[ตอนฟรี] ตอนที่ 58 : ราชสีห์เก้าเศียรยอมแพ้
โฮกก!
ราชสีห์เก้าเศียรร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนา สี่หัวที่ถูกตัดไปในครั้งเดียวทำให้มันบาดเจ็บสาหัส
ตอนนี้ดวงตาของห้าหัวที่เหลือแสดงออกอย่างตื่นตระหนก
มนุษย์คนนี้น่ากลัวเกินไป!
หากมันไม่รู้ว่าจวินเซียวเหยาคือบุตรพระเจ้าจากตระกูลโบราณมาก่อน ราชสีห์เก้าเศียรคงคิดว่าเขาคือมังกรโบราณที่แท้จริงแปลงกายมาเป็นมนุษย์ไปแล้ว
พละกำลังอันน่าสะพรึงเช่นนี้มากมายมหาศาลยิ่งกว่าสิ่งมีชีวิตจากเผ่าโบราณเสียอีก
“แม้เจ้าจะมีกายาเทพบรรพกาล มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะแข็งแกร่งขนาดนี้!”
ราชสีห์เก้าเศียรคำรามอย่างเกรี้ยวกราด และในเวลาเดียวกัน ทั่วทั้งร่างของมันก็เปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมา
ตรงสี่หัวที่ขาดไปเริ่มส่องแสงแวววาวราวกับหัวใหม่กำลังจะงอก
“พลังการฟื้นฟูของราชสีห์เก้าเศียรแข็งแกร่งมาก!”
เห็นสภาพของราชสีห์เก้าเศียรแล้ว ผู้บ่มเพาะมนุษย์หลายคนต่างก็รู้สึกทึ่ง
แต่กระนั้น การเคลื่อนไหวนี้ย่อมไร้ค่าเมื่ออยู่ต่อหน้าจวินเซียวเหยา
“อย่าได้ใช้ความรู้อันตื้นเขินของเจ้ามาคาดเดาถึงความสามารถข้าบุตรพระเจ้าผู้นี้”
เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จวินเซียวเหยาจะให้โอกาสราชสีห์เก้าเศียรฟื้นฟูหัว เขาโจมตีอีกครั้งโดยที่ไม่ได้ปลดปล่อยเคล็ดทักษะ เขาทำเพียงแค่ต่อยออกไป
ทุกการต่อยหนักหน่วงดั่งขุนเขา จนกระดูกและเส้นเอ็นของราชสีห์เก้าเศียรแตกหัก
การโจมตีระยะประชิดอันโหดเหี้ยมนี้ถึงกับทำให้ผู้ชมตะลึง
“สมกับคำร่ำลือที่ว่ากายาเทพบรรพกาลเป็นตัวตนไร้เทียมทานในการสู้ระยะประชิด…” ในความว่างเปล่า ผู้อาวุโสจากตระกูลเจียงถอนหายใจ
“เอาล่ะ เจ้าจะยอมเป็นพาหนะของข้ารึยัง?” จวินเซียวเหยาพูดด้วยเสียงเรียบเฉย
“ฮึ่ม ข้าคือผู้สืบทอดของเซียนเก้าวิญญาณ ต่อให้ตาย ข้าก็จะไม่มีวันยอมรับความอัปยศเช่นนี้!”
ห้าหัวที่เหลืออยู่ของราชสีห์เก้าเศียรคำรามอย่างไม่ยินยอม
“โอ้? งั้นรึ?” จวินเซียวเหยาลงมืออีกครั้ง
หลังจากผ่านไปไม่กี่ลมหายใจ ราชสีห์เก้าเศียรก็เหลือเพียงสี่หัว
“อย่าคิดว่าข้าจะยอมแพ้!” ราชสีห์เก้าเศียรยังคงตะโกนต่อ
ไม่กี่นาทีถัดมา มีเพียงสามหัวที่เหลืออยู่บนหัวของราชสีห์เก้าเศียร นี่ทำให้มันเริ่มตื่นตระหนก
“บุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวิน ในวันข้างหน้ามันยังมีโอกาสให้เจ้ากับข้าได้สู้กันอีกอยู่นะ!” ราชสีห์เก้าเศียรมีความกลัวผุดขึ้นมาบนดวงตาและมันพูดอย่างเคร่งขรึม
หลังจากไม่กี่ลมหายใจ มันเหลืออยู่เพียงสองหัว
สำหรับราชสีห์เก้าเศียร แม้ว่ามันจะสามารถงอกหัวใหม่ได้ แต่ถ้าหัวทั้งเก้าถูกตัดออก มันก็จะไม่สามารถฟื้นฟูได้อีกไปตลอดกาล ต่อให้เชิญเทพองค์ไหนมาก็ช่วยมันไม่ได้
ในที่สุด ราชสีห์เก้าเศียรก็กรีดร้องขอความเมตตา
“บุตรพระเจ้าหยุดตัดหัวของข้าสักที ตอนนี้มันเหลืออยู่หัวเดียวแล้ว ถ้ายังตัดหัวของข้าต่อไปอีก เจ้าจะต้องหัวล้านเป็นแน่!”
ราชสีห์เก้าเศียรถูกทุบตีเสียงดังสนั่นจนมันลงไปนอนบนพื้นเพื่อขอความเมตตา
เลือดไหลทีละหยดจากหนึ่งหัวที่เหลืออยู่ บนหน้าของมันเต็มไปด้วยน้ำตา
ราชสีห์เก้าเศียรผู้ยิ่งใหญ่ถูกตัดหัวโดยจวินเซียวเหยาจนเหลืออยู่เพียงแค่หัวเดียว
ผู้ชมหลายคนถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นฉากนี้
บัดนี้ ราชสีห์เก้าเศียรผู้ไม่ยอมเสียหน้า ผู้ที่ยอมตายดีกว่ายอมแพ้ กลับลงไปนอนอยู่บนพื้นเหมือนแมวอ้วนตัวส้มที่กระดิกหางและอ้อนวอนขอความเมตตา ความแตกต่างนี้มันเกินไป
“เจ้าตลกรึ?”
จวินเซียวเหยาเหยียบลงบนหัวสุดท้ายของราชสีห์เก้าเศียร
“ยอมแล้ว ข้ายอมแล้ว ท่านบุตรพระเจ้า โปรดอย่าฆ่าข้า!” ราชสีห์เก้าเศียรตัวสั่นและไม่มีเค้าโครงความน่าเกรงขามของเผ่าราชาเหลืออยู่อีกต่อไป
มันเข้าใจแล้วว่าจวินเซียวเหยากล้าสังหารมันจริงๆ
ด้วยเบื้องหลังอย่างตระกูลจวิน คาดว่ากระทั่งเซียนเก้าวิญญาณมาเอง ยังยากที่จะทวงแค้น
“ดี ก็แค่ยอมเป็นพาหนะของข้า” จวินเซียวเหยาเอ่ยเบาๆ
ราชสีห์เก้าเศียรนั้นมีความแข็งแกร่งมหาศาล แต่เหตุผลที่มันตกอยู่ในสภาพอันน่าเวทนาแบบนี้ก็เพราะคู่ต่อของมันคือจวินเซียวเหยา
มันเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับผู้บ่มเพาะคนอื่นที่จะทรมานราชสีห์เก้าเศียรให้ตกอยู่ในสภาพแบบนี้ได้
“ขอรับ...” ราชสีห์เก้าเศียรก้มหัวของมัน
เมื่อหลายคนเห็นฉากที่เกิดขึ้นนี้ หัวใจของพวกเขาก็เต็มไปด้วยคลื่นลมอันปั่นป่วน
ฉีกนกนางแอ่นกลืนฟ้าเป็นสองซีกและสยบราชสีห์เก้าเศียร
นี่มันยากมากที่จะทำได้ในสายตาของคนทั่วไป
แต่จวินเซียวเหยาทำมันอย่างง่ายดาย
หลงปี้ชรือสูดลมหายใจลึก
อกของนางพองสูงและยุบต่ำ ตอนนี้นางเข้าใจแล้วว่าทำไมบรรพชนของนางถึงเตือนนางแบบนั้น
“ความตายของหลงฮ่าวเทียน…” ดวงตาของหลงปี้ชรือเผยให้เห็นความกลัวสุดขีด
ในเวลาเดียวกัน นางก็นึกถึงอัจฉริยะระดับปีศาจอีกคนที่ยังคงปิดด่านเพื่อผสานรวมแก่นแท้มังกร
“ข้าไม่รู้ว่าหลงอ้าวเทียนที่ผสานเจ็ดแก่นแท้มังกรและมีสายเลือดจักรพรรดิมังกรจะเอาชนะบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินได้รึเปล่านะ?”
อีกด้านหนึ่ง จีเสวียน เซียวเฉิน และคนอื่นๆ ได้ยกระดับความอันตรายของจวินเซียวเหยาไปถึงขีดสุด
ทว่าตอนนั้นเอง ในรอยแยกของแผ่นดินก็มีปรากฏการณ์อุบัติขึ้นอีกครั้ง หมอกเทากวาดม้วนออกไปและแสงสว่างเจิดจ้าได้ปะทุ
“ในที่สุดคลังสมบัติของจ้าวเทวะก็เปิดออกแล้ว!”
ผู้บ่มเพาะและเผ่าโบราณทั้งหมดต่างยินดีปรีดา
จวินเซียวเหยามองไปที่มัน แต่การแจ้งเตือนลงชื่อของระบบยังไม่ดังขึ้นในความคิดของเขา
“ดูเหมือนว่าจำเป็นจะต้องไปให้ถึงส่วนลึกของคลังสมบัติลับจ้าวเทวะหยวนเทียนเพื่อลงชื่อ” จวินเซียวเหยาคิดในใจ
“เดินหน้าต่อ!”
จีเสวียนและคนอื่นๆ ดวงตาเป็นประกาย มานาของพวกเขาระเบิดออกห่อหุ้มร่างกายพร้อมกับดิ่งตัวลงไปด้านล่างทันที
ดึงผมเส้นเดียวเอี้ยวตัวทั้งร่าง ทำให้เหล่าผู้บ่มเพาะคนอื่นๆ รีบติดตามอย่างกระชั้นชิดอยู่ด้านหลัง (ขยับส่วนที่เล็กที่สุด แต่ส่งผลถึงภาพรวมทั้งหมด)
สำหรับหลงปี้ชรือ นางมองจวินเซียวเหยาเพียงหนึ่งคราและในที่สุดก็ตัดสินใจยอมแพ้ที่จะหาเรื่องจวินเซียวเหยา
“เดิมทีแล้วข้ามาที่นี่ครั้งนี้ก็เพื่อสั่งสอนจวินเซียวเหยาและยกระดับชื่อเสียงรังจู่หลงของข้า แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าความคิดของข้าตื้นเขินเกินไปจริงๆ”
“มุ่งเป้าไปที่การค้นหากระดูกมังกรโบราณก็แล้วกัน” หลงปี้ชรือคิดในใจ
จุดประสงค์หลักของนางในครั้งแรกคือการสร้างปัญหาให้กับจวินเซียวเหยา จุดประสงค์รองคือการค้นหากระดูกมังกรโบราณ
แต่หลังจากที่เห็นความแข็งแกร่งของจวินเซียวเหยาด้วยตาของตัวเองแล้ว จุดประสงค์หลักของหลงปี้ชรือจึงกลายเป็นการค้นหากระดูกมังกรโบราณแทน
เมื่อเห็นหลงปี้ชรือเข้าสู่รอยแยกแผ่นดินโดยไม่ลงมือทำอะไร จวินเซียวเหยาจึงหัวเราะเบาๆ “รู้ขีดจำกัดตัวเองนี่…”
“ไปกันเถอะ” จวินเซียวเหยาโบกมือขณะขี่ราชสีห์เก้าเศียร และมุ่งหน้าเข้าสู่รอยแยกเป็นคนแรก
จวินจ้างเจี้ยน จวินเสวี่ยฮวาง จวินหลิงหลง จวินว่านจี๋ และเจียงเซิ่งยีติดตามอยู่ด้านหลังอย่างใกล้ชิด
ทันทีที่เข้าสู่รอยแยก หมอกเทาหนาเตอะกวาดม้วนไปทั่วบริเวณ
มันหนาแน่นมากยิ่งกว่าโลกภายนอกเสียอีก ผู้บ่มเพาะหลายคนที่พุ่งลงมาข้างล่างเร็วเกินไปถูกหมอกแทรกซึมและทำให้พวกเขาเสียสติพร้อมกับดวงตาแดงก่ำ
หมอกเทาหนานี้ไม่อาจยับยั้งได้อย่างสมบูรณ์แม้จะมีมานาคลุมกาย
ปัง!
จวินเซียวเหยาโบกมืออย่างสบายๆ และตบผู้บ่มเพาะที่ตกอยู่ในความบ้าคลั่งตรงหน้าของเขาจนตาย
ไม่นาน เขาก็เปิดทางและลงไปจนถึงล่างสุดของรอยแยก
มองไปโดยรอบจะเห็นวังใต้ดิน*อันงดงามที่วางตัวเป็นแนวนอนอยู่ใต้แผ่นดินและมีกลิ่นอายของจ้าวเทวะเล็ดลอดออกมาจากส่วนลึกของมัน
จวินเซียวเหยาปลดปล่อยพลังวิญญาณของเขาและตรวจสอบคร่าวๆ ด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์
วังใต้ดินทั้งหมดดูเหมือนจะแบ่งออกเป็นสองชั้นคือชั้นในและชั้นนอก
ชั้นนอกควรจะเป็นจุดที่คนส่วนมากสามารถเข้าถึงได้ ในขณะที่ชั้นในจะต้องมีเหรียญตราจ้าวเทวะหยวนเทียน
“ดูเหมือนว่าถ้าอยากจะลงชื่อ ข้าควรจะต้องเข้าไปให้ถึงส่วนลึกของชั้นใน” จวินเซียวเหยาคิด
ทว่าตอนนั้น จีเสวียนก็ได้มุ่งหน้าตรงเข้าสู่วังใต้ดินด้วยรอยยิ้มและความตื่นเต้นในดวงตาเรียบร้อยแล้ว
“หืม? เจ้าหมอนั่น?” จวินเซียวเหยาที่สังเกตเห็นการแสดงออกของจีเสวียนจึงตกอยู่ในความคิด
ดูจากท่าทางของจีเสวียนแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ความลับบางอย่างของคลังสมบัติลับจ้าวเทวะ
“จีเสวียน ข้าจะปล่อยให้เจ้าเป็นหนูล่าสมบัติของข้าก็แล้วกัน” จวินเซียวเหยายิ้ม
อีกด้านหนึ่ง เขาก็สังเกตเห็นเซียวเฉินที่กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ทางเข้าอีกทางของวังใต้ดินเช่นกัน
จวินเซียวเหยารู้ว่าเซียวเฉินเป็นคนที่มีโชคลาภที่ดี และเข้าจะต้องได้กำไรอย่างมหาศาลในคลังสมบัติลับนี้อย่างแน่นอน
คิดได้ดังนี้ จวินเซียวเหยาจึงหันหน้าไปและกล่าว “ว่านจี๋ ข้ามีอะไรบางอย่างจะบอกเจ้า”
“ขอรับนายท่าน โปรดกล่าว” จวินว่านจี๋ป้องมือและกล่าว
จวินเซียวเหยาส่งผ่านข้อความเสียง จากนั้นจวินว่านจี๋จึงพยักหน้าและบินจากไป
“อืม…คลังสมบัติลับจ้าวเทวะหยวนเทียนครั้งนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของข้าแล้ว”
จวินเซียวเหยายืนมือไพล่หลังพร้อมกับแผนการในหัว
*วังใต้ดิน แต่มีลักษณะเป็นสุสานใต้ดินมากกว่า
(หากมีคำแนะนำหรือข้อติเตียน สามารถคอมเมนท์เพื่อบอกกล่าวได้นะครับ ^ ^ ขอบพระคุณมากครับที่อ่านจนจบ)