ตอนที่ 22 : วังหลังขององค์รัชทายาท (อ่านฟรี)
ตามคำแนะนำของกรมพิธีการ วันที่องค์รัชทายาทจะทรงเลือกพระชายาคือวันที่ 21 เดือน 6 ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียงแค่สองเดือนเท่านั้น
งานนี้กลายเป็นที่พูดถึงไปทั่วเมืองหลวงทันที
เฉียวจินเหนียงพักฟื้นอยู่ในห้องของนางเป็นเวลาสามวัน ประจวบเหมาะกับที่องค์หญิงฟู่ลู่ซึ่งมาที่จวนหวังเพื่อเยี่ยมนาง
เฉียวจินเหนียงทำความเคารพ “องค์หญิงฟู่ลู่”
องค์หญิงฟู่ลู่เอียงศีรษะของนางและมองไปที่เฉียวจินเหนียง “น้องสาวเจ้าก็ทำเกินไป ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่านางทำให้เจ้าซูบผอมได้ถึงเพียงนี้ จากที่ข้าเจอเจ้าครั้งสุดท้ายเพิ่งพ่านไปได้แค่สี่หรือห้าวันเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้เจ้าผอมลงมาก ช่างน่าสงสารเสียจริง!”
เฉียวหรูฉีก่อเรื่องที่หน้าประตูจวนหวัง ด้วยผู้คนจำนวนมากที่ผ่านไปมา ข่าวนี้จึงแพร่กระจายอย่างรวดเร็วตามที่เฉียวจินเหนียงคาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม ผู้คนเอาแต่พูดถึงเฉียวหรูฉี โดยไม่กล้านินทาว่าเฉียวจินเหนียงพยายามขโมยสามีของเฉียวหรูหยุน
เพราะสุดท้ายแล้วเฉียวหรูฉี ผู้เผยแพร่ข่าวลือนี้ถูกส่งไปที่โถงบรรพบุรุษ…
ไม่มีใครในฉางอันกล้าล่วงเกินหวังอันหยวน
เฉียวจินเหนียงน้ำหนักลดไปมากในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เมื่อได้ยินคำพูดขององค์หญิงฟู่ลู่ นางก็ไม่ได้อธิบายอะไร “องค์หญิงเพคะ ขอโทษที่ต้องรบกวนพระองค์และเจ้าหญิงโจวอันเรื่องพี่สาวของหม่อมฉันนะเพคะ”
องค์หญิงฟู่ลู่กล่าวว่า “ช่วงนี้เสด็จแม่ของข้ารู้สึกเบื่ออยู่บ่อยๆ ผู้คนในจวนหวังฉินมาอ้อนวอนให้เสด็จแม่ของข้าคืนลูกสะใภ้ให้ทุกวัน นั่นช่วงสร้างความสนุกสนานให้เสด็จแม่ของข้าเป็นอย่างมาก
“นอกจากนี้ เสด็จแม่ของข้าโกรธมากเมื่อได้ยินสิ่งที่พวกเขาทำกับพี่สาวของเจ้า
“ตระกูลฉินแพร่กระจายข่าวลือมากมายเกี่ยวกับตัวข้าเพื่อประโยชน์ของฉินเมียวเหมี่ยว ดังนั้นพระนางจึงมีความสุขที่เห็นพวกเขามีปัญหา…”
เฉียวจินเหนียงยังคงรู้สึกขอบคุณ “ยังไงหม่อมฉันก็ยังต้องขอบพระทัยองค์หญิงเพคะ ศาลาเลิศรสจะเปิดในเร็วๆ นี้ พระองค์สามารถไปทานอาหารที่โรงเตี๊ยมของหม่อมฉันโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายได้เสมอเลยนะเพคะ”
องค์หญิงฟู่ลู่ยิ้มให้เฉียวจินเหนียง “ถ้าเจ้าต้องการขอบคุณข้าจริงๆ แค่บอกข้ามาว่าบุตรสาวของตระกูลเซี่ยเป็นอย่างไรบ้าง
“ข้าได้ยินมาว่านางงามซะจนได้รับขนานนามว่าเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของทิศใต้
“ตัวเจ้าเองก็งามมากพออยู่แล้ว แต่ไม่มีใครเรียกเจ้าว่าสาวงามอันดับหนึ่งในทิศใต้ เพราะเหตุนั้นข้าจึงสงสัยว่านางจะรูปงามจนน่าประหลาดใจขนาดไหน?”
เฉียวจินเหนียงถามว่า “หมายถึงคุณหนูเซี่ยหยุนใช่ไหมเพคะ”
องค์หญิงฟู่ลู่พยักหน้า “ใช่ องค์รัชทายาทกำลังจะเลือกพระชายาในเร็วๆนี้ ตระกูลเซี่ยจึงส่งบุตรสาวมาที่ฉางอัน ตอนนี้บรรดาสตรีผู้สูงศักดิ์ในเมืองฉางอันต่างคาดเดาว่านางอาจมีโอกาส 8 ใน 10 ส่วนที่จะได้เป็นพระชายา”
เฉียวจินเหนียงประหลาดใจที่องค์รัชทายาทกำลังจะเลือกพระชายาในเร็วๆนี้ และเมื่อนางได้ยินชื่อของเซี่ยหยวน นางก็หยุดชะงักชั่วคราว
คุณหนูเซี่ยหยวนชอบกินขนมอบและเฉียวจินเหนียงมักจะส่งขนมอบของนางไปให้ แม้จะมีความแตกต่างกันในสถานะระหว่างพวกนางทั้งสอง แต่เซี่ยหยวนก็ปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดี
เฉียวจินเหนียง จำได้ว่าครั้งหนึ่งนางเคยได้ยินแม่สื่อซึ่งมักจะมาที่โรงเตี๊ยมของนาง กล่าวว่าตระกูลเซี่ยวางแผนที่จะแต่งเซี่ยหยวนเข้าสู่ราชวงศ์ ดังนั้นชายหนุ่มของตระกูลที่ร่ำรวยในหลินอันทั้งหลายจึงไม่ควรเสียเวลาเกี้ยวนาง
“จินเหนียง จินเหนียง?”
เมื่อได้ยินเสียงของฟู่ลู่ เฉียวจินเหนียงก็พูดเบาๆว่า “เซี่ยหยุนช่างงดงามยิ่งนัก ราวกับนางสวรรค์เลยเพคะ!”
องค์หญิงฟู่ลู่ถามว่า “แม้ว่าพระชายาจะได้รับการเลือกในวันที่ 21 เดือน 6 แต่บ่อนก็ได้เปิดรับการเสี่ยงทายว่าใครคือผู้ที่จะได้เป็นพระชายา ยิ่งข้าเข้าร่วมเดิมพันเร็วเท่าไหร่ อัตราต่อรองก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น ข้าวางแผนที่จะเดิมพันข้างคุณหนูเซี่ยหยวน”
เฉียวจินเหนียง “…”
องค์หญิงฟู่ลู่กล่าวว่า “เจ้าจะเดิมพันด้วยหรือไม่”
เฉียวจินเหนียงรีบโบกมือ "ไม่เป็นไรเพคะ"
แต่นางคิดว่าถ้าเซี่ยหยวนได้เป็นพระชายา จะเกิดอะไรขึ้นกับต้วนเอ๋อร์ของนาง?
ครั้งหนึ่งนางเคยถามเซี่ยหยวน ว่าบ่าวอุ่นเตียงคืออะไร เซี่ยหยวนได้สอนวิธีที่จะทำให้พวกนางหวาดกลัวและวิธีลงโทษอนุและลูกชายของพวกนาง ตอนนั้นเฉียวจินเหนียงฟังอย่างเพลิดเพลินและรู้สึกตกใจที่มีอุบายสกปรกมากมายในการปะทะกันระหว่างสตรีในตระกูลระดับสูง
แต่ถ้ากลอุบายเหล่านั้นถูกนำมาใช้กับต้วนเอ๋อร์ของนางล่ะก็… แค่คิดเฉียวจินเหนียงรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว
นางไม่รู้ว่า เซี่ยหยวนจะปฏิบัติต่อต้วนเอ๋อร์อย่างกรุณาเพื่อเห็นแก่มิตรภาพที่พวกนางเคยมีให้กันได้หรือไม่
องค์หญิงฟู่ลู่โอบไหล่เฉียวจินเหนียง "ไม่ต้องกังวล บ่อนนั้นดำเนินการโดยอ๋องหรงน้อยและมีชื่อเสียงที่ดี นอกจากนี้ข้าได้ทำสิ่งดีๆมากมายให้กับเจ้า ดังนั้นมาร่วมเดิมพันกับข้า!
“ครั้งล่าสุดที่ครอบครัวของเจ้าจัดงานเลี้ยงให้ มีงานเลี้ยงชมดอกไม้ในพระราชวังเพื่อเลือกชายาและนางสนมให้กับเหล่าเจ้าชาย
“อย่างไรก็ตาม ไม่มีสตรีชั้นสูงคนใดในฉางอันเข้าร่วมงานเลี้ยงชมดอกไม้ ดังนั้นแผนการนี้จึงล้มเหลว
“ครั้งนี้ หลังจากที่องค์รัชทายาททรงเลือกพระชายาแล้ว ราชวงศ์ก็จะเลือกชายาและสนมให้กับเจ้าชายพระองค์อื่น
“เพื่อนของข้าที่ต้องการแต่งงานกับราชวงศ์ ไม่ได้ออกไปข้างนอกเลยเพราะกลัวว่าชื่อเสียงของพวกนางจะมัวหมอง จึงไม่มีใครกล้าพาข้าไปบ่อน!
“แม้แต่หญิงสาวผู้สูงศักดิ์ที่ไม่ต้องการแต่งงานกับราชวงศ์ก็ยุ่งอยู่กับการหาคู่หมั้นก่อนที่ราชวงศ์จะเริ่มเลือกชายาและนางสนมสำหรับเจ้าชายทั้งหลาย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีเวลาไปบ่อนเช่นกัน”
“มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่สามารถไปที่บ่อนกับข้าได้”
ในเมื่อเจ้าหญิงฟู่ลู่พูดเช่นนั้น เฉียวจินเหนียงจึงได้แต่ต้องไปกับนาง
‘บ่อนเสี่ยงโชค’มีชื่อเสียงที่ดีดังที่องค์หญิงฟู่ลู่กล่าว
มีผู้หญิงและคนชราจำนวนมากที่นั่น
ผู้คนสามารถมาเล่นไพ่ที่นี่ด้วยเงินเดิมพันเริ่มต้นเพียงไม่กี่ตำลึง
จะเห็นได้ว่าเมืองฉางอันเจริญรุ่งเรืองเพียงใด
“เหตุใดบุตรสาวคนเล็กของหวังอันหยวนจึงไม่รวมอยู่ด้วย? หลานชายของฮ่องเต้นั้นสนิทสนมกับเฉียวหรูฉีมาก และนางยังได้ลงจากรถม้าขององค์รัชทายาทก่อนหน้านี้ที่ภูเขาทางเหนือ”
“เจ้าไม่ได้ยินข่าวใช่ไหม เฉียวหรูฉีทำให้พี่สาวของนางไม่พอใจ ลูกสาวของหวังอันหยวนผู้ที่หายสาบสูญไปนานน่ะ นางจึงถูกขับไล่ไปที่โถงบรรพบุรุษ ดังนั้นนางจะไม่สามารถเข้าร่วมการคัดเลือกในครั้งนี้ได้”
“หวังอันหยวนจะส่งบุตรสาวที่เกิดจากอนุของเขา เฉียวหรูอี้หรือลูกสาวของน้องชายมาเข้าร่วมการคัดเลือกนี้หรือไม่”
“ทำไมจะเป็นลูกสาวของหวังอันหยวนที่หายสาบสูญไปนานไม่ได้ นางก็ถือเป็นลูกสาวของหวังอันหยวนอยู่ดีนี่”
เมื่อได้ยินคำพูดของพวกเขา เฉียวจินเหนียงก็เดินจากไป
สตรีคนหนึ่งกล่าวว่า “แม้ว่านางจะเป็นบุตรสาวของหวังอันหยวน แต่นางก็ถูกเลี้ยงดูมาโดยทาส
“ข้าได้ยินมาว่านางเคยทำโรงเตี๊ยม นางโตมากับทาส ทั้งยังทำการค้า ถ้าบิดาของนางไม่ใช่หวังอันหยวน นางก็ไม่สมควรแม้แต่จะได้เป็นพระสนมขององค์รัชทายาทเลยด้วยซ้ำ
“แม้ว่าตอนนี้นางจะเป็นสตรีชั้นสูง แต่อย่างมากนางก็เป็นได้แค่สนมลำดับที่ห้าขององค์รัชทายาทเท่านั้น”
เมื่อได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูด องค์หญิงฟู่ลู่จึงจับมือเฉียวจินเหนียงและพูดว่า "อย่าไปสนใจกับคำพูดไร้สาระของพวกเขาเลย ถ้าเซี่ยหยวนงามอย่างที่เล่าลือจริงๆ นางจะต้องได้เป็นพระชายาแน่นอน”
“แล้วทำไมมือของเจ้าถึงเย็นเช่นนี้ล่ะ” องค์หญิงฟู่ลู่มองไปที่เฉียวจินเหนียง
เฉียวจินเหนียงกล่าวว่า “อาจเป็นเพราะหม่อมฉันยังไม่หายจากอาการป่วยกระมังเพคะ แล้วองค์รัชทายาทสามารถมีสนมได้กี่คนหรือเพคะ”
เฉียวจินเหนียงรู้เพียงว่าองค์รัชทายาทจะมีสนม แต่นางไม่รู้ว่าเขาสามารถมีสนมได้มากขนาดไหน
องค์หญิงฟู่ลู่อธิบายกับเฉียวจินเหนียงว่า “เจ้าที่อยู่ทางใต้มาก่อนอาจจะไม่รู้เรื่องนี้ องค์รัชทายาทสามารถมี พระสนมเอก 2 คน พระสนมรอง 2 คน ซึ่งมีตำแหน่งเทียบเท่ากับขั้นสาม
“สนมลำดับสาม 6 คนซึ่งเท่ากับขั้นสี่ สนมลำดับสี่ 10 คนซึ่งเท่ากับขั้นห้า
“สนมลำดับห้า 16 คนซึ่งเท่ากับขั้นเจ็ด สนมลำดับหก 24 คนซึ่งเท่ากับขั้นเก้า และบ่าวอุ่นเตียงไม่จำกัดจำนวน ซึ่งไม่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการ”
“เสด็จพี่รัชทายาทควรจะเลือกพระชายาตั้งแต่ในปีที่หายตัวไปแล้ว เพราะงั้นตอนนี้วังหลังของเขาจึงว่างเปล่า และไม่มีแม้แต่นางสนม
“ครั้งนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ราชวงศ์จะเลือกพระชายา พระสนมเอก พระสนมรองหนึ่งคนสำหรับแต่ละตำแหน่ง…”
เฉียวจินเหนียงเปิดร้านอาหาร ดังนั้นนางจึงคำนวนเก่งมาก แต่ก็ยังต้องใช้เวลาพอสมควรในการนับจำนวนผู้หญิงที่จะอยู่ในวังหลังขององค์รัชทายาท
องค์รัชทายาทสามารถมีพระชายาได้หนึ่งพระองค์และนางสนมอีกหกสิบคน!
ตามที่องค์หญิงฟู่ลู่พูดไว้ ครั้งนี้จะมีสตรีอย่างน้อยเจ็ดคนที่ได้รับเลือกเข้าสู่พระราชวังตะวันออก ซึ่งนี่ยังถือว่าไม่มาก...
แม้ว่าเฉียวจินเหนียงจะรู้ว่าชนชั้นสูงจะมีบ่าวอุ่นเตียงมากมาย และฮ่องเต้ก็สามารถมีวังหลังขนาดใหญ่ได้ แต่นางก็เติบโตมาในครอบครัวธรรมดา และครอบครัวธรรมดาส่วนใหญ่มีคู่สมรสเพียงคนเดียว นางนึกไม่ออกว่าจะแบ่งปันสามีของตัวเองกับสตรีมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร
“พี่เจ็ด ท่านกำลังมองอะไรอยู่หรือ”
บนชั้นสองของบ่อน อ๋องหรงน้อยเห็นลู่เฉินมองอะไรสักอย่างจึงเอ่ยถาม
หลังจากมองตามสายตาของลู่เฉินไ เขาก็เห็น “ฟู่ลู่ คุณหนูเฉียว?”
เฉียวจินเหนียงรู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังมองมาที่นาง นางจึงเงยหน้าขึ้น จากนั้นดวงตาของนางและลู่เฉินก็สบกัน