(ฟรี)ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 593 ผู้ชายที่จริงใจ(2)
ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 593 ผู้ชายที่จริงใจ(2)
ในขณะนี้ ยอดฝีมือขอบเขตเบิกโลกาจากหลากหลายเผ่าพันธุ์ได้กลับมาที่ โลกโกลาหลบรรพกาลแล้ว
เหอเซียนซุนยังคงเติมสมบัติใส่ค่ายกล
ณ โลกโกลาหลบรรพกาล
ไท่กลายเป็นรูปปั้นอีกครั้ง และสั่งให้ยอดฝีมือเผ่าพันธุ์เทพ เซียน และมารไปแจ้งให้ยอดฝีมือสูงสุดของเผ่าตนเองกลับมา
เขาต้องฟื้นจากอาการบาดเจ็บเพื่อที่เขาจะได้รับมือกับการแก้แค้นของเทพเจ้าบรรพกาลแห่งคุก แม้ว่าเทพเจ้าบรรพกาลแห่งคุกจะไม่ได้มาเพื่อจัดการกับเขา แต่ก็ยังมีหนึ่งผู้ซึ่งเป็นเบี้ยอันดับหนึ่งของเทพเจ้าบรรพกาลแห่งคุก
ไท่ไม่แน่ใจว่าหนึ่งแข็งแกร่งเพียงใด แต่ทั้งสองคนก็ได้สร้างปัญหาให้กับเขาแล้ว
เขาจะเผชิญกับวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นอย่างไร?
ไท่ถอนหายใจ
เขาต้องหาทางแก้ไข
หากเป็นฉู่ ผู้ชั่วร้ายและเจ้าเล่ห์ เขาน่าจะมีทางออกใช่หรือไม่?
นอกจากนี้ เขาต้องแจ้งให้บรรพชนของเขาทราบ หากบรรพชนเต็มใจ ทุกอย่างก็จะไร้กังวล
ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เขาก็ได้ดูดซับปราณโกลาหลแห่งการสรรค์สร้างเข้าสู่ร่างกายของเขาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บภายในของเขา
เขาหยิบยันต์หยกโบราณออกมา ในนั้นมีค่ายกลที่ดูเหมือนจะเป็นกฎขนาดย่อย
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็เปิดใช้งานมัน
“ฉู่ ข้าได้สังหารยอดฝีมือจากตำหนักเทพเจ้าแห่งคุก เจ้ามีวิธีหลีกเลี่ยงภัยพิบัตินี้หรือไม่”
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้รับข้อความจากยันต์หยก
“เหตุใดเจ้าถึงฆ่าพวกเขา?”
ฉู่รู้สึกประหลาดใจ
นี่ไม่ใช่นิสัยของไท่
“เพื่อสมบัติ”
ไท่ลังเลเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าเขาควรบอกฉู่ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดหรือไม่
“สมบัติชนิดใดที่ทำให้เจ้าฆ่าพวกเขา หากเจ้าไม่บอกเหตุผล แล้วข้าจะช่วยเจ้าได้อย่างไร”
ฉู่ทำอะไรไม่ถูก
เจ้ายักษ์โง่เขลาผู้นี้ไม่ได้ติดต่อเขาเป็นเวลานาน แต่ตอนนี้กลับกำลังมองหาคำแนะนำจากเขา
ไท่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจอธิบายสั้น ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น
ที่แห่งหนึ่งในความโกลาหลอันห่างไกล
ชายผู้สง่างามล่องลอยอยู่ในมิติ
เขามองไปที่ข้อความที่ส่งผ่านยันต์หยก
ความคิดแรกของเขาคือ ‘ไท่ถูกหลอกแล้ว!’
“เจ้าไม่ควรมารับผิดชอบเช่นนี้ ไท่ เจ้าถูกหลอกแล้ว”
ฉู่มีสีหน้าลำบากใจ
คนโง่เขลาคนนี้เคยถูกเขาหลอกมาหลายครั้งแล้ว เหตุใดเขาถึงไม่หลาบจำ?
แม้ว่าฉู่หลอกจะเคยหลอกไท่เช่นกัน แต่เขาปฏิบัติต่ออีกฝ่ายในฐานะมือขวาเท่านั้นและไม่มีเจตนาทำร้ายใด ๆ
แต่สำหรับคนอื่นนั้นแตกต่างไป
“ไร้สาระ!”
ไท่โกรธมาก
“สหายเต๋าพี่ชายเป็นคนที่จริงใจ และมีนิสัยที่น่าเคารพ เขาจะฉลาดแกมโกง และไร้ยางอายเช่นเจ้าได้อย่างไร”
“ฉู่ แม้ว่าเจ้าจะไร้ยางอาย แต่ก็อย่าคิดว่าคนอื่นจะไร้ยางอายเช่นเจ้า!”
ฉู่รู้สึกไม่ค่อยดี
เจ้ายักษ์โง่เขลานี่มันโง่เข้ากระดูกแล้วจริง ๆ
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นกับดัก แต่กลับเอาตัวเข้าไปติดกับดักนั้น
นอกจากนี้ ฉู่ยังสงสัยว่าสหายเต๋าพี่ชายคนนี้อยู่ใกล้ ๆ หรือไม่
“ไท่ เจ้าต้องเชื่อข้า ข้าเก่งกาจในการหลอกลวงผู้คน ดังนั้นข้าจึงคุ้นเคยกับเล่ห์เหลี่ยมเหล่านี้!”
“บัดซบ! นั่นมันเจ้า คนเจ้าเล่ห์และไร้ยางอาย เจ้าจะไปเทียบกับสหายเต๋าพี่ชายได้อย่างไร”
ไท่ยังคงเดือดดาล
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าสหายเต๋าพี่ชายให้สมบัติอะไรกับข้า”
“ฉู่ หากเป็นเจ้า จะกล้าใช้สมบัติเช่นนี้เพียงเพื่อสังหารเบี้ยของเทพเจ้าบรรพกาลแห่งคุกหรือ”
“หัวใจของเจ้ามืดบอดเกินไปจริง ๆ ไม่เป็นไรหากเจ้าจะเป็นคนอำมหิต แต่อย่าได้เหมารวมว่าคนอื่นจะเป็นเช่นเจ้า”
“ข้าจะบอกเจ้าตอนนี้ว่าสหายเต๋าพี่ชายเป็นคนที่สูงส่ง และจริงใจอย่างแท้จริง ยากที่จะเจอคนเช่นนี้ในความโกลาหล”
ฉู่รู้สึกตะลึงกับสิ่งนี้
เหตุใดฉากนี้รู้สึกคุ้นเคยเช่นนี้?
เมื่อคิดย้อนกลับไป เขาเคยหลอกไท่มาก่อน ก่อนหน้านั้น ไท่เคยก่นด่าผู้ที่เตือนให้ตนเองระวังตัวจากฉู่ และเชิดชูฉู่ยิ่งกว่าสิ่งใด...
เมื่อเวลาผ่านไป เขากลายเป็นคนที่คอยแนะนำไท่ ฟังไท่ก่นด่า และยกย่องผู้อื่นว่าสูงส่ง!
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าไท่โดนหลอก
“หากเป็นเช่นนั้น บอกข้ามาว่าเขาให้สมบัติอะไรแก่เจ้า”
ฉู่ถามอย่างหมดหนทาง
“ปราณโกลาหลแห่งการสรรค์สร้าง” ไท่พูดอย่างเคร่งขรึม
“เจ้าว่าอย่างไรนะ?”
ฉู่ตกตะลึงและพบว่ามันยากที่จะเชื่อ
“สหายเต๋าพี่ชายมอบปราณโกลาหลแห่งการสรรค์สร้างให้กับข้า”
ฉู่หายใจเข้าลึก ๆ
ความเชื่อของเขาที่ว่าไท่ถูกหลอกเริ่มสั่นคลอน
มันคุ้มค่าหรือไม่ที่จะฆ่ายอดฝีมือสองคนจากตำหนักเทพเจ้าแห่งคุกเพื่อปราณโกลาหลแห่งการสรรค์สร้าง?
แน่นอนว่ามันคุ้มค่า!
แม้แต่เทพเจ้าบรรพกาลแห่งคุกก็อาจจะฆ่าเบี้ยของเขาเอง หากว่าเขาจะได้รับปราณโกลาหลแห่งการสรรค์สร้าง
“เป็นอย่างไรบ้าง สหายเต๋าพี่ชายเป็นผู้สูงส่งและจริงใจหรือไม่? ข้าบอกแล้วว่าเขาไม่ได้พยายามที่จะหลอกลวงข้า!”
ไท่ภูมิใจมาก
“ฉู่ เจ้ามีจิตใจมืดบอดที่คิดว่าใคร ๆ ก็จะเจ้าเล่ห์และร้ายกาจเช่นเจ้า”
“บางทีข้าอาจเข้าใจผิด…”
ฉู่ยังคงพบว่ามันยากที่จะเชื่อ ในความโกลาหลมีคนดีเช่นนี้จริงหรือ?
เหตุใดเขาไม่เคยพบเจอ
สัญชาตญาณของเขาบอกว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
“เจ้าต้องคิดหาทางให้ข้าจัดการกับเรื่องนี้โดยเร็ว” ไท่รีบเร่งให้อีกฝ่ายช่วย
“เผ่าพันธุ์เซียนมีสมบัติล้ำค่าซ่อนอยู่ในโลกโกลาหลบรรพกาล” ฉู่กล่าวหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง
จากนั้นเขาก็บอกไท่ว่าสมบัติล้ำค่าของเผ่าพันธุ์เซียนชิ้นนั้นถูกซ่อนไว้ที่ใด
“วางสมบัติล้ำค่านี้ไว้ในค่ายกล” เขากล่าวต่อ
“จากนั้นก็บอกพวกเขาว่ายอดฝีมือสองคนนั้นตามหาสมบัติล้ำค่านี้ เจ้าจึงปกป้องมันไว้”
ไท่ฟังอย่างเงียบ ๆ
วิธีการของฉู่นั้นง่ายมาก ค่ายกลเป็นเพียงการปกปิด เป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขาคือสมบัติล้ำค่า
ไท่โจมตีเพื่อปกป้องสมบัติล้ำค่า ดังนั้นเผ่าพันธุ์เซียนจึงเป็นหนี้บุญเจ้าเขา
เผ่าพันธุ์เซียนจะเต็มใจแบ่งปันภาระหรือไม่?
ภายใต้สถานการณ์ปกติ ไม่มีใครเต็มใจที่จะทำให้เทพเจ้าโบราณแห่งคุกขุ่นเคือง
อย่างไรก็ตาม สมบัติล้ำค่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง
มันเป็นหนึ่งในสมบัติในตำนานที่บรรพชนของเผ่าเซียนได้ทิ้งไว้
เผ่าพันธุ์เซียนได้ซ่อนมันไว้ในโลกโกลาหลบรรพกาล คนธรรมดาย่อิอมไม่รู้ถึงการมีอยู่ของมัน และแม้แต่บรรพชนบางคนก็ไม่รู้
เมื่อพวกเขากำลังจัดตั้งค่ายกล มันถูกพบโดยบังเอิญและถูกวางไว้ในค่ายกล
สิ่งนี้สมเหตุสมผลมาก
แล้วไท่รู้ได้อย่างไร?
เขาเป็นหนึ่งในสิบแปดบรรพชนของเผ่าพันธุ์ยักษ์
เขาเคยเห็นสมบัติล้ำค่ามาก่อน ดังนั้นเขาจึงรู้ว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่หายาก
เพื่อให้แน่ใจว่าเผ่าเซียนเต็มใจที่จะแบกรับการแก้แค้นไปพร้อมกับเขา ไท่จะดูแลสมบัติล้ำค่านี้ให้พวกเขา
ท้ายที่สุดเขาเป็นคนที่ปกป้องมัน สมควรอย่างยิ่งที่เขาจะเก็บมันไว้ชั่วขณะหนึ่ง แล้วส่งคืนหลังจากที่เรื่องนี้ยุติลง
“ฉู่ เจ้ายังเจ้าเล่ห์เช่นเคย” ไท่ถอนหายใจ
ใบหน้าของฉู่มืดลง
“ไท่ เพื่อช่วยเจ้า ข้าได้มอบไพ่ตายให้เจ้า!”
“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าสมบัติล้ำค่าอยู่ที่ใด” ไท่ถามด้วยความสงสัย
“ความลับของสวรรค์ไม่สามารถเปิดเผยได้” ฉู่ตอบอย่างมีเลศนัย
“พวกเขาจะเต็มใจที่จะทำให้เทพเจ้าบรรพการแห่งคุก ขุ่นเคืองเพื่อสมบัติสูงสุดนั้นหรือไม่” ไท่ถามหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง
“พวกเขาจะไม่ถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะมันเกี่ยวข้องกับบรรพชนของพวกเขา”
“นอกจากนี้ เทพเจ้าบรรพกาลแห่งคุกอาจไม่ทำอะไรหากบรรพชนของเผ่าพันธุ์เซียนเข้ามาเกี่ยวข้อง” ฉู่กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เป็นไปได้อย่างไร?”
ไท่อึ้งไปชั่วขณะ
“บรรพชนของเผ่าพันธุ์เซียนเทียบได้กับเทพเจ้าบรรพกาลแห่งคุก?”
ฉู่ดูเหมือนจะรู้ความลับเกี่ยวกับความโกลาหลมากกว่าที่เขารู้
เขาถอนหายใจ เป็นเวลานานแล้วที่พวกเขาติดต่อกัน ดังนั้นพวกเขาจึงห่างเหินกันโดยธรรมชาติ
“บรรพชนทั้งสามของเผ่าพันธุ์เทพ เซียน และมารจะอ่อนแอกว่าเทพเจ้าโกลาหลบรรพกาลได้อย่างไร นั่นคือเหตุผลว่าเหตุใดทั้งสามเผ่าพันธุ์จึงเคยปกครองเก้าดินแดน” ฉู่พูดด้วยเสียงต่ำ
ไท่คิดกับตัวเองว่าหากบรรพชนของทั้งสามเผ่าพันธุ์ไม่อ่อนแอกว่าเทพเจ้าโกลาหลบรรพกาล พวกเขาก็คงจะไม่กลัวเทพเจ้าบรรพการแห่งคุก
“เข้าใจแล้ว ข้าจะไปเตรียมตัวเดี๋ยวนี้” ไท่พูดอย่างตื่นเต้น
ก่อนที่การสนทนาจะจบลง ไท่อดไม่ได้ที่จะถาม “ฉู่ ตอนนี้เจ้าแข็งแกร่งเพียงใดแล้ว”
จากความประทับใจของเขา ฉู่ไม่ได้เป็นที่รู้จักเรื่องความแข็งแกร่ง แต่มันมาจากแผนการและเล่ห์กลของเขา