บทที่ 66 เข้าสู่ภูเขาเทียนหยางอีกครั้ง

บทที่ 66 เข้าสู่ภูเขาเทียนหยางอีกครั้ง

มหาปรมาจารย์นักรบ(หวู่ซ่ง) นี่คือชายที่แข็งแกร่ง ซึ่งหลินเป้ยได้เคยแลกเปลี่ยนยันต์หุ่นเชิดมาแล้ว

เพราะเหตุนี้ ทำให้เข่รู้ว่าผู้แข็งแกร่งในระดับนี้นั้น แข็งแกร่งเพียงใด!

นักรบแท้จริง ไม่สามารถหยุดพละกำลังได้แม้แต่ครั้งเดียว และปรมาจารย์นักรบ สามารถถูกสังหารได้ทันที

มีความแตกต่างอย่างมากในความแข็งแกร่งระหว่างปรมาจารย์นักรบ(หวู่ฉี)และมหาปรมาจารย์นักรบ(หวู่ซ่ง)

การก้าวเข้าสู่มหาปรมาจารย์นักรบ(หวู่ซ่ง) เป็นจุดเริ่มต้นของการก้าวเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ยุทธ์ระดับสูง

ไม่ต้องพูดถึงสัตว์อสูรระดับ 4 ความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรนั้น แข็งแกร่งกว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์ในระดับเดียวกัน

ตอนนี้ หลินเป้ยปวดหัวมาก ดังนั้น คราวนี้หลินเป้ยจึงต้องไปที่ภูเขาเทียนหยาง ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่จะค้นหาสัตว์อสูรระดับ 4 ที่นั่นได้

ถูกต้อง หลินเป้ยกำลังจะตามล่าและสังหารสัตว์อสูรระดับ 4

เขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว!

ตามที่ระบบบอกมา หลินหลิงเอ๋อสามารถรักษาสถานะนี้ได้สูงสุด 15 วันเท่านั้น

หลังจากผ่านไป 15 วัน หากไม่สามารถปลุกสายเลือดได้สำเร็จ ผลที่ตามมาจะเป็นหายนะ

ในสภาวะโคม่าของหลินหลิงเอ๋อในปัจจุบัน เป็นไปไม่ได้ที่นางจะตื่นขึ้นเองตามธรรมชาติ

ดังนั้น จึงต้องมีใครสักคนมาช่วยหลินหลิงเอ๋อ ให้รอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้!

สถานการณ์ของหลินหลิงเอ๋อ ส่วนใหญ่เป็นเพราะฐานการบ่มเพาะ และร่างกายของนางนั้นอ่อนแอเกินไป

มันเป็นเรื่องยาก ที่สายเลือดที่ครอบงำเช่นนี้จะตื่นขึ้น

หลินเป้ยกังวลว่า จะมีบางสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับหลินหลิงเอ๋อ

ดังนั้นเขาจึงตั้งเป้าหมายไว้ 10 วัน และภายใน 10 วัน เขาจะต้องนำหัวใจของสัตว์อสูรระดับ 4กลับมา แม้ว่ามันจะเสี่ยงแค่ไหนก็ตาม

"โอ้ ท่านขาดเงินเท่าไหร่ บางทีข้าอาจช่วยได้" ซุนซิงกล่าว

ซุนซิงยังมีความตั้งใจที่ดีและต้องการผูกมิตรกับหลินเป้ย

หลินเป้ยนั้นผิดปกติจริงๆ ไม่เพียงแต่ความแข็งแกร่งของเขาจะดีขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เขายังได้นำสมุนไพรคุณภาพสูงมากมายมาจากไหนไม่รู้ และยัง

มีโอสถรวบรวมปราณมากมาย

ที่สำคัญ ราคายังคงถูกมาก ซึ่งทำให้ร้านร้อยโอสถมีกำไรเป็นจำนวนมาก

หลินเป้ยเป็นหุ้นส่วนที่ดี และหลินเป้ยยังเป็นหนึ่งในผู้สมัครอัจฉริยะของเจ้าตำหนักหมิงหลานแห่งร้านว่านเป่า

หลินเป้ยสามารถเอาชนะโจวหยวนเมื่อวานนี้ เขามีชื่อเสียงและเป็นอัจฉริยะที่มีศักยภาพ

ซุนซิงเองก็มองหลินเป้ยในแง่ดี หลินเป้ยเป็นอัจฉริยะที่เขาแนะนำให้เจ้าตำหนักหมิงหลาน อย่างน้อยเขาก็ดูดีมาก

"จริงเหรอ? ถ้าเป็นเช่นนั้น เจ้าสามารถให้ข้ายืม12,000,000 ตำลึงได้ไหม แล้วข้าจะคืนเงินให้เจ้า และในขณะเดียวกัน ข้าก็เป็นหนี้บุญคุณเจ้าด้วย"หลินเป้ยมองไปที่ซุนซิงและพูดอย่างจริงจัง

ถ้าเขาสามารถยืมเงินได้ เขาก็จะสามารถแก้ปัญหาของหลินหลิงเอ๋อได้เร็วกว่านี้ และเขาไม่จำเป็นต้องเสี่ยงกับการตามล่าสัตว์อสูรระดับ 4

เมื่อ ซุนซิงได้ยินว่าหลินเป้ยต้องการยืมเงิน 12,000,000 ตำลึง เขารู้สึกหวาดกลัวจนแทบยืนนิ่งไม่ได้

หลินเป้ยที่รักคนนี้ จริงๆแล้วคือโจรหรือเปล่า?

จำนวนคือ 12,000,000 ตำลึง แม้ว่าเขาจะขายหลานชาย แต่เขาก็ไม่สามารถสร้างเงินจำนวนมากได้

เขาคิดว่าสิ่งที่หลินเป่ยต้องการยืมคือสามถึงสี่แสนตำลึง ซึ่งเขายังสามารถหยิบออกมาได้

แต่กลับกลายเป็นว่า จำนวนเงินที่หลินเป่ยต้องการมากกว่านั้นมาก

ยิ่งกว่านั้น สิ่งที่ได้รับกลับมา เป็นเพียงความโปรดปรานจากหลินเป้ย นักรบฝึกหัดขั้น 10?

เขา ซุนซิง คงโง่มากที่จะให้ยืมเงินจำนวนมากเพียง เพื่อให้ได้รับความโปรดปรานจากหลินเป้ย

ไม่นับว่า หลินเป้ยจะสามารถจ่ายคืนได้หรือไม่ ยังคงเป็นคำถาม?

มันเสี่ยงเกินไปและไม่คุ้มที่จะลงทุน นี่คือความคิดของซุนซิง

แม้ว่าจะขอไปที่เจ้าตำหนัก แต่หมิงหลานจะไม่เห็นด้วยแน่นอน

มันเทียบเท่ากับ เงินทุนหมุนเวียนส่วนใหญ่ของหมิงหลาน!

"อะแฮ่ม นายน้อยหลินล้อเล่นแล้ว 12,000,000 ตำลึง ข้าจะมีเงินมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร" ซุนซิงพูดอย่างเคอะเขิน

“ถ้าเป็นอย่างนั้น ข้าจะไม่รบกวนเจ้าแล้ว” หลินเป่ยกำกำปั้นของเขา

เขาก็ไม่คิดอยู่แล้วว่าจะได้

แม้ว่าทั้งตระกูลหลิน ยังหาเงินจำนวนมหาศาลนี้ไม่ได้ แล้วผู้จัดการร้านร้อยโอสถ จะมีเงินมากมายได้อย่างไร?

ดูเหมือนว่า คงต้องไปที่ภูเขาเทียนหยางเท่านั้น

หลังจากที่หลินเป้ยได้เงินมา เขาก็กลับไปที่ร้านอีกครั้ง

หลินเป้ยมอบเงิน 200,000 ตำลึงให้หลินเทียน จากนั้นให้รายการวัสดุที่จะซื้อ

ระหว่างที่หลินเป้ยออกไปข้างนอก เขาให้หลินเทียนไปร้านว่านเป่าเพื่อซื้อวัสดุเตรียมไว้

เวลาไม่พอ และร้านว่านเป่าก็ปิดแล้วในขณะนี้

สำหรับเงินเดือนของหลินคังนั้น อยู่ที่หนึ่งพันตำลึงต่อวัน  แต่หลินคังไม่ต้องการ

หลังจากอธิบายเรื่องนี้ทั้งหมดแล้ว หลินเป้ยก็ออกจากเมืองชิงหลินทันที และมุ่งตรงเข้าสู่ภูเขาเทียนหยาง

หลังจากหลินเป้ยเข้าสู่ภูเขาเทียนหยาง สายลับก็ส่งข่าวกลับไปยังตระกูลโจว และสมาคมเงามืด

ในเมืองชิงหลิน เป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะหาโอกาสสังหารหลินเป้ย

แต่ตอนนี้หลินเป้ยได้ออกนอกเมื่องแล้ว มันเป็นโอกาสที่ดี!

ณ ตระกูลโจว

“ผู้อาวุโสใหญ่ ให้ข้าจัดการกับหลินเป้ยเอง เขากล้าสังหารบุตรชายข้า ข้าจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆ!”โจวห่าวกล่าวกับผู้อาวุโสใหญ่ในเวลานี้

หลังจากพวกเขาได้ข่าว กลุ่มสมาชิกระดับสูงของตระกูลโจว จึงจัดประชุมขึ้นในครั้งนี้

หลินเป้ย ทำให้ตระกูลโจวสูญเสียอัจฉริยะและเงิน 100,000 ตำลึง และใบหน้าของตระกูลโจวก็เสียหาย

พวกเขาต้องการกำจัดเด็กคนนี้ เพื่อคลายความเกลียดชัง

เขาไม่ลังเลเลยที่จะจัดการประชุมแผนการกับเด็กหนุ่มตัวเล็กๆ ที่ระดับเพียงนักรบฝึกหัดขั้น 10!

"ตกลง คราวนี้เจ้าต้องสังหารหลินเป้ยให้ได้ หลังจากที่เรากลายเป็นกองกำลังย่อยของสำนักซวนตัน เราจะกำจัดตระกูลหลิน ตระกูลหลิว และอื่นๆ ในเวลานั้นตระกูลโจวของเรา จะเป็นอันดับหนึ่งในเมื่องชิงหลิว" โจวต้วนกล่าว ด้วยเสียงฮึกเหิม

หวังเสวี่ย ศิษย์ฝ่านนอกของสำนักซวนตัน กลับไปที่นิกายเมื่อวานนี้

หลังจากนั้นไม่นานสำนักซวนตัน จะส่งทูตมา เพื่อประกาศว่า ตระกูลโจว ด้กลายเป็นกองกำลังย่อยของ สำนัก อย่างเป็นทางการ

ในเวลานั้นด้วยการสนับสนุนของสำนักซวนตัน จะกลัวอะไรกับแค่ ตระกูลหลินและตระกูลหลิว!

ภายใต้การพูดคุยของตระกูลโจว ตระกูลจางได้สร้างพันธมิตรกับตระกูลโจว

ตระกูลโจวสัญญาว่า ตราบใดที่ตระกูลหลินและตระกูลหลิว ถูกกำจัด ทั้งสองฝ่ายจะแบ่งเมืองชิงหลิน เท่าๆกัน

ในความเป็นจริง ตระกูลจางก็อยู่ในรายชื่อที่ต้องกำจัดเช่นกัน

ตอนนี้พวกเขาแค่หลอกใช้เท่านั้น  เป็นไปไม่ได้ที่จะแบ่งเมืองชิงหลินเท่าๆ กัน

เมืองชิงหลินสามารถมีตรกูลอันดับหนึ่ง ได้เพียงตระกูลเดียวเท่านั้น!

“โจวห่าว เจ้าเป็นผู้นำภารกิจครั้งนี้ นำคน 50 คนไ ปที่ภูเขาเทียนหยาง เพื่อสังหารหลินเป้ย และผู้อาวุโสสิบหกและสิบเก้า จะไปกับเจ้า” โจวต้วนกล่าว

เทือกเขาเทียนหยางนั้นใหญ่เกินไป ถ้ามีคนน้อย อาจไม่พบหลินเป้ย

ดังนั้น การส่งคน 50 คนจึงเอื้อต่อการดำเนินการมากกว่า

คนทั้ง 50 คนนี้อยู่ขอบเขตนักรบแท้จริง ส่วนผู้อาวุโสที่สิบหกและสิบเก้าล้วนอยู่ในระดับปรมาจารย์นักรบ

เพิ่มโจวห่าวอีกคน จะมีปรมาจารย์นักรบทั้งหมด 3 คน

เพื่อจัดการกับหลินเป้ยซึ่งอยู่ในขอบเขตนักรบฝึกหัดขั้น 10  การส่งทีมที่ทรงพลังเช่นนี้ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่มีต่อหลินเป้ย

“ข้าจะสังหารหลินเป้ยให้ได้ และข้าสัญญาว่าจะทำงานนี้ให้สำเร็จ”โจวห่าวพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก

นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะล้างแค้นให้โจวหยวน และโจวต้วนก็ตกลง เพื่อที่เขาจะได้สังหารหลินเป้ยด้วยตัวเอง

โจวห่าวพาทุกคนจากตระกูลโจว และออกจากเมื่องชิงหลินทีละกลุ่ม เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกค้นพบ!

ส่วนสมาคมเงามืดก็เช่นเดียวกัน แต่คราวนี้ รองหัวหน้าผางชงเป็นผู้นำทีมจริงๆ

ก่อนหน้านี้ ความเย่อหยิ่งของหลินเป้ยทำให้ผางชงโกรธ

ในการดำเนินการนี้ ผางชงจะดำเนินการเป็นการส่วนตัว เพื่อให้หลินเป้ยรู้ว่า

ราคาของการรุกรานเขา คือความตาย!

ผางชงนำปรมาจารย์นักรบที่แข็งแกร่ง 3 คนและนักรบแท้จริงชั้นยอดอีก 40 คน ออกเดินทางไปยังภูเขาเทียนหยาง