CD บทที่ 382 ต่างฝ่ายต่างเหลี่ยมใส่กัน
ปรากฏว่าหยางฮงกับฮัวฮัวกำลังรอจ้าวหยู่กลับบ้าน พวกเธอต้องการแสดงความขอบคุณจากใจจริงด้วยตนเอง พวกเธอรู้ดีว่าจ้าวหยู่กำลังยุ่งกับงาน ดังนั้นพวกเธอจึงไม่โทรหาเขาในตอนเช้า แต่ให้ความสนใจที่ประตูของเขาอย่างใกล้ชิด
ฮัวฮัวคุกเข่าต่อหน้าจ้าวหยู่ และร้องไห้ในขณะที่เธอกอดขาของเขา
“พี่หยู่ ขอบคุณมาก ถ้าไม่ใช่พี่ ฉันคง… ฉันคง… ฮือฮือ…”
"เกิดอะไรขึ้น? ลุกขึ้นมาก่อน…“จ้าวหยู่รีบพยุงฌะอขึ้นมา ในขณะที่เขายังคงถือกล่องใบใหญ่อยู่ในมือ เขาได้เปิดประตูกันขโมย และพูดว่า”เข้ามาในบ้านก่อน แล้วเราค่อยคุยกัน…”
ในที่สุดเมื่อจ้าวหยู่วางกล่องลง ฮัวฮัวก็กระโดดเข้าสู่อ้อมแขนของเขาอีกครั้ง
“พี่หยู่ ไม่ว่ายังไง ฉันจะใช้หนี้คืนให้คุณ! ครั้งนี้ฉันได้บทเรียนแล้ว จากนี้ไปฉันจะเป็นคนดี ฮือฮือ…”
เมื่อมองไปที่ฮัวฮัวที่กำลังร่ำไห้ จ้าวหยู่ก็อยู่ในรู้สึกเศร้าตาม ในชีวิตก่อนของเขา เขาเห็นฉากแบบนี้แทบทุกวัน
ฮัวฮัวถือว่าโชคดีมาก เพราะจ้าวหยู่ได้แก้ปัญหาให้เธอแล้ว แต่สำหรับคนอื่น ๆ ที่เป็นหนี้เงินกู้ ใครจะโชคดีขนาดนี้? พวกเขาจะต้องถูกทุบตีจนยับเยิน และมีรอยฟกช้ำทั่วร่างกาย หรือไม่ก็ถูกบังคับให้ขายบ้าน ขายรถ หรือแม้แต่ขายภรรยาของตัวเอง!
ส่วนผู้หญิงอย่างฮัวฮัว คงจะมีจุดจบที่เลวร้ายกว่านั้น…
“เรื่องเงินช่างมันเถอะ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย” จ้าวหยู่ประคองฮัวฮัวและบอกเธออย่างเคร่งขรึมว่า “รอจนกว่าเธอจะมีเงิน แล้วค่อยคืนให้ฉันก็ได้
ฮัวฮัวไม่ใช่ว่าฉันจะละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของคุณ แต่ในฐานะตำรวจ ฉันต้องเตือนคุณว่าคุณควรออกจากงานที่คุณเคยทำซะ คุณจะไม่มีทางเจอคนดี ๆ จากอาชีพนั้น”
เมื่อจ้าวหยู่พูดจบ เขาก็หันไปมองหยางฮง ฝ่ายหลังก้มหัวลงต่ำเพราะเธอไม่อยู่ในจุดที่จะแย้งในเรื่องนี้ได้
“พอดีว่า ฉันมีเพื่อนที่ทำงานในยิม” จ้าวหยู่กล่าว “ถ้าคุณเต็มใจที่จะไปทำงานที่นั่น ฉันจะช่วยพูดให้เอง มันน่าจะมีตำแหน่งว่างอยู่”
“ฉันก็คิดเรื่องนั้นอยู่เหมือนกัน” ฮัวฮัวสะอื้น “ฉันก็ไม่อยากอยู่ในงานนี้เหมือนกัน! ไม่มีใครปฎิบัติกับฉันเหมือนเป็นคนเลย
พี่หยู่ ฉันขอบคุณที่พี่หยู่จะช่วยหางานให้ฉัน แต่พอดีว่าพี่สาวฮงติดต่อคนรู้จักและหางานมาให้ฉันได้ มันเป็นงานในโรงพยาบาลสัตว์ และฉันจะไปทำงานที่นั่นเร็ว ๆ นี้
แม้ว่าค่าจ้างของฉันจะไม่สูงมาก แต่อย่างน้อยก็มาจากงานสุจริต พี่หยู่ ไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่กลับไปทำงานอย่างนั้นอีก!”
"ดีแล้ว! ดีแล้ว!"
จ้าวหยู่พูดคุยกับสองสาวต่อสักพัก อย่างไรก็ดี หยางฮงสังเกตเห็นว่าจ้าวหยู่แทบจะหมดแรงแล้ว เธอจึงลากฮัวฮัวกลับห้องไป
เมื่อได้ยินเสียงปิดประตูข้าง ๆ จ้าวหยู่รู้สึกว่าประตูในใจของเขาเปิดออก แม้ว่าฮัวฮัวจะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับเขา แต่การได้เห็นฮัวฮัวเปลี่ยนไปทำงานสุจริตก็ทำให้เขารู้สึกพึงพอใจและโล่งใจ
“นี่คือความรู้สึกของการทำความดีใช่มั้ย?” เขาสงสัย
“จริงสิ ฉันเกือบลืมมันไปเลย…”
จ้าวหยู่ก้มลงเพื่อเปิดกล่อง
แม้ว่าเขาจะใช้เงินชำระหนี้ให้กับฮัวฮัว แต่โดยรวมแล้วเขาก็ไม่ได้เสียอะไรไป เนื่องจากเขาได้รับแจกันโบราณล้ำค่ามากครอง
เขาสงสัยว่าแจกันราคาเท่าไหร่ เขาค้นหาทางอินเทอร์เน็ตด้วยโทรศัพท์มือถือ ในท้ายที่สุด ผลลัพธ์ที่ได้ก็น่าประหลาดใจ ตามราคาบนอินเทอร์เน็ต แจกันเคลือบสีม่วงในการประมูลครั้งก่อนขายได้ในราคาประมาณ 9 ล้าน 6 แสนหยวน!
‘แม่เจ้าโว้ย!’ จ้าวหยู่คิด เขามองไปที่แจกันโบราณของเขา แม้ว่าจะมีรอยแตกบนปากแจกัน แต่ก็ยังมีราคาอย่างน้อยสองสามล้าน นี่ไม่ถือว่าขาดทุน มันคือกำไรด้วยซ้ำ
‘ฮิฮิฮิ… จากนี้ไป หลี่ซิวเซิงคือคนพิเศษของฉัน ฉันควรจะไปหาเขาบ่อย ๆ ในอนาคต’ เขาคิด
จากนั้น จ้าวหยู่ไปห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ ในขณะที่เขาเปิดกล้องวงจรปิดล่องหนในหัวของเขา
ถึงแม้ว่าจ้าวหยู่จะยกย่องในตัวหลี่ซิวเซิง แต่เขาก็ไม่คิดจะเชื่อใจเขา
นักธุรกิจมือสกปรกอย่างเขา จ้าวหยู่จะต้องจับตาดูเขาถึงฝีก้าว ด้วยเหตุนั้นเอง หลังจากที่หลี่ซิวเซิงบอกลาเขา จ้าวหยู่จึงจงใจติดกล้องวงจรปิดล่องหนบนตัวเขาเพื่อให้สามารถเฝ้าดูเขาได้ตลอดเวลา
จ้าวหยู่รู้ว่าหลี่ซิวเซิงช่วยเขาในการสืบสวนคดีเพราะจ้าวหยู่รู้เกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมายที่เขาทำ คนอย่างเขาจะไม่มีวันยอมจำนนง่าย ๆ ดังนั้นภายในระยะเวลาอันสั้น เขาจะต้องลงมือทำบางอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ จ้าวหยู่ยังรู้ว่าแม้แต่ไส้กรอกอ้วนก็มีลูกน้องมากมาย ในฐานะหัวหน้าใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง แน่นอนว่า หลี่ซิวเซิงต้องมีอำนาจยิ่งกว่านี้ ถ้าเขาไม่ต้องการให้จ้าวหยู่ปล่อยข่าวนี้หลุดลอยไป เขาจะทำทุกอย่างเพื่อปิดปากเขา และจ้าวหยู่จะตกอยู่ในอันตราย!
แม้ว่าหลี่ซิวเซิงจะพูดจาดูน่าเชื่อถือ และให้คำมั่นสัญญากับเขาเป็นอย่างดี แต่จ้าวหยู่ก็ไม่เชื่อในตัวเขา เขากังวลเพราะเขาสงสัยว่าหลี่ซิวเซิงอาจเกี่ยวข้องกับโจรปล้นสุสาน และเขาไม่ต้องการบอกข้อมูลให้จ้าวหยู่ เพราะเขากลัวว่าเขาจะติดร่างแหไปด้วย
เนื่องจากปัจจัยทั้งหมดนี้ จ้าวหยู่จึงใช้กล้องวงจรล่องหนล่องหนอันล้ำค่าโดยไม่ลังเล
สุดท้ายแล้ว มันก็ไม่ต่างจากที่จ้าวหยู่คาดไว้
ขณะที่เขากำลังอาบน้ำและดูวิดีโอจากกล้องวงจรปิดล่องหน เขาก็เห็นว่าหลี่ซิวเซิงกำลังเคลื่อนไหวเพื่อทำอย่างบางอย่างอย่างร้อนรน
จากภาพของกล้องวงจรปิดล่องหนเขาเห็นว่าอีกฝ่ายเขากำลังยุ่งอยู่กับอะไรบางอย่างในมุมที่ซ่อนอยู่ แม้ว่าภาพจะมืดแค่ไหนก็ตาม จ้าวหยู่ก็เห็นว่า นอกจากเขาแล้วยังมีภรรยาร่างท้วมของเขาและผู้ชายอีกสองคนด้วย
จ้าวหยู่ได้ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับภูมิหลังของหลี่ซิวเซิงมาแล้ว และเขารู้ว่าชายทั้งสองเป็นลูกชายของเขา
ครอบครัวสี่คนกำลังย้ายของบางอย่างไปที่ห้องใต้ดินใต้ร้านดอกไม้ร้านหนึ่งของเขา พวกเขาย้ายกล่องต่าง ๆ จากรถ BMW ของเขาไปที่ห้องใต้ดิน
“ฮี่ฮี่ฮี่…” เมื่อมองไปที่ภาพตรงหน้าของเขา จ้าวหยู่อดไม่ได้ที่จะฮัมเพลงอย่างมีความสุข และเพลิดเพลินกับการอาบน้ำมากยิ่งขึ้น…
เวลาประมาณสิบโมงเช้า จ้าวหยู่กำลังเตรียมตัวเข้านอน หลี่ซิวเซิง และครอบครัวของเขาทำงานเสร็จในที่สุด พวกเขาเอาของจากคลังแต่ละแห่งไปซ่อนไว้ในร้านดอกไม้ชื่อว่าบุปผาทักษิณ
‘น่าสนใจ!’ จ้าวหยู่คิด
เมื่อมองไปที่กล่องขนาดต่าง ๆ เหล่านั้น จ้าวหยู่รู้ได้ในทันทีว่ามีอะไรอยู่ในกล่องเหล่านั้น จากนั้นไม่นาน จ้าวหยู่คิดแผนที่น่ารังเกียจไม่ต่ำกว่าร้อยแผนเพื่อให้ได้พวกมันมา
จากการตรวจสอบ จ้าวหยู่ก็เข้าใจว่า แม้แต่หลี่ซิวเซิงจะเป็นผู้ขายโบราณวัตถุในตลาดมืด แต่เขาไม่มีความเกี่ยวข้องกับโจรปล้นสุสานในคดีฆาตกรรมสุสานแม้แต่น้อย
ดังนั้นจ้าวหยู่จึงตัดสินใจปล่อยหลี่ซิวเซิงไปก่อนตอนนี้ เมื่อจ้าวหยู่รู้สึก ‘หิว’ เมื่อไหร่ เขาจะแวะกลับไปหาหลี่ซิวเซิงอีกครั้ง
ณ ตอนนี้ การไขคดีเป็นเรื่องเร่งด่วน เขาต้องให้ความสำคัญกับมันเป็นลำดับแรก
จ้าวหยู่ง่วงนอนจริง ๆ เขานอนอยู่บนเตียงสักพักก็หลับไป
วันนี้ช่างเป็นวันที่ยาวนานของจ้าวหยู่ มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น โดยเฉพาะความคืบหน้าของคดีฆาตกรรมสุสาน
เนื่องจากในหัวของเขาจดจ่อกับคดีมากเกินไป ระหว่างที่เขานอนหลับ จ้าวหยู่ก็ฝันร้ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาฝันถึงการนอนในโลงศพกับผู้หญิงอีกคนที่สวมใส่ชุดโบราณ...