์สีทองปะทุออกมาจากร่างของเขาพร้อมกับเสียงคำรามที่ดังคือกล้อง
“ถ้าเจ้ากล้าฆ่าเขา ข้าจะทำลายตระกูลของเจ้าให้หมดสิ้น!”
“น่าเสียดายที่ข้าไม่มีตระกูล แต่ต่อให้มีข้าก็ยังต้องฆ่าพี่ชายของเจ้าอยู่ดี”
เย่ฟ่านบีบฝ่ามือเข้าหากันอย่างรุนแรงและทำให้เลือดสีทองศาสตร์กระจายไปทั่วท้องฟ้า วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ขององค์ชายใหญ่อีกาทองถูกทำลายทันที!
…………..