SGS บทที่ 146 – สาวน้อยยูริที่ตื่นตูมล่ะ
SGS บทที่ 146 – สาวน้อยยูริที่ตื่นตูมล่ะ
ภายใต้สีหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของแอสเทรีย ฟังเธอสาธยายถึงความเจ็บปวดของตนที่ ‘หิวเจียนตาย’ เขาไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ตอนนี้เขาตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนนับสิบ วู่หยานเหงื่อไหลเต็มหน้าเข่าอ่อนแทบทรุด
“ทำไมตูต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย.....” วู่หยานรู้สึกว่าตัวเองควรเป็นฝ่ายร้องไห้มากกว่าถึงจะถูก......
น่าสงสาร ที่นาทีนี้แอสเทรียไม่ได้สนใจคำพูดเขาเลย ยกมือปากน้ำตา ปากก็พึมพำว่า “หิว หิวมากเลย.....”
ริมฝีปากบิดเบี้ยว มองดูท่าทางแอสเทรียที่ดูโครตโมเอะ วู่หยานทนไม่ไหวน้ำตาไหลพราก ไม่รู้ทำไมทั้งๆที่มันดูน่ารักถึงขนาดนั้นแท้ๆ แต่เขากลับรู้สึกเหนื่อยใจแทน.......
“ก่อนอื่นเลย ไหนบอกมาสิว่า ทำไมเธอถึงได้มานอนเป็นลมอยู่ตรงนี้?” ชี้นิ้วไปยังจุดที่แอสเทรียนอนอยู่เมื่อกี้ วู่หยานเอ่ยปากถามด้วยความปวดหัว
แอสเทรียสะอื้น ‘’ฮึกฮึก’ ไปตอบว่า “ท้องมันหิวมาก ไม่มีแรงเหลือ เลยไปนอนตรงนั้นน่ะ”
“........”
วู่หยานรู้สึกว่าตอนนี้เขาเองก็ใกล้จะเป็นลมตามเธอล่ะ.......
มองดูแสเทรียที่ยังคงสะอึกสะอื้นไม่หยุด ร่างกายเองก็ดูอ่อนแอ วู่หยานถอนหายใจ “เฮ้อ ฉันจะพาเธอไปหาอะไรกินก่อนล่ะกัน.....”
ได้ยินแบบนี้ แอสเทรียที่ทำตัวราวกับปลาใกล้ตายก็กระโดดตัวลอยฟื้นตัวทันที เธอพยักหน้าหงึกๆไม่หยุด แก้มแดงเปร่งปรั่ง มองดูแอสเทรียที่แตกต่างจากเมื่อกี้หน้ามือเป็นหลังมือ วู่หยานรู้สึกปวดท้อง
“อย่างที่คิดเลยคุณมันขยะจริงๆ!”
วู่หยานหน้าเปลี่ยนสี เขาจับมือแอสเทรียก่อนจะพุ่งตัวไปในทิศทางหนึ่งทันที ในเวลาเดียวกันกับที่วู่หยานออกตัววิ่ง ร่างคนที่มีผมสีชมพูก็ปรากฏออกมาตรงหน้าเขา เธอจ้องเขาเขม็งราวกับอยากกินเขาทั้งเป็น
จะเป็นใครไปได้นอกจาก ยัยคุโรโกะ วู่หยานแข็งค้าง เขาค่อยๆยกมือขึ้นทันทายเธอขณะที่หัวเราะแห้งๆ
“งะ...ไง คุโรโกะ....”
ขณะที่พูด ในใจวู่หยานก็กำลังก่นด่าตัวเองอย่างหนัก ทำไมเขาถึงได้เสือกไปหาแอสเทรีย ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขาได้ยินแล้วว่ามีจัสจ์เม้นออกมาจัดการ และเขตนี้ยังอยู่ภายใค้การดูแลของจัสจ์เม้นสาขา177ด้วย โอกาศที่ยัยยูริจะเป็นคนมามีสูงถึง90%แท้ๆ ปวดใจกับความโง่ของตัวเองแท้
ตูไม่อยากเจอยัยนี่เลยให้ตายเถอะ.......
“อย่าเรียกสนิทแบบนั่นกับฉันนะคะ!” คุโรโกะกัดฟันกรอด ในแววตาเปร่งประกายความโกรธแค้น “เมื่อวานไม่คิดเลยว่าคุณจะกล้าทำแบบนั้นกับคุโรโกะ แถมยังลักพาตัวคุณพี่ไปอีก ได้เจอกันที่นี่นับว่าคุณดวงกุดมาก ฉันจะเทเลพอตไอ้ขยะสังคมอย่างคุณลงดินเอง!”
สิ้นเสียง เธอก็หายไป วู่หยานหน้าเปลี่ยนสี เหวี่ยงตัวหลบไปด้านข้าง จากนั้นมือที่เนียนนุ่มก็ยื่นออกมาสัมผัสจุดที่เขาอยู่เมื่อกี้ เป็นคุโรโกะ เธอกำลังมองดูมือตัวเองด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อที่เขาหลบได้
ขณะที่คุโรโกะติดสถานะช็อค วู่หยานก็ไม่ปล่อยโอกาสดีๆแบบนี้ไป พริบตาต่อมาเขาก็ติดสินใจว่าอย่างแรกคว่ำเธอลงก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที เอื้อมมือไปจับแขนคุโรโกะแล้วบิดมันมาด้านหลัง จากนั้นออกแรงกดให้เธอลงพื้น มืออีกข้างก็เอาจับหัวเธอไว้!
วู่หยานหัวเราะแห้งๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจนปัญญา “อยู่ๆก็ใช้ความรุนแรงเหมือนพวกป่าเถื่อนนี่ไม่ใช่สิ่งที่คุณหนูควรทำเลยนะ......”
“ปล่อยฉันนะคะ! ไอ้ขยะน่ารังเกียจ! วันนี้คุโรโกะจะต้องชำละล้างตัวโสโครกที่เกาะติดคุณพี่!” คุโรโกะดิ้นรนไม่หยุด ขณะที่เธอคิดจะใช้พลังหนี วู่หยานก็มองออกทันที มือออกแรงกด ทำคุโรโกะร้องออกมาด้วยความเจ็บ สูตรสมการในหัวเธอหยุดลงทันที
“เป้าหมายเธอเป็น มิโคโตะจริงๆด้วย.....” วู่หยานไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดีเลย มองดูยัยยูรินี่อย่างเหนื่อยใจ
สีหน้าคุโรโกะมืดมนลงทันที “บัดซบ มิโคโตะ มิโคโตะ อยู่นั่นแหละ กล้าดียังไงมาเรียกตีสนิทแบบนี้คะ! ฉันจะเทเลพอตนิ้วของคุณลงในลูกอัณ....!”
“เฮ้ย นี่เธอมันโหดยิ่งกว่าจิ๋นซีฮ่องเต้อีกนะ!!”
“อ้า! หุบปาก! ทั้งที่เป็นแค่ไอ้โรคจิตลวนลามผู้หญิงแท้ๆ!”
คุโรโกะตะโกนคำพูดประโยคนี้เสียงดัง ทำผู้คนรอบๆกรี๊ดร้องอย่างตื่นตระหนก สายตาทั้งหมดพร้อทใจกันมองที่วู่หยาน ทำวู่หยานหน้าเปลี่ยนสีเป็นสีดำ
“ยัยบ้า ไม่ใช่ฉันบอกไปแล้วเหรอว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิดน่ะ?!”
“แล้วฉันจะให้ขยะแบบนี้ไปเข้าใกล้คุณพี่ได้ยังกันคะ! ไม่ได้แล้วแบบนี้ต้องกำจัด!”
“โถ่เว้ย ฟังที่คนอื่นเค้าพูดกันบ้างสิวะยัยยูริน่าตาย!”
วู่หยานเหนื่อยใจ ถึงจะรู้อยู่แล้วก็เถอะว่ายัยยูนินี่มันบ้า แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าแค่เรียกมิโคโตะแค่นี้ก็ทำเธอคลั่งแล้ว เกิดรู้ว่าเขานอนกับคุณพี่เธอแล้วไม่รู้ว่ายัยนี่จะบ้าได้ถึงขั้นไหน
ใกล้ๆกัน แอสเทรียกำลังทำแก้มป่อง มาสเตอร์เล่นทิ้งเธอแล้วไป ‘คุย’ กับสาวผมทสินเทลสีชมพูซะงั้น แอสเทรียเอามือกระตุกชายเสื้อเขาแล้วใช้แววตาหมาน้อยมอง
“เน่ มาสเตอร์ ฉันหิวแล้ว ไปหาอะไรกินกันเถอะ......”
ก่อนที่วู่หยานจะได้ทันอ้าปากตอบ คุโรโกะก็ปรี๊ดแตกแหกปากโวยวายอีกรอบ
“อย่างที่คิดคุณนี่มันขยะ! ขณะที่คิดจะจับคุณพี่ ในเวลาเดียวกันก็ยังฝึกผู้หญิงคนนี้เป็นทาสด้วย จิตใจสกปรกอะไรขนาดนี้คะ นี่นายก็คิดจะฝึกคุณพี่ให้กลายเป็นทาสรับใช้ใช่ไหม! ฉันจะไม่ยอมให้คุณทำสำเร็จเด็ดขาด!!”
ได้ยินแบบนี้ วู่หยานสำลักอากาศทันที แล้วถอนหายใจอย่างเหนื่อยๆ โดยไม่สนใจคุโรโกะ เขาเอื้อมมือเข้าไปในกระโปรงเธอแล้วลูบๆคล้ำๆไปรอบๆ
“อ้า! ไอ้ขยะ! ทำอะไรกันคะเนี่ย! อย่าบอกนะว่าคิดจะจับคุโรโกะด้วย? หยุดเดียวนี้นะคะ!!” คุโรโกะตกใจดิ้นไปมา แต่น่าสงสารวู่หยานได้บรรลุสัจธรรมอย่างหนึ่งแล้วคือ คุยกับยัยบ้ายูริไปก็เปล่าประโยชน์ วู่หยานยังคงกวาดมือต่อไป
“ฮือ ฮือ ฮือ คุณพี่ขาตอนนี้คุโรโกะไม่บริสุทธิ์แล้วค่า ฮือ ฮือ ฮือ คุณพี่คะ.....” ยอมแพ้ที่จะดื้นรน คุโรโกะร้องไห้ฟูมฟายปากก็พ่นอะไรไร้สาระเหมือนเดิม วู่หยานตากระตุก นี่มันก็แค่การหากระเป๋าเฉยไม่ใช่? ทำไมถึงต้องโอเวอร์แบบนี้?......
หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าคุโรโกะ ด้วยการที่เคยใช้มาแล้ว เขาจึงสามารถหาเบอร์แล้วโทรหามิโคโตะได้อย่างรวดเร็ว
“เฮ้ มิโคโตะ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?” หลังต่อสายติด วู่หยานก็เอ่ยถามทันที
“หยาน? ทำไมนายใช้โทรศัพท์ของคุโรโกะอีกแล้วล่ะ!” เสียงที่ประหลาดใจปนอยากรู้ดังออกมาจากอีกฝั่ง ก่อนจะกลายเป็นไม่พอใจ
“นี่อย่าบอกนะว่านายโดนจับอีกแล้ว?”
วู่หยานกระอักกระอ่วน
“จะเป็นไปได้ยังไง......”
เมื่อคุโรโกะได้ยินเสียงมิโคโตะ เธอก็ยื่นคอเข้ามาแล้วตะโกนใส่โทรศัพท์ “คุณพี่! ช่วยหนูด้วย! ไอ้ขยะนี่คิดทำมิดีมิร้ายคุโรโกะ....วู้ อือ อือ!.....”
วู่หยานเอามือปิดปากอย่างรวดเร็ว แล้วกดหัวเธอกลับไป จากนั้นถามว่า “มิโคโตะ ได้ข่าวพวกฮินางิคุรึยัง?”
“ยังเลย.....” มิโคโตะพูดด้วยความเสียใจ
“เหรอ....” วู่หยานเองก็เสียใจเล็กน้อย แล้วหันไปมองแอสเทรียที่หางตายังคงมีน้ำใสๆ แล้วพูดด้วยความเหนื่อยใจ “แต่ทางฉันเจอแอสเทรียแล้วล่ะ.....”
“นี่นายหาแอสเทรียเจอแล้ว?” มิโคโตะพูดด้วยความดีใจ ดูเหมือนเธอจะค่อนค้างแคร์กับยัยทึ่มแอสเทรีย......
“อืม ทำไมเธอไม่ออกมาดูหน่อยละ เดียวฉันจะพาแอสเทรียไปกินข้าวรอที่ร้านอาหาร” ได้ยินแบบนี้ คุโรโกะกลับมาดิ้นรนสุดแรงเกิด ปากส่งเสียง ‘อือ อือ’ ไม่หยุด ราวกับอยากจะป้องกันอะไรบางอย่าง
“ได้ ฉันจะไปหาเดี๋ยวนี้แหละ!”
วางสายปุป วู่หยานก็จับโทรศัพท์ยัดกลับเข้าไปในกระโปรงคุโรโกะ จากนั้นเอามือออกจากปากเธอ แน่นอนว่านี่ทำให้เขาเสียใจมาก
“ขยะ! นี่คุณกล้าเรียกคุณพี่ออกมาเหรอคะ! ฉันจัไม่ให้ทำสำเร็จเด็ดขาดด!!”
คุโรโกะตะโกนเสียงดัง ดึงดูดผู้คนรอบๆอีกครั้ง เขามองดูคนรอบๆที่มองดูเขาด้วยสายตาขยะแขยง วู่หยานเงยหน้ามองฟ้าแล้วถอนหายใจ ในใจคิดอยากตบหัวยัยยูริปากสว่านนี่สักที
คิดถึงตรงนี้ จู่ๆนัยน์ตาวู่หยานก็เป็นประกาย แล้วแสยะยิ้มมองคุโรโกะที่ดิ้นอยู่บนอกตัวเอง คุโรโกะหนาวสันหลังวาบ ความรู้สึกอันตรายพุ่งพล่าน ถึงแม้จะไม่รู้สึกถึงวิกฤตเป็นตาย แต่เธอก็เผลอหุบปากแน่น
วู่หยานเอามือแปะหัวคุโรโกะด้วยความพอใจ จากนั้นปล่อยเธอ คุโรโกะกระโดดหนีทันที และรีบถอยหนีไปไกลขณะที่ยังคงจ้องเขาเขม็งอย่างไม่ไว้วางใจ
เขาหันหน้าไปหาแอสเทรีย แล้วจับมือเธอ
“เราไปหาอะไรกินกัน....”
“เย้!” แอสเทรียยิ้มทันที