ตอนที่ 59 ให้ฉันเป็นรองผู้นำกิลด์(อ่านฟรี)
ตอนที่ 59 ให้ฉันเป็นรองผู้นำกิลด์
หลังจากที่ลุคเล่าเรื่องอาการป่วยของเจนให้กับนิโคลฟังแบบคลุมเครือ โดยบอกแค่ว่าเจนมีอาการบาดเจ็บที่สมองเสียหายจนถึงแหล่งกำเนิดคลื่นสมองและตอนนี้ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
นิโคลได้ยินก็ตื่นตกใจและเศร้าในเวลาเดียวกัน เมื่อได้รู้ว่าเจนปลุกพลังเหนือมนุษย์ได้สำเร็จ แต่ก็ต้องบาดเจ็บจนสมองเสียหายไปถึงแหล่งกำเนิดคลื่นพลัง
เธอที่คุ้นเคยเกี่ยวกับพลังเหนือมนุษย์จึงรู้ว่าแหล่งกำเนิดคลื่นพลังเป็นอาการบาดเจ็บที่ร้ายแรงมาก ไม่มีทางรักษาได้
“ฉันเสียใจกับนายด้วย ไม่คิดว่าเธอจะพบเจอกับเรื่องน่าเศร้าแบบนี้” นิโคลกล่าวออกมาจากใจจริง
“ฉันจะหาทางรักษาเจน”
ลุคไม่เศร้าอีกเพราะรู้ว่าตอนนี้ชีวิตของเจนปลอดภัยแล้ว เหลือแต่การรักษาคลื่นสมองเท่านั้น แต่พอนิโคลได้ยินก็เข้าใจว่าลุคนั้นทำใจไม่ได้จึงพูดออกมาแบบนั้น
“หมอไม่ได้แจ้งนายเรื่องที่แหล่งกำเนิดคลื่นพลังไม่สามารถรักษาได้เหรอ ฉันจะไม่ว่านาย แต่ฉันอยากให้นายทำใจและกลับมาเป็นเหมือนชายที่ฉันเห็นในบนดาดฟ้าที่ทรงพลังคนนั้น” นิโคลกล่าวปลอบใจลุคในแบบของเธอ
ลุคยิ้มออกมา ก่อนจะกล่าว “ขอบใจนะ”
“อืม นายเข้าใจก็ดีแล้ว” นิโคลพยักหน้า
“แต่ฉันยังมีวิธีรักษาเจน และที่ขอให้เธอมาก็เพื่อจะทำข้อตกลงกับเธอเพื่อทำภารกิจหนึ่ง มันเกี่ยวกับการรักษาเจน”
“มีวิธีรักษา” นิโคลตกใจ ก่อนจะถามเสียงเบา “บอกฉันหน่อยได้ไหม”
“ฉันไม่สามารถบอกบางเรื่องได้ แต่เรื่องที่บอกได้ฉันจะบอกเธอ วิธีการรักษาเกี่ยวกับมอนสเตอร์ระดับ E ตัวหนึ่ง ซึ่งฉันต้องการคนในการช่วยจับมันแบบเป็น ๆ และแน่นอนว่าไม่สามารถบอกคนนอกที่ไม่ไว้ใจได้”
นิโคลหรี่ตาลงเล็กน้อย เพราะคำพูดที่ว่าไว้ใจได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าลุคไว้ใจเธอ
“นายต้องการพลังพรสวรรค์ในการควบคุมเชือกของฉัน ก็จริงอยู่ที่มันเป็นพรสวรรค์ที่ดีมากในการควบคุมมอนสเตอร์ แต่นายลืมไปข้อหนึ่งความแข็งแกร่งของฉันเป็นเพียงระดับ F เท่านั้น”
“ฉันรู้และข้อเสนอที่ฉันจะเสนอให้เธอคือการยกระดับคลื่นพลังให้เป็นระดับ E ในเวลาไม่เกิน 1 เดือน ถ้าเธอตอบตกลงช่วยฉันจับมอนสเตอร์” ลุคเผยข้อต่อรองของตัวเอง
“นายว่ายังไงนะ” นิโคลยืนขึ้นตัวตรงอย่างตกใจทันที
เยี่ยม เธอสนใจแล้ว...ลุคกล่าวย้ำ
“ฉันหมายความว่าฉันจะเสนอให้เธอคือการยกระดับคลื่นพลังให้เป็นระดับ E ในเวลาไม่เกิน 1 เดือน ถ้าเธอตอบตกลงช่วยฉันจับมอนสเตอร์”
“ไม่ฉันได้ยินแล้วเพียงแต่สิ่งที่นายพูดเป็นเรื่องจริงเหรอ”
ออด...
ในตอนนั้นก็มีเสียงกดออดดังขึ้นมาดึงดูดความสนใจของทั้งสองคน
“ยังมีคนอื่นอีก รอเดี๋ยว” ลุคเดินไปเปิดประตูและพาคนสองคนเข้ามา เป็นบอสตันและไอกะ
บอสตันและไอกะประหลาดใจทันทีที่พบกับนิโคล แต่ก็คิดว่าลุคน่าจะชวนเธอมาเหมือนที่ชวนพวกเขาสองคนมา ถึงอย่างนั้นทั้งสองก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศแปลก ๆ โดยเฉพาะสีหน้าของนิโคลที่ดูจะตื่นเต้น
“เธอเป็นอะไรหรือเปล่า หรือว่านายทำอะไรเธอ” ไอกะหันไปถามชายหนุ่ม หญิงสาวเข้าใจว่าลุคยังไงก็เป็นวัยรุ่นอยู่
“อะแฮ่ม...เราไปนั่งกันก่อนเถอะ” บอสตันพูดขันไอกะ เพราะไม่อยากให้ถามเรื่องส่วนตัว
ไอกะเหมือนจะเข้าใจจึงไม่ได้ถาม
ลุคเห็นแบบนั้นก็พอเดาว่าสองคนกำลังเข้าใจผิดอยู่
“พวกคุณมาพอดีเลย ผมกำลังพูดคุยเรื่องข้อเสนอกับนิโคลอยู่ และก็จะยื่นข้อเสนอแบบเดียวให้กับพวกคุณด้วย” ลุคกล่าว
ทั้งสองคนทำสีหน้าประหลาดใจกับคำพูดของลุค
“ไม่ใช่ว่าทั้งสองกำลังสารภาพรักกันอยู่เหรอ” ไอกะพูดเขินอายเล็กน้อย
พรวด...นิโคลถึงกับสำลักน้ำที่กำลังดื่ม นิโคลรีบแก้ตัวอย่างเสียอาการ
“ไม่ใช่ ลุคกำลังยื่นข้อเสนอให้ฉันช่วยทำภารกิจจับมอนสเตอร์ตัวหนึ่งแลกกับวิธีการยกระดับคลื่นพลังให้เป็นระดับ E ในเวลาไม่เกิน 1 เดือน”
“อ้อ...”
ทั้งสองทำเสียงลากยาวเหมือนจะเข้าใจ แต่แล้วก็เหมือนจะโดนฟ้าผ่าหน้านิ่งค้างไปทันที ก่อนจะหันกลับไปมองลุค
“วิธีการยกระดับคลื่นพลังให้เป็นระดับ E ในเวลาไม่เกิน 1 เดือน” บอสตันและไอกะพูดออกมาพร้อมกับ
พวกเขาเป็นเหนือมนุษย์หน้าใหม่จึงรู้ว่าการยกระดับคลื่นพลังยากลำบากแค่ไหน อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสัก 4-5 ปี จึงจะไปถึงสุดสูงสุดของระดับ F
“เธอบอกว่าจะยกไปถึงระดับ E ได้ใน 1 เดือนจริง ๆ ใช่ไหม” บอสตันถามนิโคล
“ต้องถามเขา เขาเป็นคนพูดเรื่องนี้ ฉันกำลังถามเขาอยู่เหมือนกัน”
“จริง อย่างที่บอกไปเมื่อครู่ถ้าพวกนายช่วยฉัน ฉันจะช่วยยกระดับคลื่นพลังให้พวกนาย ที่จริงแล้วเรื่องนี้คือเรื่องสำคัญ เพราะมอนสเตอร์ที่เราจะไปจับเป็นระดับ E ถ้ายังอยู่แค่ระดับ F พวกเราคงจับมันไม่สำเร็จ”
“ทำไมคุณถึงอยากจับมัน” ไอกะถามอย่างสงสัย
ลุคเล่าเรื่องของเจนให้สองคนฟังเหมือนที่เล่าให้กับนิโคลฟัง
“นี่มัน ไม่ว่า...เธอน่าสงสารมาก” บอสตันถอนหายใจ
ไอกะที่ได้ยินก็เศร้าใจมาก เธอดึงลุคมากอด ก่อนจะปลอบใจทันที ทำเอาทุกคนตกใจกับการกระทำของไอกะ ลุคเองก็เช่นกัน
“นายจะต้องผ่านมันไปให้ได้ ฉันจะช่วยนายทุกอย่าง ขอสัญญาเลย” ไอกะกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่นที่สุด เธอเข้าใจความรู้สึกของลุคอย่างดี เพราะเธอเป็นแม่คนหนึ่ง บางครั้งความรู้สึกปกป้องที่พี่ชายมีก็ไม่ต่างจากพ่อแม่ที่มีความรู้สึกปกป้องลูกเหมือนกัน
ไอกะมีลูกสองคนเธอจึงเข้าใจเศร้าที่ลุคมี
“เออ...ขอบคุณ”
ลุคออกมาจากอ้อมกอดไอกะ ก่อนจะกลับมาพูดเข้าเรื่องที่กำลังคุยกันอีกครั้ง
“ผมยินดีจะช่วยด้วย เพราะยังไงผมก็ถือว่าอยู่ในทีมล่าของนาย” บอสตันกล่าว
ลุคไม่แปลกใจที่ทั้งสองตอบตกลง เพราะพวกเขาเหมือนมีสัญญาเรื่องกลุ่มกันอยู่แล้ว จึงต้องช่วยเหลือกัน แต่คนที่สำคัญจริง ๆ คือนิโคล
“ก่อตั้งทีม?” นิโคลหันไปถามพวกเขา
บอสตันเล่าเรื่องคร่าว ๆ ถึงการพูดคุยเกี่ยวกับทีมของพวกเขาทั้งสามคน
นิโคลนิ่งเงียบไป ก่อนจะถามลุคว่า “บอกวิธีในการยกระดับคลื่นพลังในระยะเวลาสั้น ๆ ที่นายว่ามาให้หน่อยได้ไหม มันมีผลเสียอะไรบ้างแล้วผลดีละ”
“ได้ แต่ขอให้เก็บไว้เป็นความลับได้ไหม เรื่องทุกอย่างที่เราคุยกันตรงนี้”
ทั้งสามคนพยักหน้าพร้อมกัน
ลุคทำท่าล้วงไปในกระเป๋าหยิบยาโอสถผู้หิวกระหายออกมา เขาไม่ได้บอกถึงที่มา แต่บอกถึงสรรพคุณของมันทันที
“นี่คือยาโอสถผู้หิวกระหายที่ช่วยในเพิ่มการดูดซับสารอาหารทุกอย่างและช่วยในการดูดซับพลังงานจากยาตัวนี้ นี่คือยาที่ถูกเรียกว่ายายกระดับคลื่นพลัง ถ้ากินปกติแล้วมันจะต้องใช้เวลาถึง 7 วันในการดูดซับและค่อย ๆ ยกระดับคลื่นพลัง แถมก็ยังมีผลข้างเคียงด้วยคือความเจ็บปวดและความร้อนที่เพิ่มขึ้นในร่างกาย”
“ส่วนผลข้างเคียงของยาโอสถผู้หิวกระหายคือพอกินก็จะหิวมากถึงขั้นอาจจะหิวจนเป็นบ้าได้จึงต้องกินคู่กับยายกระดับคลื่นพลัง ฉันจะมอบพวกมันให้และช่วยพวกคุณในการยกระดับคลื่นพลังเต็มที่ถ้าตกลง”
ทั้งสามคนมองไปที่ยาเม็ดกลม ๆ ที่วางอยู่ตรงหน้าด้วยความสงสัย
“ถ้าสงสัยก็มาพิสูจน์กันได้” ลุคกล่าวเสริม
“ไม่เป็นไรพวกเราเชื่อคำพูดของนาย แต่ฉันอยากจะถามมีแค่นายที่ควบคุมเรื่องยาที่ช่วยในการดูดซับพลังงานใช่ไหม” นิโคลเอ่ยถาม เธอรู้ว่าถ้าผลของยาเป็นแบบที่ลุคกล่าวจริง ๆ ยานี่จะเป็นสิ่งที่เหนือมนุษย์ทุกคนโหยหาแน่นอน
“มีแค่ฉันที่หามันได้” ลุคกล่าวออกมา เพราะนี่คือไอเทมที่เกิดจากพลังพรสวรรค์ของเขา ถ้าเขาไม่ตายก็ไม่มีใครแย่งพลังพรสวรรค์ของเขาไปได้และก็ไม่มีใครสร้างยาโอสถผู้หิวกระหายขึ้นมาได้ด้วย
“ฉันตกลงกับข้อเสนอของนาย แต่ว่าฉันก็ต้องการให้นายสัญญากับฉัน 1 เงื่อนไขว่าหลังจากรักษาน้องสาวของนายแล้ว ถ้านายก่อตั้งกิลด์เมื่อไหร่ต้องให้ฉันเป็นรองผู้นำกิลด์”
ลุคเงยหน้ามองเธอในทันที ที่จริงแล้วเรื่องการก่อตั้งกิลด์ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้อยู่ในแนวทางของเขา เพราะการตั้งทีมก็เพื่อที่จะพัฒนาไปการก่อตั้งกิลด์ในภายหลังอยู่แล้ว เพราะการก่อตั้งกิลด์ต้องอยู่ในระดับ E ขึ้นไป
เขาไม่คิดว่านิโคลจะเป็นคนเสนอเงื่อนไขนี้
แน่นอนว่าถ้าก่อตั้งกิลด์จริง ๆ ลุคจะเป็นหัวหน้ากิลด์อยู่แล้ว ส่วนรองก็ต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งในระดับหนึ่ง ซึ่งนิโคลสามารถเป็นคนนั้นได้ และสมาชิกอีกสองคงหนีไม่พ้นบอสตันกับไอกะ
เรียกได้ว่าด้วยความพิเศษที่มีคนที่มีพลังพรสวรรค์ถึง 3 คนสามารถสร้างกิลด์ได้สบายถ้าพวกเขาไปถึงระดับ E แต่ลุคก็ยังอดสงสัยไม่ได้
“เพราะอะไร เธอถึงอยากจะก่อตั้งกิลด์กับฉัน”
“ฉันต้องการทำลายกิลด์กะโหลกดำ”
ทั้งสามคนพากันตกใจ เพราะกิลด์กะโหลกดำแข็งแกร่งมาก ซึ่งไม่ได้มีแค่เหนือมนุษย์ระดับ E แน่นอน แต่ที่ทำให้พวกเขาตกใจจริง ๆ คือนิโคลก็อยู่ในกิลด์นี้ด้วย ทำไมเธออยากจะทำลายมัน
‘ดูเหมือนการเข้ากิลด์ของเธอที่แนะนำโดยเรทเจอร์จะสร้างความขุ่นเคืองบางอย่างให้กับนิโคล’ ไม่มีเหตุผลที่เขาต้องปฏิเสธ เพราะถ้าเขาอยากจะแข็งแกร่งขึ้นไปเรื่อย ๆ การก่อตั้งกิลด์ในภายหลังจะต้องมีการต่อสู้แย่งชิงทรัพยากรกันอยู่แล้ว คำขอของนิโคลก็แค่การกำหนดเป้าในอนาคตเท่านั้น
“ตกลง” ลุคกล่าว
นิโคลพยักหน้าและเหมือนเธอจะกลายเป็นพวกเขาจริง ๆ แล้ว
เรื่องที่หญิงสามถามเกี่ยวกับยาโอสถผู้หิวกระหาย ต้องการความแน่ใจว่าจะมีแค่กิลด์ที่ลุคอยู่ เพราะยาโอสถผู้หิวกระหายจะเป็นหลักประกันสำคัญให้กับการสร้างกิลด์ในอนาคต เพื่อดึงดูดฮันเตอร์คนอื่น ๆ มาเข้ารวมกิลด์
นี่เป็นข้อได้เปรียบที่ทำให้กิลด์สามารถสู้กับกิลด์จากบริษัทใหญ่ ๆ ได้
แน่นอนว่าลุคไม่ได้คิดว่าเขามีข้อได้เปรียบเรื่องยาโอสถผู้หิวกระหายเท่านั้น เพราะเขายังมีการสนับสนุนทางการเงินจากร้านค้าเส้นทางตะวันอยู่ ซึ่งร้านนี้เป็นแหล่งรายได้หลักของเขา