ตอนที่ 11 สุ่มลอตเตอรี่
ทะลุมิติมาสร้างสวนสัตว์ในฝัน ตอนที่ 11 สุ่มลอตเตอรี่
ฟางเย่เล่นกับเจียวเจียวซักพัก ก่อนจะหยุดการไลฟ์สดของวันนี้เมื่อเห็นว่าว่าใกล้หมดเวลาแล้ว “ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาดูครับ! เจียวเจียวมาลาคนดูหน่อยเร็ว!”
เขาโบกมือของตัวเอง อีกมือหนึ่งก็จับเท้าหน้าของเจียวเจียวเพื่อให้โบกมือเหมือนเขา แต่....เหมือนเท้าหน้าของเธอหนักไปจนเขายกไม่ขึ้น จึงทําได้เพียงลูบหัวของเจียวเจียว
เสือกับแมวต่างกันจริงๆ!
“ฮ่าฮ่า มีใครเห็นผู้อํานวยการยกเท้าเจียวเจียวไม่ขึ้นบ้าง!”
“เดี๋ยวสิ ผู้อํานวยการพึ่งไลฟ์ไปแป๊บเดียวเอง! อย่าพึ่งไป!”
“อย่าไปน้า~~”
“ใช่ ใช่ ฉันยังดูไม่หนำใจเลย! อยากดูอีกซักชั่วโมง”
พวกคนดูพยายามรั้งไม่ให้ฟางเย่รีบปิดไลฟ์สด แต่ฟางเย่ยังมีธุระต่อให้ทํา “ขอโทษด้วยครับ ผมต้องไปให้อาหารสัตว์ต่อ”
เขาไม่ได้หาข้ออ้าง แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลหลักที่เขาหยุดการไลฟ์สด เพราะตอนนี้สวนสัตว์หลินไห่ยังไม่ค่อยมีอะไร ยังว่างเปล่าอยู่มาก ไม่ว่าจะกรงเปล่า บรรยากาศของสวนสัตว์ที่ย่ําแย่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสัตว์ที่อยู่ในกรงเหล็ก เพราะพวกมันทําได้แค่นอนเฉยๆ เท่านั้น
แค่เพราะเขากับเจียวเจียวกําลังเล่นกันอย่างสนิทสนมทําให้ผู้ชมรู้สึกตื่นตา แต่ถ้าพวกเขาดูไปเรื่อยๆ พวกเขาจะต้องเบื่อ เพราะนอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรที่สามารถสร้างความบันเทิงได้แล้ว
เพราะฉะนั้น ถึงฟางเย่จะอยากเพิ่มค่าชื่อเสียง แต่เขาก็ยังต้องหยุดการไลฟ์สดของวันนี้ เพื่อเป็นการให้ทุกคนรู้สึกอยากกลับมาดูอีกในครั้งต่อไป
เมื่อเห็นว่าฟางเย่ยังต้องไปให้อาหารสัตว์ในสวนสัตว์ต่อ คนดูก็ต้องจำใจยอมรับ
“ผู้อํานวยการ คุณยังมีงานต้องทํานี่เอง ถ้าอย่างนั้น คุณก็อย่าให้พวกสัตว์รอเลย!”
“คุณยังให้อาหารเจียวเจียวไม่พอ! ไลฟ์ครั้งหน้าฉันอยากเห็นเจียวเจียวน้ำหนักขึ้น 10 กิโล!!”
“เห้ เมนต์บน! เธออยากดูเสืออ้วนรึไง!”
ฟางเยี่ยิ้มให้กล้อง “ขอบคุณที่ทุกคนมาดูวันนี้! เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะไฟล์สดอีก! ลาก่อนครับ!”
ห้องไลฟ์สดถูกปิดไป หลานลี่จึงรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น แล้วพูดอย่างมีความสุขว่า
“ผู้อํานวยการ! เราได้ผู้ติดตามเพิ่มขึ้นหลายพันเลยคะ! ทุกคนดูจะชอบสัตว์มาก!”
ฟางเย่ถอนหายใจออกมา “ใช่! เอาละ เราไปให้อาหารสัตว์กันดีกว่า”
หลังจากงานที่แสนวุ่นวาย เขาก็ไปทานอาหารกลางวัน ก่อนกะว่าจะกลับไปงีบหลับซักตื่นที่ห้องพักตัวเอง
[ค่าชื่อเสียง: 6784]
“เพิ่มขึ้นเยอะมาก!” ถ้าฟางเย่จําไม่ผิดเมื่อวานยังมีแค่ 2 หลักอยู่เลย นั่นทําให้เขารู้สึกตกใจมาก เพราะการไลฟ์สดในตอนเช้าเป็นสิ่งที่ค่อนข้างฉุกละหุก แต่กลับได้รับผลตอบแทนที่คาดไม่ถึง!
ได้เวลาสุ่มลอตเตอรี่!
ฟางเย่ถูมืออย่างคาดหวัง แล้วกดปุ่มสุ่มอย่างรวดเร็ว
การสุ่มครั้งแรก ไม่มีอะไร ไม่เป็นไร ลองใหม่อีกครั้งเถอะ!!
ฟางเย่ตาค้างมองไปยังความว่างเปล่า แล้วสบถออกมา แต่ก็ไม่ยอมแพ้และกดสุ่มอีกครั้ง
ครั้งนี้เขาได้ตุ๊กตาเสือโคร่งไซบีเรียน มีขนาดเท่ากับฝ่ามือราวกับเอาเจียวเจียวมาย่อขนาดในท่างีบหลับ ทําให้มันดูน่ารักมาก
[ตุ๊กตาเสือ(เล็ก)]
[คําอธิบาย: ตุ๊กตาทั่วไป จับแล้วนุ่มนิ่มและผ่อนคลาย]
ฟางเย่ถือตุ๊กตา พบว่าขนของมันนุ่มนิ่มและทําให้รู้สึกผ่อนคลาย
“เจ้าตุ๊กตานี่ดูน่ารักดีแฮะ เดี๋ยวเอาไว้ถ้ามีกิจกรรมอะไรก็สามารถใช้เป็นของร่างวัลได้ หรือไม่ก็เป็นของขวัญให้ผู้ชมดีไหม?” เขาพยายามหาวิธีใช้งานเจ้าตุ๊กตาตัวนี้ ซึ่งนับว่าครั้งนี้ก็ได้ของดี
สุ่มต่อเนื่อง!
ตุ๊กตาอัลปากา
ตุ๊กตาจิ้งจอก
ทั้งหมดเป็นสัตว์ที่อยู่ในสวนสัตว์หลินไห่
[ขอแสดงความยินดี! โฮสต์ได้รับทักษะ “แรงดึงดูด”]
[แรงดึงดูด: ใช้พลังจิตเพื่อเปิดใช้งาน ในขณะที่ทักษะเปิดใช้งานจะทําให้สัตว์รู้สึกอยากเข้าใกล้คุณมากขึ้น]
“ได้ทักษะใหม่แล้ว!”
ฟางเย่อ่านคําอธิบายของทักษะ ทักษะนี้เป็นสิ่งที่เขาต้องการอยู่พอดี!
ถ้าเขามีทักษะนี้ตั้งแต่แรก การเข้าหาเจียวเจียวในครั้งแรกคงไม่ต้องระวังมากขนาดนั้น ส่วนสัตว์ในสวนสัตว์ที่ยังไม่คุ้นชินกับเขาก็สามารถคุ้นเคยกันได้มากขึ้นผ่านทักษะนี้ แถมถ้ามีสัตว์ตัวใหม่เข้ามา เขาก็สามารถสร้างความสนิทกับพวกมันได้ดีขึ้น
ที่น่ากังวลก็คือทักษะนี้นั้นใช้พลังจิตเหมือนทักษะดวงตาสังเกตการณ์
เขาจะต้องไปทดสอบว่าทักษะนี้ใช้งานได้ดีแค่ไหน และสามารถใช้งานได้กี่ครั้ง
การสุ่มลอตเตอรี่ในครั้งแรกถือว่าประสบความสําเร็จ ซึ่งเขาก็กดสุ่มครั้งสุดท้ายอย่างสบายใจ
[ขอแสดงความยินดี! โฮสต์ได้รับ [ชุดทนทานของผู้อํานวยการ (เสื้อ)]]
[ชุดทนทานของผู้อํานวยการ(เสื้อ) : ชุดที่แม้แต่เสือก็ฉีกได้ยาก และทนทานมากกว่าเสื้อทั่วไป
[เซต (1/2): ความอดทน + 10%]
“โอ้ รอบนี้ไม่ได้ตุ๊กตางั้นเหรอ” ฟางเย่ตกใจเล็กน้อย แล้วเอาเสื้อของผู้อํานวยการออกมา
มันเป็นเสื้อตัวสีเขียวเข้มราวกับเสื้อลายพรางแขนยาวของทหาร พอจับดูแล้ว ก็รู้สึกว่าเสื้อตัวนี้น่าจะทนทานอย่างมากและด้านในของเสื้อก็นุ่มกว่าเสื้อปกติ
เสื้อตัวนี้ตรงไซต์ของเขาอย่างพอดิบพอดี แถมตอนใส่ยังรู้สึกสบายตัวอย่างมาก ด้วยเสื้อตัวนี้ ฟางเย่จึงสามารถโล่งใจได้มากขึ้นว่าตอนเข้าไปใกล้ชิดกับพวกสัตว์ที่มีกรงเล็บแหลมคมก็จะได้ไม่ต้องหาเสื้อใหม่ ผลของมันจะไม่ได้ดีมากมาย แต่ก็เพียงพอแล้ว
เมื่อเวลาพักกลางวันหมดลง ฟางเยก็ไปยังโซนจิ้งจอกเพื่อทดสอบทักษะใหม่ที่พึ่งได้รับ
จิ้งจอกเป็นสัตว์นักล่าที่มีความสามารถในการปรับตัวสูง พวกมันกระจายตัวอยู่ทั่วทุกที่บนโลก ซึ่งถ้านับรวมแล้วครอบคลุมเกือบครึ่งซีกโลก
ในสวนสัตว์หลินไห่ มีจิ้งจอกอยู่ 4 ตัว ได้แก่ เสี่ยวเฉียว โหยวโหยว ถังเป่า และไท่ซือ
ในเวลานี้ มีนักท่องเที่ยวบางคนกําลังยืนอยู่ที่หน้ากรงของจิ้งจอก
“สวัสดีครับ ผู้อํานวยการ!” ผู้ดูแล ‘เซี่ยวเหอ’ ที่กำลังเอนหลังพิงกับกรงพลางเล่นโทรศัพท์อยู่ รีบเด้งตัวและเก็บโทรศัพท์ทันที
“สวัสดี เหนื่อยรึเปล่า? พักก่อนดีไหม?” ฟางเย่ไม่ได้ว่าอะไรที่อีกฝ่ายมัวแต่เล่นโทรศัพท์ แม้งานหลักของผู้ดูแลสัตว์จะรวมถึงการสังเกตและจดบันทึกลักษณะของสัตว์ในแต่ละวันด้วยก็ตาม แต่เพราะงานของพวกเขาตอนนี้ถือว่าน่าเบื่อเกินไปจริงๆ
กรงที่แสนมืดหม่น มองไปทางไหนก็เห็นแค่จิ้งจอกนอนหลับอยู่บนพื้นคอนกรีตอย่างไร้ชีวิตชีวา ต่อให้เป็นคนที่เบื่อยากแค่ไหนก็อดไม่ได้ที่จะหาอะไรทําแก้เซ็งจริงๆ
“ไม่เป็นไรครับผู้อํานวยการ
“โอเค ขอผมดูจิ้งจอกหน่อยว่าวันนี้พวกมันเป็นยังไงบ้าง”
“พวกมันปกติดีครับ แต่วันนี้พวกมันจะดูเฉื่อยชามากกว่านิดหน่อย”
“พวกมันน่าจะร้อน คุณได้ฉีดน้ําให้รึยัง?”
“ฉีดแล้วครับ เมื่อตอนเช้าหนึ่งครั้ง และเมื่อกี้อีกหนึ่งครั้งครับ”
ฟางเย่พยักหน้า แล้วหันไปมองพวกจิ้งจอกที่กําลังนอนอยู่ในมุมที่แสงอาทิตย์ส่องไม่ถึง
ไท่ซือกําลังนอนอย่างไม่สนใจใคร นอนสี่ขาชี้ฟ้าและโชว์หน้าท้องขาวอ้วนๆ ราวกับหมูที่กําลังงีบหลับยังไงยังนั้น เสี่ยวเฉียวกำลังนอนเอาหัวหนุนหางตัวเองอย่างสง่างาม
โหยวโหยวนั้นม้วนตัวเป็นวง แล้วหลบอยู่ด้านหลังเสี่ยวเฉียว โดยเอาหัวมุดติดกับมุมของกรง หูของเธอกระดิกไปมาเป็นครั้งคราว ตัวสุดท้ายคือถังเป่าที่นอนเกยเอวบนตัวไท่ซื้อ ส่วนหัวก็หมอบลงบนพื้น
แต่ถึงพวกมันจะนอนในท่านอนแปลกๆ พวกมันก็นอนอย่างสบายใจ แต่ละตัวมีดวงตาที่โค้งมนราวกับจันทร์เสี้ยว