ตอนที่แล้วบทที่ 66 เข้าสู่ภูเขาเทียนหยางอีกครั้ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 68 ผางชงมาถึง

บทที่ 67 ตระกูลโจว


หลินเป้ยย่อมไม่รู้ ว่าตระกูลโจวและสมาคมเงามืด ส่งคนจำนวนมากมาตามล่าเขา

แม้ว่าเขาจะรู้ หลินเป้ยก็ไม่กลัว เทือกเขาเทียนหยางเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ และมีโอกาสมากมายที่หลินเป้ยจะใช้ไพ่ของเขา

เมื่อหลินเป้ยออกจากเมืองชิงหลิน เขาก็ปล่อยเสี่ยวเฮย

ในตอนนี้ ออร่าปราณของเสี่ยวเฮยแข็งแกร่งขึ้น และมันกำลังจะก้าวไปอีกขั้น

ตอนนี้มันอยู่ที่จุดสูงสุดของระดับ 3 ขั้น 5  เขาเชื่อว่าคงอีกไม่นานก่อน ที่เมันจะเข้าสู่ขั้น 6

ดูเหมือนว่าในบ้านสัตว์อสูร ผลของการเร่งเวลาเป็นร้อยเท่าจะให้ผลที่ดีมาก

ยิ่งไปกว่านั้น การให้โอสถรวบรวมปราณแบบไม่มีขีดจำกัด ก็ทำให้ความแข็งแกร่งของสัตว์อสูร พัฒนาอย่างรวดเร็วเช่นกัน

แม้ว่าโอสถรวบรวมปราณ จะไม่ค่อยมีประสิทธิภาพสำหรับสัตว์อสูรระดับ 3 นัก แต่ถ้าใช้จำนวนมากๆ มันก็มีผลกับความเร็วในการฝึกฝนเช่นกัน

หลินเป้ยขี่หลังของเสี่ยวเฮย จากนั้นเขาก็ปล่อยราชาหมาป่าสีครามออกมาอีก 10 ตัว

ทันทีที่ราชาหมาป่าสีครามทั้ง 10 ตัวปรากฏตัว พวกมันก็เปล่งออร่าปราณที่ทรงพลังออกมา

ท้ายที่สุดแล้ว พวกมันคือสัตว์อสูรระดับ 3

นี่เป็นลูกหมาป่าสีครามชุดแรก พวกมันโตแล้ว

เมื่อตอนจัดการกับกระทิงเกราะและกลุ่มนักรบรับจ้างสีโลหิต มีหมาป่าสีครามตาย 10 ตัว

หากไม่มีหมาป่าสีครามตายไป หลินเป่ยก็จะมีหมาป่าสีครามระดับ 3 ทั้งหมด 20 ตัว

แต่ไม่เป็นไรที่จะสูญเสีย หลินเป้ยยังสามารถฝึกฝนเพิ่มได้

ในโลกแห่งนี้ ผู้คนยังคงตายทุกวัน แล้วมันก็ไม่แปลกที่สัตว์อสูรจะตายไป!

นอกจากนี้ ลูกหมาป่าสีครามที่เขาซื้อเพิ่มมาใหม่ โดยพื้นฐานแล้วได้มาถึงระดับ 2แล้ว และไม่นานพวกมันจะไปถึงระดับราชาหมาป่าสีครามระดับ 3

เมื่อถึงเวลานั้น หลินเป้ยจะมีราชาหมาป่าสีครามระดับ 3 หลายสิบตัวภายใต้คำสั่งของเขา

ยังไม่นับกระทิงเกราะ เมื่อถึงเวลารวมกัน เขาจะมีสัตว์อสูรระดับ 3 อีกหลายร้อยตัว

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หลินเป้ยก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม ต้นทุนในการบ่มเพาะสัตว์อสูรนั้นไม่ได้ต่ำเลย

หลินเป้ยสามารถเลี้ยงได้ไม่มากนัก ในสถานการณ์ปัจจุบัน

เขาต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ในการจัดหาอาหารทุกวัน

โชคดีที่การมีอยู่ของระบบไร่นาเซียน ทำให้หลินเป้ยสามารถหาอาหารและโอสถได้มาก

มิฉะนั้น หลินเป้ยคงจะไม่มีเงินซื้ออาหารไปนานแล้ว

หลินเป้ยสั่งให้ราชาหมาป่าสีครามอีกสิบตัว แยกย้ายกันไป และล้อมรอบหลินเป้ยเป็นระยะทางสิบลี้

หมาป่าสีครามเหล่านี้ มีหน้าที่หลักในการลาดตระเวน และถ่ายทอดสิ่งที่พวกมันเห็นให้หลินเป้ย

ตอนนี้หลินเป้ยอยู่ในขอบเขตนักรบฝึกหัด ทำให้ภายในระยะ 10 ลี้ เขาสามารถสื่อสารกับสัตว์เลี้ยงจิตวิญญาณของเขาได้อย่างอิสระ และเขา

สามารถรู้สึกถึงความคิดของอีกฝ่ายด้วย

นอกเหนือจากระยะนี้ หลินเป้ยสามารถสัมผัสได้เฉพาะตำแหน่งของสัตว์เลี้ยงจิตวิญญาณ แต่ไม่สามารถติดต่อกับสัตว์เลี้ยงจิตวิญญาณได้

เช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงจิตวิญญาณ เมื่อพ้นระยะ 10 ลี้ ไปแล้ว พวกมันจะไม่สามารถสัมผัสถึงคำสั่งของเจ้านายได้ แต่จะทราบเพียงตำแหน่งของเจ้านายเท่านั้น

"เคลื่อนไหวในระยะ 10 ลี้จากข้า หากเจ้าพบสถานการณ์ใดๆ ให้ส่งข่าวมาทันที จำไว้ว่าอย่าสังหารผู้ฝึกตนอย่างไม่เลือกหน้า ให้รักษาระยะห่างจากพวกเขา หากเจ้าพบสัตว์อสูร เจ้าสามารถล่าพวกมันได้อย่างอิสระ "หลินเป้ยสั่งกับราชาหมาป่าสีครามทั้ง 10 ตัวตรงหน้าเขา

หลินเป้ย ไม่ใช่คนกระหายเลือด ถ้าเขาสังหารผู้ฝึกตนทั้งหมดที่เขาเห็น

เขาจะกลายเป็นคนโหดร้าย ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ

ราชาหมาป่าสีครามทั้งสิบร้องโหยหวนสองสามครั้ง จากนั้นกระจายตัวออกไปอย่างรวดเร็วและหายเข้าไปในป่า

หมาป่าสีครามเคลื่อนไหวราวกับสายลม และมันเป็นหน่วยสอดแนมที่ดีมาก

ถ้าหมาป่าสีครามออกล่าสัตว์อสูร หลินเป่ยก็ได้ค่าประสบการณ์เช่นกัน

ดังนั้นมันจึงได้กำไร และมันสามารถช่วยประหยัดค่าอาหารได้

สัตว์อสูรต้องถูกล่า และสังหารภายในระยะสัมผัสของหลินเป้ย

นอกเหนือจากระยะ หลินเป้ยจะไม่ได้รับค่าประสบการณ์ ในการที่สัตว์เลี้ยงจิตวิญญาณสังหารสิ่งมีชีวิตอื่น

อย่างไรก็ตาม ระยะ 10 ลี้ นั้นกว้างมากและหลินเป้ยไม่สนใจเรื่องนี้มากนัก

“เสี่ยวเฮยไปกันเถอะ” หลินเป้ยพูด เสี่ยวเฮยจึงวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

ไม่นานนัก หลินเป้ยก็ได้รับข้อความจากหมาป่าสีครามว่า มีทีมสามคนติดตามเขาอย่างเงียบๆ ซึ่งน่าสงสัยมาก

หลินเป้ยสามารถสัมผัสได้ถึงวิสัยทัศน์ของราชาหมาป่าสีคราม ซึ่งอยู่ห่างจากคนทั้งสาม 20 ฟุต

เนื่องจากราชาหมาป่าสีครามซ่อนตัวอยู่ในความมืด คนเหล่านี้จึงไม่สามารถสังเกตเห็นได้

หลินเป้ยเห็นว่า เสื้อผ้าของทั้งสามคนมีเครื่องหมายตระกูลโจวติดอยู่

สามคนนี้เป็นของตระกูลโจว

"สมาชิกตระกูลโจว สามคนนี้มาทำอะไรที่นี่?"หลินเป้ยคิดกับตัวเอง

อย่างไรก็ตาม เขาใช้การมองเห็นและการได้ยินของราชาหมาป่าสีคราม เพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์

หลินเป้ยไม่ได้บอกใครในตระกูลหลิน เมื่อเขามาที่ภูเขาเทียนหยาง ในครั้งนี้

ดังนั้น หลินวู่จี้จึงไม่รู้แน่นอนว่าหลินเป้ยมาที่นี่

ยิ่งสำหรับตระกูลโจว และสมาคมเงามืดเขายิ่งไม่สนใจ

“หลินเป่ยหายไปไหนแล้ว เมื่อกี้ข้าเห็นเขาเดินมาทางนี้ แต่ตอนนี้เขาหายไป เราจะติดตามเขาได้ยังไง?” สมาชิกคนหนึ่งในตระกูลโจวถาม

ทั้งสามคนนี้มีหน้าที่รับผิดชอบในการติดตามหลินเป้ย จากนั้นทำเครื่องหมายให้โจวห่าว และคนอื่นๆ

ก่อนหน้านี้ ทันทีที่หลินเป้ยออกจากเมืองชิงหลิน เขาก็ส่งคนกลับไปรายงานข่าว และทั้งสามคนมีหน้าที่ติดตามก่อน เพื่อให้พวกที่เหลือตามมาได้

พวกเขาไม่คาดคิดว่าหลินเป้ยจะปล่อยเสี่ยวเฮยออกมา และความเร็วของพวกเขาไม่เร็วเท่าเสี่ยวเฮย

ทำให้พวกเขาคลาดสายตาไป!

คนเหล่านี้ไม่เห็นฉากที่หลินเป้ยปล่อยเสี่ยวเฮย และราชาหมาป่าสีครามตัวอื่นๆ

ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่า หลินเป้ยมีสัตว์เลี้ยงจิตวิญญาณกลุ่มใหญ่

ก่อนหน้านี้ที่หลินเป้ยสังหารสมาชิกของสมาคมเงามืด ผางชงไม่ได้อธิบายกับใครๆว่า หลินเป้ยมีราชาหมาป่าสีคราม

ดังนั้น ยกเว้นสมาคมเงามืดและคนจำนวนเล็กน้อย คนอื่นๆ จึงไม่ทราบว่าหลินเป้ยคือผู้ฝึกสัตว์จิตวิญญาณ

แน่นอนว่าตระกูลโจวก็ไม่รู้เช่นกัน

มันเป็นเพราะ ผางชงรู้ว่าหลินเป้ยมีราชาหมาป่าสีคราม

ดังนั้นเขาจึงมาเป็นการส่วนตัว และนำปรมาจารย์นักรบที่แข็งแกร่ง 3 คนและนักรบแท้จริง 40 คนออกตามล่าหลินเป้ย

แม้ว่าหลินเป้ยจะมีสัตว์เลี้ยงเป็นราชาหมาป่าสีคราม ด้วยผู้คนที่แข็งแกร่ง เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน

"โอ้ กลายเป็นว่า ตระกูลโจวต้องการไล่ล่าและสังหารข้า!?" เมื่อได้ยินคำพูดของคนเหล่านี้หลินเป้ยยิ้มอย่างเย็นชา

ประสาทสัมผัสการได้ยิน สายตา และดมกลิ่นของหมาป่าสีครามนั้นดีมาก

ดังนั้นคำพูดของคนเหล่านี้ จึงเข้าหูของราชาหมาป่าสีคราม!

ด้วยความคิดของหลินเป้ย ราชาหมาป่าสีครามหลายตัวที่อยู่ใกล้เคียงก็วิ่งเข้าหาพวกเขาทั้งสามคน

หลินเป้ยวางแผนที่จะล้อมกรอบและสังหารทั้งสามคนนี้

ในเมื่อเจ้ากล้าที่จะเข้ามาสังหารข้า ก็จงเผชิญความตายเสียเถอะ!

คนทั้งสามนี้ล้วนอยู่ในขอบเขตนักรบแท้จริง ขั้น 7และขั้น 8

ภายใต้ขอบเขตปรมาจารย์นักรบ พวกเขาจะเป็นเหยื่ออย่างแน่นอน

การสังหารนักรบแท้จริง นั้นไม่ใช่เรื่องยากในสายตาของหลินเป้ย

ในตอนที่ทั้งสาม ไม่รู้ว่าจะไล่ตามหลินเป้ยอย่างไร พวกเขาก็ถูกราชาหมาป่าสีครามล้อมไว้

“ไม่ดีแล้ว มีสัตว์อสูรระดับ 3” มีคนพบราชาหมาป่าสีครามและอุทานทันที

สัตว์อสูรระดับ 3 ที่มีความแข็งแกร่งเทียบปรมาจารย์นักสู้ แม้ว่าทั้งสามคนจะต่อสู้อย่างสุดชีวิต พวกเขาก็ถูกสังหารได้อย่างแน่นอน

จริงๆแล้ว ทั้งสามคนไม่คาดคิดว่า  จะได้เผชิญหน้ากับสัตว์อสูรระดับ 3 ในพื้นที่รอบนอก

นี่คือพื้นที่ 20 ลี้นอกเทือกเขาเทียนหยาง มีสัตว์อสูรขั้นหนึ่งจำนวนมาก และสัตว์อสูรขั้น 2 ไม่กี่ตัว สำหรับสัตว์อสูรขั้น 3 พวกเขามักจะต้องเข้าไปลึกกว่า 100 ลี้ เพื่อเผชิญหน้ากับพวกมัน

ถ้าเจอสัตว์อสูรระดับหนึ่ง พวกเขาสามารถจัดการมันได้สบายๆ แม้ว่าจะเจอสัตว์อสูรระดับ 2 เป็นกลุ่ม แต่ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขา ก็ไม่เป็นปัญหาในการล่าถอย

แต่ตอนนี้!

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด