ตอนที่ 443 สิ่งมีชีวิตเทียม
ตอนที่ 443 สิ่งมีชีวิตเทียม
แม้ว่าอาคารอันแปลกประหลาดของเลยูตี้จะถูกสร้างขึ้นท่ามกลางพายุหิมะ แต่มันก็ไม่ได้รับผลกระทบจากสภาวะแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกตัวอาคารเลย
ปัจจุบันเลยูตี้กำลังนำศิษย์ของเขาไปยังสวนด้านหลัง ก่อนที่ถนนจะนำไปยังเส้นทางใต้ดิน
หลังจากหักเลี้ยวตามทางเดินไม่กี่ครั้งพวกเขาก็เดินทางเข้าไปในห้องโถงที่มีเตียงอยู่ตรงกลางและมีกระจกติดอยู่รอบ ๆ คล้ายกับห้องผ่าตัด โดยบนเตียงกลางห้องนั้นถูกวางไว้ด้วยสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายมนุษย์ แต่ใบหน้าถูกปกปิดโดยเปลือกขาวทำให้ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของคนคนนี้ได้
ทั่วทั้งร่างของเขาคนนี้ถูกเชื่อมต่อด้วยสายยางระโยงระยางอย่างมากมาย และมันก็มีเครื่องมือแปลก ๆ ทำงานอยู่รอบ ๆ เตียงตลอดเวลา
“อาจารย์เขาจะรอดชีวิตกลับมาได้จริง ๆ เหรอ? เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสหนักมากเลยนะ” หมิงจู้กล่าว
“เขาจะรอดหรือไม่รอดมันก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาของเขาเอง ยานของเขาถูกโจมตีในระหว่างเคลื่อนที่เข้าไปในรูหนอน ซึ่งผลกระทบจากการที่รูหนอนพังทลายก็ทำให้อวัยวะส่วนใหญ่ของเขาสูญเสียไป แต่โชคยังดีที่เขายังเหลือแขนขาเอาไว้ใช้งาน” เลยูตี้กล่าว
“เขาคนนี้โชคดีจริง ๆ ที่ได้อาจารย์ช่วยเอาไว้ ว่าแต่เขาคู่ควรกับความช่วยเหลือของอาจารย์จริง ๆ เหรอ?” หมิงจู้กล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ฮ่า ๆ ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะแรงแค้นอันทรงพลังที่จิตของเขาผลักดันออกมาตลอดเวลา ฉันก็คงจะไม่เก็บเขามาที่นี่หรอก”
“ถึงแม้ว่าสมองของเขาจะตายไปแล้วแต่เซลล์เนื้อเยื่อยังคงทำงานอยู่และมันเต็มไปด้วยความเคียดแค้นที่รุนแรง ส่วนลำตัวของเขาก็เหมาะสำหรับการใช้สร้างสิ่งมีชีวิตเทียม ซึ่งถ้าหากว่าฉันสามารถสร้างเขาขึ้นมาได้สำเร็จแม้แต่นายก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา” เลยูตี้กล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาเสียงดัง
“อาจารย์กำลังบอกว่าผมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขางั้นเหรอ?” หมิงจู้อุทานออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“สิ่งมีชีวิตเทียมที่ฉันจะสร้างขึ้นมาคือสิ่งมีชีวิตที่มีชิ้นส่วนอวัยวะของทั้งสองเผ่าพันธุ์ ยิ่งไปกว่านั้นจิตใจของเขายังถูกขับเคลื่อนด้วยแรงอาฆาตอย่างรุนแรง มันจึงทำให้เขาคนนี้ไม่ใช่สิ่งที่นักสู้ธรรมดาจะสามารถต้านทานได้”
“อีก 3 วันกระบวนการทุกอย่างก็น่าจะเสร็จสิ้นลงแล้ว ถึงเวลานั้นเราค่อยมารอดูกันดีกว่าว่าเขาจะสามารถเอาชีวิตรอดกลับมาจากปากเหวได้หรือเปล่า?”
“ถ้าเขาตื่นขึ้นมาแล้วเห็นรูปลักษณ์ของตัวเองในปัจจุบันเขาจะเสียสติไปเลยหรือเปล่า? เพราะตอนนี้รูปร่างของเขาเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง” หมิงจู้กล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
“สมองเป็นอวัยวะที่มีโครงสร้างซับซ้อนมาก ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่สิ่งมีชีวิตเสียชีวิตลงเซลล์สมองจะเริ่มเสื่อมสภาพลงในทันที และเซลล์สมองทุกเซลล์จะถูกทำลายอย่างสมบูรณ์หลังจากที่เวลาได้ผ่านพ้นไป 72 ชั่วโมง”
“นายจำเทคโนโลยีแช่แข็งที่เคยใช้ในการเดินทางระหว่างดวงดาวสมัยก่อนได้ไหม?” เลยูตี้ถาม
“ผมพอจะเคยอ่านเรื่องนี้มาบ้างว่าถ้าเราเก็บสิ่งมีชีวิตเข้าไปไว้ในห้องที่มีอุณหภูมิศูนย์สมบูรณ์ เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายจะถูกหยุดการทำงานเอาไว้ และจะเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้งหลังจากห้องเก็บอุณหภูมิเริ่มปรับสภาพอุณหภูมิเมื่อพวกเขาเดินทางไปจนถึงเป้าหมาย”
“เทคโนโลยีนั้นเป็นเทคโนโลยีที่แช่แข็งง่ายแต่ละลายได้ยากมาก เพราะเซลล์จะได้รับความเสียหายถ้าหากอุณหภูมิเพิ่มขึ้นหรือลดลงด้วยอัตราที่รวดเร็วมากเกินไป ดังนั้นหลังจากที่มันได้มีเทคโนโลยีการวาร์ป เทคโนโลยีนี้จึงถูกพับเก็บไปและไม่มีใครนำมันกลับมาใช้อีกเลย” หมิงจู้กล่าวตอบ
เลยูตี้พยักหน้าอย่างพึงพอใจและถึงแม้รูปลักษณ์ภายนอกของหมิงจู้จะดูป่าเถื่อน แต่สมองของเขาก็มีสติปัญญาอยู่มากพอสมควร ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะไม่สามารถกลายมาเป็นลูกศิษย์ของเลยูตี้ได้
“ถูกต้อง สมองเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์มาก เพราะถ้าหากว่าร่างกายได้รับความเสียหายจากกระบวนการละลาย มันก็อาจจะมีวิธีการฟื้นฟูอวัยวะส่วนนั้น ๆ กลับมาได้ แต่ถ้าหากว่าสมองได้รับความเสียหาย แม้แต่เทพเจ้าก็ไม่สามารถที่จะรักษาสมองกลับมาได้ด้วยเหมือนกัน”
“ในตอนที่ฉันได้พบกับเขาสมองของเขาก็ล่องลอยอยู่ในจักรวาลมานานกว่า 48 ชั่วโมงแล้ว มันจึงทำให้เซลล์สมองส่วนใหญ่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ดังนั้นหลังจากที่เขาฟื้นขึ้นมาเขาก็อาจจะจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ด้วยซ้ำ”
“ดูเหมือนผมคงจะต้องไปหาหมวกกันน็อกมาใส่บ้างแล้ว เพราะถ้าหากว่าสมองของผมได้รับความเสียหายมันก็คงจะแย่มาก” หมิงจู้กล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
อาจารย์และลูกศิษย์ส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาอย่างชั่วร้าย และเมื่อพวกเขาได้เห็นว่าในห้องพยาบาลไม่มีเหตุการณ์อะไรผิดปกติ พวกเขาก็เดินกลับออกมาเคียงข้างกัน
“อาจารย์มันยังไม่มีข่าวจากศิษย์น้องอีกงั้นเหรอ?”
“คนที่เดินทางไปพร้อมกับเธอทั้งหมดต่างก็สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย ฉันคิดว่าเรื่องนี้อาจจะซับซ้อนกว่าที่เราคิด” เลยูตี้กล่าวพร้อมกับส่ายศีรษะ
“อาจารย์ผมว่ามนุษย์คนนั้นไม่น่าจะเป็นผู้ใช้กฎ เพราะผมได้ยินมาว่าเขาได้ใช้ระเบิดชั้นยอดทำลายกองยานคุ้มกันของอูดี้ทิ้ง และขับยานอวกาศขโมยวัตถุลึกลับที่อูดี้ได้พบจากพันธมิตร เมื่อดูจากการเคลื่อนไหวของเขาแล้วมันก็ไม่มีทางที่เขาจะเป็นผู้ใช้กฎอย่างแน่นอน” หมิงจู้กล่าว
“อย่าประมาทศัตรูเด็ดขาด พวกนักสู้ระดับสูงมักจะมีนิสัยแปลก ๆ บางทีผู้ใช้กฎคนนั้นอาจจะชอบขับยานรบ, ชอบโยนระเบิดออกไปเล่น ๆ หรืออาจจะชอบทำอะไรพิเรนให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากก็ได้” เลยูตี้กล่าวพร้อมกับโบกมือไปมา
“ในจักรวาลนี้มีผู้ใช้กฎที่พิเรนแบบนั้นจริง ๆ เหรอ? แล้วทำไมเขาถึงใช้อาวุธร้อนแทนที่จะใช้พลังกฎเพื่อจัดการกับศัตรู?” หมิงจู้อุทานขึ้นมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“บางทีมันอาจจะเป็นการเล่นสนุกของคนเบื่อ ๆ ที่ไม่มีอะไรทำก็ได้” เลยูตี้กล่าว
“อาจารย์กำลังจะบอกว่าถ้าเขาเอาจริงเขาก็อาจจะกวาดล้างเผ่าพันธุ์ของเราได้เลยงั้นเหรอ?” หมิงจู้อุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
“เรื่องนี้มันพูดยาก พลังของผู้ใช้กฎแต่ละคนเป็นพลังที่เราคาดเดาไม่ได้ ฉันกำลังคิดอยู่ว่าในระหว่างที่เขาสังเกตเห็นรอยประทับที่ฉันได้ทิ้งเอาไว้บนตัวหมิงจี้ เขาก็น่าจะเปิดประตูมิติและขังเธอเอาไว้ มันจึงทำให้เธอไม่สามารถติดต่ออะไรกลับมาหาฉันได้”
“อาจารย์ถ้าการคาดเดาของคุณถูกต้อง เรื่องนี้ก็อาจจะเป็นวิกฤติของเผ่าพันธุ์เราเลยก็ได้ แล้วอาจารย์จะทนอยู่เฉย ๆ แบบนี้จริง ๆ เหรอ?” หมิงจู้กล่าวขึ้นมาอย่างกระวนกระวาย
“ย้อนกลับไปในอดีตฉันมีศิษย์ร่วมอาจารย์อยู่เป็นจำนวนนับสิบล้านคน แต่นายรู้ไหมว่าทำไมปัจจุบันฉันถึงเป็นคนคนเดียวที่ยังรอดชีวิต?” เลยูตี้กล่าวถาม
“ทำไมครับ?”
“เพราะว่าฉันระวังกว่าคนอื่น, ฉลาดกว่าคนอื่นและไม่คิดที่จะเสี่ยงชีวิตกับศัตรูที่เราไม่รู้จัก”
—
เซี่ยเฟยไม่รู้ว่าเลยูตี้กำลังพยายามสร้างสิ่งมีชีวิตเทียมขึ้นมาภายในบ้านของเขา และชายหนุ่มก็ไม่รู้เลยว่านักพรตคนนี้กำลังเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นผู้ใช้กฎ
“สวัสดีเซี่ยเฟยการเดินทางครั้งนี้จำเป็นจะต้องใช้เวลาเล็กน้อย และฉันก็รู้สึกว่าฉันไม่ให้เกียรติคุณถ้าหากว่าคุณจะต้องซ่อนตัวอยู่ในกล่อง ดังนั้นฉันจึงขอเชิญให้คุณมาอยู่ในห้องแล้วหวังว่าคุณคงจะไม่ตำหนิฉันในเรื่องนี้” บิทินี่กล่าวด้วยรอยยิ้มหลังจากเปิดกล่องให้เซี่ยเฟย
ชายหนุ่มทำได้เพียงแต่พยักหน้ารับและลุกออกมาจากกล่อง เพื่อดูว่าราชินีคนนี้กำลังพยายามจะทำอะไร
ภายในห้องยังคงตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมพิเศษ ซึ่งไม่ว่าบิทินี่จะเดินทางไปที่ใดมันก็มักที่จะมีกลิ่นแบบนี้ติดตามไปด้วยทุกครั้ง และถึงแม้ว่ามันจะเป็นกลิ่นหอมสำหรับคนอื่น แต่เซี่ยเฟยกลับรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนและรู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาทุกครั้ง เพราะเขารู้สึกว่ากลิ่นมันค่อนข้างที่จะฉุนสำหรับเขามากเกินไป
ห้องนอนแห่งนี้เป็นห้องนอนที่หรูหราราวกับว่าเขาได้เข้ามาอยู่ในพระราชวัง ขณะเดียวกันบิทินี่ก็เดินกลับขึ้นไปบนเตียงพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนด้วยท่าทางอันยั่วยวน
“อุปกรณ์ตกแต่งภายในห้องต่างก็ล้วนแล้วแต่คัดสรรมาจากพันธมิตรมนุษย์เป็นพิเศษ หวังว่าคุณจะรู้สึกคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมแบบนี้บ้างไม่มากก็น้อย” บิทินี่กล่าวอย่างภาคภูมิใจ
เซี่ยเฟยมองสำรวจเฟอร์นิเจอร์โดยรอบอย่างระมัดระวัง และพบว่าเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ถูกผลิตขึ้นมาจากพันธมิตรจริง ๆ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้มีภูมิหลังเป็นชนชั้นสูง สภาพแวดล้อมแบบนี้จึงไม่สามารถสร้างความคุ้นเคยให้กับเขาได้
“คุณแน่ใจใช่ไหมว่าที่นี่ปลอดภัย?” เซี่ยเฟยถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ปลอดภัยแน่นอน ทหารพวกนั้นไม่กล้าที่จะเข้าใกล้ห้องในระยะ 500 เมตรนอกจากจะได้รับคำสั่ง ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็จะถูกลงโทษสถานหนัก” บิทินี่กล่าว
“คุณแน่ใจนะว่าห้องนี้เงียบพอที่จะไม่มีเสียงเล็ดลอดออกไปด้านนอก?” เซี่ยเฟยกล่าวถามพร้อมกับเดินไปเคาะฝาผนัง หลังจากนั้นเขาก็เดินลงไปนั่งที่เตียงพร้อมกับใช้มือลูบผมของตัวเองและกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความขอโทษ
“ถ้าอย่างนั้นคุณช่วยออกไปอยู่ข้างนอกได้ไหม? ผมจะใช้ห้องนี้เป็นห้องฝึก”
***************
55555555555555555 เชิญเจ้าของห้องออกห้องไปเลยจ้า