1037 - สถานการณ์ที่เลวร้ายในทุ่งดวงดาวหมีใหญ่
1037 - สถานการณ์ที่เลวร้ายในทุ่งดวงดาวหมีใหญ่
“ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา กระแสน้ำขึ้นและลง มีหลายสิ่งเกิดขึ้นมากเกินไป มันคาดเดาไม่ได้เหมือนกับมหาสมุทรอันกว้างใหญ่”
เย่ฟ่านถอนหายใจ และหลังจากเพลิดเพลินกับอาหาร เขาก็จ่ายเงินและเดินลงไปด้านล่างของอาคาร
“คนผู้นั้น…”
ผู้บ่มเพาะจ้องมองที่หลังของเย่ฟ่านอย่างสงสัย จากนั้นมองไปยังเด็กวัยห้าขวบที่เขาอุ้มอยู่ ใบหน้าของเขาซีดเซียวทันที
“เป็นไปได้ไหมที่เขาจะกลับมาแล้ว”
เมื่อคนอื่นเห็นสีหน้าของเขาทุกคนก็เดินเข้ามาถามด้วยความสำเร็จ
“พี่ฉีเกิดอะไรขึ้น”
“ถ้าข้าจำไม่ผิด นั่นเป็นชายที่อยู่ในทะเลเหนืออย่างแน่นอน” ผู้บ่มเพาะแซ่ฉีดูจริงจังมาก
ในวันนี้ ข่าวแพร่สะพัดทั่วเสิ่นโจวตะวันออก คนที่หนีจากดวงตาแห่งทะเลเหนือกลับมาแล้ว!
ทันทีที่ข่าวลือนี้กระจายออกไปโลกทั้งใบก็เปลี่ยนไปก็สั่นสะเทือนทันที ข่าวนี้ยังน่าตกใจยิ่งกว่าเหตุการณ์ที่หยินเทียนเต๋อมุ่งหน้าไปทิศตะวันตก ไม่รู้ว่ามีกี่คนในโลกที่รอให้เย่ฟ่านกลับมา
เขาน้าวเกาทัณฑ์และยิงสังหารปรมาจารย์ฎีกาทองนับร้อย จบชีวิตของ 5 องค์ชายอีกาทองในวันเดียว ทะเลเหนือถูกเปลี่ยนเป็นสีทองจากเลือดของอีกาเหล่านั้น
หลังจากนั้น เขาถึงกับฆ่าอัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามของโลก ตัดหัวของพวกเขาด้วยรัศมีแห่งการอยู่ยงคงกระพัน ซึ่งทำให้ทั้งโลกตกตะลึง
ตอนนี้ คนผู้นี้กลับมาแล้ว แน่นอนว่าการปรากฏตัวของเขาย่อมทำให้สายตาของผู้คนทั้งโลกกวาดมองมันในทิศทางนี้ทันที
ลู่หยาพุ่งออกมาจากดินแดนบ่มเพาะของตัวเองด้วยความโกรธ ภายใต้เสียงคำรามดังกึกก้องเขาข้ามประตูมิติมุ่งหน้าสู่เสิ่นโจวตะวันออกทันที
“ไม่เพียงแค่เขาจะรอดชีวิตกลับมาเท่านั้น ความแข็งแกร่งของเขายังน่าอัศจรรย์อย่างถึงที่สุด…”
เทพธิดาอี้ชิงอู่กล่าวกับตัวเอง ตอนนี้หลังจากที่หยินเทียนเต๋อจากไปนางก็ทะยานขึ้นสู่ตำแหน่งยอดฝีมืออันดับ 1 ของโลกไปโดยปริยาย
ทันทีที่เย่ฟ่านปรากฏตัว ความสนใจของผู้คนทั้งหมดก็มุ่งไปในทิศทางนั้นทันที!
……..
ทุ่งดาวโบราณหมีใหญ่... ในโลกอำพรางสวรรค์... ชายร่างกำยำที่สูงกว่าคนธรรมดาทั่วไปกำลังหลบหนีการไล่ล่าอย่างทุลักทุเล
ด้านหลังมีภาพธรรมที่พร่ามัวของยอดฝีมือบางคนไล่ตามมาอย่างรวดเร็ว
“เก้ากระบี่จักรพรรดิอสูร การเปลี่ยนแปลงของเต๋า!”
ชายร่างกำยำตะโกนและยิงลำแสงที่พร่ามัวสีดำ 2 เส้นตัดศีรษะยอดฝีมือที่ไล่ตามหลังมาทันที
“ศิลปะอันศักดิ์สิทธิ์ที่จักรพรรดิชิงทิ้งไว้นั้นแข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้จริงๆ แต่ก็น่าเสียดายที่เจ้ามาพบข้า ท้ายที่สุดฐานการบ่มเพาะของเจ้ายังต่ำเกินไป”
ชายผู้อยู่เบื้องหลังคว้าศรีษะของเขาที่ตกลงมาบนพื้นหยิบขึ้นมาต่อกับร่างกายอีกครั้ง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน
“ข้าอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว หากจะตายคงตายไปตั้งแต่แรก มันไม่มีทางที่ข้าจะตายเพราะคนอย่างเจ้า!” ผังป๋อตะโกน
เขามีคิ้วหนาและตาโต ร่างกายแม้ว่าจะอาบไปด้วยเลือดแต่ก็เต็มไปด้วยความดุดันและโหดร้าย ด้วยทักษะของจักรพรรดิอสูรเขาดิ้นรนเอาชีวิตรอดมาหลายปีและไม่มีผู้ใดทำอันตรายต่อเขาได้
…….
ภายในดินแดนทุรกันดารของภาคเหนือ ทะเลทรายสีแดงทอดยาวหลายพันลี้ ดวงตาของวานรศักดิ์สิทธิ์แดงก่ำด้วยความโกรธ ร่างกายของเขามีรอยแตกจากบาดแผลมากมาย
กระบองสีดำในมือของเขาก็เปื้อนไปด้วยเลือด เบื้องหลังของเขาคือคนเถื่อนร่างกายใหญ่โตที่ถือกระบองกระดูกอย่างดุร้าย เขากำลังอุ้มหลี่เหอซุยซึ่งร่างกายซีกหนึ่งถูกทำลายไปแล้วอยู่ในอ้อมแขน
“องค์ชายศักดิ์สิทธิ์ อย่าต่อต้านอีกเลย” อีกด้านหนึ่งมีคนเย้ยหยัน
“เข้ามาอีกครั้ง ข้าจะแสดงให้เห็นว่าสายเลือดของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เผ่าพันธุ์โบราณทรงพลังมากแค่ไหน!”
วานรศักดิ์สิทธิ์คำรามด้วยความโกรธ เส้นขนสีทองของเขาอาบไปด้วยเลือดสีแดงเข้ม
“องค์ชายศักดิ์สิทธิ์เจ้าควรจะรู้ว่าสายเลือดของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์นั้นสูงส่งแค่ไหน อย่างไรก็ตามต่อให้เจ้าสูงส่งกว่านี้ก็ไม่มีทางเทียบกับทายาทของจักรพรรดิอมตะ(ลูกสือฮ่าวมั้ง)ได้”
ยอดฝีมือที่กำลังไล่ล่าทุกคนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“โอ้ หรือว่าทายาทของจักรพรรดิอมตะเป็นคนออกคำสั่งให้พวกเจ้าเป็นคนไล่ล่าข้า หรือว่าเขาจะลงมือด้วยตัวเอง!” ดวงตาของลิงเป็นประกายสดใส
ยอดฝีมือที่ไล่ล่าสังหารพวกเขามีรอยยิ้มฉาบอยู่บนใบหน้า เขาไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธเพียงยิ้มเย้ยหยันเท่านั้น
“ถ้าข้ารู้เร็วกว่านี้ ตอนที่เย่ฟ่านตัดมันออกจากหินในทะเลสาบหยกข้าคงฆ่ามันไปตั้งแต่แรก มันไม่มีทางที่ข้าจะปล่อยให้เจ้าสาระเลวน้อยนั่นตกอยู่ในมือของราชาหมาป่าตาขาวของพวกเจ้าได้!”
หลี่เหอซุยที่กำลังจะตายกล่าวด้วยความยากลำบาก
“ลำพังแค่พวกเจ้าหรือ เพียงข้าใช้นิ้วเดียวก็ปราบปรามพวกเจ้าได้แล้ว นับประสาอะไรกับทายาทจักรพรรดิอมตะ”
“ปราบปรามมารดาเจ้า ข้ากำลังจะตายอยู่ที่นี่ ส่วนเจ้าก็หนีไม่รอดเช่นกัน” หลี่เหอซุยตะโกนอย่างเคียดแค้น
“ถูกต้อง หลังจากที่เย่ฟ่านกลับมาต่อให้เป็นทายาทของจักรพรรดิอมตะก็ไม่มีทางรอดชีวิตได้ นับประสาอะไรกับตัวเจ้า”
“ครืน!”
กระบองสีดำขยายใหญ่ขึ้นนับหมื่นเท่า วานรศักดิ์สิทธิ์ลงมือตอบโต้เป็นครั้งสุดท้ายด้วยความโกรธ
“ข้าจะทุบเจ้าให้ตายที่นี่!”
…….
ในภาคใต้ของดินแดนรกร้างตะวันออก บนแท่นหยกอันตระหง่านและสูงส่งของตระกูลจี้ แสงจันทร์ส่องลงมาจากด้านบนและหญิงสาวในชุดสีม่วงก็แหงนหน้ามองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวด้วยความงุนงง
หลังจากนั้นไม่นาน ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ร่างอาบไปด้วยเลือดก็ปีนขึ้นมาบนแท่นหยกนี้
“ผู้คนมากมายเสียชีวิตในสนามรบ แต่เจ้าหมาดำสาระเลวตัวนั้นไม่รู้ว่ามันพาเด็กหญิงตัวน้อยไปอยู่ที่ไหน?”
หญิงสาวถูกปกคลุมด้วยแสงจันทร์เย็น สว่างและสดใสเหมือนเทพธิดาจากสรวงสวรรค์ นางจะเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจากจี้จื่อเยว่
“ข้าหวังว่าเจ้าหมาตัวนั้นจะยังไม่ตาย ค่ายกลเคลื่อนย้ายทางไกลของมันยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง” จี้ฮ่าวเยว่ถอนหายใจ
แสงดาวที่ส่องประกาย ระยะทางที่ไม่มีที่สิ้นสุดจี้จื่อเยว่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว จ้องมองที่ปลายอีกด้านหนึ่ง
…
ในทุ่งดาวจื่อเว่ยที่ห่างไกลเย่ฟ่านก็กำลังมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวเช่นกัน
ในค่ำคืนอันเงียบสงบนี้ เขาคิดถึงญาติพี่น้องที่บ้านเกิด และคิดถึงทุกสิ่งที่ทุ่งดาวหมีใหญ่
เขายังจำฉากที่เขาอำลาทุกคนได้ จี้จื่อเยว่ยิ้มและหลั่งน้ำตา คำพูดของนางยังคงก้องอยู่ในหูของเขา
“ในตอนกลางคืน ข้าจะมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว มองไปอีกด้านหนึ่งและอวยพรให้เจ้ามีความสุข ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่อีกฝั่งหนึ่ง”
เมื่อนึกถึงเพื่อนเก่าเหล่านั้นหัวใจของเขาก็สั่นระรัว
ผู้ที่ควรถูกฆ่าตายหมดแล้ว ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์นิกายยืนหยางก็เสียชีวิตเช่นกัน หวังเถิงและยอดฝีมือรุ่นยาวคนอื่นก็ถูกฆ่าตายไปแล้ว สหายเก่าของเขาไม่ควรมีศัตรูหลงเหลืออยู่ แต่เย่ฟ่านกลับเกิดความหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา
ในฐานะผู้สืบทอดของจักรพรรดิชิงผังป๋อได้รับการคุ้มครองโดยเผ่าพันธุ์อสูรทั้งหมด หลี่เหอซุยและคนอื่นๆ เป็นลูกหลานของจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่
“ทำไมทุกครั้งที่ข้ามองขึ้นไปที่ท้องฟ้าจิตใจของข้าถึงสั่นระรัวแบบนี้”
เย่ฟ่านยืนอยู่บนยอดเขา ปกคลุมไปด้วยแสงจันทร์ ร่างกายของเขาเปล่งประกาย เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวและครุ่นคิดด้วยความกังวล
“บางทีลางสังหรณ์ของข้าอาจเป็นจริง พวกเขากำลังมีปัญหาใหญ่ ตอนนี้พวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมาก พวกเขากำลังหลงทางระหว่างความเป็นและความตาย พวกเขาต้องการให้ข้ากลับไป ข้าต้องกลับไป!” เขาลุกขึ้นทันที
….