อย่างไรก็ตาม หลังจากถึงนักสู้ฝึกหัดระดับหกแล้ว การใช้เม็ดยาระดับหนึ่งก็ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป เม็ดยาระดับสองเท่านั้นที่จะมีผล ในบางสถานการณ์จะต้องใช้เม็ดยาระดับสามเพื่อให้มีความเป็นไปได้ในการทะลวง

อย่างไรก็ตาม

ด้วยสถานะของศิษย์สายนอก พวกเขาสามารถแลกเปลี่ยนเม็ดยาระดับสามได้ทุกๆ สามเดือนเท่านั้น นี่เป็นข้อกำจัดอย่างไม่ต้องสงสัย

สำหรับศิษย์สายในพวกเขามีโอกาสแลกเปลี่ยนเม็ดยาระดับ 4 เดือนละครั้ง

ศิษย์สายในส่วนใหญ่อยู่ในขอบเขตเหนือธรรมชาติ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการเม็ดยาระดับสี่อย่างมาก

ถ้าใช่ …

สิ่งนี้บังคับให้ศิษย์เหล่านี้ต้องเพิ่มสถานะของตนเองเพื่อความสะดวกในการแลกเปลี่ยน

อย่างไรก็ตาม หลังจากการยกระดับสถานะ

นั่นหมายความว่าทุกครั้งที่มีการประเมินความยากจะเพิ่มขึ้น เขาต้องหาทางรักษามันไว้ให้ได้

นอกจากนี้ยังมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ศิษย์เหล่านี้ตื่นเต้น

และนั่นก็คือ… คะแนนสนับสนุนสามารถแลกเปลี่ยนได้อย่างอิสระ

สิ่งนี้สะดวกกว่าสำหรับบางคนอย่างไม่ต้องสงสัย

แม้ว่าจะมีผู้เล่นบางคนที่จะซื้อคะแนนสนับสนุนจำนวนมาก แต่ฉินซู่เจียนก็คาดการณ์ไว้แล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่เขาสร้างระบบการแลกเปลื่ยนตามระดับขึ้นมา

ในกรณีนี้ แม้ว่าผู้เล่นบางคนจะมีคะแนนสนับสนุนจำนวนมาก พวกเขาก็ไม่สามารถใช้ได้

นอกเหนือจากนี้ นิกายหยวนยังประกาศกฎใหม่

ในอดีต ตราบเท่าที่คะแนนสนับสนุนถึงเป้าหมาย สามารถใช้คะแนนสนับสนุนเพื่อยกระดับสถานะได้

อย่างไรก็ตามตอนนี้สิ่งต่างๆ เปลี่ยนไป

เมื่อศิษย์สายนอกหากต้องการเป็นศิษย์สายใน นอกเหนือจากการจ่ายคะแนนสนับสนุน 500 แต้มแล้ว พวกเขายังต้องมีการบ่มเพาะเพียงพอด้วย มีเพียงการทะลวงเข้าสู่ขอบเขตเหนือธรรมชาติเท่านั้นที่จะสามารถกลายเป็นศิษย์สายในได้

สำหรับศิษย์สายในเป็นศิษย์ชั้นนำ นอกเหนือจากการจ่ายคะแนนสนับสนุนที่สอดคล้องกัน พวกเขายังจำเป็นต้องมีการบ่มเพาะขั้นจิตเทพ

กล่าวอีกนัยหนึ่ง …

คะแนนสนับสนุนเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องการฐานการบ่มเพาะที่สอดคล้องกัน มิฉะนั้น แม้ว่าพวกเขาต้องการที่จะก้าวหน้า ก็จะไม่มีโอกาส

หลังจากข่าวแพร่ออกไป

นิกายหยวนทั้งหมดเต็มไปด้วยความเศร้าโศก

“บัดซบ ทำไมถึงมีการปฏิรูปครั้งใหญ่? ก่อนหน้านี้ไม่มีข่าวใดๆ เลย ตามที่คาดไว้ คำพูดของหัวหน้าฐานที่มั่นเหลียงซานถือเป็นกฎ หมัดนี้ทำให้ข้าไม่ทันได้ตั้งตัว”

หลังจากได้ยินข่าว หลิวต้าจงก็ตกตะลึงจากนั้นเขาก็เริ่มบ่น

ขาดทุน!

เสียเลือด!

นั่นคือความคิดเดียวในใจของเขา

ก่อนการปฏิรูปยังไม่มีใครได้ข่าวคราวเลย และการแข่งขันของนิกายใกล้เข้ามา เขายังได้พบคนงี่เง่าบางคนที่อ่อนแอกว่าแต่สถานะสู้กว่าเขา เขาจึงรอจนถึงวันแข่งขันเพื่อปล้นชิงสถานะของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

แต่ตอนนี้ มันเป็นสิ่งที่ไม่ทันคาดคิดอย่างสมบูรณ์

หลิวต้าจงจับหน้าอกของเขา หัวใจของเขาเจ็บปวดมากจนหายใจไม่ออก

เขามองไปที่คะแนนสนับสนุน 10,000 แต้มบนโทเค็นประจำตัว และตัวตนของเขาในฐานะศิษย์สายใน

ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้

คะแนนสนับสนนุน 10,000 กว่าแต้มเหล่านี้น่าจะสูญเปล่า

สำหรับศิษย์สายในที่ต้องการก้าวไปสู่ศิษย์ชั้นนำ นอกเหนือจากการใช้คะแนนสนับสนุนจำนวนหนึ่งแล้ว พวกเขายังจำเป็นต้องทะลวงผ่านไปยังขั้นจิตเทพด้วย

สำหรับผู้เล่นที่อยู่ในเวลานี้

มีไม่กี่คนที่ถึงจุดสูงสุดของขอบเขตเหนือธรรมชาติ ผู้เล่นที่ไปถึงขั้นจิตเทพสามารถนับได้ด้วยนิ้ว

สำหรับศิษย์ชั้นนำไปเป็นศิษย์สายตรง พวกเขาจำเป็นต้องอยู่ในขั้นเหาะเวหา

นี่เป็นเกณฑ์วัดที่ยิ่งใหญ่

อาจกล่าวได้ว่า…

เมื่อมีการตั้งกฎนี้ ผู้เล่นจำนวนมากที่สะสมคะแนนสนับสนุน และยังไม่ยกระดับสถานะรู้สึกเหมือนสูญเสียคะแนนเหล่านั้นไป

การยกระดับเป็นศิษย์ชั้นนำก็ยังถือว่าโอเค

เขาอาจจะไปถึงขั้นจิตเทพได้หากเขาพยายามสักสองสามเดือน

อย่างไรก็ตาม หากเขาต้องการเป็นศิษย์สายตรง เขาต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองสามปี

ตอนนี้มีระบบการแลกเปลี่ยนตามระดับ

กล่าวอีกนัยหนึ่ง …

สำหรับผู้ที่ฐานการบ่มเพาะไม่สูงพอ แม้ว่าพวกเขาจะมีคะแนนสนับสนุน ก็อาจไม่สามารถแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่พวกเขาต้องการได้

“เห็นได้ชัดว่านิกายไม่เปิดโอกาสให้เราหย่อนยาน” เหมียวหยูชิงกล่าวอย่างจริงจัง

"เฮ้อ!"

เมื่อ หลิวต้าจง ได้ยินสิ่งนี้ เขาก็ถอนหายใจยาวเช่นกัน

ครั้งนี้ เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จริงๆ

หลังจากวางแผนมานาน เขาก็ยังตกอยู่ในเงื้อมมือของหัวหน้าฐานที่มั่นเหลียงซาน

เขาไม่จำเป็นต้องคิดถึงเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำเพื่อจะรู้ว่าใครเป็นคนคิดไอเดียนี้ขึ้นมา

มันจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อหัวหน้าฐานที่มั่นเหลียงซานได้พูดเป็นการส่วนตัวว่าเรื่องนี้จะต้องถูกนำไปใช้ จึงไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

นี่เป็นข้อดีอย่างหนึ่งของเจ้านิกาย

การหารือร่วมกันคืออะไร?

ตราบเท่าที่เจ้านิกายสั่ง โดยทั่วไปจะไม่มีการพลิกผัน

หากเป็นนิกายอื่นที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคน บางสิ่งคงไม่ง่ายนักที่จะตัดสินใจ

เมื่อข่าวแพร่สะพัด…

มีหลายคนเช่นหลิวต้าจงที่กำลังทืบเท้า และทุบหน้าอกของพวกเขา

หลายคนหลังจากเป็นศิษย์สายในแล้ว จะไม่เพิ่มระดับสถานะของตนเองเป็นการชั่วคราวหากไม่จำเป็น มันจะเป็นเรื่องตลกหากการบ่มเพาะของพวกเขาไม่สูงพอที่จะรักษาสถานะเอาไว้

แม้ว่าพวกเขายังต้องทำภารกิจการประเมินให้เสร็จสิ้นเหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม ความยากในการประเมินนั้นต่ำกว่าศิษย์ชั้นนำมาก

แต่ตอนนี้กฏใหม่ถูกประกาศแล้ว…

พวกเขาตระหนักได้ว่าไม่สามารถทำตัวเอ้อระเหยได้อีกต่อไป

พวกเขาจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังหากเขาไม่สามารถแลกเปลี่ยนทรัพยากรได้เพียงพอ

และในขณะที่ถ้าพวกเขาก่าวขึ้นไป พวกเขาก็พบปัญหาอื่น

ก้าวขึ้นไปไม่ได้! เหตุผลก็คือพวกเขาไม่แข็งแกร่งพอ

กฏใหม่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้คนจำนวนมากไม่สบายใจ

ในเวลานี้ คลื่นแห่งความบ้าคลั่งในการการฝึกฝนอีกระลอกหนึ่งเกิดขึ้นในนิกาย

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้เล่น การฝึกฝนจะทำก็ต่อเมื่อไม่มีมอนสเตอร์ให้ทำฟาร์มเท่านั้น ด้วยสมมติฐานที่ว่าพวกเขาสามารถฟาร์มมอนสเตอร์ได้ มันจึงง่ายกว่ามากที่จะฟาร์มมอนสเตอร์ข้างนอกเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง

สำหรับสิ่งประดิษฐ์เต๋าในหอหลอมอาวุธ …

ฉินซู่เจียน ยังกำหนดระดับการแลกเปลี่ยนสำหรับมัน

มีเพียงศิษย์หลัก และผู้อาวุโสเท่านั้นที่มีสิทธิ์แลกเปลี่ยน

คนที่เหลือ

แม้ว่าเขาจะสามารถรวบรวมคะแนนสนับสนุนได้หนึ่งล้านแต้มก็ทำได้เพียงมองดู และไม่สามารถจับต้อง

ความฝันของผู้เล่นบางคนที่ประหยัด และเก็บออมเพื่อสะสมคะแนนสนับสนุนหนึ่งล้านแต้มเพื่อแลกกับสิ่งประดิษฐ์เต๋าได้พังทลาย

การเปลี่ยนแปลงในนิกายหยวนมีไม่น้อยเลย

นอกจากในนิกายที่ได้รับผลกระทบแล้ว นิกายอื่นๆ ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

ทุกคนสามารถเข้าใจได้

นิกายหยวนในปัจจุบันกำลังขยับเข้าใกล้นิกายชั้นนำ

ในอดีตที่ผ่านมา

แม้ว่านิกายหยวนจะมีชื่อเสียงว่าเป็นนิกายชั้นนำ แต่นั่นก็เป็นเพราะชื่อเสียงของฉินซู่เจียน เท่านั้น ในแง่ของโครงสร้าง มันคล้ายกับนิกายทั่วไปในดินแดนไพศาล และเมื่อเทียบกับนิกายในดินแดนไพศาลแล้วก็ยังมีความแตกต่างเล็กน้อย

แต่ตอนนี้ ด้วยการปฏิรูปครั้งใหญ่ ทำให้ผู้คนได้เห็นว่านิกายชั้นนำควรเป็นอย่างไร

อาจจะไม่ได้ผลในเวลาอันสั้น

อย่างไรก็ตาม ในอีกไม่กี่ทศวรรษหรือแม้แต่ร้อยปี นิกายหยวนจะต้องมีรากฐานที่เทียบได้กับนิกายชั้นนำอย่างแน่นอน

ในเวลานั้น

เมื่อนั้นพวกเขาจึงได้รับการพิจารณาว่าเป็นนิกายชั้นนำอย่างแท้จริง

มันคงไม่เหมือนตอนนี้ที่ชื่อเสียงของพวกเขาได้รับการสนับสนุนจากคนเพียงคนเดียว หากฉินซู่เจียนล้มลงไปโดยไม่ตั้งใจ สถานะของนิกายหยวนในฐานะนิกายชั้นนำจะตกลงทันที

สำหรับนิกายอื่นๆ ในดินแดนจิตวิญญาณเหลียงซาน …

หลังจากได้ยินเกี่ยวกับการปฏิรูปของนิกายหยวน พวกเขาก็มีความตั้งใจที่จะปฏิบัติตาม

เหนือสิ่งอื่นใด มีนิกายใหญ่เพียงหนึ่งเดียวในดินแดนจิตวิญญาณเหลียงซาน หากพวกเขาทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็จะเป็นเรื่องง่ายสำหรับนิกายอื่นๆ ที่จะปฏิบัติตาม

นอกจากนี้ยังมีบางคนที่มองการณ์ไกล รู้อย่างชัดเจนว่าการปฏิรูปดังกล่าวดีหรือไม่ดีสำหรับนิกาย

มันย่อมมีข้อเสียในบางเรื่องนี้แน่นอน

อย่างไรก็ตาม ด้วยความสัตย์จริง ข้อดียังคงมีมากกว่าข้อเสีย

“ตอนนี้นิกายหยวนกำลังจัดระเบียบนิกายใหม่ ไม่นานก่อนที่ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ข้าไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีที่นิกายเมฆาครามของเราจะอยู่ในดินแดนจิตวิญญาณเหลียงซาน!”

ใบหน้าของชิงซูขมขื่น และดูไม่สงบเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป

นับตั้งแต่พลังของนิกายหยวนแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ความกดดันที่เขาได้รับก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นิกายเมฆาครามตั้งอยู่ในดินแดนชี่หลานเหอแต่เดิม ซึ่งอยู่ใกล้กับเขตอิทธิพลของนิกายหยวน ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังเดินอยู่บนน้ำแข็งบางๆ

ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างนิกายมฆาคราม และนิกายหยวน

ตราบใดที่ไม่มีอุบัติเหตุใดๆ นิกายมฆาครามก็สามารถพึ่งพาภูเขานี้เพื่อรักษามรดกของตนได้

อย่างไรก็ตาม หากเขาต้องการที่จะยิ่งใหญ่ และแข็งแกร่งขึ้น

ระดับความยากไม่ใช่แค่สูง

ท้ายที่สุดแล้วเมื่อมีนิกายชั้นนำอยู่ข้างๆ อีกฝ่ายจะปล่อยให้คนอื่นผงาดขึ้นมาได้อย่างไร?

ตอนนี้ นิกายมฆาครามดูเหมือนจะไม่เป็นภัยคุกคามในสายตาของอีกฝ่าย ดังนั้นพวกเขาจึงปล่อยให้พัฒนาต่อไป

อย่างไรก็ตาม หากถึงระดับหนึ่ง และทำให้นิกายหยวนรู้สึกว่าถูกคุกคาม นิกายมฆาครามก็จะถูกทำลายลงในชั่วขณะนั้น

แต่ถ้าพวกเขาออกไปจากที่นี่…

เมื่อพิจารณาถึงความแข็งแกร่งในปัจจุบันของนิกายเมฆาคราม มันคงเป็นเรื่องยากที่จะตั้งหลักในดินแดนจิตวิญญาณอื่น ๆ เว้นแต่จะมุ่งหน้าไปยังดินแดนชี่แห่งอื่น

อย่างไรก็ตาม …

ไม่มีประโยชน์ที่จะไปยังดินแดนชี่เช่นกัน การพัฒนานิกายจะถูกจำกัดอย่างมาก

เมื่อได้เห็นท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ของดินแดนจิตวิญญาณ ดินแดนชี่ก็ไม่ต่างไปจากกรงขัง

ดังนั้นในความคิดของ ชิงซู เขาจึงไม่สามารถรุกหน้าหรือถอยหนีได้

ชิงซูที่เคยสง่างามในอดีตดูเหมือนจะหายไปแม้กระทั่งผมของเขาก็เป็นสีขาว

"เฮ้อ!"

หลังจากนั้นไม่นาน ชิงซูก็ส่ายหัวและถอนหายใจ เขาก็ยังคิดหาทางออกไม่ได้

ในท้ายที่สุด ความแข็งแกร่งของนิกายเมฆาครามก็อ่อนแอเกินไป และพวกเขาก็ไม่มีทุนที่จะสร้างชื่อให้ตัวเอง

“ตอนนี้ ข้าหวังว่านิกายหยวนจะทำตามสัญญาได้จริงๆ และให้เวลา 20 ปีแก่นิกายเมฆาครามของเราในการพักฟื้น”

“มิฉะนั้นอนาคตจะลำบาก”

...

นิกายในดินแดนจิตวิญญาณเหลียงซานล้วนสั่นคลอนจากการเปลี่ยนแปลงของนิกายหยวน

เมื่อทุกคนคิดว่านิกายหยวนจะหยุดอยู่แค่นี้…

ข่าวใหม่ระเบิดขึ้นทันทีในโลกแห่งการบ่มเพาะทั้งหมด ในช่วงเวลาสั้น ๆ ชื่อเสียงของนิกายหยวนเพิ่มขึ้นหลายระดับ และถึงจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ภายในหนึ่งวัน ศาลาหยวนถูกสร้างขึ้นในทุกพื้นที่ที่นิกายหยวนมีอิทธิพลอยู่ในสิบสามมณฑลของอาณาจักรต้าจ้าว

หลังจากรับรู้เกี่ยวกับการทำงานของศาลาหยวน …

โลกแห่งการบ่มเพาะทั้งหมดตกอยู่ในความโกลาหล

0 0 โหวต

Article Rating

0 Comments

Inline Feedbacks

ดูความคิดเห็นทั้งหมด