ตอนที่แล้วตอนที่ 61 ชายสติไม่ดี(อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 63 จดหมายขู่ฆ่าและการเผชิญหน้ากับผู้มองอนาคต(อ่านฟรี)

ตอนที่ 62 ดื่มเลือดหลบหนี(อ่านฟรี)


ตอนที่ 62 ดื่มเลือดหลบหนี

เส้นทางบนท่อน้ำที่ถูกดัดแปลงใส่รางเหล็กมีหัวลากที่กำลังฉุดลากขบวนรถที่มีกรงเหล็กจำนวนมากออกไป หนึ่งในกรงเป็นชายสติไม่ดีที่ทั้งร่างกายบอบช้ำจากการโจมตี ยังคงนอนบาดเจ็บจนยากจะขยับตัวได้

รถลากพากรงของเขาไปส่งยังที่หนึ่ง ก่อนจะมีชายหยาบช้าเดินเอาไม้มาเคาะที่กรงเสียงดัง

เคล้ง! ๆ

“เฮ้ย...ตื่นได้แล้ว” หลังตะโกนอยู่สองสามครั้งไม่มีการตอบสนองชายคนนั้นก็เปิดกรงออกมา ก่อนจะเข้าไปตรวจสอบลมหายใจ

“อ๊ากกก...” ชายสติไม่ดีหุ่นหันลุกขึ้นยืนพรวด ก่อนจะกรีดร้องกระโดดกอดคอกัดหูของชายหยาบช้าจนหูขาดไปครั้งหนึ่งเลือดสาดกระเซ็น

ชายหยาบช้าหูขาดดิ้นร้องอย่างเจ็บปวด คนงานคนอื่น ๆ รีบวิ่งมาก่อนจะใช้ท่อนเหล็กทุบตี แต่ชายสติไม่ดีไม่ปล่อย สุดท้ายหนึ่งในคนงานจึงใช้กระบองไฟฟ้าที่ใช้กับมอนสเตอร์ช็อตร่างชายสติไม่ดีจนล้มลง ก่อนจะช็อตไฟซ้ำอีกสองสามครั้งจนชายสติไม่ดีน้ำลายฟูมปากสลบไป

“จับมันใส่กุญแจมือ เอาอะไรมาครอบปากมันไว้ด้วย”

คนงานรีบทำตามจับชายชราใส่กุญแจมือและเอาผ้ามาอุดปาก อย่างไม่สนใจไยดีว่าชายสติไม่ดีจะน้ำลายฟูมปากอยู่หรือไม่ ก่อนจะโยนขึ้นไปบนที่ท้ายรถบรรทุก ซึ่งในนั้นยังมีกรงขังมอนสเตอร์ขนาดเล็กหลายตัวที่กำลังจะไปส่งให้กับลูกค้าด้วย

“เฝ้ามันไว้”

หนึ่งในคนงานอ่อนประสบการณ์พยักหน้า ก่อนจะขึ้นไปที่ท้ายรถ ปิดประตูตู้ สองคนนั้นกลับขึ้นไปที่ด้านหน้ารถ รถค่อย ๆ เคลื่อนตัวขยับออกไป

ที่คนงานในตอนนี้คนงานหยาบช้าที่โดนกัดหูขาดก็ได้สติ ก่อนจะตะโกนด้วยความโกรธแค้น

“ปล่อยกู กูจะไปฆ่ามัน”

“อยากตายเหรอ ถึงกล้ายุ่งกับสินค้า แกควรเอาเวลานี้เก็บหูของตัวเองไปให้หมอเย็บ”

คนงานหยาบช้ากัดฟัน ก่อนจะเดินไปเก็บหูที่ขาดของตัวเอง แต่พอก้มไปกลับรู้สึกว่าตรงเอวนั้นมีบางอย่างหายไป

“เชี่ยเอ๊ยมีดพกหายไปไหนวะ นั้นมันมีดกึ่งอุปกรณ์พิเศษ อุตส่าห์ซื้อมาไว้ป้องกันตัวตอนทำงาน ใครมันเก็บไปวะ” คนงานหยาบช้าคนนี้รีบหามีดยิ่งกว่าหูของตัวเองทันที

...

รถบรรทุกออกจากอุโมงค์ ก่อนจะโผล่อยู่บนเส้นทางถนนหลวงแห่งหนึ่ง ก่อนจะขับฝ่าความมืดไปเรื่อย ๆ บนถนนไม่ค่อยมีรถ เพราะเป็นเวลาหลังเที่ยงคืนแล้ว

ขณะที่คนงานหนุ่มกำลังนั่งอยู่ท้ายรถอย่างเบื่อหน่ายก็ได้ยินเสียงพูดแผ่วเบาดังขึ้นมาจากชายที่นอนอยู่บนพื้น

“ความตาย...”

“เฮ้ แกยังมีสติเหรอ พูดว่าอะไรนะ ความตายอะไร” ชายคนนั้นลุกขึ้นเดินไปดูชายสติไม่ดี แต่ทันทีที่ก้มหน้าลงไปก็มีมีดแทงเข้าที่เบ้าตาของเขา

“อ่า...!”

พนักงานชายล้มไปด้านหลังปากกรีดร้องด้วยความกลัว ชายสติไม่ดีใช้ตัวกดเอาไว้ ก่อนจะดึงมีดและแทงซ้ำ ๆ ใบหน้าเปื้อนเลือดที่ไหลออกมาจากดวงตากำลังสำลักเลือด มือปัดป้องอย่างอ่อนแอพยายามจะดึงปืนข้างเอว แต่ก็ไม่ทัน สุดท้ายก่อนสิ้นลมหายใจแววตาที่เหลืออีกข้างเบิกกว้างตาแข็งค้างแบบนั้น

“แฮ...” ชายสติไม่ดีค่อย ๆ ยืนขึ้นด้วยเนื้อตัวที่เปื้อนเลือดและคำรามเบา ๆ ราวกับสัตว์ป่า ก่อนจะเดินไปยังกรงขังมอนสเตอร์ที่โดนยาสลบจนอ่อนแอตัวหนึ่ง

เปิดกรงออกมา ก่อนจะใช้มีดแทงมันจนตาย จากนั้นก็ยกตัวมันขึ้นและดื่มเลือดจากบาดแผลสด ๆ

ชายคนนั้นดื่มมันด้วยความหิวกระหาย ก่อนที่แววตาจะกลับมามีสติปัญญาอีกครั้ง

“ต้องฆ่าเธอ พวกมันจะตามหาฉัน” ชายคนนั้นเหมือนจะเห็นภาพอีกครั้ง แต่แล้วก็รู้สึกปวดที่หัวเป็นอย่างมาก จึงรีบคว้าเอาเลือดมอนสเตอร์มาดื่มอีกทำให้อาการปวดหัวหายไป

ชายสติไม่ดีไม่กล้าใช้พลังอีก เขามองดูขวดน้ำดื่มของคนงานชายที่พึ่งตายไป เทน้ำเติมเลือดใส่ขวดจนเต็ม จากนั้นก็หยิบปืนมา

ในตอนนั้นรถก็หยุดลงกะทันหัน ชายสติไม่ดีหันไปมองกล้องที่มุมรถ ก่อนจะยิงมันจนพัง

ประตูรถเปิดออกมา ก่อนที่ผู้ช่วยคนขับจะได้ทันทำอะไรปืนก็เป่าหัวจนเป็นรูและก่อนที่คนขับจะยิงได้ทันก็โดนยิงตายก่อนเช่นกัน

อัก...

ใบหน้าของชายสติไม่ดีบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง เขารีบหยิบเลือดขึ้นมาดื่มไปอีกอึก ก่อนจะค้นศพและเอาโทรศัพท์พร้อมกับกระเป๋าเงินของศพทั้งสองและหายตัวไป

...

ภายในห้องแช่แข็ง ตอนนี้บอสตันและไอกะ ทั้งสองคนนอนอยู่ในอ่างด้วยใบหน้าเจ็บปวด แต่สภาพของพวกเขาก็ยังทนทานกว่าเดิมมาก นี่เป็นการดื่มยาครั้งที่ 2 ของทั้งสองคน

คลื่นพลังของพวกเขากำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

“พลังของเธอถึงขนาดไหนแล้ว” ลุคหันไปนิโคลที่อยู่ด้านข้าง

“850 หน่วย” นิโคลตอบและกล่าวเพิ่ม “ฉันใกล้จะตัดผ่านระดับ E แล้ว”

“ฉันก็ด้วย”

เที่ยงคืนลุคกระโดดขึ้นมาจากอ่างน้ำด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“คลื่นพลังของฉันถึง 1000 หน่วยแล้ว”

หลังจากคลื่นพลังถึง 1000 หน่วย เขาจะต้องทำการกลั่นพลังงานต่างมิติ แต่ลุคไม่สามารถทำที่นี่ได้ เพราะนิโคล บอสตันและไอกะยังอยู่ที่นี่ เขาเลยต้องไปที่ทำที่บ้าน

ลุคเข้าไปที่ห้องนอนของเขา เขาไม่ได้นอนที่นี่มาสักพักแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะนอนในอ่างน้ำตลอด เขาดันเตียงออกไปแอบไว้มุมป้อง ก่อนจะหยิบเอาหินพลังงานที่เตรียมไว้ออกมา

หินพลังงานส่วนใหญ่ถูกขายออกไปจนหมดแล้ว แต่พอรู้ว่านกระบวนการยกระดับต้องใช้หินพลังงานลุคก็ไปซื้อมาตุนเพิ่มจำนวนมาก

ในระดับ F ไปที่ระดับ E ในกระบวนการนี้ต้องใช้หินพลังงานราว ๆ 24 ก้อน

เขาหยิบรูปแบบขึ้นมา ก่อนจะจัดวางหินพลังงานลงไปบนพื้นเป็นลักษณะวงกลม 2 ชั้น โดยชั้นแรกมี 8 ก้อนและขั้นที่สองมี 16 ก้อน เหลือพื้นที่ตรงกลางไว้ให้เขาได้นั่งลง

“ความต่างของระดับ F และระดับ E คือความเข้มข้นของคลื่นพลังงานในร่างกาย ความต่างของมันคือ 1 ต่อ 1000 หน่วย เราจะต้องกลั่นคลื่นพลังในร่างกายให้หนาแน่นกว่าเดิมหนึ่งพันเท่า โดยอาศัยหินพลังงานรอบ ๆ เป็นตัวเร่ง”

ลุคนั่งลงใจกลางหินพลังงานที่จัดวางไว้ ก่อนจะหลับตาลง ภายในสมองปลดปล่อยคลื่นพลังงานออกมาเต็มกำลัง

คลื่นพลังก็โคจรในร่างกายเริ่มภายในร่างกาย หลังจากโคจรครบหนึ่งรอบคลื่นพลังของเขาก็ลดลงไป 1 หน่วย แต่ความหนาแน่นในคลื่นพลัง 999 หน่วยกลับเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งยากจะแยกออกได้

แต่ลุครู้ว่าเขาได้เข้าสู้กระบวนการยกระดับแล้ว

เวลาค่อย ๆ ไหลผ่านไปอย่างช้า ๆ คลื่นพลังงานที่สมองปลดปล่อยออกมาก็จะหมุนวนอยู่แต่ในร่างกาย นอกจากจะกลั่นคลื่นพลังแล้ว มันจะชำระล้างร่างกายและเสริมความแข็งแกร่งให้ร่างกายด้วย

โดยเฉพาะอวัยวะภายในของลุค ซึ่งเป็นจุดเด่นของพลังเหนือมนุษย์ของเขา ก่อนหน้านั้นตอนที่เขาต้านรับการโจมตีจากเจนได้นานขนาดนั้นเพราะว่าอวัยวะภายในเขาแข็งแกร่งมาก ทำให้เขาอึดมากกว่าปกติ ต่อให้ร่างกายภายนอกบาสเจ็บหนัก แต่ถ้าอวัยวะภายในยังทำงานเขาก็ไม่ตายง่าย ๆ

และตอนนี้อวัยวะภายในของเขากำลังแข็งแกร่งขึ้นอีกขั้น

ในอากาศจะมีคลื่นพลังที่บางเบามาก ๆ แม้แต่ช่วงเวลาปกติของเหนือมนุษย์ระดับต่ำกว่ายากจะสัมผัสการมีอยู่ของคลื่นพลังในอากาศในโลกนี้ได้ แต่มันก็มีอยู่ พอพลังงานในร่างกายลุคถูกกระตุ้นพลังงานรอบ ๆ ก็กระตุ้นด้วยพวกมันค่อย ๆ รวมตัวกันรอบตัวของลุค

ซึ่งมันน้อยนิดมาก โชคดีที่เขาเตรียมตัวไว้ก่อน หินพลังงานทั้ง 24 ก้อนปลดปล่อยพลังออกมาเสริมให้กับพลังงานต่างมิติในอากาศ ยิ่งทำให้อากาศรอบตัวของลุคหนาแน่นไปด้วยพลังงานต่างมิติ

เวลาไหลผ่านอย่างต่อเนื่อง ทั้งพลังงานในร่างของลุคก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พลังงานต่างมิติรอบตัวกลับหนาแน่นขึ้น

ถ้าก่อนหน้าพลังงานพวกนี้เหมือนกับความชื้นในอากาศ ตอนนี้มันก็กลายเป็นกลุ่มหมอกขนาด 1 เมตรรอบตัวลุค

“เหลือ 10 หน่วย”

“เหลือ 5 หน่วย”

“เหลือ 3 หน่วย”

ลุคกัดฟันใบหน้าเคร่งเครียดเรื่อย ๆ เพราะยิ่งพลังงานลดน้อยลง ความหนาแน่นก็ยิ่งมากกว่าจะทำให้มันโคจรในร่างกายครบ 1 รอบก็จะรู้สึกเหมือนเซลล์ที่เสียหายในร่างโดนทำลายแล้วสร้างเซลล์ที่ดีกว่าขึ้นมาใหม่

“เหลือแค่ 1”

ในที่สุดลุคก็ทำสำเร็จ เขารู้ว่านี่คือขีดสุดแล้ว ลุคกำลังจะปลดปล่อยออกมา แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดชะงัก

“คลื่นพลังของเราบีบอัดลงไปเหลือแค่ 1 หน่วยแล้ว ถือว่าขาฉันยืนอยู่ระหว่างระดับ F และ E อย่างละข้างแล้ว ในกระบวนการต่อไปคือปลดปล่อยร่างกายให้คลื่นพลังที่บีบอัดดูดซับเอาพลังงานต่างมิติเข้ามาภายในร่างเพื่อให้มันเป็นคลื่นพลังเริ่มต้นในระดับ E แต่...”

เขาหยุดกระบวนการขั้นถัดไปไว้ ก่อนจะเอาดาบตะขาบเกรดสีส้มออกมา

“ไอเทมจะมอบคลื่นพลังให้กับเราด้วย ไอเทมเกรดสีส้มจะเติมเต็มคลื่นพลังเรา 1000 หน่วย เท่ากับว่าเราจะคลื่นพลังอีกเท่าตัวหนึ่ง”

“ฉันจะลองกลั่นพวกมันดูด้วย”

ลุคทำขั้นตอนเดิม เมื่อเขาสวมใส่ไอเทมอยู่ไอเทมก็มอบคลื่นพลังให้เขา 1000 หน่วยในทันที ลุคใช้วิธีการเดียวกันในการนี้

สมองปลดปล่อยคลื่นพลังให้โคจรไปในร่างกายและค่อย ๆ กลั่นมันอีกรอบ ซึ่งมันก็ทำได้ คลื่นพลังไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเหลือเพียง 1 หน่วยอีกครั้ง

เพล้ง!

ในตอนนั้นก็มีเสียงแตกดังขึ้น ลุครีบลืมตาดูด้วยความตกใจ ก่อนจะพบว่าเสียงนั้นดังมาจากไอเทมดาบตะขาบในมือของเขา

ดาบตะขาบแตกละเอียดหลังจากสูญเสียคลื่นพลังที่ควรมีไป

“ดาบของฉัน” ใบหน้าของลุคกระตุกเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มทำความเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น

“พลังที่ดาบตะขาบมอบให้ไม่ใช่ของฉัน แต่คือการหยิบยืมมา พลังงานทำให้ไอเทมดำรงอยู่ได้ แต่เมื่อฉันกลั่นพวกมันจนเหลือเพียง 1 หน่วยสุดท้ายพลังงานนั้นก็หลุดจากตัวดาบและกลายเป็นของฉันแล้ว ทำให้ไอเทมแตกสลาย เพราะไม่มีพลังงานสนับสนุน มันค่อนข้างคล้ายกับไอเทมที่ใช้ครั้งเดียวและจะหายไป”

ลุคยังไม่เอาดาบตะขาบออกมาดูดซับเพิ่ม เพราะเขาต้องคิดให้ดี ถ้าทำแบบนั้นไอเทมจะพังทั้งหมด ซึ่งเขาใช้ได้เพียงไอเทมเกรดสีส้มเท่านั้นด้วย เนื่องจากมันเข้าเงื่อนไข 1000 หน่วยจึงกลั่นพลังงานได้

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด