ตอนที่แล้วตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 437 เผชิญหน้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 439 จดหมายท้าทาย

ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 438 กำปั้นปะทะดาบ (อ่านฟรี)


ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 438 กำปั้นปะทะดาบ (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT  

หลี่ฉิงซานสะบัดมือขวา กำแพงหักๆกลายเป็นฝุ่น ฟู่ชิงยินเปลี่ยนเป็นลำแสงสีเขียวบินอยู่รอบๆหลี่ฉิงซานขณะที่เสียงของเขาดังขึ้น “เจ้าคิดว่าเจ้าแข็งแกร่งพอแล้ว แต่แท้จริงแล้วเจ้ายังไร้พลัง”

“ฟู่ชิงยิน เจ้าเป็นคนพูดมากจริงๆ ชีวิตและความตายไม่ได้ตัดสินด้วยคำพูด เหตุใดเจ้าไม่พูดด้วยดาบของเจ้า?” หลี่ฉิงซานหัวเราะเสียงดังและใช้ดาบสีชาดโจมตีจุดแสงสีเขียว จุดแสงสีเขียวแยกออกเป็นสองส่วน จากนั้นดาบสีชาดก็ฟาดพวกมันพร้อมกันอีกครั้ง จุดแสงสีเขียวถูกผ่าครึ่งอีกหน แต่ดาบสีชาดก็ผ่าพวกมันอีกครั้ง

ดาบเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วแต่รูม่านตาของหลี่ฉิงซานกลับสงบนิ่งและเรืองแสงสีฟ้าเล็กน้อย เวลาราวกับเดินช้าลง การเคลื่อนไหวของจุดแสงสีเขียวทุกจุดชัดเจนมากในสายตาของเขา

“เคร้ง!” เสียงโลหะปะทะกัน แสงสีเขียวควบแน่นเป็นดาบเมืองที่ล่มสลายและปะทะกับดาบสีชาด ฟู่ชิงยินล่าถอยออกไปด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย ในที่สุดเขาก็ไม่สามารถรักษาความสงบ “สภาวะจิตใจทับซ้อน!”

พลังที่ยิ่งใหญ่ของฟู่ชิงยินไม่ได้มาจากดาบเมืองที่ล่มสลายเพียงอย่างเดียว นอกเหนือจากนี้เขายังสามารถเข้าถึงมรดกที่ยิ่งใหญ่ของวังหลอมรวมดาบ หลังจากทั้งหมดเขาเป็นศิษย์ที่ได้รับเลือกจากคนหลายพันคนซึ่งผ่านการฝึกอบรมชั้นยอดมาแล้ว

หากสำนักศึกษาร้อยจอมยุทธ์และนิกายทั่วไปเหมือนโรงเรียนปกติ วังหลอมรวมดาบก็เป็นโรงเรียนชั้นสูงสำหรับอัจฉริยะ

“สภาวะจิตใจทับซ้อน? มันเรียกเช่นนั้นงั้นหรือ?”

หลังจากบรรลุขั้นสี่ของเคล็ดวิชาจิตวิญญาณเต่า สภาพจิตใจของหลี่ฉิงซานก็เปลี่ยนไป เขาสามารถคิดสิ่งที่ซับซ้อนมากขึ้น หากเขาใช้มันกับแก่นปีศาจเต่าจิตวิญญาณ เขาสามารถทำนายโชคชะตาได้อย่างแม่นยำ หากเขาใช้มันกับกระดองเต่าจิตวิญญาณ เขาสามารถสะท้อนการโจมตีกลับไป ก่อนหน้านี้เขาก็ใช้มันในการโจมตีฟู่ชิงยินและบังคับให้อีกฝ่ายล่าถอย เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามันเป็นพรสวรรค์หรือสิ่งใด แต่ในที่สุดเขาก็ได้เรียนรู้ว่ามันคือสิ่งใดในวันนี้จากฟู่ชิงยิน

“ข้าต้องยอมรับว่าเจ้าเป็นศัตรูที่คุกคามข้าได้จริงๆ กับศัตรูเช่นนี้ ข้าจะแสดงความเคารพเล็กน้อย แต่นั่นจะเป็นคราวเคราะห์ของเจ้า” สายตาของฟู่ชิงยินกลายเป็นแหลมคมขณะที่เขายื่นนิ้วมือข้างซ้ายออกไปเหมือนดาบ ในเวลาเดียวกันดาบเมืองที่ล่มสลายในมือขวาของเขาก็เลื่อนไปด้านหลัง

หลี่ฉิงซานระเบิดแสงสีแดงเลือดออกจากดาบในมือและย้อมภาพลวงตาสีเขียวด้วยสีแดงทั้งหมด

“ซากปรักหักพังสีเขียว หมื่นดาบผลิบาน!” ฟู่ชิงยินกล่าวเหมือนเสียงสวดมนาต์และส่งดาบออกไป แสงสีเขียวทะลวงผ่านแสงสีแดงและตรงไปที่หน้าผากของหลี่ฉิงซาน

หลี่ฉิงซานเอียงศีรษะหลบและก้าวไปข้างหน้า แต่ทันใดนั้นดาบเมืองที่ล่มสลายก็พุ่งขึ้นมาจากจุดที่เขาขยับเท้า เขาบิดเท้าและเอนตัวไปข้างหลัง ริ้วแสงพุ่งผ่านใบหน้าของเขา ก่อนที่เท้าของเขาจะเหยียบลงบนพื้น แสงสีเขียวก็พุ่งขึ้นมาจากพื้นอีกครั้ง ดาบแต่ละเล่มเคลื่อนไหวเร็วกว่าเล่มก่อนหน้า

เท้าของหลี่ฉิงซานขยับอย่างงดงาม เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงขณะที่จ้องมองฟู่ชิงยินตลอดเวลา

ริ้วแสงหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเขาจึงสะบัดดาบออกไปเพื่อเปิดเส้นทาง เขาหัวเราะเสียงดัง “คราวเคราะห์ของข้างั้นหรือ? เช่นนั้นข้าก็โชคดีจริงๆ”

ฟู่ชิงยินยิ้ม “มันพึ่งเริ่มต้น” เขาชี้นิ้วขึ้นไปข้างบน ดาบเมืองที่ล่มสลายลอยขึ้นสู่อากาศทีละเล่มและลอยค้างอยู่ที่นั่น จากนั้นพวกมันก็ชี้มาที่หลี่ฉิงซานและกลายเป็นพายุดาบ

หลี่ฉิงซานขมวดคิ้ว เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เสียงโลหะปะทะกันดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามพายุดาบราวกับไม่มีที่สิ้นสุด หลี่ฉิงซานบินไปทุกหนทุกแห่ง แต่พวกมันยังไล่ล่าเขาอย่างไม่ลดละ

ฟู่ชิงยินยืนยิ้มอย่างเฉยเมยขณะมองหลี่ฉิงซานถูกพายุดาบกลืนกิน

ทันใดนั้นเสียงคำรามของปีศาจพยัคฆ์ก็ดังขึ้นทะลุทะลวงกลุ่มเมฆหมอก พายุดาบหยุดลง หลี่ฉิงซานกางปีกบินเข้าหาฟู่ชิงยินในพริบตาและฟาดดาบลงไป

ก่อนที่ดาบจะถึงตัวฟู่ชิงยิน เขาก็กลายเป็นจุดแสงสีเขียวกระจัดกระจายออกไปก่อนจะรวมเข้ากับดาบเมืองที่ล่มสลายจำนวนมากและเรียงตัวเป็นมังกรดาบสีเขียวพุ่งเข้าหาหลี่ฉิงซาน

ด้วยการหลอมรวมเป็นหนึ่งกับดาบ หลี่ฉิงซานจะไม่สามารถทำร้ายเขา ในเวลาเดียวกันภาพลวงตาซากปรักหักพังก็ช่วยเติมเต็มพลังให้ฟู่ชิงยินอย่างไม่รู้สิ้นสุด อีกด้านหนึ่งมันก็ตัดขาดการเชื่อมต่อของหลี่ฉิงซานกับปราณจิตวิญญาณธรรมชาติ ปราณปีศาจของเขาจะลดลงทุกครั้งที่เขาใช้มัน

ฟู่ชิงยินไร้พ่ายตั้งแต่แรกซึ่งเป็นเหตุผลที่เขาพูดคุยกับหลี่ฉิงซานได้อย่างสบายๆราวกับนักล่าที่จ้องมองเหยื่อที่ติดอยู่ในกับดัก ในขณะเดียวกันหลี่ฉิงซานก็อยู่กลางอากาศ เขาไม่สามารถใช้ความแข็งแกร่งของปฐพี เขารู้สึกเหมือนติดกับดักจริงๆ

เมื่อเผชิญหน้ากับอันตรายที่ใกล้เข้ามา ดวงตาของหลี่ฉิงซานก็ยิ่งกระจ่างชัด เขาลดดาบลงราวกับเขายอมแพ้ เขาปล่อยหมัดออกไปอย่างตรงไปตรงมาโดยปราศจากเล่ห์เหลี่ยม

ฟู่ชิงยินลอบหัวเราะเย้ยหยันอยู่ภายใน นี่เป็นความพยายามครั้งสุดท้ายและบ้าคลั่ง มันเป็นการดิ้นรนที่สิ้นหวังด้วยการโยนเนื้อของตนใส่ดาบ

ทันทีที่กำปั้นปะทะดาบ สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ดาบเมืองที่ล่มสลายแตกทีละชิ้น ปลายดาบไม่แม้แต่จะได้สัมผัสกับกำปั้นของหลี่ฉิงซาน มันถูกทำลายโดยพลังที่มองไม่เห็น ช่วงเวลาที่พวกมันแตกเป็นเสี่ยง แม้แต่จุดแสงสีเขียวก็ดับลงทีละจุด

พายุดาบพังทลายลงและแตกออกเป็นละอองแสงสีเขียว เสียงดังกึกก้องไปไกลถึงห้าสิบกิโลเมตร  มันดังยิ่งกว่าเสียงคำรามของปีศาจพยัคฆ์

มุมปากของหลี่ฉิงซานโค้งขึ้น ด้วยสภาวะจิตใจทับซ้อน เขาสามารถรวบรวมแรงสั่นสะเทือนจนถึงจุดที่สามารถทำลายภูเขาทั้งลูก

หลี่ฉิงซานทำลายมังกรดาบในลมหายใจเดียวและบังคับให้ดาบเมืองที่ล่มสลายที่แท้จริงปรากฏออกมา

ดาบเมืองที่ล่มสลายส่งเสียงกรีดร้องและบินกลับเข้าไปในมือของฟู่ชิงยิน เสื้อผ้าของเขาขาดรุ่งริ่ง ใบหน้าของเขากลายเป็นซีดขาว เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เดิมทีเขาเปลี่ยนร่างกายของตนให้เป็นจุดแสงเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหาย แต่นั่นกลับทำให้หลี่ฉิงซานสามารถปลดปล่อยพลังทำลายล้างของเขาออกมาได้อย่างเต็มที่

ดาบเมืองที่ล่มสลายได้รับความเสียหายเช่นกัน สิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อจิตใจของฟู่ชิงยินโดยตรงซึ่งทำให้เขารู้สึกประหลาดใจและโกรธมาก เขามองหลี่ฉิงซาน “มันคือพลังชนิดใด?”

“ไปถามราชานรกเถอะ!” หลี่ฉิงซานขยายร่างและกลับสู่ร่างปีศาจดั่งเดิมของเขา หัวของเขาแข็งเหมือนโลหะ หางเสือของเขาจับดาบสีชาดและกลายเป็นริ้วแสงสีแดงพร่ามัว กรงเล็บพยัคฆ์สะบัดออกไปพร้อมกับแรงสั่นสะเทือนที่สามารถทำลายล้างทุกสิ่ง

“ปีศาจชั้นต่ำ!” ฟู่ชิงยินกรีดร้องขณะที่ภาพลวงตาซากปรักหักพังกลายเป็นพายุปราณดาบพุ่งเข้าหาหลี่ฉิงซาน