ตอนที่ 24 : ห้ามรับอนุ! (อ่านฟรี)
หวังอันหยวนมักจะยุ่งอยู่เสมอ แต่หลังจากกลับมาจากภูเขาทางเหนือ เขาก็มีเวลาว่างสองสามวัน
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าฮูหยินยังคงโกรธเขาอยู่ แต่เขาก็จำเป็นต้องหารือกับนางเกี่ยวกับการเลือกพระชายา
เมื่อฮูหยินกลับมาจากสวนจิน เธอเห็นหวังอันหยวนรออยู่ จึงถามเขาอย่างเย็นชาว่า “ทำไมท่านถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะเจ้าคะ”
หวังอันหยวนกล่าวว่า "ที่นี่คือจวนของข้า ทำไมข้าจึงจะอยู่ที่นี่ไม่ได้กัน ตอนนี้พวกเราก็พบจินเหนียงแล้ว เจ้าจะยกโทษให้ข้าได้หรือยัง”
ฮูหยินเย้ยหยันอย่างเย็นชา “จะให้ข้าให้อภัยท่าน? เพื่อเห็นแก่ลูกๆของข้า โดยเฉพาะเฉียวจินเหนียงผู้น่าสงสาร ข้าจึงได้ยอมยกโทษให้ท่าน ไม่อย่างนั้นข้าคงจะหย่าขาดกับท่านแล้วกลับบ้านเดิมไปนานแล้ว!”
“อนุตัวน้อยที่ท่านรักนักรักหนาทำลายชีวิตลูกสาวของข้า ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวว่าถ้าข้าหย่ากับท่านแล้ว จินเหนียงจะพลอยถูกตำหนิไปด้วย ซ้ำเหนียนเอ๋อก็ยังเล็กอยู่ ข้าคงจะไม่ทนท่านอีกต่อไป!”
หวังอันหยวนถอนหายใจ “นางถูกทุบตีจนตายเพราะสิ่งที่ทำไปแล้ว แล้วทำไมเจ้าถึงยังโกรธข้าอยู่อีก ข้ามาหาเจ้าเพราะวันนี้ฮ่องเต้ตรัสว่าอยากจะเกี่ยวดองกับข้า”
ฮูหยินรู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินเรื่องนี้ "จริงหรือ?"
หวังอันหยวนพยักหน้า บ่ายวันนี้ที่ห้องหนังสือของฝ่าบาท จู่ๆฮ่องเต้ก็พูดเรื่องนี้กับเขา
หวังอันหยวนคิดว่าฮ่องเต้ต้องการให้เฉียวหรูฉีอภิเษกสมรสกับองค์รัชทายาท “ในเมื่อฝ่าบาทตรัสเช่นนั้น ข้าเกรงว่าเราจะตัดสินใจเรื่องการแต่งงานของหรูฉีไม่ได้ เราคงต้องให้หรูฉีกลับมาโดยเร็วที่สุด!”
อันที่จริง ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ในขณะที่เฉียวหรูฉีอยู่ในโถงบรรพบุรุษ ฮูหยินก็เป็นห่วงนางทุกวัน
ท้ายที่สุดยังไงนั่นก็ลูกสาวของเธอ
แต่เมื่อคิดว่า เฉียวจินเหนียงล้มป่วยมาสามวันแล้วและซูบผอมลงไปมาก ฮูหยินก็รู้สึกว่าหรูฉีสมควรได้รับบทเรียนบ้าง
ฮูหยินกล่าวว่า “ถ้าหรูฉีกลับมา แล้วจินเหนียงล่ะ? ข้าไม่สน เฉียวจินเหนียงจากข้าไปสิบแปดปีแล้ว ข้าจะไม่ปล่อยให้นางต้องกลับไปที่หลินอันอีก หรูฉีสมควรต้องได้รับบทเรียน”
“ด้วยนิสัยเช่นนี้ ต่อให้นางจะแต่งงานกับพระราชวังตะวันออก ท่านคิดว่านางจะอยู่รอดได้นานแค่ไหนกัน? คุณหนูเซี่ยหยุนเป็นสตรีที่มีชื่อเสียงที่สุดในบรรดาตระกูลที่มีอำนาจเหล่านั้น…”
หวังอันหยวนถามว่า “เฉียวจินเหนียงหายจากอาการป่วยแล้วหรือยัง”
“ท่านยังมีเฉียวจินเหนียงอยู่ในสายตาอยู่หรือ? ถ้าท่านไม่ไปชอบนังนั่น ลูกสาวผู้น่าสงสารของข้าคงไม่ต้องทนทุกข์ทรมานมานานหลายปีเช่นนี้…”
บทสนทนาย้อนกลับไปที่เรื่องก่อนหน้าอีกแล้ว
หวังอันหยวนแอบถอนหายใจและเดินออกจากลาน
แม่นมพยายามเข้ามาเกลี้ยกล่อมฮูหยินใหญ่ “นายหญิง เหตุใดท่านจึงยังโกรธนายท่านอยู่อีกล่ะเจ้าคะ? แม้ว่านายท่านจะเคยชอบอนุผู้นั้น แต่นายท่านก็ยังเคารพและรักท่าน มีผู้ใดในฉางอันที่ไม่อิจฉาท่านบ้างล่ะเจ้าคะ”
หวังอันหยวนมีภรรยาเพียงคนเดียวและอนุสองคน มารดาของเฉียวหรูอี้เป็นสาวใช้ที่ดูแลหวัง อันหยวนมาตั้งแต่เขายังเด็ก พวกเขาจึงเป็นเหมือนครอบครัวมากกว่าคู่รัก
นี่คือเหตุผลที่หวังอันหยวนอนุญาตให้เธอให้กำเนิดหรูอี้
สำหรับอนุที่สลับตัวจินเหนียงและหรูหยุน นางถูกบังคับให้ดื่มยาห้ามครรภ์ทันทีเมื่อเธอเข้ามาในจวนหวัง
สตรีผู้สูงศักดิ์ทุกคนในฉางอันต่างอิจฉาฮูหยินสำหรับความรักอันลึกซึ้งที่นายท่านหวังมีต่อเธอ
ฮูหยินใหญ่หัวเราะเยาะ "เคารพ? รัก? ผู้หญิงในโลกนี้ได้รับอนุญาตให้มีสามีเพียงคนเดียว แต่บุรุษสามารถรักผู้หญิงสองคนถึงสามคนในเวลาเดียวกันได้!”
“ต่อจากนี้ถ้าข้าจะเลือกสามีให้จินเหนียง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาต้องสาบานว่าจะไม่รับอนุหรือบ่าวอุ่นเตียง
“หากไม่มีบุรุษตามเงื่อนไขนี้ ข้าจะเลี้ยงดูจินเหนียงเอง ให้เป็นอย่างองค์หญิงทั้งหลายเหล่านั้น นางมีจวนหวังอยู่เบื้องหลังและด้วยการดูแลของน้องชาย นางจะสามารถมีชีวิตที่มีความสุขได้”
แม่นมตกใจกับคำพูดของฮูหยินใหญ่และรีบพูดว่า “คุณหนูรองจะต้องตามหาบุรุษผู้นั้นเจออย่างแน่นอนเจ้าค่ะ บ่าวได้ยินมาว่าพระพุทธรูปในวัดหยวนซีที่อยู่นอกเมืองนั้นมีมีอิทธิฤทธิ์มากในเรื่องชีวิตคู่…”
ฮูหยินกล่าวว่า “งั้นเจ้าไปเตรียมพร้อม พรุ่งนี้ข้าจะพาเฉียวจินเหนียงไปที่วัดหยวนซี”
แม่นมตอบกลับ "เจ้าค่ะ"
…
เฉียวจินเหนียงกำลังเลื่อนดูปฎิทินและพยายามเลือกฤกษ์ดีเพื่อเปิดศาลาเลิศรสอีกครั้ง แต่สุดท้ายเธอก็รู้สึกว่าควรไปที่วัดเพื่อขอคำแนะนำจะเป็นการดีกว่า
เธอกำลังจะออกไปบอกฮูหยินว่าเธอกำลังจะไปวัดในวันพรุ่งนี้ แต่เธอกลับเห็นหวังอันหยวนที่กำลังเดินมาหา
เมื่อเห็นเช่นนั้น เฉียวจินเหนียงรีบทำความเคารพ "ท่านพ่อ"
หวังอันหยวนอายุเพียงสามสิบห้าปี แม้ว่าเขาจะมีหนวดเครา แต่ก็ยังคงดูหล่อเหลา
หวังอันหยวนเห็นเฉียวจินเหนียง ประกายความรู้สึกผิดฉายผ่านในดวงตาของเขา มันไม่ผิดเลยที่ฮูหยินจะเกลียดเขา ถ้าไม่ใช่เพราะเขาหลงระเริงไปกับอนุนั่นจนเกินไป นางคงไม่มีโอกาสที่จะสลับลูกสาวของเขา
“จินเหนียง เจ้าจะไปหาท่านแม่ของเจ้าหรือ”
เฉียวจินเหนียงพยักหน้าและพูดว่า “เจ้าค่ะท่านพ่อ ลูกอยากเปิดโรงเตี๊ยมในฉางอัน ดังนั้นลูกเลยตั้งใจจะไปที่วัดเพื่อขอฤกษ์เปิดร้านเจ้าค่ะ”
หวังอันหยวนถามว่า “โรงเตี๊ยมหรือ? หากได้วันแล้วเจ้าก็มาแจ้งกับพ่อ พ่อจะพาเหล่าสหายไปอุดหนุนโรงเตี๊ยมของเจ้า”
เฉียวจินเหนียงเคยคิดว่าท่านพ่อคงจะไม่อนุญาต แต่ที่ทำให้เธอแปลกใจก็คือท่านพ่อของเธอสนับสนุนเธอมาก “หากเจ้าเลือกวันได้แล้วก็มาแจ้งกับพ่อ”
"ท่านพ่อเจ้าคะ..."
หวังอันหยวนมองดูเฉียวจินเหนียงอย่างกรุณา “เรื่องของต้วนเอ๋อร์หรือ? พ่อสั่งให้คนของพ่อไปตามหาเขาในเมืองฉางอันแล้วตามภาพที่เจ้าวาด
แต่กลับหาไม่พบเลย อดีตสามีของเจ้าโกหกเจ้าหรือเปล่า? บางทีพวกเขาอาจจะไม่ได้มาที่ฉางอัน?”
เฉียวจินเหนียงกำผ้าเช็ดหน้าของเธอแน่นและพูดว่า “ท่านพ่อ ลูกตัดสินใจแล้วเจ้าค่ะ ตั้งแต่ตอนนั้น… ที่ไอ้สารเลวนั่นส่งจดหมายหย่าให้ลูก ลูกกับเขาก็ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันอีกแล้ว
“แต่ถ้าเขามาบังคับให้ข้าเป็นอนุ ท่านพ่อจะปกป้องลูกหรือไม่เจ้าคะ”
หวังอันหยวนโมโหทันที “ถ้าพ่อเจอผู้ชายคนนั้น พ่อจะหักขามันทิ้ง!
“มันกล้าทำเช่นนี้กับเจ้าได้อย่างไร? เจ้าวางใจได้เลย พ่อจะไม่ปล่อยให้เขามาทำร้ายเจ้าได้อีก”
เฉียวจินเหนียงรู้สึกโล่งใจที่ได้ยินเช่นนั้น ฮ่องเต้เป็นคนฉลาดและมีเมตตา
หากท่านพ่อของนางปฏิเสธ ฮ่องเต้คงจะไม่บังคับให้เธอไปเป็นสนมขององค์รัชทายาท
หลังจากคำนับนายท่านหวังแล้ว เฉียวจินเหนียงก็เข้าไปในลานบ้านของฮูหยินและอธิบายความตั้งใจของเธอ
แม่นมพูดว่า “โอ้ คุณหนูรอง ท่านต้องมีสายสัมพันธ์ทางจิตกับนายหญิงเป็นแน่เลยเจ้าค่ะ นายหญิงก็กำลังจะไปที่วัดหยวนซีเพื่อถวายเครื่องหอมในวันพรุ่งนี้เช่นกันเจ้าค่ะ”
ฮูหยินจับมือเฉียวจินเหนียง “เจ้าขอฤกษ์ที่นั่นก็ได้ แล้วแม่จะไปขออาราธนาพระพุทธเพื่อให้เจ้าได้พบกับสามีที่ดี ฮ่องเต้มีพระประสงค์จะให้หรูฉีแต่งเข้าพระราชวังตะวันออก แต่ก่อนหน้านั้นเราจะต้องเลือกคู่หมั้นให้เจ้าก่อน”
เฉียวจินเหนียงประหลาดใจ ลู่เฉิน ไอ้สารเลวนั่น! เขาต้องการให้ทั้งเธอและน้องสาวแต่งงานกับเขางั้นหรือ!
เธอไม่รู้ว่าเธอควรบอกความจริงกับท่านแม่หรือไม่
แต่ว่า ต่อให้เธอจะบอกเรื่องนั้นไป เฉียวหรูฉีก็คงไม่ยอมแพ้ที่จะแต่งงานกับพระราชวังตะวันออกอยู่ดี และจะกลายเป็นว่าเธอก็จะมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ดังนั้นคงเป็นการดีกว่าถ้าเธอจะไม่พูดมันออกมา
วันต่อมาเป็นวันที่มีแดดจัด อากาศในปลายเดือน 4 ค่อนข้างร้อน
วัดหยวนซีอยู่บนภูเขานอกเมืองฉางอัน มีนางกำนัลและหญิงสาวมาถวายเครื่องหอมแต่เช้าตรู่นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านทั่วไปมาที่นี่เป็นจำนวนมาก
ถนนแน่นขนัดจนแม้แต่รถม้าก็ยังขยับไม่ได้เลย
ฮูหยินเปิดม่านรถม้าและถามสาวใช้ข้างนอกว่า “ทำไมเรายังไม่ถึงอีก”
สาวใช้ตอบกลับ “เรียนนายหญิง เจ้าอาวาสกำลังจัดงานประชุมธรรมที่วัดหยวนซี ดังนั้นวันนี้จึงมีคนมาถวายเครื่องหอมเป็นจำนวนมากเจ้าค่ะ”
เฉียวจินเหนียงเปิดม่านเพื่อดูแถวยาวด้านหน้า และพูดกับฮูหยินว่า “ท่านแม่ พวกเราลงจากรถม้าและเดินไปที่วัดดีไหมเจ้าคะ? คงจะใช้เวลานานกว่ารถม้าจะเคลื่อนตัวได้”
ฮูหยินพยักหน้า.. “ตกลง”