ตอนที่แล้วเล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 3 บทที่ 2: การเทนมทำให้ศีลธรรมเสื่อมสลาย!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 3 บทที่ 4: บาเรลล่า เดริชาและข้า

เล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 3 บทที่ 3 เมล่อน เผชิญหน้ากับ เกรซ – ออกกำลังกายก่อนอาหาร!


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

เล่มที่ 3 บทที่ 3 เมล่อน เผชิญหน้ากับ เกรซ – ออกกำลังกายก่อนอาหาร!

.

(เกรซ)

สนามฝึกซ้อมหมายเลข 7

มีผู้ชมจำนวนมากยืนอยู่ใกล้ๆ... มันน่ารำคาญเล็กน้อย แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ได้เข้ามายุ่งอะไร

ส่วนคนที่อยู่ในสนามประลองตอนนี้มีแค่ข้ากับ เมล่อน... โอ้ แล้วก็ออเรเวียด้วย

ในขณะนี้นางนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยเหตุผลบางอย่าง สภาพดูซีดเซียวและไร้ชีวิตชีวาจริงๆ

ดูเหมือนว่านางจะรู้สึกคลื่นไส้เนื่องจากดื่มนมมากเกินไปเมื่อวันก่อนนี้ อาการคลื่นไส้ของนางจึงยังไม่ลดลงเลย ทำไมนางถึงดื่มนมมากขนาดนี้กันล่ะ?

...มันไม่สำคัญหรอก ดูเหมือนว่านางจะทดลองทำอะไรบางอย่างกับวอลสัน

ตอนนี้ข้ากำลังยืนอยู่ตรงหน้าเมล่อน

ครั้งสุดท้ายที่เราฝึกและต่อสู้ด้วยกันคือเมื่อนานมาแล้ว

...ครั้งที่แล้วข้าแพ้... นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมข้าถึงเคารพเมล่อนมาก จนบางครั้งข้าถึงขั้นเรียกนางว่า "ท่านพี่เมล่อน" เลย

ข้าถอดแว่นออก

ตอนที่สู้กับเมล่อน ข้าต้องทำทุกอย่างให้เต็มที่

เมื่อแว่นตาหลุดออกมา สายตาของผู้คนรอบๆ ตัวข้า สายตาที่ไม่ได้มีความหมายกับข้ามากนักก็รู้สึกเหมือนเป็นเข็มเล็กๆ จำนวนมากทิ่มแทงร่างกายของข้า

พวกมันแน่นขนัดเหมือนมดคลานไปทั่วตัวข้า ทำให้ข้าหงุดหงิดอย่างไม่น่าเชื่อ

ความรู้สึกวิตกกังวลอย่างท่วมท้นเพิ่มขึ้นภายในตัวข้า แต่ความคิดของข้ากลับชัดเจนขึ้นอย่างผิดปกติ

เมื่อข้ายังเด็ก ก่อนที่ข้าจะเรียนรู้ที่จะควบคุมมัน ข้ามักจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้เลย

แต่ตอนนี้มันต่างออกไป

ในตอนนี้ พลังที่ไม่อาจอธิบายได้เติมเต็มร่างกายของข้าให้ทรงพลัง แต่ข้าก็ยังสามารถควบคุมสติและสามารถใช้พลังได้อย่างแม่นยำอยู่

ข้านำ "ดวงตาแห่งเอนเดอร์" ในมือขึ้นมา

โลกภายในที่ทำจากพลังงานเวทย์มนตร์ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาข้า ซ้อนทับกันอย่างสมบูรณ์กับโลกที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ข้าสามารถได้ยิน สัมผัสและเห็นการไหลเวียนของพลังงานเวทย์มนตร์รอบตัวข้า

พลังเวทย์มนตร์ของเมล่อนเป็นเหมือนเปลวไฟที่ไม่มีสี มีพลังและดูเหมือนจะแผดเผาไหลไปตามจังหวะด้วยลมหายใจของนาง

โดยปกติ การใช้ทั้งสองมุมมองพร้อมกันจะทำให้เกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรง แต่เมื่อถอดแว่นออกก็ไม่มีปัญหาอะไร

...ข้ารู้สึกเหมือนไม่มีใครเทียบข้าได้แล้ว

วอลสันบอกข้าว่าอย่าใช้มันเมื่อฉันต่อสู้กับคนอื่น ยกเว้นในบางกรณีเท่านั้น

ซึ่งถ้าข้าต้องสู้กับเมล่อน ข้าก็สามารถถอดมันออกได้

“ขอโทษด้วยนะคุณเกรซ” เมล่อนปรับอุปกรณ์ที่เรียกว่า【กำไลป้องกัน】ในมือของนาง

การไหลของพลังงานเวทย์มนตร์ของเมล่อนเปลี่ยนไปเข้าสู่【กำไลป้องกัน】

มาแล้ว ความเร็วของเมล่อนที่ข้าตามไม่ทัน!

พลังระเบิดจากมุมมองของโลกภายในค่อนข้างสวยงามมาก

เมื่อกำปั้นของนางอยู่ห่างจากข้าประมาณห้าเซนติเมตร กลีบดอกไม้สีม่วงก็กระจัดกระจายและข้าได้เคลื่อนย้ายไปทางด้านหลังเมล่อน

อย่างไรก็ตาม ข้าไม่สามารถสลัดการไล่ล่าเมล่อนออกไปได้

มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ก่อนแล้ว

แม้ว่าข้าจะเคลื่อนย้ายไปยังจุดที่อยู่ด้านหลังเมล่อน ไม่ว่านางจะอยู่ไกลแค่ไหน ทันทีที่นางสัมผัสได้ถึงการปรากฏตัวของข้าได้ นางก็เปลี่ยนทิศทางทันที

บ่อยครั้งที่ข้าจะเคลื่อนย้ายไปยังจุดหมายปลายทางที่กำหนด การโจมตีของเมล่อนก็จะพุ่งตามมาทันเช่นกัน

แต่คราวนี้ ข้าเริ่มโจมตีกลับแล้ว

“...วงเพลิงทมิฬ”

สิ่งที่ปรากฏขึ้นรอบๆ เมล่อนคือลูกเพลิงสีดำ - มันเป็นเวทมนตร์ที่สร้างขึ้นโดยใช้เวทมนตร์ไฟและจากนั้นทำให้สีของมันเข้มขึ้นด้วยเวทมนตร์แห่งความมืด

เมื่อเวทย์มนตร์ถูกทำให้แปดเปื้อนด้วยเวทย์มนตร์แห่งความมืด มันจะมีลักษณะของเวทย์มนตร์แห่งความมืดอยู่

การเผาผลาญความมืดทั้งหมดจะฝังมันด้วยคุณสมบัติอื่นๆ เวทมนตร์นี้จะมีพลังในการทำลายล้าง - ในขณะที่ไฟของมันลุกไหม้ เป้าหมายของไฟคือการเผาไหม้ทุกอย่างให้ราบเป็นเถ้าถ่าน

ลูกไฟสีดำลูกเดียวสามารถร่ายได้โดยไม่ต้องใช้คาถา แต่ทางด้านเมล่อนก็ไม่ได้หยุดชะงักและพุ่งเข้ามาโจมตีเลย

ข้าจึงได้ร่าย "วงเพลิงทมิฬ" หลายครั้ง

อย่างไรก็ตาม การโจมตีครั้งนี้ทำหน้าที่ยับยั้งเมลอนเท่านั้น เพื่อรบกวนการเคลื่อนไหวทางอากาศของนาง... ทว่า "วงเพลิงทมิฬ" ที่สัมผัสกับมือขวาของเมล่อนก็หายไปทันที

“โอมมมมม ปืนไฟฟ้าเวทมนตร์ ลูงซองเวทมนตร์!”

ข้าจึงได้เวลาร่ายคาถาที่ต้องเตรียมตัวนานขึ้น

สิ่งนี้คือ... การผสมผสานระหว่างเวทมนตร์สองชนิดเข้าด้วยกัน

ด้วยเทคนิคของวอลสัน ข้าได้ถ่ายทอดมันไปให้วิญญาณธาตุเพื่อสร้างเวทมนตร์แบบพิเศษขึ้นมา

"ปืนไฟฟ้าเวทมนตร์" จะยิงปืนเวทย์อย่างต่อเนื่องเพื่อไล่ตามเมล่อน ในขณะที่ "ปืนลูกซองไฟฟ้าเวทมนตร์" จะถูกใช้เพื่อป้องกันไม่ให้นางเข้าใกล้

เวทย์มนตร์นี้เป็นเวทย์มนตร์ที่ยึดตามโครงสร้างเป็นหลัก ซึ่งหลังจากการปรับปรุงมาแล้ว มันทำให้ข้าสามารถบินไปพร้อมกับเวทย์มนตร์นี้ได้

"ตู้ม!" เสียงระเบิดจาก【กำไลป้องกัน】ดังขึ้นห่างจากหูของข้าเพียงเล็กน้อยพร้อมกับกลีบดอกไม้ที่โผล่มาแทนตัวข้า ในขณะเดียวกัน ข้าก็ใช้ทุกอย่างทันที

กระสุนเวทมนตร์เป็นเวทมนตร์ที่ถูกบีบอัดด้วยการผสมผสานเวทมนตร์เข้าด้วยกัน

เวทมนตร์ที่ถูกบีบอัดจะใช้พลังงานเวทมนตร์ ส่งผลให้กระสุนเวทมนตร์แบนราบและสามารถระเบิดได้

เมล่อนหลบหลีกการยิงต่อเนื่องจาก "ปืนไฟฟ้าเวทมนตร์" และปรากฏตัวตรงหน้าข้า

"ปืนลูกซองไฟฟ้าเวทมนตร์" เล็งไปที่นางโดยธรรมชาติ แต่... เมล่อนเหวี่ยงหมัดของนางทำลายเวทมนตร์ของข้าในคราวเดียว

...!? นางทำอะไรน่ะ?

ความคิดสั้นๆ เหล่านี้ได้ผุดขึ้นมาในหัวของข้า

ในไม่กี่วินาทีนั้น ข้าก็ไม่มีที่ว่างให้คิดเรื่องการรับมือเลย

พลังงานเวทย์มนตร์พุ่งขึ้นรอบๆ【กำไลป้องกัน】

ข้ายื่นมือออกไปและเฉือนมัน

ข้าตัด "การระเบิด" ของ【กำไลป้องกัน】ให้เป็นลูกบาศก์

การระเบิดที่ถูกตัดออกภายใต้การควบคุมของข้าปะทะกันโดยตรงใน【กำไลป้องกัน】กับการโจมตีของระลอกที่สองของเมล่อน!

ข้าใช้ประโยชน์จากควันดำของข้าด้วยการใช้ "ดาบแห่งความมืด" อย่างรวดเร็ว

"อึก!" ข้าได้ยินเสียงครางอู้อี้จากเมล่อน

มันจบแล้ว...นั่นคือสิ่งที่ข้าคิด แต่ข้าก็รู้สึกสัมผัสที่หน้าอกของข้า

มือของเมล่อนแทงทะลุควันสีดำประทับลงบนหน้าอกของข้า -

"....อึก!"

ความเจ็บปวดที่บิดเบี้ยวระเบิดออกและพลังงานเวทย์มนตร์ในตัวข้าเริ่มปั่นป่วน "ปืนไรเฟิลไฟฟ้าเวทมนตร์" ที่ได้รับพลังงานเวทมนตร์จากข้าก็ได้ชะงักลงและพังไป

ก่อนที่การโจมตีครั้งที่สองจะพุ่งเข้ามา ข้ากระโดดลงไปที่พื้นและเปิดใช้งานวงเวทย์ที่ข้าวาดไว้ในขณะที่กระโดดอย่างต่อเนื่องในระหว่างการต่อสู้

สายฟ้าสีดำฟาดเข้ามา ขัดขวางการโจมตีครั้งต่อไปของเมล่อน

“... !!!” ความรู้สึกบางอย่างได้พุ่งออกมาจากลำคอของข้า ขณะที่ข้าคุกเข่าลงกับพื้น

การโจมตีแบบนี้มันคืออะไรกัน?

ในขณะที่เวทมนตร์ในกายข้ากำลังโกลาหล มันก็เข้าไปปะทะกับเวทมนตร์ที่ข้าร่ายออกไปแล้ว

นางมี...ทักษะใหม่ เมล่อนแข็งแกร่งขึ้นจริงๆ

ข้าพยายามร่ายคาถา แต่การใช้เวทย์มนตร์ของข้าถูกขัดขวางโดยเวทย์มนตร์บางอย่างของนางจากทั่วทุกหนแห่ง

“...” ข้าเลิกฝืน ข้าพยายามห่อหุ้มมันด้วยเวทมนตร์ของตัวข้าเอง โดยให้มันกระแทกไปทางมือซ้ายของข้า

มือซ้ายของข้าถูกยกขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจและในเวลาต่อมา พลังเวทย์นั้นก็ถูกขับออกไป

การใช้เวทย์มนตร์เพื่อขัดขวางเวทย์มนตร์ของผู้อื่น...หากได้ผลคงจะดี

ทว่าข้าไม่คาดคิดเลยว่า มันจบลงในเวลาไม่ถึงสามสิบวินาที

“เป็นอะไรหรือเปล่าคะคุณเกรซ?” ข้าหายใจหอบและได้ยินเสียงของเมล่อน ข้าเงยหน้าขึ้น เมล่อนก็ยื่นมือมาทางข้า

"...ข้าไม่เป็นอะไร" หลังจากที่เมล่อนช่วยข้าขึ้นมา ข้าก็ปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้า นางยื่นมัลบอร์ (β) ให้ข้าหนึ่งขวด

เมล่อนกินไปครึ่งขวดแล้ว เหลือเพียงครึ่งขวด... ถ้าอย่างนั้นดาบแห่งความมืดคงจะโดนตัวนางสินะ

ความเจ็บปวดที่เหลืออยู่ในหน้าอกของข้าหายไปและข้าก็รู้สึกดีขึ้นมาก

“หลังจากที่ดาบแห่งความมืดโดนแล้ว คุณเกรซลดการป้องกันลง ต้องระมัดระวังให้มากกว่านี้นะคะ” เมล่อนพูดกับข้า

...เมล่อนพูดถูก ข้าลดความระมัดระวังลงมาก

ข้าคิดว่าดาบแห่งความมืดจะเป็นตัวปิดฉากการต่อสู้... แต่ไม่คิดเลยว่านางจะสามารถโต้กลับมาได้

เมื่อเทียบกับเมล่อนแล้ว ประสบการณ์การต่อสู้ของข้ายังคงบกพร่องอยู่

“...ขอบคุณเจ้ามาก ข้าเข้าใจแล้ว”

“เอาล่ะ ต้องการฝึกต่อต่อไหมคะ?”

“...เมล่อน เราลองมาทำห้าขั้นตอนที่วอลสันพูดกันดีไหม?” หลังจากเงียบไปสองสามวินาที ข้าก็พูดอีกครั้ง (มันคือการ...ดวลห้าเก้าแบบคาวบอย)

“...ได้เลย” เมล่อนพยักหน้าพร้อมกับหันร่างของนางกลับไป

ข้าเองก็ปลก "ดวงตาแห่งเอนเดอร์" ขึ้นมาอีกครั้ง

【กำไลป้องกัน】ส่งเสียงคลิกออกมา และเมื่อข้าก้าวไปข้างหน้า ข้าก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของเมล่อน

หนึ่งก้าว

ข้ารู้สึกถึงความเดือดพล่านของเลือด จิตใจของข้าปลอดโปร่งขึ้นและข้าก็เริ่มครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว

สองก้าว

ข้ายื่นมือซ้าย นิ้วชี้และนิ้วกลางเข้ามาใกล้กัน แตะด้ามมิธริลเบาๆ ที่ด้านบนของไม้เท้า

สามก้าว

ขณะที่ข้าหมุนนิ้ว วงเวทย์ที่ซับซ้อนคล้ายกับวงล้อรูเล็ตก็เริ่มหมุน ในเวลาเดียวกัน โล่ทรงกลมสีฟ้าห่อหุ้มข้าไว้

เวทมนตร์เริ่มทำงานโดยอัตโนมัติ ข้าเหวี่ยงไม้เท้าไปข้างหลังและ "ดวงตาแห่งเอนเดอร์" ก็เปล่งแสงสลัวส่องประกายออกมา

สี่ก้าว

"เร่งความคิด" "เพิ่มพูนพลังจิต" "การเสริมกำลังทางกายภาพ" "เวทมนตร์ปฐพี - สร้างเกราะ" "เวทมนตร์แห่งความมืด - มัวหมอง"

ห้าก้าว

“...บุปผาโบราณเบ่งบาน” ข้าได้กระซิบขึ้นมาขณะที่มือของข้าปกคลุมไปด้วยชุดเกราะ โล่ย้อมสีม่วงได้ปรากฏขึ้นรอบตัวข้า

จงหยุด

จงเงียบงัน

ทุกครั้งในระหว่างการฝึกกับเมล่อน มันจะลงเอยแบบนี้ตลอด

"ตู้ม!!!"

เสียงที่ดังจนถึงขั้นทำให้แก้วหูฉีกขาดผ่านอากาศได้ดังขึ้นโดยรอบ เสียงของ【กำไลป้องกัน】คำรามจนสั่นแก้วหู

โล่ที่ป้องกันเส้นทางการโจมตีของเมล่อนแตกออกเป็นชิ้นส่วนนับไม่ถ้วนภายใต้หมัดอันเกรี้ยวกราด โดยใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาที

อย่างไรก็ตาม เสี้ยววินาทีคือเวลาในการตอบสนองที่เพียงพอแล้ว

“ต่อสู้ระยะประชิดงั้นเหรอ?” เมล่อนพูดออกมาในระหว่างการต่อสู้

แทนที่จะเริ่มการโจมตีต่อ นางกลับทำอะไรบางอย่างผิดแปลกออกไป

"...จับได้แล้ว" หมัดซ้ายของเมล่อนถูกจับอย่างแน่นหนาโดยแขนขวาสีดำสนิทขนาดใหญ่

ขณะที่ข้าพูด ข้าก็ร่ายคาถาสองครั้งในใจเงียบๆ

"ไม่คาดคิดเลย... !?" ในเวลาต่อมา มือของเมล่อนก็ขยับเบาๆ ชุดเกราะดินของแขนขวาทั้งหมดของนางพังทลายลงและเข้าไปติดกับแขนซ้ายของนาง

ในช่วงเวลาแห่งความลังเลที่เกิดขึ้นกับเมล่อน หมัดซ้ายของข้าได้ฟาดลงไปแล้ว

ตุ๊บ!

เสียงระเบิดที่ดังก้องไม่ได้มาจาก【กำไลป้องกัน】แต่มาจากเวทย์ไฟอัดภายในเกราะดินต่างหาก!

โล่ป้องกันที่เปื้อนสีม่วงได้ถูกฟื้นฟูแล้ว

มือขวาของข้าเจ็บจากการโจมตีครั้งก่อน แต่ตอนนี้คงไม่มีเวลาเหลือ

ก้อนดินก้อนใหม่เริ่มเติมเต็ม มันมากขึ้นเรื่อยๆ ที่แขนขวา ขาและในที่สุดหัว มันห่อหุ้มร่างกายทั้งหมดของข้าอย่างสมบูรณ์

"...ร่างโกเล็มปฐพี - นักสู้หมัด"

เมล่อนไม่ได้พุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า เพราะแขนซ้ายของนางถูกพันธนาการไว้แล้ว... แขนซ้ายของนางเหวี่ยงตรงไปทำลายเกราะป้องกันและโจมตีเกราะปฐพี ในชั่วพริบตานั้น "ดวงตาแห่งเอนเดอร์" ก็สังเกตการไหลเวียนของเวทมนตร์ภายใน【กำไลป้องกัน】

จากนั้นมันก็พังทลายแตกเป็นเสี่ยงๆ แล้วระเบิด!

ชุดเกราะปฐพีทั้งหมดระเบิดออกมา...แต่ข้าไม่ได้อยู่ข้างในอีกต่อไป

“...บุปผาโบราณเบ่งบาน” ข้ากระซิบเบาๆจากที่นั่งผู้ชม ทันใดนั้น ข้าก็รู้สึกได้ถึงการจ้องมองที่รุนแรงของเมล่อน

อันที่จริง การหลอกลวงนางโดยมุ่งเน้นไปที่ชุดเกราะใช้เวลาเพียงครู่เดียว

แต่มันก็เพียงพอแล้ว

ครู่ต่อมา ก้อนดินที่กระจัดกระจายอยู่รอบๆ เมล่อนก็ระเบิดออกกระตุ้นให้เกิดการระเบิดมากยิ่งขึ้นเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาของสถานะ【บุปผาโบราณเบ่งบาน】

เมล็ดพันธุ์ดอกไม้โบราณได้ติดอยู่กับโล่ป้องกันและชุดเกราะแล้ว ดังนั้นยิ่งมีการโจมตีมากเท่าไหร่ ดอกไม้ก็ยิ่งบานสะพรั่งบนร่างกายของข้ามากขึ้นเท่านั้น

ในตอนแรก ข้ากำหมัดซ้ายของเมลอนไว้เพื่อซ่อนเมล็ดพันธุ์ดอกไม้โบราณที่ติดอยู่กับมัน

ด้วยเหตุนี้ การต่อสู้นี้จึงจบลงภายในเวลาไม่ถึงสามสิบวินาที

“...เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” ข้ากระโดดไปที่ด้านข้างของนางและถามออกมา

ตอนนี้เราเสมอกันแล้ว

"ข้าไม่เป็นอะไร" เมล่อนจับมือของข้าขึ้นไปในขณะที่นางลุกขึ้นยืน และพูดด้วยน้ำเสียงแบบเดียวกับข้า

เราสบสายตาอยู่สองสามวินาทีและยิ้มออกมา

“...เมื่อเจ้ามีสมาธิมากเกินไป เจ้ามักจะมองข้ามสิ่งต่างๆ รอบตัวเจ้า คราวหน้าต้องตั้งใจให้มากกว่านี้” ข้าหยิบมัลบอร์ (β) ครึ่งขวดออกมาจากกระเป๋าคาดเอว เพื่อบรรเทาอาการปวดอย่างรุนแรงในมือขวาของข้า จากนั้นข้าก็ส่งอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือให้เมล่อน

"ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของคุณค่ะ คุณเกรซ"

“...อืม แล้วตอนนี้เอาไงต่อดีล่ะ?”

“คุณเกรซมีเท่าไร...”

“นี่ พวกเจ้าทั้งสองจะพอกันได้หรือยัง? ข้าว่าจะไปหาวอลสันในช่วงมื้อเที่ยงแล้วนะ!” ขณะที่เมล่อนกำลังจะพูดจบ ออเรเวียก็ได้ตะโกนมาทางเรา

"..."

"..."

“คุณเกรซอยากกินไหม?”

“...เอาสิ”

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด