บทที่ 9 หนี้
หร่วนหลางมองเธอด้วยความขลาดกลัวแล้วพูดเบาๆ “ไปถ่ายละคร”
“อะไรนะ?” หร่วนหลิวเจิงประหลาดใจมาก นี่มันเร็วเกินไปไหม?
“พี่เขยกลับมาไม่ถึงสองวันผมก็กลับมาแล้ว และไปรายงานตัวและเซ็นสัญญาที่บริษัทจี้ซย่ามีเดีย พอดีว่ามีละครเรื่องหนึ่ง พระรองเกิดอุบัติเหตุถ่ายทำไม่ได้ ผม...ก็เลยรับงาน จากนั้นก็ไปที่กองถ่ายเลย... พี่ พระรองเลยนะ! เล่นครั้งแรกก็รับบทพระรองแล้ว ไม่เลวเลยนะ! แถมผมยังได้ร้องเพลงประกอบด้วย!” ตอนแรกหร่วนหลางยังคงระมัดระวัง แต่เมื่อพูดแล้ว เขาก็ไม่สามารถจะซ่อนความพึงพอใจและภูมิใจไปได้
หร่วนหลิวเจิงมองดูเขาที่กระโดดโลดเต้นแล้วโกรธมาก “นายกลับมาแล้ว ไม่รู้จักมาเยี่ยมพ่อ มัวแต่ไปถ่ายละครอะไรนั่น? ครั้งนี้พ่อป่วยเพราะใคร นายเคยคิดบ้างไหม?”
“ผม...ยังไงผมก็ช่วยอะไรได้ไม่มาก พ่อเจอผมก็มีแต่จะโกรธ...” หร่วนหลางตกใจกับท่าทางที่โกรธจัดของหร่วนหลิวเจิงและอดไม่ได้ที่จะถอยไปสองสามก้าว
“นาย...” หร่วนหลิวเจิงโกรธจนพูดไม่ออกหันไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าออกมา
“พี่ พี่ทำอะไรน่ะ?” หร่วนหลางตื่นตระหนกและคว้าข้อมือเธอไว้
หร่วนหลิวเจิงถือโทรศัพท์ไว้ “โทรศัพท์ของจั่วเฉินอันเบอร์อะไร? ฉันจะโทรไปหาเขา บอกเขาว่าไม่ถ่ายแล้วละคร! สัญญาก็ไม่เซ็นแล้ว!”
“พี่! พี่! อย่านะ!” หร่วนหลางขอร้องเธอ
“จะบอกไม่บอก?” เธอทำใจแข็ง
“ไม่บอก!” หร่วนหลางยังคงยืนยัน “พี่ พี่ไม่มีสิทธิ์จะมาห้ามผมในการทำความฝันให้เป็นจริงนะ!”
“นายมีความสามารถก็ไล่ตามความฝันด้วยตัวเองสิ อย่าใช้เส้นสาย!” เธอสะบัดมือหร่วนหลาง “ดี ไม่บอกใช่ไหม? ฉันจะไปหาซย่าหวั่นลู่เอง!”
“พี่!” หร่วนหลางรีบขวางประตูไว้ “พี่ทำอะไรน่ะ? กลัวว่าผมจะเอาเปรียบพี่เขยเหรอ? ไม่ผิด! พวกพี่หย่ากันแล้ว! นั่นเป็นเรื่องของพี่กับเขา! แล้วมันแสดงให้เห็นถึงอะไร? เกี่ยวอะไรกับผม? พวกพี่หย่ากันแล้วโลกมันหยุดหมุนเหรอ? เขายังคงเป็นพี่สำหรับผม! ผมยังเป็นน้องเขา! พี่รับได้ไหม? พูดไปแล้ว พี่เองก็ไม่อาจไม่รับน้ำใจจากเขาได้! หากไม่ใช่เขา พี่จะสามารถอยู่ในบ้านที่ดีขนาดนี้ได้ไหม? จะมีเงินไปเรียนหนังสือไหม?”
“หร่วนหลาง!” เสียงดุของพ่อและแม่ดังขึ้นพร้อมกัน
หร่วนหลางนิ่งไปและพูดไม่ออกสักคำ
หร่วนหลางเองก็รู้สึกว่าตนเองนั้นพูดแรงเกินไปจึงพูดเสียงอ่อย “พี่ ช่างมันเถอะ ปล่อยมันไปเถอะนะ ปล่อยให้มันเป็นไป ผมเซ็นสัญญาไปแล้ว พี่จะให้ผมยกเลิกสัญญาตอนนี้ก็ต้องจ่ายค่าฉีกสัญญา หักหน้าพี่เขย ประธานจั่วอาจจะไม่ถือสา แต่นี่ไม่เท่ากับเพิ่มปัญหาให้พี่เขยหรอกเหรอ?”
ในหัวของหร่วนหลิวเจิงสับสนไปหมด บทสนทนาเมื่อนานมาแล้วดังขึ้นข้างหูเธอ “หลิวเจิง เธออยากจะเรียนต่อเหรอ?”
“ใช่”
“ไปเถอะ เอาเงินนี่ไป เอาไปใช้ก่อนในช่วงที่ไม่มีงาน”
“ไม่ต้อง”
“หลิวเจิง เรื่องเงินอาจจะดูหยาบคาย แต่มันเป็นสิ่งสุดท้ายที่ฉันสามารถทำได้ เป็นฉันที่ทำให้เธอต้องเลิกเรียนกลางคัน ให้ฉันชดใช้ และฉันจะได้ไม่ติดค้างอะไรเธออีก”
หร่วนหลิวเจิงจำได้ ในวินาทีนั้น น้ำตาของเธอไหล เจ็บปวดราวกับหัวใจของเธอถูกแผดเผา
หร่วนหลางไม่รู้ว่า เธอไม่ได้เอาเงินของเขามาเลยแม้แต่น้อยหลังหย่ากัน หกปีมานี้เธอต้องลำบากมาก
แต่งงานกันสี่ปี สำหรับเขา มีสองคำ ‘ติดหนี้ ใช้คืน’ แต่สำหรับเธอ มีเพียงคำเดียวคือ ‘รัก’
เธอเคยได้รักจริงๆ หากเธอรับเงินของเขา แล้วเธอจะเอาความรู้สึกที่ทุ่มเทไปทั้งหมดไว้ที่ไหน?
“พี่ ผมขอโทษ” หร่วนหลางยื่นมือมา ใช้นิ้วลูบใบหน้าเธอ “อย่าร้องเลยนะ พี่”
เธอร้องไห้? ร้องไห้เหรอ? หรือว่ามันคือเธอเมื่อหกปีก่อนที่ร้องไห้?