เล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 3 บทที่ 8: หอกต่อต้านเมล่อน
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
เล่มที่ 3 บทที่ 8: หอกต่อต้านเมล่อน
(วอลสัน)
ในขณะที่นำเรือออกมา ข้าก็เก็บเนื้อปลาบางส่วนที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ
แผนที่ขนาดเล็กแสดงให้เห็นถึงความสงบ ข้าไม่พบปลาแปลกประหลาดพวกนี้มาสองชั่วโมงแล้ว
การระเบิดจากก่อนหน้านี้เกือบจะกวาดล้างมอนสเตอร์ทั้งหมดในชั้นนี้ไป นั่นทำให้ข้าจึงยุ่งอยู่กับแค่การแล่นเรือและเก็บเนื้อปลาจำนวนมาก
เมื่อเปิดแผงข้อมูลของข้า ข้าก็เห็นข้อความค่าประสบการณ์กำลังพุ่งเข้ามา ข้าใช้เวลาพอสมควร แต่ในที่สุดมันก็จบลงเสียที
ข้าขอเอาสรุปย่อๆ มาให้พวกเจ้าดูแล้วกัน:
"ปาร์ตี้ของท่านได้รับคะแนนประสบการณ์มากมาย"
"ระดับของท่านเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 72"
"ท่านได้รับสมญานาม [นักฆ่ามัจฉา] แล้ว"
พูดตามตรง ข้าลองนับดูดีๆ แล้ว ข้าจัดการปลาประหลาดพวกนี้ไปกว่า 150 ตัวเลยทีเดียว
ต้องขอบคุณเจ้าสิ่งนี้เลย มันจึงทำให้ระดับของข้าพุ่งสูงขึ้น... น่าเสียดายที่เนื่องจากอุปสรรคทางเวทมนตร์บางอย่างในดันเจี้ยนแห่งนี้ เกรซ บาเรลล่าและเมล่อนจึงไม่ได้รับคะแนนประสบการณ์ใดๆ แม้ว่าจะอยู่ในปาร์ตี้เดียวกันกับข้าก็ตาม
ช่างน่าเสียดายนัก
...มาคิดดู ตอนนี้เมล่อนกับเกรซคงกังวลมาก
ข้าพยายามใช้ [โทรจิต] เพื่อติดต่อพวกนาง แต่ไม่สามารถเชื่อมต่อได้เลย ดูเหมือนว่าที่นี่จะมีสิ่งกีดขวางบางอย่างที่ปิดกั้นสัญญาณโทรจิตเอาไว้
มันเป็นปัญหาพอสมควรเลย เพราะข้าคิดว่าแม้แต่ทักษะเคลื่อนย้ายของเกรซก็ไม่สามารถข้ามมันไปได้ เพราะความชื้นในระดับนี้ถือได้ว่าหนักเอาการสำหรับเอนเดอร์แมนอย่างนาง
ข้านำเรือเข้าไปในถ้ำใกล้ๆ ในกำแพงหิน
ข้าสร้างสิ่งนี้ด้วยระบบมายคราฟ สิ่งที่ข้าทำไม่ได้หรูหราขนาดนั้น มันเป็นเพียงกล่องที่ทำจากอิฐหิน แต่ด้านหนึ่งของมันเปิดให้หันหน้าออกไปทางน้ำด้านนอก
ข้านำเรือเข้ามาข้างใน
ข้าสร้างเรือลำนี้ทันทีหลังจากมาที่นี่ โดยใช้ไอเท็มจากกระเป๋าเก็บของของข้า มันเป็นเรือไม้ธรรมดาๆ ที่มีเครื่องยนต์เรดสโตนติดอยู่ด้านหลัง
เจ้ารู้หรือไม่ว่าเครื่องยนต์เรดสโตนไม่มีวันร้อนจนพัง? ดังนั้นแม้ว่าเครื่องยนต์จะค่อนข้างเรียบง่าย แต่มันก็ยังทนทานมากเมื่อเทียบกับหลายๆ อย่าง
เมื่อข้าสร้างฐานทัพชั่วคราวเสร็จ เจ้าหญิงลำดับสองก็ตื่นแล้ว
ตอนที่ข้ารักษานางก่อนหน้านี้ ข้าได้ถอดทั้งเสื้อและแจ็คเก็ตของนางออกแล้ว แน่นอนว่าในฐานะสุภาพบุรุษ ข้าทิ้งบราของนางให้ยังคงอยู่
ข้าแขวนเสื้อผ้าให้แห้งและคลุมนางด้วยแจ็คเก็ต
ส่วนผ้าปิดตา... ข้าไม่เข้าใจเลยว่านางสวมมันไว้ทำไม บางทีมันอาจจะเป็นแค่เครื่องประดับกระมัง
ในขณะนั้นเอง นางได้ลุกขึ้นนั่งอยู่บนเตียงชั่วคราวที่ทำจากผ้าห่ม สภาพของนางดูสับสนเล็กน้อย
“นี่... วอลสันตอบมาที ทำไมจู่ๆ ข้าถึงสามารถมองเห็นด้วยดวงตาข้างขวาของข้าได้กัน? แถมรอยแผลเป็นทั้งหมดบนร่างกายของข้า...”
นั่นคือสิ่งแรกที่นางถาม
เดี๋ยวก่อน นางตาบอดงั้นเหรอ? เข้าใจแล้ว ตอนแรกข้าคิดว่าผ้าปิดตาเป็นของประดับเสียอีก
“เพราะสถานการณ์วิกฤต ข้าจึงใช้ยาพิเศษแก่เจ้า ขออภัยด้วย ข้ามีเพียงยาที่มีผลการฟื้นฟูที่แข็งแกร่งมากเท่านั้น ข้าจึงไม่มียาอื่นที่ให้ผลอ่อนกว่านี้เลย”
ข้าไม่อยากสารภาพความลับกับนาง แต่ตอนนี้เราทั้งคู่อยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมาก ดังนั้นข้าจึงไม่มีทางเลือก
"โอ้! ยาของเจ้างั้นหรือ?”
“ใช่ มันเป็นยารักษาที่สามารถสร้างแขนขาที่ถูกตัดขาดขึ้นมาใหม่ได้ ตอนนี้ข้ายังไม่ได้พบกับอาการบาดเจ็บใดๆ ที่มันไม่สามารถรักษาให้หายได้”
"น่าทึ่งมาก! นานมากแล้วที่ข้าไม่ได้เห็นสิ่งอื่นด้วยตาขวา ข้าคิดว่าข้าจะไม่สามารถเห็นได้แล้วเสียอีก... ว่าแต่เราจะทำอะไรกันต่อหรือ?" เจ้าหญิงถอดผ้าปิดตาออกและโยนมันทิ้ง จากนั้นนางก็ถามข้าพร้อมรอยยิ้ม
"นั่นเป็นคำถามที่ดี มานี่สิ..."
ดังนั้นเจ้าหญิงองค์ที่สองและข้าจึงเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับแผนต่อไปของเรา
ประการแรก เราต้องจัดการกับเจ้างี่เง่าที่ส่งเรามาที่นี่
สิ่งที่ทำให้ข้าสับสนคือทำไมเขาถึงมีสถานะ "คำสาปเหี่ยวเฉา" และ "บ้าคลั่ง" แต่ถ้าเขามีสถานะพวกนี้ ข้าก็เข้าใจดีเลยว่าทำไมเขาถึงเรียกโกเล็มน้ำมาทำลายเมือง
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา สถานะ "บ้าคลั่ง" เป็นผลข้างเคียงของ "คำสาปเหี่ยวเฉา"
สิ่งมีชีวิตที่มีสถานะนี้จะก้าวร้าวมากและมีแนวโน้มสูงที่จะโจมตีผู้อื่น ข้าได้พบกับสิ่งมีชีวิตเช่นนี้มากมายเมื่อจัดการกับการระบาดของโรคเหี่ยวเฉา แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นสถานะนี้ในมนุษย์ ข้าไม่ได้เห็นพฤติกรรมของเขาโดยตรงในเหตุการณ์โกเล็มน้ำ ดังนั้นข้าจึงพลาดเบาะแสนี้ไป
หากการคาดเดาของข้าถูกต้อง การกระทำของเขาได้รับอิทธิพลจาก "คำสาปเหี่ยวเฉา" ที่ทำให้จิตใจของเขาไม่มั่นคงมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดเขาก็ได้ใช้วิธีที่ไม่ฉลาดในการเคลื่อนย้ายตนเองและเราที่นี่เพียงเพื่อจะถูกปลากัดจนตาย... หรือบางทีเขาอาจจะตายไปแล้วก่อนหน้านั้นแล้วหรือเปล่า?
ข้าไม่อยากนึกถึงฉากนั้นเลยจริงๆ
เดี๋ยวนะ หรือว่าโครงกระดูกอันเหี่ยวเฉาในเกมมายคราฟถูกสร้างขึ้นมาแบบนี้เหรอ?
เดิมทีพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตธรรมดาที่ถูกไฟใต้พิภพเผาทั้งเป็นและถูกหลอมรวมจนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตน่าขนลุกงั้นหรือ!?
เช่นนั้นฟิลลิปเร็กซ์ก็เป็นเหยื่อน่ะสิ ถูกทรมานด้วย "ความโกรธ" และเผาไหม้ตลอดไปด้วยความทุกข์ทรมาน ตรรกะและเหตุผลของเขาจึงหายไปจากความเจ็บปวดอย่างสมบูรณ์ กลายเป็นเหยื่อที่มีสภาพจิตใจไม่มั่นคง
...แต่ข้าไม่มีทางที่จะพิสูจน์การคาดเดาเหล่านี้ได้ เพราะเขาถูกมอนสเตอร์ปลากัดกินไปหมดแล้ว
กลับไปที่เรื่องหลัก ตามที่องค์หญิงสองบอก ดันเจี้ยนเคยมีสูงสุดแค่ 75 ชั้นเท่านั้น ตอนนี้เราอยู่บนชั้น 70 หากเราต้องการกลับสู่พื้นผิว ทางเลือกหนึ่งคือการปีนขึ้นไป 69 ชั้นแต่ต้องยอมรับว่าตัวเลือกนี้อันตรายเกินไป
ประการแรก เมื่อสำรวจเสร็จแล้ว ข้าพบทางเข้าชั้นถัดไป แต่ไม่พบทางขึ้นเลย
บางทีเราอาจต้องพึ่งพาไอเท็มเคลื่อนย้ายเพื่อกลับไปเท่านั้น ช่างน่าเสียดายที่ข้าไม่มีอะไรแบบนั้น นอกจากนี้ ถึงจะไปเก็บกู้ซากเจ้าโง่นั่นขึ้นมา แต่ก็คงไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่าจะกลับไปได้ เพราะการระเบิดของข้ามันทำลายสิ่งของรอบตัวไปด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น เราไม่สามารถรับประกันได้ว่าการขึ้นไปจะไม่มีอันตรรายรออยู่ การปีนขึ้นไป 69 ชั้นหาใช่เรื่องง่ายเลยสักนิดเดียว บางทีมันอาจมีอันตรายถึงตายเลยด้วยซ้ำ
ไม่ว่าเราจะเลือกตัวเลือกใด มันก็มีความเป็นไปได้สูงที่เสบียงของเราจะไม่พอ หลังจากดูปริมาณอาหารในกระเป๋าเก็บของที่ข้ามี มันคงสามารถอยู่ได้สองคนเป็นเวลาประมาณสิบวัน
อย่างไรก็ตาม มีเส้นทางเดียวที่เราสามารถทำได้ นั่นคือเดินต่อไปอีกห้าชั้นและจัดการเขาวงกตนี้ให้เสร็จก่อนที่อาหารของของเราจะหมด ซึ่งถ้าเราทำสำเร็จ เราก็จะทำในสิ่งที่คนร้อยปีก่อนไม่สามารถทำได้ จากประสบการณ์การเล่นเกมของข้า ถ้าเราก้าวหน้าไปจนถึงชั้นล่างสุด เราก็จะได้อุปกรณ์เคลื่อนย้ายหรือวิธีการบางอย่างเพื่อกลับสู่พื้นผิวแน่นอน
ดังนั้นหลังจากพูดคุยกันแล้ว เราจึงตัดสินใจที่จะลงต่อไป
“อืม ถ้าอย่างนั้นถ้าเราจะเดินทางต่อ... แล้วหอกของข้าล่ะ?”
"มันจมลงไปที่ก้นน้ำแล้ว" ข้าไม่ต้องการที่จะอ้อมค้อมและเลือกบอกความจริงกับนางไปโดยตรง
ตอนที่ข้าช่วยนางก่อนหน้านี้ นางทิ้งหอกลงไปแล้ว ซึ่งข้าก็ไม่รู้เลยว่ามันจมอยู่ที่ไหน ถึงข้ารู้ ้ข้าก็คงไม่ไปเอามันกลับมาหรอก น้ำที่นี่ลึกเกินไปและดูเหมือนจะไม่มีก้นบึ้งเลย แถมหลังจากการระเบิด ตำแหน่งของมันอาจเปลี่ยนไปจากตำแหน่งเดิมด้วย
“เอ่อ ถ้าเกิดต้องสู้ที่นี่ ข้าจะทำเช่นไรกันล่ะเนี่ย... ใช้กิ่งไม้เป็นหอกหรือ? ไม่สิ ไม่มีกิ่งไม้ที่นี่สักหน่อย...”
"เฮ้ เจ้าหญิงเดริชา"
"หืม? เรียกข้าแค่เดริชาเถอะ"
...งั้นเดริชา
คือว่า...“ข้าเกาหัว”ข้ามีวิธีแก้ปัญหาอยู่”
ในสถานการณ์เช่นนี้ มันคงจะเป็นเรื่องโง่ที่จะเก็บความลับไว้และไม่คิดให้อาวุธแก่นาง มันไม่ใช่เวลาที่จะมายึดถือคติบ้าบออะไรอีกแล้ว
ดังนั้น...
【ส่งคำเชิญทีมไปยังเดริชา เตกิตตัน】
“เอ่อ... เจ้าเอาจริงเหรอ? การเป็นเพื่อนร่วมทีมหมายถึงการเชื่อใจซึ่งกันและกันและ -”
“ในสถานการณ์เช่นนี้ ข้าต้องเชื่อใจเจ้า โปรดเก็บยาและทุกอย่างที่เจ้ารู้เกี่ยวกับข้าไว้เป็นความลับด้วย”
"...ข้าเข้าใจแล้ว... พูดตามตรง นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ข้าเข้าร่วมปาร์ตี้"
【เดริชา เตกิตตันได้เข้าร่วมปาร์ตี้ของท่านแล้ว】
【รางวัลปาร์ตี้สมาชิกห้าคน: ค่าประสบการณ์ที่ได้รับเพิ่มขึ้น 5%】
บางทีเกรซและคนอื่นๆ อาจกำลังวุ่นวายอยู่ตอนนี้
ข้าเปิดกระเป๋าเก็บของทันที
มันมีหอกวางไว้อยู่ช่องหน้า
เกือบครึ่งปีที่ผ่านมาด้วยความเบื่อหน่าย ข้าจึงสร้างหอกโดยใช้วัสดุขั้นสูงต่างๆ ซึ่งกลายเป็นว่ามันไม่มีประโยชน์สำหรับข้าเลย
【ต้นแบบหอกต่อต้านเมล่อน 1.0】
มันถูกหลอมโดยใช้ "เหล็กโอริคัลคุม" ซึ่งเป็นโลหะที่แข็งที่สุดที่ไม่สามารถประมวลผลด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันของโลกนี้ รวมกับวัสดุโลหะผสมต่างๆ
นอกจากนี้ยังมี "ไม้นางไม้โบราณ" ทำให้การใช้หอกนี้ผู้ใช้จะสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตของพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งพอมันรวมกับ "เกล็ดมังกรปฐพีย้อนกลับ" ซึ่งเพิ่มขีดความสามารถเวทย์มนตร์ของอาวุธอย่างมากแล้ว มันก็ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าสู่สถานะทลายขีดจำกัดที่เรียกว่า "วิญญาณมังกรครอบครอง" ได้อีก
องค์ประกอบโลหะผสมของหอกยังรวมถึงผงมิธริลที่ช่วยเพิ่มการนำเวทมนตร์ของหอกอย่างมาก
ในขณะเดียวกัน มันก็มีกลไกด้านบนที่ใช้วิธีการเฉพาะในการผสมเวทมนตร์หอกนี้ โดยสามารถเปลี่ยนเป็นใบมีดยาวและทำให้เกิดไฟฟ้าช็อตที่ทรงพลังได้
ยังไม่นับรวมเอนชานท์ 【แหลมคม IV】 ซึ่งเพิ่มพลังโจมตีระยะประชิดอย่างมาก 【ไฟพิฆาต II】 ที่จะทำให้เป้าหมายที่ถูกโจมตีติดไฟ 【กระเด็น I】 ที่จะกระแทกเป้าหมายกระเด็นและ 【ทนทาน】 ที่จะช่วยให้หอกซ่อมแซมตัวเองได้ หากมันเสียหาย
เดิมทีมันถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นหนึ่งในอาวุธต่อต้านเมล่อน
“ข้าจำได้ว่าเคยบอกเจ้าว่าข้าจะไม่ทำอาวุธให้เจ้าใช่ไหม?”
"ใช่ อืม น่าเสียดายมาก..."
“ก็เพราะมันถูกสร้างขึ้นมาแล้ว” เมื่อพูดเช่นนั้น ข้าก็หยิบต้นแบบ【หอกต่อต้านเมล่อน 1.0 】ออกมา
หอกเล่มนี้มีลักษณะคล้ายง้าวที่มีสายน้ำวิเศษสีทองพันรอบ ข้าดึงมันออกมาและวางไว้ในมือของเดริชา
เดริชาเบิกตากว้างขณะมองไปที่หอก "มันน่าทึ่งมาก... เจ้าสิ่งนี้มัน..." นางเหวี่ยงมันสองสามครั้งและมีสีหน้าประหลาดใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง
“มันเป็นของเจ้าแล้ว” ข้าพูด
"หา!? เจ้าให้ของแบบนี้แก่ข้าจริงๆ เหรอ? ถ้าเช่นนั้นพอข้ากลับไปที่เมืองหลวง ข้าจะประเมินมูลค่ามันและหยิบยืมเงินจากราชวงศ์คืนให้เจ้าเอง... "
“ไม่ต้องทำเช่นนั้นหรอก แม้ว่าเจ้าจะขายทั้งประเทศ เจ้าก็คงจะไม่สามารถจ่ายได้ ดังนั้นข้าจึงให้มันกับเจ้า ผู้เป็นคนที่จะสามารถใช้อาวุธนี้ได้จริงๆ”
ข้าอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับหอกให้เดริชาฟัง ซึ่งพอได้ยินความสามารถ นางก็ประหลาดใจในทันที
“เหล็กโอริคัลคุม... ไม้นางไม้พันปี...”
"ถ้าอย่างนั้น เราก็มาเตรียมตัวกันเถอะ"
ข้าเปิดกระเป๋าเก็บของและหยิบ [ถุงเก็บของ] ออกมา เพราะว่ากระเป๋าเก็บของที่ข้ามีนั่นมีช่องอยู่อย่างจำกัด
ถ้าข้าใส่ [ถุงเก็บของ] เข้าไปข้างในแล้วใส่ [ถุงเก็บของ] เข้าไปอีกในถุงแรก...
ใช่แล้ว มันคือพื้นที่อนันต์ไร้ที่สิ้นสุด เหมือนกับกระเป๋ามิติในนวนิยายยังไงล่ะ
ภายใน [ถุงเก็บของ] มีสิ่งของบางอย่างสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นอาหาร น้ำและอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งตอนนี้มันมีประโยชน์กับข้ามากจริงๆ