ตอนที่แล้วบทที่ 73 กลุ่มราชาหมาป่าสีคราม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 75: ข้อมูลของหนิงเสวี่ย

บทที่ 74 หญิงสาวที่น่ารำคาญ


บทที่ 74 หญิงสาวที่น่ารำคาญ

ในท้ายที่สุด ทีมนักรบรับจ้างสีโลหิตเหล่านี้ ไม่สามารถรอดชีวิตได้เลย

แม้ว่าหัวหน้าทีมจะวิ่งได้เร็วที่สุด แต่ความเร็วของเขา จะเทียบกับราชาหมาป่าสีครามได้อย่างไร?

สิ่งนี้เป็นไปไม่ได้ และหัวหน้าทีมก็ไม่อาจหลีกหนีหายนะนี้ได้

คอของเขา ก็ถูกราชาหมาป่าสีครามกัดขาด!

หลังจากสังหารนักรบรับจ้างเหล่านี้แล้ว หลินเป้ยก็ค้นสิ่งของของศพก่อน แม้ว่าตอนนี้ เขาจะมีเงินหลายแสนเหรียญอยู่แล้วก็ตาม

หลินเป้ยกำลังค้นหาสมบัติ ในขณะที่หนิงเสวี่ยกำลังตกตะลึง

ทีมนักรบรับจ้างสีโลหิตเหล่านี้ พ่ายแพ้เช่นนี้เอง?

นี่ไม่เร็วไปหน่อยเหรอ?

ในเวลาเดียวกัน นางก็สงสัยว่า ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านางเป็นใคร และทำไมเขาถึงควบคุมสัตว์อสูรที่ทรงพลังมากมายได้

หนิงเสวี่ยเห็นราชาหมาป่าสีครามแค่ 6 ตัวเท่านั้น  นางไม่พบราชาหมาป่าสีครามอีก 5 ตัวในความมืด

หนิงเสวี่ยไม่เห็นว่านักรบรับจ้างสีโลหิตที่หลบหนีนั้น ตายได้อย่างไร?

หลินเป้ยไม่ให้นางเห็นว่า หลังจากราชาหมาป่าสีครามทั้ง 5 เสร็จสิ้นการไล่ล่าผู้ที่หลบหนีแล้วแล้ว พวกมันยังคงปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนต่อไป

ซ่อนตัวอยู่ในความมืดและเฝ้าสังเกตสถานการณ์โดยรอบ

หลังจากที่หลินเป้ยค้นซากศพที่อยู่ตรงหน้าเขาเสร็จแล้ว เขาก็ค้นศพของผู้ที่ต้องการหลบหนีต่อทันที

โดยปกติแล้ว เขายังสัมผัสศพของหัวหน้าทีมก่อน ผู้ที่สามารถเป็นหัวหน้าทีมได้ ต้องมีสมบัติมากที่สุด

หนิงเสวี่ยเฝ้าดูหลินเป้ยจากไป และนางก็เดินตาม

“เฮ้ นี่ไม่ใช่นักรบรับจ้างที่หนีไปเมื่อกี้เหรอ ทำไมเขาถึงมาตายที่นี่?” หนิงเสวี่ยถาม

หลินเป้ยไม่ตอบนาง และค้นหาต่อไป

เขาพบสิ่งของมีค่ามากมาย หลินเป้ยจึงเก็บทั้งหมดไว้ในพื้นที่จัดเก็บ

ตอนนี้พื้นที่จัดเก็บของหลินเป้ยได้รับการอัปเกรดแล้ว ตอนนี้กลายเป็นพื้นที่ทรงลูกบาศก์ที่มีความยาว ความกว้าง และความสูง 5 เมตร

พื้นที่จัดเก็บมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก!

หนิงเสวี่ยไม่สนใจที่จะค้นศพ นางกลับรู้สึกรังเกียจเล็กน้อย

มันเป็นสมบัติของคนตาย มันทำให้รู้สึกโชคร้ายเล็กน้อย ดังนั้นนางจึงไม่อยากได้สิ่งเหล่านี้

นางพบว่า นักรบรับจ้างที่คิดว่าพวกเขาหนีไปได้ ตอนนี้ตายหมดแล้ว

"เอาล่ะ ทุกอย่างปลอดภัย เจ้าไปได้แล้ว" หลังจากค้นสมบัติเสร็จ หลินเป้ยก็หันไปพูดกับหนิงเสวี่ย

ครั้งนี้หลินเป้ยได้รับค่อนข้างมาก ยกเว้นสมุนไพรเพียงชิ้นเดียว

เขาพบเงินมากกว่า 50,000 ตำลึง และของมีค่าบางอย่าง เขาคาดว่า จะได้เงินหลายหมื่นตำลึงหลังจากที่ขายมัน

แม้ว่าเงินหลายหมื่นตำลึง จะไม่ใช่เงินจำนวนมากสำหรับหลินเป้ย แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

นอกจากนี้ หลินเป้ยกำลังเลี้ยงสัตว์อสูรหลายร้อยตัว

ทรัพยากรที่เขาต้องใช้ทุกวันมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก และหลินเป้ยก็รู้สึกกดดันอย่างมากเช่นกัน

แม้ว่าระดับของสัตว์อสูรที่สูงขึ้น มันสามารถกินได้น้อยลงและไม่อดตาย

แต่สิ่งนี้จะส่งผลต่อความเร็วในการฝึกฝนของสัตว์อสูร ซึ่งหลินเป้ยไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น

ดังนั้น หลินเป้ยจะต้องจัดหาอาหารให้เพียงพอ สำหรับสัตว์อสูร

หลังจากที่สัตว์อสูรก้าวไปสู่ระดับ 4 แล้ว การพึ่งพาอาหารก็ไม่รุนแรงมากนัก และมันสามารถอยู่ได้โดยไม่มีอาหารถึงสองเดือน

เช่นเดียวกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ เมื่อพวกเขาก้าวไปสู่ขอบเขตมหาปรมาจารย์นักรบ(หวู่ซ่ง) พวกเขาจะไม่ตายหากไม่กินเป็นเวลาสองเดือน

ในเวลานั้น ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเข้าใกล้พีกู๋อย่างเห็นได้ชัด

(พีกู๋ Bigu (辟谷) การงดเว้นธัญพืชทั้ง 5 สภาวะอยู่ได้ โดยไม่ต้องกินอาหาร)

แน่นอน ถ้าเจ้าต้องการอยู่ในสภาพที่ดีขึ้น ควรกินเป็นประจำ

นี่เป็นความช่วยเหลือที่ดีในการบ่มเพาะ  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อรับประทานอาหารจากสมุนไพรธรรมชาติกรือสมบัติทางโลก

มันจะช่วยอย่างมาก ในการพัฒนาความแข็งแกร่ง!

ดังนั้นแม้ว่าในอนาคต สัตว์เลี้ยงจิตวิญญาณจะไปถึงสถานะพีกู๋  หลินเป้ยก็จะไม่ตัดเสบียงอาหารของพวกมัน

หลินเป้ยหวังว่า สัตว์เลี้ยงจิตวิญญาณทั้งหมด จะอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด เพื่อให้พวกมันสามารถใช้ประสิทธิภาพการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดได้

“ฮึ่ม เจ้าเอาเปรียบข้า แล้วอยากจะไปจากข้าตอนนี้เหรอ ไม่มีทาง!” หนิงเสวี่ยพูดด้วยความโกรธ

ไม่ใช่ว่าหนิงเสวี่ยขอให้หลินเป้ยรับผิดชอบ แต่นางไม่รู้หนทางและการเดินเตร็ดเตร่ในภูเขาเทียนหยาง นั้นอันตราย

จะทำอย่างไร ถ้าข้าพบกับสัตว์อสูรที่ทรงพลัง?

ข้าควรทำอย่างไรหากพบใครบางคนจาก กลุ่มนักรบรับจ้างสีโลหิตอีก?

คราวนี้ อาจจะไม่โชคดีเหมือนที่เจอหลินเป้ย!

ดังนั้น สิ่งที่หนิงเสวี่ยต้องทำตอนนี้คือ ติดตามหลินเป้ย

แน่นอนว่าการมีสัตว์อสูรระดับ 3 หกตัวอยู่ข้างๆ จะปลอดภัยกว่ามาก

“สิ่งที่ข้าจะทำมันอันตรายมาก เจ้าไม่เหมาะที่จะติดตาม นอกจากนี้ ข้ามีศัตรูมากมาย และกลุ่มนักรบรับจ้างสีโลหิตก็เป็นเพียงหนึ่งในนั้น มีคนอื่นๆ ที่ต้องการสังหารข้า ในหมู่พวกเขามีปรมาจารย์นักรบที่แข็งแกร่งอยู่ด้วย!”หลินเป้ยอธิบาย

หลินเป้ยไม่สะดวก ที่จะล่าสัตว์อสูรระดับ 4 กับหนิงเสวี่ย

เหตุผลหลักคือ หลินเป้ยและหนิงเสวี่ยไม่คุ้นเคยกัน

เมื่อต้องรับมือกับสัตว์อสูรระดับ 4 หลินเป้ยจำเป็นต้องเปิดเผยไพ่ตายจำนวนมาก

เขาไม่ต้องการให้ความลับมากมาย ถูกเปิดเผยกับบุคคลภายนอก!

หนิงเสวี่ยเป็นนักรบแท้จริงขั้น 3  ดังนั้นนางจึงช่วยเขาไม่ได้ มีแต่จะฉุดเขาลง

ดังนั้น หลินเป้ยจึงไม่ต้องการเดินทางร่วมกับหนิงเสวี่ย

เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู หลินเป้ยยังต้องมีสมาธิเพื่อปกป้องนาง ซึ่งไม่มีประโยชน์

ดังนั้นหลินเป้ยจึงปฏิเสธ

"ทำไมเจ้ายั่วยุศัตรูมากมายขนาดนี้ แต่ข้าไม่สนใจ ที่นี่มันอันตรายมาก และข้าเป็นหญิงสาวตัวเล็กๆ  เว้นแต่เจ้าจะส่งข้าออกจากเทือกเขาเทียนหยาง แล้วข้าจะไม่รบกวนเจ้า” หนิงเสวี่ยกล่าว

“ทำไมเจ้าน่ารำคาญจัง ได้! เจ้าอยากตามไปก็ได้ ถ้ามีอัตรายเกิดขึ้น ข้าจะไม่ดูแลเจ้า ตอนนี้ ข้าจะไปล่าสัตว์อสูรระดับ 4 และมีคนกลุ่มหนึ่งไล่ตามสังหารข้า รวมถึงกลุ่มนักรบรับจ้างสีโลหิตด้วย ถ้าเจ้าไม่กลัว ก็ตามข้ามาละกัน!”หลินเป้ยขมวดคิ้วและพูดด้วยความหงุดหงิด

แม้ว่าหนิงเสวี่ยจะหน้าตาดีมาก นางเทียบได้กับหลินหลิงเอ๋อเลย

แต่หลินเป้ยไม่ได้มาที่นี่เพื่อจีบสาว ดังนั้นเขาจึงเฉยเมยกับนาง

หลินเป้ยก็ทำอะไรไม่ถูก ถ้าเขารู้มาก่อน เขาจะไม่ช่วยนางเลย

ถ้าหลินเป้ยต้องการส่งหนิงเสวี่ยออกจากภูเขาเทียนหยาง จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งวัน

ส่งนางออกไปก็มืดค่ำพอดี แล้วข้าต้องรอถึงวันรุ่งขึ้นจึงจะเข้ามาใหม่ได้

มันเสียเวลาเกินไป!

หลินหลิงเอ๋อยังคงรอให้เขานำหัวใจของสัตว์อสูรระดับ 4   กลับไปเพื่อช่วยชีวิตนาง

ตอนนี้เขาไม่พบมันเลย แล้วใครจะมีเวลาส่งหนิงเสวี่ยออกไป?

“หือ? เจ้ากล้าดียังไงไปยุ่งกับสัตว์อสูรระดับ 4 ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า? นี่ไม่ใช่การแส่หาความตายหรอกหรือ?”หนิงเสวี่ยพูดด้วยใบหน้าที่ประหลาดใจเมื่อนางได้ยินคำพูดนั้น

ถึงหลินเป้ยจะมีราชาหมาป่าสีคราม 6 ตัว  แต่สัตว์อสูรระดับ 4 นั้นดุร้ายมาก

หลินเป้ยจะนำสัตว์เลี้ยงจิตวิญญาณเหล่านี้ ไปสังหารสัตว์อสูรลำดับ 4?

"ข้าต้องการหัวใจของสัตว์อสูรระดีบ 4 เพื่อช่วยน้องสาวของข้า แม้ว่าจะมีอันตราย ข้าต้องไป"หลินเป้ยกล่าวอย่างหนักแน่น

หลินหลิงเอ๋อมีความสำคัญต่อเขามาก และหลินเป้ยไม่อนุญาตให้นางเป็นอะไร!

หนิงเสวี่ยได้ยินว่าหลินเป้ยเข้ามาเพื่อล่าสัตว์อสูรเพื่อช่วยน้องสาว  และทันใดนั้น นางก็เปลี่ยนมุมมองของนางที่มีต่อหลินเป้ย

ทั้งๆที่รู้ว่ามันอันตรายมาก เขาก็ยังทำ

เช่นเดียวกับนาง ที่คราวนี้นางจากมา เพื่อตระกูลของนางเอง!

ญาติคนหนึ่งถูกวางยาพิษ และนักปรุงยาหลายคนในเมืองหลวงก็ทำอะไรไม่ได้ เขาแทบเอาชีวิตไม่รอด

หนิงเสวี่ยจึงแอบหนีออกมา พยายามหาสมุนไพรในตำนาน เพื่อล้างพิษญาติของนาง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด