ตอนที่แล้วบทที่ 4 ผักเพื่อนรัก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 6 ฝนตกหนัก

บทที่ 5 ลายมือเป็นดั่งตัวผู้เขียน


เมื่อได้ยินฝ่ายตรงข้ามขานชื่อตนเอง เสิ่นเยว่ก็ก้าวไปข้างหน้า “ข้าน้อยน้อมพบท่านอ๋องผิงหย่วน”

เสิ่นเยว่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ

ครั้งแรกที่มาถึงเมืองหลวง ท่านลุงเคยบอกนาง เมืองหลวงไม่สู้จิ้นโจว ใต้ฟ้านี้มีทายาทสูงศักดิ์มากมาย ทายาทตระกูลสูงศักดิ์เหล่านี้มีเบื้องลึกเบื้องหลังต่างกัน มีทั้งดีทั้งร้ายและสิ่งต้องห้าม ภายภาคหน้าหากได้พบ เลี่ยงได้ควรเลี่ยง หากเลี่ยงไม่ได้ให้ระมัดระวังและนอบน้อมให้มาก

เหลียงเย่ทำให้คุณชายรองจวนเวยเต๋อโหวไม่พอใจ ทำให้ต้องโดนกล่าวโทษโดยไร้เหตุผล ส่วนจวนอ๋องผิงหย่วน ในเมืองหลวงมีแต่จะเจริญรุ่งเรืองมากกว่าจวนเวยเต๋อโหว

นางติดตามท่านลุงเข้าเมืองหลวงมาสองปี เหตุเกิดเพราะท่านลุงฮั่วจึงมักจะได้ยินคำว่า ‘อ๋องผิงหย่วน’ สามคำนี้ และได้ยินมาว่าคนในจวนอ๋องผิงหย่วนเสียชีวิตในสนามรบทั้งหมด เหลือเพียงอ๋องผิงหย่วนคนเดียว นางเข้าใจมาโดยตลอดว่าอ๋องผิงหย่วนอายุใกล้สามสิบแล้ว ถึงได้สามารถควบคุมจวนอ๋องได้ แต่เสียงเมื่อครู่กลับดูห่างไกลจากช่วงอายุนี้มาก...

เสิ่นเยว่รู้สึกประหลาดใจ แต่กลับไม่ได้เงยหน้าขึ้น

จัวหย่วนก็คล้ายกับกำลังสืบเสาะ มองดูนางอยู่นาน

แต่นางก้มหน้าอยู่ เขามองเห็นใบหน้านางไม่ชัด เช่นเมื่อครู่ที่สวนเถาฮวา เขาเพียงยืนอยู่บนบันได มองนางกับเถาเถาจากที่ไกลๆ ได้ยินเสียงทั้งสองสนทนากัน แต่มองเห็นหน้าตานางไม่ชัด มีเพียงพวงแก้มสองข้างใต้แสงแดดแวววาว เกิดเป็นภาพเค้าโครงที่ดูสะอาดตา รวมถึงน้ำเสียงดูอบอุ่นทั้งยังมีความอดทนที่ดังอยู่ในห้อง คล้ายกับแสดงถึงความนิ่งสงบ อบอุ่น และน่าเชื่อถือ

ก่อนหน้าเขายังรู้สึกว่าลุงเถาทำไม่เหมาะสม แต่ตอนนี้กลับรู้สึกได้โดยสัญชาตญาณว่า การปฏิบัติต่อเด็กของเสิ่นเยว่ มีสิ่งที่โมโม่เหล่านั้นไม่มี

ดังนั้นในตอนที่เสี่ยวจิ่วอยู่กับนางจึงไม่เพียงไม่ร้องไห้ แต่ยังหัวเราะ เชื่อฟัง แม้แต่การงอแงมากที่สุดเวลานอนกลางวันก็ยังสงบ คงเป็นเพราะในใจรู้สึกสงบ

จัวหย่วนละสายตา แล้วโบกมือไปทางเถาตงโจวเล็กน้อย

เถาตงโจวถอยออกไปอย่างรู้งาน

ในโถงข้างเหลือเพียงเขากับเสิ่นเยว่สองคน

“ได้ยินลุงเถาเล่าว่า เจ้าคือหลานสาวของเพื่อนร่วมโรงเรียนท่านลุงฮั่ว ลุงของเจ้าทำงานอะไร?” จัวหย่วนเอ่ยเสียงเรียบ

เสียงของเขาน่าฟังมาก มีทั้งเสียงทุ้มต่ำที่ทำให้คนต้องหยุดฟังเพราะความน่าเชื่อถือ มีทั้งเสียงสดใสเฉกเช่นฤดูใบไม้ผลิ ยากที่ทั้งสองอย่างจะรวมอยู่ในตัวคนคนเดียวได้ แต่เสียงของคนตรงหน้ากลับทำได้ คล้ายหยกเนื้ออ่อน ดูธรรมดาไปบ้างแต่กลับไม่เหมือนหยกเนื้ออ่อนเสียทีเดียว คล้ายกับซ่อนความเป็นหินหยกที่แหลมคมอยู่

เสิ่นเยว่ตอบกลับเชื่องช้า “ท่านลุงของข้าชื่อเหลียงโหย่วเหวย เป็นที่ปรึกษาให้กับจิงจ้าวอิ่น ท่านลุงและท่านลุงฮั่วเป็นเพื่อนร่วมโรงเรียน ในตอนที่ท่านลุงฮั่วมาที่เรือน ท่านลุงฮั่วเคยพูดถึงว่าจวนท่านอ๋องกำลังหาคนที่สามารถดูแลเด็กได้”

ขณะที่นางเล่า จัวหย่วนก็กำลังอ่านจดหมายแนะนำที่เถาตงโจวมอบให้เขาก่อนหน้านี้อีกครั้ง

เมื่อครู่เขาอ่านผ่านๆ ตาเท่านั้น หลังกลับมาจากสวนเถาฮวา จัวหย่วนก็อ่านโดยละเอียดมากขึ้น ถ้อยคำในจดหมายของเวิงหยุ่นไม่เพียงไว้วางใจ แต่ยังมองออกถึงความเอาใจใส่ในตัวเสิ่นเยว่—— คนที่รู้นิสัยของเวิงหยุ่น เพียงมองก็รู้ว่าเวิงหยุ่นเขียนจดหมายฉบับนี้ด้วยความระมัดระวังดั่งเช่นหนังสือราชการ แสดงออกถึงความจริงจัง

หนังสือของเวิงหยุ่นมีค่าราวกับทองคำ

บางทีตัวนางเองอาจไม่รู้

จัวหย่วนพับเก็บจดหมาย “เวิงหยุ่นเป็นเจ้าเมืองจิ้นโจว เช่นนั้นก่อนหน้าเจ้าอยู่ที่จิ้นโจวมาโดยตลอด? เข้าเมืองมาตั้งแต่เมื่อไร?”

เสิ่นเยว่รับคำ “สองปีก่อนมารดาเสียชีวิต ท่านลุงมาที่จิ้นโจว รับข้าและน้องชายมาดูแลที่เมืองหลวง หลังจากมาที่เมืองหลวงแล้ว ข้ากับน้องชายก็อยู่กับท่านลุงท่านป้ามาโดยตลอด”

ได้ยินนางพูดถึงเรื่องมารดาเสียชีวิต ในดวงตาจัวหย่วนสั่นไหวเล็กน้อย ในสายตาดูอบอุ่นขึ้นมาก แล้วเหลือบตามองนางอีกครั้ง ในน้ำเสียงดูอ่อนโยนขึ้นมาก “เมื่อครู่ข้าไปที่สวนเถาฮวา เถาเถาหลับแล้ว เจ้าดูแลเถาเถาได้ดีมาก”

การเปลี่ยนหัวข้อสนทนาของเขาทำให้เสิ่นเยว่ชะงักไป ยังคงไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา “เถาเถาอายุน้อย ความรู้สึกต้องการพึ่งพาย่อมมีมากกว่าเด็กคนอื่น ความแปรปรวนของอารมณ์จึงมีมาก ในตอนที่ความคิดไม่ได้รับการเติมเต็มจึงใช้วิธีร้องไห้เรียกร้องความสนใจจากผู้อื่น เพียงแต่ต้องพูดคุย เล่นด้วย อยู่เป็นเพื่อนอย่างใส่ใจให้มากสักหน่อยกับเถาเถา เถาเถาจึงยินดีที่จะสร้างความเชื่อใจกับผู้อื่น ความรู้สึกปลอดภัยของนางก็จะมีมากขึ้น”

นางเรียกว่าเถาเถา กลับไม่เรียกว่าคุณหนูเก้า

จัวหย่วนไม่ได้ละสายตาไปจากตัวนาง แต่เห็นท่าทางระมัดระวังของนางแล้ว มุมปากของจัวหย่วนก็บิดโค้งขึ้น ค่อยๆ ยื่นจดหมายกลับไปให้นาง

เสิ่นเยว่ลังเล หลังจากนั้นก็ยื่นมือไปรับ ขณะเอ่ยปากขอบคุณก็สบสายตาเข้ากับเขาพอดี

การเงยหน้ามองครั้งนี้ทำให้นางได้เห็นจัวหย่วนที่อยู่ตรงหน้า รูปร่างสูงตรง สง่างามหล่อเหลา เพียงมองก็เห็นความละเอียดอ่อนของใบหน้า รูปโฉมงดงามไม่เหมือนกับที่นางเคยจินตนาการไว้ หลังเสือเอวหมี หน้าตาโหดเหี้ยม หรือไม่ก็ยิ่งไปกว่านั้น อย่างน้อยก็ต้องรูปร่างสูงใหญ่กำยำ ดุดันราวกับสามารถกลืนกินภูเขาแม่น้ำได้...

การเงยหน้าครั้งนี้ของเสิ่นเยว่ทำให้สายตาสืบเสาะในตอนแรกของจัวหย่วนสบเข้ากับดวงตาที่สดใสพอดี

เพียงแต่ดวงตาคู่นี้ดูมึนงงเล็กน้อย...

เสิ่นเยว่รู้สึกมึนงงเล็กน้อยจริงๆ

คนตรงหน้าไม่เพียงแต่ไม่สูงใหญ่เท่าวัวเท่าม้า หรือกำยำดั่งที่คิด อีกทั้งอายุคงยังไม่มาก คล้ายกับเพิ่งเข้าวัยผู้ใหญ่ไม่นาน

ในหัวสมองของเสิ่นเยว่เกิดความคิดหนึ่งถาโถมเข้ามา—— จวนอ๋องผิงหย่วน มี ‘เด็กตัวร้าย’ ที่โตเพียงเล็กน้อย คอยดูแลกลุ่ม ‘เด็กตัวร้าย’ ที่อายุน้อย...

ความคิดที่แปลกประหลาดนี้ทำให้เสิ่นเยว่มึนงงไปมาก

ไม่นานเสิ่นเยว่ก็ทำลายความคิดนี้ที่อยู่ในหัว

จวนอ๋องผิงหย่วนไม่ได้มีชื่อเสียงเพียงในซีฉิน แม้แต่แคว้นข้างเคียงก็ยังรู้จัก อ๋องผิงหย่วนที่อายุเท่านี้เคยติดตามบิดาไปสนามรบตั้งนานแล้ว รอบรู้เรื่องราชสำนักและเรื่องทางการทหารเป็นอย่างดี ไม่สามารถเอาเด็กผู้ชายที่เพิ่งเข้าสู่วัยผู้ใหญ่มาเปรียบเทียบได้

มิเช่นนั้น หากอาศัยเพียงคุณงามความดีของบิดาและพี่น้อง ทั้งยังต้องปกป้องเด็กเล็กในจวนอีก การหลอกลวงกันไปมาในราชสำนัก บางทีอาจจะถูกตระกูลฝ่ายศัตรูกัดกินจนไม่เหลือแม้แต่กระดูกนานแล้ว ไหนเลยจะยังสามารถมีจวนอ๋องผิงหย่วนที่ยิ่งใหญ่นี้ได้อยู่ ทั้งยังมีใจคิดกังวลเรื่องดูแลเด็กๆ ในจวนอีก?

เสิ่นเยว่ละสายตา กลับมาทำตัวเจียมเนื้อเจียมตัวอีกครั้ง ไม่ได้ลืมตัวมีใจคิดคาดเดาฝ่ายตรงข้ามอีก

ฝ่ายตรงข้ามจะต้องไม่ใช่บุคคลที่สามารถคาดเดาได้โดยง่ายแน่

จัวหย่วนเห็นนางมีท่าทางมึนงงอยู่ครู่ใหญ่ ไม่นานก็ก้มหน้าลงอีกครั้งอย่างระมัดระวัง ในดวงตาแสดงออกถึงความรอบรู้ละเอียดอ่อน จัวหย่วนละสายตาที่มองอย่างสงสัยไป มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ภายในใจยิ่งรู้สึกว่า ‘แม่นางเสิ่น’ ผู้นี้ที่อยู่ตรงหน้ามีความน่าสนใจที่พูดออกมาไม่ได้อยู่หลายส่วน

อายุไม่มากแต่กลับน่าเชื่อถือ ดูท่าทางคล้ายมีความระมัดระวัง แต่ความจริงแล้วเป็นคนกล้าหาญ มีความรอบรู้ละเอียดอ่อนแต่ก็เรียบง่าย ไม่คิดสนใจผู้คนหรือสิ่งรอบตัว

น่าสนใจ

จัวหย่วนเองก็ไม่ได้ปิดบัง จึงถามออกไปตามตรง “เมื่อครู่เจ้าบอกว่าเข้าเมืองหลวงมาสองปีแล้ว คงจะเคยได้ยินท่านลุงฮั่วพูดถึงเรื่องจวนอ๋องมาบ้าง หากแม่นางเสิ่นอยากมาคงจะมาตั้งนานแล้ว เหตุใดจึงเพิ่งเกิดความคิดที่จะมาในเวลานี้?”

ในคำพูดของเขา

เสิ่นเยว่รู้ว่าหากอธิบายไม่ชัดเจน ฝ่ายตรงข้ามก็จะคาดเดาความคิดของนาง

เสิ่นเยว่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ถอยหลังหนึ่งก้าว คุกเข่าต่อหน้าจัวหย่วน “เมื่อก่อนข้าน้อยไม่เคยกล่าวถึงเรื่องจวนใต้เท้าเวิง ท่านลุงท่านป้าเองก็ไม่เคยรู้ เมื่อหลายวันก่อน ลูกชายของท่านลุงมีเหตุทำให้ต้องปะทะกับคุณชายรองจวนเวยเต๋อโหว ถูกคนของจวนเวยเต๋อโหวนำตัวไปสองวันแล้ว ตอนนี้ยังถูกจับตัวอยู่ในจวนท่านโหว ท่านลุงท่านป้านอนไม่หลับมาหลายวันแล้ว ออกไปขอความช่วยเหลือจากทุกที่แต่กลับไร้ซึ่งหนทาง ญาติผู้พี่เป็นคนดี ครั้งนี้เป็นเพราะปกป้องผู้บริสุทธิ์จึงพลั้งมือทำร้ายคุณชายรองจวนเวยเต๋อโหว หากปล่อยเวลาให้ผ่านไปเกรงว่าจะช่วยกลับมาไม่ได้ ท่านลุงท่านป้าดูแลข้าน้อยและน้องชายเป็นอย่างดี บุญคุณที่ได้รับสมควรที่จะตอบแทน...”

เสิ่นเยว่หมอบคำนับตามรูปแบบพิธีใหญ่ของแคว้น “ทั่วแคว้นต่างรู้จักจวนอ๋องผิงหย่วน ข้าน้อยขอบังอาจ...”

นางยังพูดไม่ทันจบคำ จัวหย่วนก็ขัดจังหวะ “ถึงแม้จะช่วยคนออกมาได้ แต่ก็ถือว่ามีเรื่องหมางใจกันแล้ว ภายภาคหน้าลุงและญาติผู้พี่ของเจ้าใช่ว่าจะอยู่ได้อย่างสงบสุข”

เสิ่นเยว่ไตร่ตรองดีแต่แรกแล้ว “ข้าน้อยจะโน้มน้าวท่านลุงและท่านป้าให้นำตัวญาติผู้พี่และน้องชายออกจากเมืองหลวงในคืนนั้น”

จัวหย่วนประหลาดใจ “แล้วเจ้าล่ะ? จะอยู่ในเมืองหลวงเพียงลำพัง ไม่กลัวจวนเวยเต๋อโหวตามมาชำระความหรือ?”

เสิ่นเยว่พูดในลำคอ “ไม่กลัว”

เสิ่นเยว่พูดจบก็ได้ยินเพียงเสียงเสื้อผ้าเสียดสีกันนั่งย่อตัวลงตรงหน้าเพื่อให้อยู่ในระดับเดียวกันกับนาง

เสิ่นเยว่ไม่กล้าเงยหน้า

จัวหย่วนส่งเสียงเฮอะเบาๆ “เฮอะ เจ้าไม่เพียงแต่มีความกล้า ความคิดยังหนักแน่นอีกด้วย”

เสิ่นเยว่ไม่รู้ว่าประโยคนี้เป็นการตำหนิหรือชื่นชม จึงไม่กล้ารับคำโดยสะเพร่า

“ยื่นมือมา” จัวหย่วนเอ่ยปากก่อน

เสิ่นเยว่จำใจต้องเงยหน้ามองเขา ในดวงตาชะงักไปอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเขาหมายความว่าอย่างไร แต่เพราะรังสีความกดดันจากตัวเขาจึงทำได้เพียงยื่นมือออกไป

จัวหย่วนมองแวบหนึ่ง แล้วรอยยิ้มก็ค่อยๆ เลือนหายไป เอ่ยเสียงเรียบ “ข้าสามารถไปขอตัวคนจากจวนเวยเต๋อโหวได้ แต่หากข้าไปรับคนมา ในใจของจวนเวยเต๋อโหวก็จะคิดบัญชีข้าไว้ ข้าเองก็ต้องชั่งใจ เด็กในจวนกลุ่มนี้เป็นลูกของพี่น้องและพี่สาวที่เสียชีวิตไปแล้วของข้า สำหรับข้าแล้ว พวกเขาต่างหากที่เป็นเรื่องใหญ่ที่สำคัญของจวนอ๋องผิงหย่วน แต่แม่นางเสิ่น จากมุมมองของข้า แม้แต่ตัวเจ้าเองยังดูแลได้ไม่ดี ข้าจะเชื่อเจ้าได้อย่างไรว่าเจ้าจะดูแลเด็กๆ ที่อยู่ในจวนได้ดี?”

เสิ่นเยว่ชะงักไป สายตาเลื่อนตามเขาไปดูมือของตนเอง

เสิ่นเยว่เข้าใจในทันที เมื่อคืนถูกน้ำร้อนลวกตอนเทน้ำชาในห้องครัว ยังไม่ทันมีเวลาทำแผลและทายา ตอนนี้จึงดูย่ำแย่เล็กน้อย

ในสายตาของเสิ่นเยว่ปรากฏความลนลาน

จัวหย่วนเอ่ยเสียงเรียบ “การดูแลเด็กเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและต้องมีความอดทน มีความอดทนหนึ่งวันไม่ได้หมายความว่าจะมีความอดทนได้ทุกวัน ดูแลได้ดีเพียงหนึ่งวันก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถดูแลได้ดีทุกวัน หากเพียงไม่ละเอียดรอบคอบ อาจหมายถึงไม่ละเอียดรอบคอบในทุกเรื่อง แล้วจะให้คนเชื่อใจได้อย่างไร?”

เสิ่นเยว่พูดไม่ออก

จัวหย่วนลุกขึ้น “แม่นางเสิ่น ข้าจะไตร่ตรองดู ลุกขึ้นเถอะ”

พูดจบก็เอ่ยปากเรียกอีกครั้ง “ลุงเถา!”

เมื่อเห็นจัวหย่วนคล้ายกำลังจะไปจากโถงข้าง เสิ่นเยว่จึงร้อนอกร้อนใจ “ข้าสามารถให้คำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรได้!”

จัวหย่วนชะงักฝีเท้า มองนางด้วยสายตาชวนให้ขบคิด “สัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร?”

......

ในตอนที่เถาตงโจวกลับมา จัวหย่วนยังคงอ่านหนังสือสัญญาอยู่

นางเขียนหนังสือสัญญาจริงๆ !

ลายมือเป็นดั่งตัวผู้เขียน——สะอาด งดงาม สงบนิ่ง หนักแน่น ฉลาดรอบรู้ แต่กลับไม่มีใจที่คิดร้าย

“ท่านอ๋อง ส่งแม่นางเสิ่นกลับไปแล้ว พรุ่งนี้ยังจะให้แม่นางเสิ่นมาหรือไม่?” เถาตงโจวเป็นผู้ดูแลจวนอ๋องและเป็นคนที่เข้าใจจัวหย่วนมากที่สุด หากจัวหย่วนไม่อยากให้เสิ่นเยว่มาจริงๆ ท้ายที่สุดคงไม่แสดงท่าทีว่าเห็นด้วยหรือโต้แย้งเช่นตอนนี้

ท่านอ๋องคงคิดอยากจะทดสอบแม่นางเสิ่น ดูนิสัยของนาง เมื่อเจอปัญหาจะลนลานหรือไม่ สามารถรับมือเด็กๆ กลุ่มนี้ได้หรือไม่ หรือจะถูกเด็กๆ เหล่านี้ไล่ตะเพิดไป

จัวหย่วนวางสัญญาในมือลง ยิ้มพลางกล่าวกับเถาตงโจว “พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน วันนี้ยังมีธุระอื่น ลุงเถาเก็บไว้ให้ดีก่อน”

เถาตงโจวเห็นคำว่า ‘หนังสือสัญญา’ สองคำ ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ชื่นชอบบังคับให้ผู้อื่นเขียนหนังสือสัญญา แม้แต่แม่นางเสิ่นก็ยังบังคับ

เพียงเห็นว่าจัวหย่วนออกไปจากโถงข้างแล้ว เถาตงโจวก็รู้สึกจนปัญญา “ท่านอ๋อง?”

เสียงที่ดูไม่ใส่ใจของจัวหย่วนดังลอยมา “ข้าจะไปเยี่ยมเยือนที่จวนเวยเต๋อโหว ถือโอกาสยืดเส้นยืดสายสักหน่อย...”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด