1039 - หยวนซู
1039 - หยวนซู
“หญิงงามอันดับหนึ่งของโลกกลายเป็นนางบำเรอของเจ้าแล้ว ไอ้สารเลว!” หลี่เทียนขุ่นเคือง
เย่ฟ่านก็ดูอารมณ์เสียเช่นกัน คำพูดของไอ้สารเลวที่อยู่ตรงหน้านี้ทำให้เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ตอนนี้อี้ชิงอู่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเทพธิดา นางดูเหมือนนางฟ้าที่ถูกห่อหุ้มด้วยวงแหวนศักดิ์สิทธิ์ นางบริสุทธิ์และใสสะอาดเป็นจุดศูนย์รวมแห่งความงามทั้งหมดทั้งมวลของโลกใบนี้
ด้วยใบหน้าที่ดูชั่วร้ายของหลี่เทียนเขากล่าวว่า “เจ้าทำได้ เทพธิดาที่ทุกคนบูชานั้นสุดท้ายกลับกลายเป็นสมบัติประจำตัวของเจ้า”
“ไม่ นี่คือหญิงงามผู้มากด้วยพรสวรรค์ การได้รับความช่วยเหลือจากนางจะทำให้เราได้รับผลประโยชน์มากมาย นางจะมาแทนที่หยินเทียนเต๋อในอนาคต ข้าจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่”
พี่น้องทั้งสองคุยกันเป็นเวลานาน และพวกเขามีแผนการจะออกจากทุ่งดวงดาวนี้ไปพร้อมกับเย่ฟ่าน
เอี๋ยนอี้ซีกล่าวว่า “ตอนนี้ เจ้าได้ปลุกเร้าความสนใจของโลก และข้าไม่รู้ว่ามีสายตากี่คู่ที่จ้องมองมาที่เจ้า เจ้าต้องระมัดระวังในการกระทำของตัวเอง อย่างน้อยเมื่อเร็วๆ นี้ลู่หยาก็ได้พกพาอาวุธศักดิ์สิทธิ์ไล่ล่าเจ้าแล้ว”
เย่ฟ่านส่งมอบตงตงให้กับชายหนุ่มทั้งสองคนชั่วคราว เด็กน้อยร้องไห้คร่ำครวญและบอกว่าไม่ต้องการอยู่กับท่านลุงที่เต็มไปด้วยราคะคนนี้
“อย่ากังวลไปเลย ท่านลุงผู้นี้จะทำให้เจ้าเป็นชายผู้มากราคะอันดับหนึ่งของโลก เมื่อเจ้าโตขึ้นจะขอบคุณข้าไปตลอดชีวิต เจ้ารู้หรือไม่นี่คือโชควาสนามากแค่ไหน ต่อให้ผู้คนคิดร่ำเรียนก็ทำไม่ได้”
น่าเสียดายที่ตงตงส่งเสียงเอะอะโวยวาย เขาไม่ต้องการเป็นคนชั่วร้ายแบบท่านลุงที่อยู่ตรงหน้า
หลี่เทียนดูไม่มีความสุข คิ้วของเขาตั้งขึ้นและกล่าวว่า “ให้ตายสิ เจ้าหนู เจ้าไม่ต้องการจริงๆ!”
ตงตงยิ้มและร้องไห้และกล่าวว่า “ท่านข้าขอโทษ ข้าไม่อยากเป็นคนชั่วร้ายแบบท่าน ท่านปล่อยให้ผู้อื่นเหยียบย่ำตัวเองแต่ข้าไม่ต้องการแบบนั้น”
…
ในเสินโจวตะวันออกมีภูเขาสูงตระหง่าน ภูเขาและแม่น้ำที่งดงามทอดยาวไกลสุดลูกหูลูกตา ในภูเขาตู้หลิงนี้ไม่รู้ว่ามีตำนานที่ยิ่งใหญ่เกี่ยวกับจักรพรรดิโบราณกี่คนที่อยู่ที่นี่
ในวันนี้ชายและหญิงคู่หนึ่งปรากฏตัวขึ้นบนภูเขา ชายผู้นั้นสวมชุดสีฟ้าสะอาดสะอ้าน และสีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความสง่างาม
หญิงสาวคนนั้นถูกห่อหุ้มด้วยวงแหวนศักดิ์สิทธิ์ สร้างความประหลาดใจให้กับโลก ผมสีดำของนางงดงามราวกับน้ำตกสายยาว ใบหน้ารูปแตงนั้นงดงามสดใสราวกับจะคั้นน้ำออกมาได้
“ไม่คิดว่าเจ้าจะหลบหนีออกมาจากสถานที่ที่จักรพรรดิโบราณใช้กักขังเหล่าคนบาปพวกนั้น” น้ำเสียงของอี้ชิงอู่หน้าดึงดูดใจอย่างยิ่ง
“เจ้าควรดีใจที่ข้ารอดชีวิตกลับมา มิฉะนั้น จิตวิญญาณของเจ้าจะเหี่ยวเฉาอย่างช้าๆ”
เย่ฟ่านก้าวไปข้างหน้าลูบไล้เส้นผมที่เหมือนเส้นไหมของนาง แล้วสูดดมกลิ่นหอมก็โชยออกมา
อี้ชิงอู่สงบมาก ชุดสีขาวราวกับหิมะของนางพลิ้วไหว ร่างที่เพรียวบางและงดงามของนางไม่มีตำหนิใดๆ คล้ายกับนางไม่เห็นการกระทำที่ล่วงละเมิดของเย่ฟ่านแม้แต่น้อย
“เจ้าต้องการให้ข้าร่วมมือกับเจ้าจัดการลู่หยาและหยินเทียนเต๋อหรือไม่”
“ข้าชอบผู้หญิงฉลาด เทพธิดาอี้ชิงอู่เจ้าไม่รู้ตัวหรือว่านอกจากนี้เจ้าจะกลายเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของโลกแล้ว เส้นทางแห่งจักรพรรดิของโลกใบนี้จะกลายเป็นของเจ้า”
นิ้วของเย่ฟ่านลูบไล้ร่างกายที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของนางยามอ่อนโยน
อี้ชิงอู่สงบและเยือกเย็นมาก อย่างไรก็ตามเมื่อได้ยินคำพูดนี้สีหน้าของนางก็ปรากฏร่องรอยของความเยาะเย้ยขึ้นเล็กน้อย
“เจ้าพูดไร้สาระอะไร”
“ทุกสิ่งที่ข้ากล่าวเป็นความจริง และเจ้าจะเป็นคนเดียวที่สามารถพิสูจน์เต๋าในดาวดวงนี้โดยไม่จำเป็นต้องรอคอยให้หยินเทียนเต๋อล้มเหลว”
นิ้วของเย่ฟ่านยังคงลูบไล้ไปทั่วร่างกายของนาง จนสุดท้ายอี้ชิงอู่รู้สึกทนไม่ได้และถอยหลังกลับไปเล็กน้อย
เย่ฟ่านยิ้มและกล่าวว่า “ตอนแรกข้าต้องการพาเจ้าไปด้วย แต่ดูเหมือนว่าหัวใจของเจ้าจะผูกพันอยู่กับโลกใบนี้ ดังนั้นเจ้าในฐานะภรรยาของข้าก็ควรเป็นคนเพียงคนเดียวที่สามารถพิสูจน์เต๋าได้”
“ข้าไม่เข้าใจ เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะแย่งชิงโอกาสของเจ้าหรือ”
อี้ชิงอู่ยิ้มอย่างเย็นชาและไม่เชื่อมั่นว่าเย่ฟ่านจะมอบโอกาสในการเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ให้นานจริงๆ
“กลัวอะไร สำหรับข้าความสำเร็จของเจ้าก็คือความสำเร็จของข้าเช่นกัน”
“พูดสิ แผนการของเจ้าคืออะไร”
อี้ชิงอู่ยังคงดูสงบสีหน้าของนางเฉยชาไม่มีความเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย
“ข้ารำคาญเสียงร้องของลู่หยาเหลือเกิน ช่วยทำให้มันสงบลงหน่อย” เย่ฟ่านกล่าว
“เจ้ารอดูได้เลย” อี้ชิงอู่กล่าว
เย่ฟ่านจับเอวอันอ่อนนุ่มของนาง เขาประทับรอยจูบลงบนริมฝีปากที่อ่อนนุ่มและกล่าวว่า
“อย่ากังวลไปเลย เส้นทางของพวกเราไม่สอนทับกัน เจ้าจะไม่ได้เป็นเซียนโบราณเพียงคนเดียวแน่นอน”
หากมองจากระยะไกลพวกเขาดูเหมือนคู่รักเต๋าคู่หนึ่ง เป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบอย่างหาผู้ใดเทียบเทียมไม่ได้ แต่ในความเป็นจริงทั้งสองคนกลับหักเล่ห์ชิงเหลี่ยมและพร้อมที่จะแทงมีดใส่กันอยู่ตลอดเวลา
………
บุญถาวัลย์ขนาดใหญ่เหนือภูเขาลั่วเซี่ย อี้ชิงอู่ดึงมือเย่ฟ่านออกจากเอวของตัวเอง นางลุกขึ้นยืนเพื่อสวมเสื้อผ้าด้วยท่าทางออนช้อยงดงาม เอวคอดกิ่วนั้นเรียบลื่นราวกับอสรพิษสาว เ
ในเวลานี้ใบหน้าของนางแดงก่ำเล็กน้อย ดวงตาของนางเหมือนน้ำค้างที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ นางจ้องมองเย่ฟ่านที่นอนยิ้มอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย
“ซ่า”
ภายใต้พลังศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องสว่างออกมา ชุดสีขาวที่แปดเปื้อนของนางกลับมาสะอาดสะอ้านอีกครั้ง รอยยับย่นก็ถูกทำให้เรียบรื่นเหมือนไม่เคยมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น จากนั้นนางก็ถลึงตาใส่เย่ฟ่านก่อนจะบินออกจากยอดเขาทันที
เย่ฟ่านหัวเราะเบาๆและลุกขึ้นสวมเสื้อผ้า จากนั้นเขาก็บินออกจากยอดเขาด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
…
หยวนซูเป็นสถานที่พิเศษมาก มันอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งความเป็นอมตะที่หนาแน่นตลอดปี แม้ว่าพืชพรรณที่นี่จะไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์แต่ก็มีปราณสวรรค์พิภพหนาแน่นตลอดทั้งปีทั้งชาติ
มีคำร่ำลือว่าสถานที่แห่งนี้คือสวนยาของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคโบราณ แม้ว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นจะผ่านไปหลายปีแล้วแต่ดินแดนแห่งนี้ยังคงเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความเป็นอมตะ
หยวนซูตั้งอยู่กลางเมืองเสิ่นโจวซึ่งผู้บ่มเพาะมากมายนับไม่ถ้วนต่างสนใจสถานที่แห่งนี้ บางคนมาเพื่อแลกเปลี่ยนสมบัติศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ก็ยาล้ำค่าบางชนิด
เย่ฟ่านนัดหมายกับเอี๋ยนอี้ซีและหลี่เทียนเพื่อพบกันที่นี่ เป้าหมายของพวกเขาก็คือการสังหารหยินเทียนเต๋อ
มีข่าวลือว่าราชายาโบราณอันล้ำค่าจะจัดแสดงใน “หยวนซู” มันจะถูกประมูลที่นี่และราคาของมันจะสูงเป็นประวัติการณ์แห่งการประมูลสมบัติศักดิ์สิทธิ์ในโลกใบนี้
หยินเทียนเต๋อเจ้าของวังไป๋จิงคือปรมาจารย์ปรุงยาที่เก่งที่สุดของทุ่งดวงดาวจื่อเว่ย และเมื่อมีสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้นรับรองว่าเขาจะต้องออกมาซื้อหามันอย่างแน่นอน
เย่ฟ่านเดินเอามือไพล่หลัง เดินข้ามสะพานโค้งหิน ปีนภูเขาเตี้ย เข้าไปในป่าไผ่ และเดินไปทั่ว สถานที่แห่งนี้มีสมบัติมากมายจริงๆ
แม้แต่อาวุธครึ่งก้าวเต๋าสุดขั้วที่ได้รับความเสียหายก็ยังมีการแลกเปลี่ยนที่นี่
นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้เขาตกใจอย่างมากก็คือ จะมีการประมูลสมบัติสวรรค์ ทองแดงโลหิตหงส์ซึ่งมีขนาดเท่าหัวแม่โป้ง
ว่ากันว่าตอนที่มันปรากฏตัวขึ้นเสียงร้องของหงส์เพลิงดังก้องไปทั้งสวรรค์พิภพและกระตุ้นผู้ยิ่งใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วนให้หลั่งไหลมาในทิศทางนี้
“ลุงคนชั่วร้ายปล่อยข้าออกไป อาจารย์ของข้ามาถึงแล้ว” ตงตงยิ้มและร้องไห้ในเวลาเดียวกัน
“เจ้าตัวน้อยเจ้ายังไม่เข้าใจความสุขของโลก เจ้ารู้หรือไม่แม้แต่อาจารย์ของเจ้าก็ยังไปแสวงหาความสุขแบบนี้เช่นกัน หากเจ้ากราบข้าเป็นอาจารย์อีกคนรับรองว่าชีวิตของเจ้าหลายพันปีต่อจากนี้จัดเต็มไปด้วยความสุข”
หลี่เทียนรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมากที่เจ้าหนูตัวน้อยเรียกเขาว่าคนชั่วร้าย สิ่งที่เขาเกลียดมากที่สุดคือการถูกมองว่าเป็นคนดี และทุกครั้งที่มีคนดูถูกเหยียดหยามมันจะทำให้เขาเกิดความปลื้มปิติอยู่เสมอ
เย่ฟ่านมองไปที่เด็กหนุ่มคนหนึ่ง เขาเป็นชายหนุ่มอายุสิบสี่หรือสิบห้าปี สวมเสื้อคลุมงูเหลือมสีขาวและรองเท้าหนังงูที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง แม้จะเป็นเพียงบ่าวรับใช้ของหยินเทียนเต๋อแต่ที่ศีรษะของเขาก็ยังสวมมงกุฎทองคำม่วงอันล้ำค่าอย่างยิ่ง
……….