[ตอนฟรี] ตอนที่ 57 : ปะทะกับนกนางแอ่นกลืนฟ้า
ได้ยินแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นนกนางแอ่นกลืนฟ้า ราชสีห์เก้าเศียร หรือหลงปี้ชรือ พวกเขาทั้งหมดถึงกับมึนงง
จวินเซียวเหยาคนเดียวดูถูกทั้งเผ่าโบราณ
“ทำไม คำพูดของข้าผิดตรงไหน?”
คำพูดของจวินเซียวเหยาราบเรียบอย่างมากโดยไม่มีอะไรหวือหวา
แต่ท่าทีที่หยิ่งยโสนี่เองที่ทำให้ราชสีห์เก้าเศียรและสิ่งมีชีวิตตัวอื่นโมโห
ทางฝั่งของมนุษย์ จีเสวียนและคนอื่นๆ ก็ประหลาดใจและมึนงงเช่นกัน
แม้แต่เขาก็ไม่กล้ายั่วยุราชสีห์เก้าเศียร นกนางแอ่นกลืนฟ้า และสิ่งมีชีวิตอื่นจากเผ่าโบราณในเวลาเดียวกัน
ดูถูกแค่เผ่าเดียวก็ทำให้สะบักสะบอมพอแล้ว
“ไอ้มนุษย์ แม้เจ้าจะเป็นบุตรพระเจ้าจากตระกูลโบราณ วันนี้ข้าจะทำให้เจ้าได้ชดใช้แน่!”
นกนางแอ่นกลืนฟ้าเดือดดาล มันสะบัดปีกอย่างรุนแรงจนก่อให้เกิดพายุสีดำ
ทั่วทั้งโลกดูเหมือนจะถูกพัดผ่านด้วยลมดำมืด และกระแสลมรุนแรงกระทั่งพัดผู้บ่มเพาะที่อ่อนแอปลิวหายไป
ราชสีห์เก้าเศียรก็โมโหเช่นกัน หัวทั้งเก้าของมันคำรามอย่างพร้อมเพรียง ส่งเสียงดังกัมปนาทเหมือนฟ้าคำรามและสั่นสะเทือนไปทั่วฟ้าและผืนดิน!
“บุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินคนนี้มีความมั่นใจจริงๆ หรือเขากำลังหาเรื่องตายกันนะ?” แม้ว่าหลงปี้ชรือจะโกรธเหมือนกัน แต่นางก็จดจำคำเตือนของบรรพบุรุษเชื้อสายชางหลงได้ นางจึงไม่ผลีผลาม
แต่หลงปี้ชรือถามตัวเอง แม้จะเปลี่ยนเป็นนาง มันก็ยังยากอย่างยิ่งที่จะรับมือนกนางแอ่นกลืนฟ้าและราชสีห์เก้าเศียรพร้อมกัน
เพียงหนึ่งในสองตัวนี้ก็สามารถกวาดล้างอัจฉริยะเผ่ามนุษย์ได้มากถึง8ใน10ส่วนแล้ว
ไม่ว่าใครก็ตามที่ต้องเผชิญสถานการณ์เดียวกันกับจวินเซียวเหยาในตอนนี้ มันต้องน่าขนลุกมากแน่ๆ
พายุดำมืดอันน่าสะพรึงถาโถมเข้าใส่
บนร่างกายของจวินเซียวเหยา ร่างเงาของเทพนรกปกปักได้ปรากฏ
เขาก้าวออกไปในอากาศ ยืนอย่างตระหง่านด้วยสองมือไพล่หลัง เส้นผมเงางามราวคริสตัลสะท้อนแสงปลิวสยายไปตามลม
ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเป็นเหมือนประติมากรรมที่องค์เทพลงมือปั้นเอง มันชัดเจนกระจ่างใสราวทะเลสาบที่เงียบสงบ ดูไร้เทียมทานและไร้ที่ติ
ท่าทางลักษณะนี้ทำให้หญิงสาวหลายคนมีความเชื่อมั่นและคอยอธิษฐานให้กับจวินเซียวเหยาในใจของพวกนาง
“จะตายอยู่แล้ว เจ้ายังเสแสร้งอยู่อีกรึ?”
ด้านล่าง เซียวเฉินแค่นเสียงเย็นชาในใจ
เขาไม่มีวันยอมรับว่าเขาไม่เพียงแค่อิจฉาสถานะของจวินเซียวเหยา แต่ยังรวมไปถึงรูปลักษณ์อีกด้วย
“สองสัตว์ป่าจะมางัดกับโลกกว้างได้ยังไง?”
จวินเซียวเหยากระซิบอย่างไม่แยแส ในที่สุดร่างของเขาก็เคลื่อนไหว
พลังเทพคชสารทลายโลกันตร์ถูกกระตุ้นเต็มกำลัง และ 70,000 อนุภาคคชสารยักษ์ก็ฟื้นฟูอย่างพร้อมเพรียงในขณะนี้
ทันใดนั้น โลหิตทองคำก็โหมกระหน่ำออกมาเหมือนคลื่นยักษ์สึนามิ
ด้วยการกวาดม้วนออกไปบนท้องฟ้า มันควบแน่นอย่างจางๆ เป็นร่างเงาของเทพคชสารทองคำที่สั่นสะเทือนฟ้าและทลายดวงดาว
เขาต่อยออกไปจังหวะเดียวกันกับที่เทพคชสารทองคำฟาดงวงลง
พายุดำมืดด้านหน้าถูกฉีกทิ้งโดยกระแสลมจากกำปั้นของจวินเซียวเหยาทันที!
เห็นแบบนี้ นกนางแอ่นกลืนฟ้าจึงกระพือปีกอีกครั้งปล่อยขนปีกสีดำนับไม่ถ้วนบินออกมา มันดูเหมือนฝนสีดำที่สามารถทำลายโลกได้
นี่คือเคล็ดทักษะอันทรงพลังของเผ่านกนางแอ่นกลืนฟ้า ลูกศรปีกทมิฬ
หากผู้บ่มเพาะขอบเขตสะพานศักดิ์สิทธิ์ตกอยู่ภายใต้ทักษะนี้ เขาจะถูกเจาะผ่านทันทีโดยไร้ทางหนี
สีหน้าของจวินเซียวเหยายังคงราบเรียบ
เขาไม่แม้แต่กระตุ้นการป้องกัน แต่กลับพุ่งออกไปโดยตรงด้วยท่าทางที่องอาจ
“แส่หาที่ตาย!” นกนางแอ่นกลืนฟ้าเอ่ยอย่างเย็นชา
อย่างไรก็ตาม วินาทีต่อมา ดวงตาของนกนางแอ่นกลืนฟ้าราวกับจันทร์สีเลือดที่หยุดชะงัก ปีกดำทั่วทั้งตัวตั้งชัน หนังศีรษะชาไปหมด!
มีเสียงเหล็กตกพื้นดังสนั่น
มันคือเสียงลูกศรปีกทมิฬที่ปะทะเข้ากับร่างกายเปล่าๆ ของจวินเซียวเหยา
ขนาดลูกศรปีกทมิฬที่สามารถเจาะทะลวงยุทธภัณฑ์ชั้นยอดได้ เมื่อปะทะเข้ากับร่างกายของจวินเซียวเหยา กลับทำไม่ได้แม้แต่รอยขีดข่วน!
“แค่นี้หรอ?”
จวินเซียวเหยาเย้ยหยัน เขาสยายปีกมารออกมาจากด้านหลังและร่างเงาของเขากะพริบมาโผล่ตรงหน้านกนางแอ่นกลืนฟ้าในทันที
เขาไม่ได้เป่านกหวีดหรือตีระฆังบอกก่อน แค่ต่อยออกไปเท่านั้น!
กำปั้นทองคำส่องแสงเจิดจ้า ทำให้ท้องฟ้าสว่างไปทั่ว
ในเวลาเดียวกัน นกนางแอ่นกลืนฟ้าปล่อยเสียงกรีดร้องออกมา ปีกข้างหนึ่งของมันถูกบดขยี้และเลือดของมันก็สาดกระจายออกไปตามเส้นขอบฟ้า
“ไอ้มนุษย์ แกมันบ้าเกินไปแล้ว!” ราชสีห์เก้าเศียรพุ่งมาหาทันที
มันก็ตะลึงในความไร้เทียมทานของร่างกายของจวินเซียวเหยาจนถึงตอนนี้ และเพิ่งจะรู้สึกตัวพร้อมกับพุ่งตรงมา
หัวทั้งเก้าของราชสีห์เก้าเศียรคำรามอย่างพร้อมเพรียง ก่อให้เกิดคลื่นเสียงที่มองเห็นด้วยตาเปล่ากระจายออกไปจนทำให้ความว่างเปล่าตรงหน้าเหมือนจะบิดเบี้ยว
นี่คือเคล็ดทักษะชั้นยอดของเผ่าราชสีห์เก้าเศียร ราชสีห์คำราม
ด้วยเสียงคำรามดังสนั่น มันสามารถถล่มท้องฟ้าให้พังทลายได้!
ผู้บ่มเพาะบางคนที่อยู่รอบๆ ป่ารีบกระตุ้นพลังปราณเพื่อปกป้องรูทวารทั้งเจ็ดของตัวเอง
แต่กระนั้น มันก็ยังมีผู้บ่มเพาะบางคนที่ชะงักจากคลื่นกระแทกจนเลือดไหลออกทางปากและจมูก พวกเขาเกือบสิ้นสติไป
ด้วยพลังอันน่าสะพรึงขนาดนี้ ผู้หนึ่งสามารถจินตนาการออกได้เลยว่าจวินเซียวเหยาที่เป็นจุดศูนย์กลางจะต้องแบกรับแรงกดดันมากขนาดไหน
อย่างไรก็ตาม จวินเซียวเหยายังคงสงบ
เทพนรกปกปักถูกสำแดงออกมาปะทะเข้ากับคลื่นเสียง ก่อให้เกิดระลอกคลื่นโดยรอบหลายครั้ง แต่มันก็ไม่สามารถทะลวงการป้องกันได้
จวินเซียวเหยาใช้โอกาสนี้ยกแขนขึ้นและกำมือออกไป พลังปราณอันไร้ที่สิ้นสุดได้ปะทุออกมาเปลี่ยนสภาพเป็นหอกเทพอเวจี และขว้างมันออกไปทะลุร่างของนกนางแอ่นกลืนฟ้าโดยตรง
เลือดสาดกระเซ็น ขนนกกระจัดกระจาย!
นกนางแอ่นกลืนฟ้าหวีดร้องเสียงแหลมสูงด้วยความทรมาน
จวินเซียวเหยาก้าวออกมา เขาดันฝ่ามือออกไปพร้อมกับจับร่างกายของนกนางแอ่นกลืนฟ้า จากนั้นก็ฉีกมันทั้งตัวทันที!
ควัฟ!
ร่างทั้งร่างของนกนางแอ่นกลืนฟ้าถูกแบ่งเป็นสองส่วน!
ฉากนี้น่าตกตะลึงสุดขีด!
“หลิงหลง ข้ากลับไปเมื่อไหร่ ข้าว่าจะทำไก่หย็องกินสักหน่อย”
จวินเซียวเหยาโยนร่างของนกนางแอ่นกลืนฟ้าที่ถูกฉีกออกเป็นสองส่วนให้กับจวินหลิงหลงที่อยู่ด้านหลัง
ผู้บ่มเพาะที่รับชมอยู่ถึงกับมึนงง
พวกเขาได้ยินไม่ผิดใช่ไหม?
ใช้นกนางแอ่นกลืนฟ้าผู้โด่งดังเป็นวัตถุดิบ แถมยังมอบชื่อที่โคตรจะดูถูกอย่าง ไก่หย็อง?
“เจ้าอาละวาดเกินไปแล้ว!”
ราชสีห์เก้าเศียรบ้าคลั่ง
แม้ว่ามันจะไม่เกี่ยวข้องอะไรมากนักกับนกนางแอ่นกลืนฟ้า แต่ทั้งสองก็เป็นเผ่าโบราณเหมือนกัน ดังนั้นมันจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะรู้สึกสะเทือนใจ
“น่าขันที่เจ้าอยากให้ข้าเป็นผู้ติดตาม แต่เจ้าไม่มีแม้แต่คุณสมบัติที่จะเป็นพาหนะของข้าเลย”
คำพูดของจวินเซียวเหยาทำให้หัวทั้งเก้าของราชสีห์เก้าเศียรคำรามอย่างโกรธแค้น
สำหรับเชื้อสายของราชสีห์เก้าเศียร คำต้องห้ามที่สุดสำหรับพวกมันก็คือได้ยินคำว่าพาหนะ
เพราะบรรพชนของพวกมันเคยถูกเปลี่ยนให้เป็นพาหนะมาแล้วโดยพระโพธิสัตว์
ความอับอายนี้ถูกสลักลงในสายเลือด!
“แส่หาความตาย ตราประทับราชสีห์หาญกล้า!”
ราชสีห์เก้าเศียรเดินหน้าเต็มกำลังและปลดปล่อยเคล็ดทักษะประจำเผ่าออกมาโดยตรง
ตราประทับราชสีห์หาญกล้า นี่คือทักษะที่น่าสะพรึงถึงขีดสุดจนเกือบจะไปถึงระดับพลังของมังกรที่แท้จริงอยู่แล้ว
รอบตัวราชสีห์เก้าเศียรเต็มไปด้วยแสงทองคำ มันควบแน่นตราประทับโบราณทองคำพร้อมกับอักขระนับไม่ถ้วนออกมา
ความว่างเปล่าสั่นสะเทือน สวรรค์และโลกสั่นไหว!
การเคลื่อนไหวนี้ทรงพลังจนถึงขั้นที่ทำให้หลงปี้ชรือ จีเสวียน และหัวกะทิคนอื่นๆ รู้สึกเย็นวาบในหัวใจ
พวกเขาถามตัวเอง ถ้าพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีนี้ พวกเขาจะต้องจ่ายราคามหาศาลแน่ๆ
สายตาของจวินเซียวเหยายังคงเหมือนเดิม แม้จะอยู่ต่อหน้าการโจมตีที่ทรงพลังถึงเพียงนี้ เขาก็ยังรักษาความสุขุมไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
บนหน้าอกของจวินเซียวเหยา มีประกายแสงเจิดจ้ารวมตัวกันเหมือนดวงอาทิตย์จิ๋วกำลังจะปรากฏ
ทันใดนั้น รัศมีแสงพร้อมกับพลังอันน่าหวาดกลัวก็ปะทุออกมาราวกับภัยพิบัติจากสวรรค์
เมื่อประกายแสงส่องผ่านไปแห่งใด ระลอกคลื่นจะกระจายในความว่างเปล่า และขุนเขาโดยรอบจะระเบิดพังทลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
มันคือทักษะพลังจากสุดยอดกระดูก เทพชิงแสง
รูปแบบที่สมบูรณ์ที่สุดของทักษะพลังนี้คือ หัตถ์พระเจ้า และจวินเซียวเหยาได้เข้าใจมันอย่างแจ่มแจ้งสมบูรณ์แล้ว
มันเพียงแค่ในสถานการณ์ปัจจุบันยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้งานหัตถ์พระเจ้า แค่พลังเทพชิงแสงอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะรับมือแล้ว
ครืนน!
แสงสว่างเจิดจ้าของพลังเทพชิงแสงเข้าปะทะกับตราประทับราชสีห์หาญกล้าและระเบิดมันทิ้งโดยตรง จากนั้นก็พุ่งใส่ราชสีห์เก้าเศียรโดยไม่ลดความเร็ว
ราชสีห์เก้าเศียรหวาดกลัวจนวิญญาณสั่นเทิ้ม แผงคอของมันถึงกับลุกชัน
มันรีบหลบหลีก แต่ยังคงถูกพลังเทพชิงแสงทะลวงผ่านอยู่ดีและสี่หัวก็ร่วงหล่นในคราเดียว
โลหิตพวยพุ่งเหมือนน้ำพุทันที!
(หากมีคำแนะนำหรือข้อติเตียน สามารถคอมเมนท์เพื่อบอกกล่าวได้นะครับ ^ ^ ขอบพระคุณมากครับที่สละเวลาอ่านจนจบ)