ตอนที่ 3
เฉิงอวี้ทำจิตใจให้สงบได้อย่างรวดเร็ว เขาใช้กระดาษทิชชูหยิบหน่อไม้ฝรั่งไปทิ้ง พร้อมกับเช็ดคราบน้ำมันที่เลอะโต๊ะด้วย
“ก่อนหน้านี้พวกเราไม่เคยกินหม้อไฟด้วยกันมาก่อน” เขาพูด “นายก็รู้นี่ว่าก่อนที่นายจะความจำเสื่อมเราเพิ่งคบกันได้แค่อาทิตย์เดียว แล้วตอนนั้นฉันก็ยุ่งมาก นัดนายออกมากินข้าวทีไรก็มีแต่เมนูผัด”
หลินอันหลานไม่นึกสงสัย เขาคีบผักอื่นๆ ให้แล้วพูดต่อว่า “อย่างนี้นี่เอง”
เขาเป่าผักร้อนๆ ที่คีบอยู่ เสร็จแล้วเอาใส่ปาก แก้มสองข้างฟูขึ้นเหมือนกระรอกตัวหนึ่ง น่ารักมาก
เฉิงอวี้มองด้วยสายตาอ่อนโยน จากนั้นก็ใช้กระดาษทิชชูเช็ดคราบน้ำมันที่ริมฝีปากให้เขา และจู่ๆ ก็ยืนขึ้นแล้วก้มตัวมาหอมแก้มหลินอันหลานอย่างห้ามใจไม่อยู่
“อื้อ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ฉันจีบนายมานานมาก”
“นานมากๆ”
หลินอันหลานรู้สึกผิดนิดหน่อย จึงรีบคีบเนื้อใส่ในชามของอีกคนแล้วพูดอย่างเอาใจว่า “นายกินสิ”
เฉิงอวี้กินไปด้วยยิ้มหวานไปด้วย เขาไม่ได้ละสายตาไปจากหลินอันหลานเลย
เขายังคงจำคืนวันนั้นได้ วันที่เหตุการณ์ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปหมด
วันนั้นฝนตกหนักมาก เฉิงอวี้ไม่ได้ออกไปไหน เขานอนดูโทรทัศน์อยู่ที่บ้าน ดูหนังไปได้ครึ่งเรื่องก็ได้ยินเสียงเคาะประตูจากหน้าห้อง
ตอนแรกเป็นแค่เสียงเคาะเบาๆ จากนั้นก็เหมือนคนเคาะมีความกล้ามากขึ้น เสียงก็เลยดังมากขึ้นตามไปด้วย จังหวะที่เคาะก็แรงขึ้น
เฉิงอวี้ขมวดคิ้วแล้วเดินออกไปเปิดประตู เขาเห็นหลินอันหลานยืนอยู่ที่หน้าประตู เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายตากฝนมา เสื้อผ้าเปียกไปหมด
หลินอันหลานสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว เวลาเปียกฝนมันก็แนบไปกับลำตัว ทำให้เห็นเอวบางคอดอย่างชัดเจน
เฉิงอวี้เบนสายตาออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เขาเห็นว่าคนคนนั้นขาวมาก และตอนนี้หน้าของฝ่ายนั้นกำลังซีดลงไปอีก ใบหน้าที่เปียกฝนดูเหมือนจะอ่อนแออย่างมาก
หลินอันหลานยืนอยู่ตรงข้ามเขา ผมสีหมึกเปียกโชก ริมฝีปากเรียวบาง
เขาพูดขึ้นมาอย่างระมัดระวังว่า “สวัสดี ที่นี่คือบ้านของฉันใช่ไหม”
เฉิงอวี้ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ เขาถึงพูดแบบนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ถามออกไป
เมื่อหลินอันหลานเห็นเขาไม่ตอบ ก็เลยถามอีกครั้งว่า “ขอโทษนะครับ เหมือนผมจำอะไรบางอย่างไม่ค่อยได้ ไม่ทราบว่าคุณคือแฟนของผมใช่หรือเปล่าครับ ที่นี่คือบ้านของผมใช่ไหม”
แววตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย น้ำเสียงดูไร้เดียงสาโดยไม่รู้ตัว
ในตอนนั้นเองเฉิงอวี้เหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาแล้ว
เขามองคนตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ ไม่เคยคิดเลยว่าฉากที่เหมือนในละครจะมาเกิดขึ้นกับตัวเอง ร่างกายของเขาสั่นเทาเล็กน้อย
เฉิงอวี้รู้สึกดีใจมาก แต่ในตอนนั้นเขาเริ่มใช้เทคนิคการแสดงขั้นสูง จึงไม่ได้แสดงอาการตกใจหรือดีใจจนออกนอกหน้า
แต่ว่าหัวใจของเฉิงอวี้แทบจะวายอยู่แล้ว ไหล่เขาสั่นเล็กน้อย และในตอนนั้นเองเฉิงอวี้ก็ได้แสดงเป็นแฟนหนุ่มที่แสนดีคนหนึ่งอย่างสมบูรณ์แบบ
เขายกยิ้มแล้วจับมือหลินอันหลานเข้ามาในห้อง
มองคนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรัก “ใช่แล้วภรรยา วันนี้นายกลับมาช้าจัง”
หลินอันหลานถอนหายใจ เขาเคาะหัวตัวเองแล้วพูดว่า “สมองของฉันมีปัญหา เลยจำอะไรไม่ค่อยได้ ฉันไปทำอะไรมานะ ทำไมนายถึงบอกว่าฉันกลับมาช้า”
เมื่อเฉิงอวี้ได้ยินดังนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็เพิ่มความอ่อนโยนมากขึ้น
เขาบอกว่า “นายไม่ได้บอกฉัน บอกแค่จะไปทำธุระข้างนอก แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นธุระอะไร ฉันเลยเดาว่าคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับงานของนาย ก็เลยไม่ได้ถามมาก”
“งั้นทำไมตอนที่ฉันถามครั้งแรกนายถึงไม่ตอบฉันล่ะ” หลินอันหลานถามซ้ำ
เฉิงอวี้พูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “เพราะจู่ๆ นายก็ถามแบบนั้นฉันเลยตกใจมาก ก่อนหน้านี้นายบอกว่าจะย้ายเข้ามา แต่ก็ยังไม่ได้ย้ายเข้ามาอยู่อย่างเป็นทางการ ตอนแรกฉันก็เลยชะงักไป”
หลินอันหลานขมวดคิ้ว
เฉิงอวี้พูดอย่างอ่อนโยน “เอาละ เราไม่คุยกันเรื่องนี้แล้ว เดี๋ยวฉันจะไปเปิดน้ำอุ่นให้นาย นายไปแช่น้ำก่อนเถอะ แล้วออกมาดื่มน้ำขิง จะได้ไม่เป็นหวัด”
จากนั้นเขาก็พูดต่อว่า “ฝนตกหนักขนาดนี้ ถ้ามีครั้งหน้านายอย่าลืมโทรเรียกให้ฉันไปรับนะ”
หลินอันหลานพยักหน้าหงึกหงัก แล้วถามอีกว่า “นายชื่อเฉิงอวี้เหรอ”
เฉิงอวี้คิดไม่ถึงว่าหลินอันหลานที่ความจำเสื่อมจะจำชื่อของเขาได้ด้วย เขาตกใจมาก “ใช่แล้ว”
เขากอดอีกฝ่ายอย่างห้ามใจไม่อยู่ กอดแน่นขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นก็จูบไปที่ข้างหูของหลินอันหลาน
“ฉันดีใจมากที่นายยังจำชื่อของฉันได้”
หลินอันหลานถอนหายใจเฮือกใหญ่ ความทรงจำของเขามันซับซ้อนมาก เรื่องราวดูสับสน มีบางส่วนที่เป็นสีขาว บางส่วนก็หาตำแหน่งที่เหมาะสมไม่เจอ
ในส่วนความจำที่สับสน เขาจำได้แค่ตัวเองมีแฟนชื่อเฉิงอวี้ อยู่ที่คอนโดไป๋ฮว่ากวน ชั้น 16 ถนนไป๋ฮวา
แต่ว่า...
หลินอันหลานผลักตัวเฉิงอวี้ออก แม้จะแน่ใจว่าคนคนนี้คือแฟนของเขาจริงๆ แต่ว่าเขาอยากจะมั่นใจสักหน่อย
“ฉันขอดูบัตรประชาชนของนายหน่อยได้ไหม” หลินอันหลานพูด “แม้จะรู้สึกไม่ดีนิดหน่อย แต่ว่าฉันอยากมั่นใจน่ะ”
เฉิงอวี้พยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ฉันจะไปเอามาให้”
เขาเดินกลับไปที่ห้องนอนของตัวเองอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หยิบบัตรประชาชนยื่นให้หลินอันหลานดู หลินอันหลานจ้องมาที่เขาโดยไม่กะพริบตา
หลินอันหลานอ่านบัตรประชาชนของเขาอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่านี่คือเฉิงอวี้ตัวจริง
หลินอันหลานเงยหน้าขึ้นมา เตรียมจะพูด แต่กลับเห็นสายตาเฉิงอวี้ที่มองมาด้วยความอ่อนโยนและหลงใหล
ความรู้สึกที่ปรากฏออกมาอย่างไม่รู้ตัวมันยากจะแสร้งทำได้ หลักฐานสามารถปลอมแปลงได้ รูปลักษณ์สามารถแก้ไขได้ แต่สายตาแบบนี้มันหลอกกันไม่ได้หรอก
หลินอันหลานคิด เฉิงอวี้น่าจะชอบเขามาก และน่าจะเป็นแฟนเขาจริงๆ นั่นแหละ
เขาเอาบัตรประชาชนคืนให้เฉิงอวี้
เฉิงอวี้รับมาแล้วถามต่อว่า “นายจะอาบน้ำไหม”
หลินอันหลานพยักหน้า ความจริงเขาอยากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้านานแล้ว ตอนนี้เขาหนาวมาก
เฉิงอวี้พาเขามาที่ห้องน้ำ ช่วยเขาเปิดน้ำร้อน แล้วยังช่วยเขาหาชุดนอนใหม่และกางเกงในใหม่ด้วย
“นายไปอาบน้ำก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันชงชาให้”
“ขอบคุณนะ” หลินอันหลานตอบ
เฉิงอวี้ยิ้มแล้วขยี้หัวเขาเบาๆ “จะเกรงใจสามีตัวเองทำไมเล่า”