เล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 3 บทที่ 6: โจมตี
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
เล่มที่ 3 บทที่ 6: โจมตี
(เดริชา)
เมื่อเร็วๆ นี้ ข้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับอาวุธอีกต่อไป เพราะตอนนี้ข้าไม่มีปัญหาเรื่องการเงินแล้ว
มีเด็กหนุ่มอายุ 15 ปีคนหนึ่งเปิดร้านอาหารชื่อ 【บ้านสุนัข】 หรือที่รู้จักกันในชื่อร้านอาหารของผู้กล้า
แม้ว่าเขาจะอายุเพียง 15 ปี แต่ข้าได้ยินมาว่าเขาค่อนข้างมีฝีมือในหลายๆ อย่าง
หลังจากทำความรู้จักกับเจ้าของร้าน ข้าก็พบว่าการบริหารร้านอาหารเป็นเพียงงานอดิเรกสำหรับเขา นั่นคือสิ่งที่เขาบอกข้ามา
เขาไม่เพียงแต่มีทักษะการทำอาหารที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังเก่งกาจในด้านช่างฝีมืออีกด้วย
ข้าใช้【หอกเขี้ยวทมิฬ】ที่เขาสร้างขึ้นให้ข้าในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวหอกไม่ได้มีอาการแตกหักหรือสลายเลย
นี่เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมนัก ตามปกติ หอกนี้คงจะได้รับความเสียหายอย่างมากภายในสองหรือสามวัน
เมื่อข้านำไปให้ช่างฝีมือต่างๆ เพื่อประเมินความเสียหายหลังจากใช้งานต่อเนื่อง 3 วัน พวกเขาทั้งหมดล้วนแนะนำให้ข้าซื้อใหม่แทนที่จะซ่อมแซม
อย่างไรก็ตาม เด็กหนุ่มคนนี้ที่มีนามว่าวอลสัน เขาได้ซ่อมแซมมันอย่างสบายๆ โดยไม่เรียกค่าซ่อมเลย
การซ่อมแซมก็รวดเร็วเป็นพิเศษเช่นกัน เมื่ออาบน้ำเสร็จ อาวุธก็กลับคืนสู่สภาพใหม่แล้ว
ตอนนี้ข้าคุ้นเคยกับการมอบความไว้วางใจในการซ่อมแซมอาวุธให้กับเขา แม้ว่าข้าจะรู้สึกไม่ดีที่ใช้บริการของเขาโดยไม่จ่ายเงิน แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจเลย
เขาบอกว่าการซ่อมแซมอาวุธของข้าก็เหมือนกับสิ่งที่ทำฆ่าเวลา มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาสักนิดเดียว
นอกจากนี้ เขายังชอบชงแอลกอฮอล์ที่อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ
ตอนนี้ข้าเต็มใจที่จะใช้เงินสองเหรียญทุกเย็นเพื่อซื้อเบียร์หนึ่งถังของเขา
ในอดีต ข้าคงไม่สามารถใช้เงินแบบนี้ได้ แต่ตอนนี้ข้าไม่จำเป็นต้องรวบรวมค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอาวุธของข้าอีกต่อไป ในที่สุดข้าก็รู้สึกถึงการเป็น "นักผจญภัยระดับ S ที่ร่ำรวย" เสียที
ตั้งแต่ข้าพักใน【บ้านสุนัข】ข้าก็ไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องพักในโรงแรมอีกต่อไป เมื่อข้าพักที่นี่แล้ว ข้าก็ไม่อยากไปที่อื่นเลย
มีสถานที่ที่ข้าสามารถอาบน้ำที่เรียกว่า "ห้องน้ำ" ซึ่งแตกต่างจากห้องอาบน้ำสาธารณะที่ข้าคุ้นเคยมาก
แม้ว่าจะเป็นห้องน้ำขนาดเล็ก แต่ก็มีระบบน้ำร้อนเป็นของตัวเองและโครงสร้างของมันไม่เหมือนใครเลย แตกต่างจากสิ่งที่ข้าเคยเห็นมาก่อนแทบทุกอย่าง
พื้นที่นอนประกอบด้วยโซฟานุ่มและผ้าห่มอุ่นๆ
ก่อนนอนข้าสามารถเพลิดเพลินกับไวน์อุ่นได้ด้วย ในช่วงเวลาที่ฤดูหนาวมาถึง ความหรูหราเช่นนี้ก็เปรียบได้กับความสะดวกสบายในพระราชวัง
นอกจากนี้แล้ว ข้าสามารถอนุมานได้เลยว่าเป็นวอลสันนี้แหละที่เป็นคนนำยาและสิ่งของมากมายมาช่วยผู้อื่น
ทว่าเพราะข้าไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปบนชั้นสอง ข้าจึงไม่สามารถรู้ได้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่
ข้าดีใจที่ได้พักที่นี่โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายและข้าก็ไม่ต้องการทำอะไรที่อาจทำลายความไว้วางใจของวอลสันด้วย
แถมข้ายังได้เห็นเหล่าผู้กล้ามายังที่แห่งนี้บ่อยครั้ง
มีเมล่อนที่【นักสู้】ผู้แสนยอดเยี่ยม เกรซ นักเวทธาตุและออเรเวีย นักธนูเอลฟ์ที่วอลสันมักจะเรียกนางว่า "บาเรลล่า"
แต่สิ่งที่ทำให้ข้าประหลาดใจมากที่สุดคือความสัมพันธ์ระหว่างผู้กล้าเหล่านี้กับวอลสัน
ผู้กล้าทุกคนนี้ล้วนเคารพวอลสันอย่างสุดซึ้ง... ไม่สิ ให้พูดเช่นนั้นก็ไม่ถูกเสียทีเดียว
มันราวกับว่าพวกนางทุกคน...เคารพจนสามารถคุกเข่าให้เขาได้เลย
ผู้กล้านี้มีศูนย์กลางอยู่ที่วอลสัน ยอมจำนนและเชื่อใจเขาอย่างแท้จริง
ถ้าวอลสันเป็นศัตรูกับเมืองเตกิตตันล่ะก็... ข้านึกไม่ออกเลยว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร
โชคดีที่เจ้าหมอนี้ขี้เกียจ แต่ก็ใจดี
ข้าไม่เคยเห็นตัวผู้กล้าสวมหน้ากาก แต่อิงจากสรีระร่างกายแล้ว... ข้าคิดว่าคงเป็นวอลสัน เพราะมันตรงกับเขามาก
ถึงแม้การอนุมานนี้ยังห่างไกลจากสามัญสำนึก แต่มันก็สมเหตุสมผลที่สุดแล้ว
ไม่น่าเชื่อเลยว่าผู้กล้าคนนี้จะมีอายุเพียงสิบห้าปีหรือเป็นเพียง【สามัญชน】เท่าน้น
เมื่อพี่สาวของข้า ซึ่งตอนนี้เป็นองค์หญิงรัชทายาท นางยังเป็นเด็กที่ไม่ค่อยสนใจอะไรและประดับศีรษะด้วยมงกุฎดอกไม้อยู่เลย
ข้าเองก็ไม่ค่อยต่างกันมากนัก
...ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงสนใจเขามาก
“พูดมาสิว่าทำไมเจ้าถึงชวนข้ามาด้วย?” ตอนนี้ข้ากำลังเดินอยู่บนถนนตลาดกับวอลสัน
“เป็นเพราะข้าอยากจะขอให้ช่วยประเมินคุณภาพของโลหะให้ที ข้ากำลังอยากจะสร้างอาวุธน่ะ” แม้จะพูดออกไปเช่นนี้ แต่อันที่จริงข้ามีแผนอื่นอยู่ในใจแล้ว
“ประเมินโลหะเหรอ? เจ้าแน่ใจได้ยังไงว่าข้าจะทำได้?”
"ฮ่าฮ่า ลางสังหรณ์ของข้ามันบอก"
“เข้าใจแล้ว แต่ก่อนอื่นข้าจะไม่ทำอาวุธให้เจ้านะ” ให้ตายเถอะ ดูเหมือนว่าเขาจะมองความตั้งใจของข้าออกสินะ
หากเป็นช่างฝีมือที่มีฝีมือเช่นเขาที่มีความเป็นเลิศในการซ่อมแซมอุปกรณ์ สิ่งที่เขาผลิตขึ้นมาคงจะยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัย
ถ้าหากข้าจะได้อาวุธที่ไม่มีวันเสียหาย บางทีคงมีเพียงวอลสันกระมังที่ทำมันขึ้นมาได้...
“เอ๊? ถึงข้าจะจ่ายก็ไม่เหรอ?”
“...ใช่ แม้ว่าจ่ายก็ตาม อันที่จริงข้ามีเหตุผลอยู่ แต่ช่างเถอะ ข้าจะไม่สร้างอาวุธให้เจ้า”
"แย่ชะมัด... บ้าจริง ข้าจะไม่ยอมแพ้หรอกนะ ตอนนี้เรามาเลือกโลหะกันต่อเถอะ"
เงินอาจไม่สามารถล่อลวงเขาได้
จากข้อมูลที่ข้าได้ยินมา เจ้าหมอนี้ดูจะทำธุรกิจอะไรหลายอย่าง คงรวยมากเลยสิท่า
...แต่ข้าเคยได้ยินมาว่าเด็กผู้ชายอายุสิบห้าปีมักมีความอ่อนไหวต่อเสน่ห์ของผู้หญิงเป็นพิเศษ ข้าเองก็ค่อนข้างมั่นใจในร่างกายของข้าพอสมควร...
ดูเหมือนว่าข้าจะคิดไปคนละเรื่องเสียแล้วสิ เหตุผลที่ข้าซื้อวัสดุพวกนี้ในวันนี้คือ ข้าต้องรีบทำอาวุธสำรอง
เมื่อคืนก่อนมีข่าวว่าคลังสมบัติถูกปล้นไป เพราะความเสียหายอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้น จึงยังไม่ชัดเจนว่าอะไรถูกขโมยไป
ข้าไปที่เกิดเหตุตั้งแต่เช้าตรู่วันนี้
ทหารหลายคนเสียชีวิตและสภาพการตายของพวกเขาน่ากลัวมาก ที่เกิดเหตุเต็มไปด้วยชุดเกราะและชิ้นส่วนของร่างกายที่แตกหัก ศพทหารไม่มีร่องรอยที่พวกเขาได้ต่อสู้กับผู้โจมตีพวกเขาเลย...
จากสิ่งที่ได้รวบรวมมา ได้ข้อสรุปว่าผู้โจมตีเป็นบุคคลคนเดียวมากกว่าเป็นคนหมู่มาก
เรื่องนี้ยังไม่รั่วไหลสู่สาธารณะ เพราะการเรื่องนี้คงจะทำให้เกิดความตื่นตระหนกอีก
ข้าต้องปกป้องพลเมือง ดังนั้นข้าต้องเตรียมพร้อมทุกเมื่อ
...เจ้าบ้านั่นคงจะคิดแก้แค้นข้าด้วย เพราะข้าบุกเข้าไปในตระกูลของเขาด้วยตัวเองและทั้งยังเป็นผู้ออกคำสั่ง
ไอ้เจ้างั่ง... ข้าไม่ต้องการที่จะยอมรับมันเลย แต่ดูเหมือนว่าด้วยความแค้น มันถึงขั้นสามารถอัญเชิญโกเล็มน้ำมาทำลายเมืองหลวง ใครเป็นคนมอบความสามารถให้มันกัน?
สิ่งใดอยู่เบื้องหลังของพลังทั้งหมดนี้? ข้าตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดในบันทึกของตระกูลเร็กซ์แล้ว ไม่พบเบาะแสที่น่าสงสัยที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้เลย...
อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าข้าก็รู้ว่าข้าไม่จำเป็นต้องค้นหาเจ้าหมอนั่นอีกต่อไป
ฝูงชนในตลาดกำลังวุ่นวายและหนีไปด้วยความหวาดกลัว เพราะมีคนอาละวาดอยู่รอบๆ ตลาด ไม่สิ แทนที่จะบอกว่ามันเป็นคน ต้องบอกว่าเป็นสัตว์ประหลาดต่างหากที่กำลังอาละวาด
ในไม่ช้า ก็มีเพียงวอลสัน ตัวข้าเองและมอนสเตอร์เท่านั้นที่ยังคงอยู่ในตลาด... สิ่งมีชีวิตที่อาละวาดเป็นมอนสเตอร์ที่ถูกเผาไหม้ด้วยเปลวไฟ ซึ่งกำลังปล่อยควันหนาทึบออกมา
ตัวตนที่ก่อเหตุร้ายเมื่อคืนก่อนดูจะมาอยู่ตรงหน้าเราเสียแล้ว
ในตลาดกลางวันแสกๆ มอนสเตอร์ตัวนี้ดูจะเสียสติและคลั่งไปแล้ว ข้าต้องเตรียมพร้อมรับมือเสมอ เพราะไม่รู้เลยว่ามันจะมีอะไรโผล่มาอีก
“...คำสาปเหี่ยวเฉา... พวกทหารกำลังทำอะไรกันอยู่เนี่ย? ทำไมถึงมีอะไรแบบนี้โผล่มาที่นี่กัน?” วอลสันจ้องมองไปที่ร่างข้างหน้า
ทันใดนั้นมอนสเตอร์ก็เข้ามาขวางเส้นทางของเราในตลาดที่มีผู้คนพลุกพล่าน
ในทางกลับกัน ข้าก็กวาด【หอกเขี้ยวทมิฬ】 ในมือของข้า
“กะโหลกศีรษะที่กำลังลุก...ไหม้......ทั้งหมดเป็นเพราะ...เจ้า... ข้าจึงถูก... ทอดทิ้ง... โดย... นายท่าน...” ข้าจำเสียงนั้นได้ มันคือเขา...แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ใช่เขา
เพราะว่า... เจ้าบ้าตระกูลเร็กซ์ที่ข้ารู้จักเป็นมนุษย์ หาใช่อันเดดเช่นนี้ไม่
กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์และฉุนกระตุ้นประสาทสัมผัสของข้า
เสียงนี้ทั้งแปดเปื้อนและวุ่นวาย เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจนัก
เมื่อเงยหน้าขึ้น ข้าก็เห็นใบหน้าของเขา ไม่เพียงแต่ข้าเท่านั้น แต่วอลสันก็ยังอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
ร่างกายของเขากำลังไหม้เหลือเพียงครึ่งหนึ่ง ส่วนใบหน้าเขา...ก็เหลืออีกครึ่งหนึ่ง...เราได้รับการต้อนรับด้วยเบ้าตาที่ว่างเปล่า สิ่งมีชีวิตตนนี้ไม่มีใบหน้า มันเป็นเพียงกะโหลกที่ถูกเผาไหม้ด้วยเปลวไฟ
"เจ็บปวด...มันกำลังเผา... กะโหลกกำลังลุกไหม้... "