ตอนที่แล้วบทที่ 5 พี่เขย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 7 นิ่ง

บทที่ 6 ความรับผิดชอบ


เมื่อฟังถึงตรงนี้หร่วนหลิวเจิงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ไม่เพียงแต่เพราะน้องชายจะทำให้ต้องปวดหัวแบบนี้ แต่ยังเป็นเพราะนิสัยเสียที่พอมีเรื่องก็ไปหาเขา

เผยซู่เฟินรู้ว่าเธอคิดอะไรจึงรีบพูดขึ้น “ลูกก็รู้ หร่วนหลางสนิทกับจื้อเชียน หลายปีมานี้แม้แต่ประชุมผู้ปกครองก็เรียกให้จื้อเชียนไป ทำเรื่องฝ่าฝืนกฎระเบียบโรงเรียนก็ให้จื้อเชียนไปตลอด...”

หร่วนหลิวเจิงลูบคิ้วด้วยความปวดหัว “ช่างเถอะค่ะ อย่าพูดถึงเรื่องพวกนี้เลย คุยเรื่องงานเถอะค่ะ”

กลับมายังไม่ทันไรก็ได้ยินแต่ชื่อจื้อเชียนเต็มไปหมด เกินพอแล้วจริงๆ...

“จื้อเชียนปิดพวกเราแล้วแอบไปจัดการเรื่องของหร่วนหลาง ค่ารักษาก็จ่ายไป...ตั้งหลายหมื่น...” เผยซู่เฟินมองหร่วนหลิวเจิงด้วยความรู้สึกผิด เมื่อเห็นเธอไม่มีปฏิกิริยาจึงได้พูดต่อ “เดิมทีเราเองก็ไม่รู้ ต่อมาทางโรงเรียนแจ้งเราโดยตรง จากนั้นพ่อของลูกก็โกรธจนอาการกำเริบ...”

ที่แท้พ่อก็อาการกำเริบเพราะเรื่องนี้เอง! เธอสงสัยมาตลอดว่าทำไมจู่ๆ ถึงอาการกำเริบ!?

“เงินเขาก็เป็นคนออกเหรอคะ?” หร่วนหลิวเจิงถามด้วยใบหน้าบึ้งตึง

“ใช่...” เผยซู่เฟินไร้ซึ่งความมั่นใจต่อหน้าลูกสาวและรีบพูดต่อ “ต่อมาพ่อของลูกก็ป่วยไม่ใช่เหรอ? ก็เลยไม่สามารถดูแลเรื่องนี้ได้...”

หร่วนหลิวเจิงไม่ได้คิดจะกล่าวโทษพ่อของเธอ เพียงถามให้กระจ่าง เธอเองก็คิดมาอย่างถี่ถ้วน และรู้ว่าควรทำอย่างไร

“แล้วเรื่องงานล่ะเกิดอะไรขึ้น?” เธอถามขึ้นอีก

“น้องชายลูกเรียนดนตรีใช่ไหมล่ะ? เขาอยากจะร้องเพลง อยากเป็นนักร้อง นักแสดง ต่อมาจื้อเชียนก็เลยแนะนำให้เขาเข้าไปทำงานบริษัทของเพื่อน...”

“หนูเข้าใจแล้ว” เธอรู้ว่าบริษัทของเพื่อนเขาก็คือบริษัทจี้ซย่ามีเดียนั่นแหละ หกปีก่อนก็เป็นบริษัทชั้นนำแล้ว หึ จั่วเฉินอันเป็นพี่น้องร่วมเป็นร่วมตายกับเขา การแนะนำให้เขาเข้าบริษัทเรียกว่าอาศัยบารมีกันชัดๆ

เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร รู้เพียงว่าไร้เรี่ยวแรงราวกับการหลบหนีเมื่อหกปีก่อนนั้นไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง ทั้งหมดย้อนกลับไปที่จุดเดิม เธอทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อขีดเส้นแบ่งกับเขาให้ชัดเจน ไม่ว่าจะด้วยความสัมพันธ์ใด ครอบครัวของเธอก็สนิทสนมกับเขามากขึ้นไปอีก...

ความรู้สึกนี้ช่างน่าอึดอัด เหมือนมีภูเขาลูกใหญ่กดทับหน้าอก ไม่อาจทนรับไหวและหายใจไม่ทั่วท้อง

สิ่งที่ยากที่สุดบนโลกนี้คือหนี้บุญคุณคน แล้วเธอในตอนนี้จะทดแทนได้อย่างไร? คงจะไม่สามารถยัดเยียดตัวเองเข้าไปอีก?

เธอไม่พูดอะไร เผยซู่เฟินก็รู้สึกกดดันมาก เธอรู้ว่าลูกสาวไม่ชอบที่จะต้องเกี่ยวข้องกับจื้อเชียนมากไปอีก แต่ทั้งหมดก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เธอคาดไว้

“เจิงเอ๋อร์” หร่วนเจี้ยนจงที่นอนอยู่บนเตียงพูดขึ้น “เงินนั่น ยังไงเราก็ต้องคืนจื้อเชียน เรื่องงานเป็นน้องชายของลูกเองที่ขอร้องจื้อเชียน ถ้าหากลูกไม่ชอบใจก็ไม่ต้องให้เขาไปก็พอ ความสัมพันธ์ในตอนนี้ จะเพิ่มภาระให้จื้อเชียนอีกแล้วไม่ได้จริงๆ”

“พ่อคะ แน่นอนค่ะ เงินหนูจะคืน เรื่องของหร่วนหลาง เอาไว้เขากลับมาค่อยคุย พ่อไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องพวกนี้ ยังไงซะ ตอนนี้หนูกลับมาแล้ว มีหนูอยู่” เธอนั่งลงข้างหร่วนเจี้ยนจงและปลอบใจอย่างนุ่มนวล

เธอไม่สามารถเอาแต่กล่าวโทษครอบครัวโดยเฉพาะพ่อและแม่ การแต่งงานที่ล้มเหลวเป็นเธอที่ผิดพลาดเอง เพราะเธอ พ่อแม่จึงต้องเจ็บปวดใจ ห่างหายไปหกปี ไม่ได้ดูแลพ่อแม่ยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิด ดังนั้นในเมื่อมันคือความรับผิดชอบของเธอ เธอก็ควรจะรับหน้าที่นี้เอง

ทันใดนั้นก็สังเกตเห็นกระเป๋าที่เธอวางไว้ที่หัวเตียงตั้งแต่มาถึง เห็นชัดๆ ว่าเป็นกระเป๋าวัยรุ่น ถ้าเช่นนั้นเมื่อสักครู่ที่เขามาก็เห็นแล้วใช่ไหม? คนที่ละเอียดรอบคอบเช่นเขาจะไม่สังเกตเห็นเลยเหรอ? จะเดาได้ไหมว่าเธอกลับมาแล้ว?

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด