นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 92 - อุปกรณ์ไฮเทคฯ
หลังจากเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงมาเพียงไม่กี่นาที เดวิดก็ลดระดับลงมาจนมองเห็นซากเมืองที่อยู่บนพื้นได้อย่างชัดเจนมากขึ้นแล้ว กลิ่นเหม็นเน่าก็เริ่มสามารถลอยขึ้นมาแตะจมูกเขาได้แล้วเช่นกัน แม้ว่ามันจะผ่านเหตุการณ์ใหญ่มาหลายสิบปี แต่ยังคงมีกลิ่นของสาบเลือด และกลิ่นเหม็นเน่าของซากศพอบอวลทั่วไปหมด
จากระดับความสูงที่เขาอยู่ในตอนนี้ เดวิดไม่สามารถมองเห็นพื้นที่ทั้งหมดได้แล้ว สิ่งที่ปรากฏอยู่ในสายตาของเขา ส่วนใหญ่แล้วเป็นป่ารกร้าง ที่มีเถาวัลย์ปกคลุมอยู่จนรกทึบไปหมด ซากตึกสูงที่ถูกทำลายไปแล้วบางแห่ง ส่วนพื้นที่ที่ค่อนข้างจะโล่ง ก็ถูกปกคลุมไปด้วยต้นหญ้า และวัชพืชนานาชนิด
มีตึกสูงบางแห่งยังสามารถตั้งตระหง่านอยู่ได้ แต่มันก็เต็มไปด้วยร่องรอยของความเสียหาย ถูกเจาะทะลุทะลวงเป็นรูทั่วไปทั้งตึก และถูกรุกรานด้วยเถาวัลย์จำนวนมาก จนแทบจะกลายเป็นตึกสีเขียวไปแล้ว
หลังจากผ่านทิวทัศน์ที่ไม่ต่างกันมากนักมาประมาณ 20 นาที เครื่องยนต์ขับเคลื่อนก็เริ่มเปลี่ยนทิศทางเบี่ยงออกด้านข้าง ไม่ตรงไปทางเดียวกับนักเรียนคนอื่น ๆ เหมือนเดิมอีกแล้ว เดวิดไม่ได้กำหนดจุดหมายปลายทางเป็นที่เดียวกันกับนักเรียนส่วนใหญ่ เขาเลือกที่จะไปลงยังจุดที่แตกต่างออกไป
ก่อนหน้านี้ การเคลื่อนที่ของนักเรียนทุกคนเหมือนกับฝูงนกที่บินมาด้วยกัน แต่พอใกล้ถึงจุดหมาย เก้าอี้ของเดวิดเริ่มแยกตัวเปลี่ยนทิศทางออกมา เช่นเดียวกับของนักเรียนอีกหลายคน พวกเขาตัดสินใจที่จะไม่ใช้พื้นที่ปลอดภัยเป็นจุดลงพื้นมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
แม้ว่าพื้นที่ปลอดภัย จะมีความปลอดภัยสมกับชื่อของมัน และมีอุปกรณ์ไฮเทคต่าง ๆ ให้รวบรวมอยู่บ้าง แต่มันก็เป็นอุปกรณ์ระดับต่ำที่สุด และมีจำนวนจำกัดเท่านั้น ไม่มีทางที่จะเพียงพอกับนักเรียนจำนวนมากที่เลือกพื้นที่ปลอดภัยเป็นจุดลงพื้นอย่างแน่นอน
เดวิดคิดเรื่องนี้มาตั้งแต่อยู่บนเรือเหาะแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่กลัวการต่อสู้มากเท่าไรนัก แต่การต้องออกแรงต่อสู้กับคนจำนวนมาก เพื่ออุปกรณ์ระดับต่ำ ดูเหมือนจะไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย
ในเมื่อมันยังมีจุดจัดหาระดับต่ำ ระดับกลาง และระดับสูง จัดวางอุปกรณ์กระจายไปทั่วพื้นที่ น่าจะต้องรีบใช้โอกาสในตอนนี้ไปเอาอุปกรณ์พวกนั้นมาก่อน แม้ว่ามันจะเสี่ยงอันตราย และอาจเจอกับสัตว์กลายพันธุ์ได้บ้าง แต่ถ้าเลือกจุดจัดหาระดับต่ำ ที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก ระดับความปลอดภัย ก็ไม่ได้ต่ำไปกว่าที่พื้นที่ปลอดภัยเลย
หลังจากนั้นอีก 3 นาที เดวิดก็สามารถสังเกตรอบ ๆ ตัวได้แล้ว ว่าเขานั้นตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง เพราะมีเพียงนักเรียนไม่กี่คนเท่านั้น ที่มุ่งหน้ามาในทิศทางเดียวกันกับเขา และที่โชคดีไปกว่านั้นก็คือ เขานำอยู่ด้านหน้าสุด
หลังจากที่เดวิดพยายามมองพวกเขาอย่างละเอียด ก็ไม่พบว่ามีคนที่ตัวเองรู้จักหรือคุ้นหน้าอยู่ในหมู่พวกเขาเลย และหลังจากพบว่าทั้งหมดเป็นผู้ชาย ที่ไม่มีทีท่าว่าจะคุกคามเขาได้ เขาก็เลิกให้ความสนใจทันที กันมาสำรวจพื้นที่บริเวณโดยรอบอย่างสังเกตแทน เพราะที่นี่ใกล้จะถึงจุดที่เขากำหนดเอาไว้แล้ว
และหลังจากที่ระดับความสูง และความเร็วในการเคลื่อนที่ของเขาลดลงมาก จนสังเกตพื้นที่ราบที่ดูจะชื้นแฉะเบื้องล่างได้ชัดเจนขึ้น ดวงตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมาด้วยความยินดี
“ดูเหมือนว่าฉันจะตัดสินใจได้ถูกต้องจริง ๆ” เดวิดยิ้มออกมา
ถูกแล้ว ดูเหมือนว่าเทพีแห่งโชคจะยืนอยู่ข้างเขาในคราวนี้ กล่องใส่อุปกรณ์วางอยู่ไม่ไกลจากบริเวณที่เขากำหนดเป็นจุดลงพื้นเอาไว้มากนัก และน่าจะมีมากกว่าที่เขาสังเกตเห็นได้ในตอนนี้อีกด้วย และเดวิดได้ตัดสินใจอย่างหนักแน่นเอาไว้แล้ว ว่าถ้ามีเพียง 1 อย่าง ก็ถือว่าเขาโชคร้าย ถ้ามี 2 อย่าง เขาก็จะเอาไปทั้งคู่ ถึงแม้ว่ามันจะมีจำนวนเป็นสิบ เขาก็จะเอาไปทั้งหมด จะได้ใช้หรือไม่ ให้มันเป็นเรื่องของภายภาคหน้า แต่มันน่าจะดีกว่าการทิ้งเอาไว้ให้คู่แข่งใช้เป็นแน่
เขาได้แต่หัวเราะให้กับความโชคดีของตัวเองเบา ๆ
และแน่นอน คนอื่น ๆ ก็น่าจะคิดเช่นเดียวกันกับเขา เพราะเดวิดเริ่มได้ยินเสียงตะโกนจากทางด้านหลังบ้างแล้ว
“ฮ่าฮ่า! ดูเหมือนว่าโชคในวันนี้ของฉันจะไม่เลวเลยทีเดียว มีกล่องอุปกรณ์อยู่ที่บริเวณเป้าหมายของฉันด้วย ยอดเยี่ยมมาก” มันเป็นเสียงหัวเราะอย่างยินดีของ ‘บร็องซ์’ ที่ใช้การหมุนเวียนของเลือดช่วยเสริมความแข็งแรงของปอด และกล้ามเนื้อที่ส่วนคอ ทำให้สามารถส่งเสียงออกมาได้ดังตามความต้องการของตัวเอง
แต่ก็มีเสียงที่เย็นชา และดังราวกับเสียงฟ้าผ่า กล่าวเป็นคำขู่ออกมาเช่นกัน “ถ้ามีใครกล้ามายุ่งกับของ ๆ ฉัน รับรองว่ามันจะไม่ได้ตายดีแน่” เสียงที่ ‘อิคารัส’ ใช้ เป็นโทนเสียงสูงไม่แพ้กับของบร็องซ์ และตั้งใจเผยเจตนาข่มขู่ออกมาอย่างที่
“ฉันว่าพวกนายใจเย็น ๆ กันก่อนก็ดีนะ ไอ้เรื่องว่าของจะเป็นของใคร เอาไว้ให้ลงถึงพื้นก่อนค่อยมาปรึกษากันเถอะ” ซาเวียร์กล่าวออกมาด้วยเสียงที่ดังไม่แพ้กัน แต่ดูเหมือนกับว่าเขาพยายามจะประณีประนอมกับทุกคน และก็น่าจะได้ผลไม่น้อย เพราะไม่มีใครกล่าวอะไรออกมาอีกเลย
เดวิดใช้หางตาเหลือบมองไปที่พวกเขา แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก ตอนนี้เขานำหน้าอยู่ค่อนข้างไกล และน่าจะลงพื้นก่อนพวกนั้น และเก็บกล่องอุปกรณ์ได้ก่อนอย่างแน่นอน
แต่ที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย คือการที่พวกนั้นทั้ง 7 คน ดูจะไม่ให้ความสนใจอะไรกับเขาเลย ราวกับว่าเขาไม่มีค่าพอที่จะต้องสนใจ เป็นแค่ตัวอะไรสักอย่างที่นำหน้าอยู่เพียงเท่านั้นเอง ซึ่งแม้จะประหลาดใจ แต่เดวิดก็ดีใจด้วยเช่นกัน เพราะการถูกมองข้าม ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งข้อได้เปรียบสำหรับเขาเช่นกัน
และในที่สุด ความเร็วของเก้าอี้ที่เดวิดนั่งอยู่ก็ลดความเร็วจนเกือบจะลอยอยู่กับที่ และเริ่มลดระดับลงเรื่อย ๆ แต่ตอนที่มันอยู่สูงจากพื้นประมาณ 10 เมตร เสียง AI ก็ดังขึ้นมา ด้วยข้อความที่เขาคาดไม่ถึง
“ถึงจุดหมายกำหนดแล้ว เริ่มการดีดตัวอัตโนมัติ เริ่มการดีดตัวอัตโนมัติ ได้โปรดเตรียมตัว”
เดวิดเคยมีบทเรียนมาก่อนแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่เสียเวลาที่จะพิจารณาทำความเข้าใจกับคำพูดของ AI เลยแม้แต่นิดเดียว รีบหมุนเวียนโลหิตในร่างกายอย่างรวดเร็ว เตรียมร่างกายให้พร้อมกับทุกสถานการณ์
และเป็นไปตามที่เขาคาดเอาไว้ไม่ผิด มันคล้ายกับมีแรงผลักเกิดขึ้นที่ใต้ตัวของเขา ส่งให้เดวิดพุ่งตกลงไปที่พื้นอย่างรวดเร็ว ยังโชคดีที่เขาเตรียมตัวเอาไว้ได้ทัน ทำให้สามารถพลิกตัวลงยืนลงที่พื้นด้วยเท้า ไม่ใช่การลงพื้นด้วยส่วนอื่น แต่ก็ยังมีดินและโคลนกระเด็นขึ้นมาใส่กางเกงตัวโปรดของเขาจนเต็มไปหมดเหมือนกัน
เขาพยายามไม่ใส่ใจกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้น มันยังมีเรื่องที่สำคัญกว่าที่ต้องจัดการอย่างเร่งด่วน เดวิดรีบพุ่งตัวไปยังตำแหน่งที่เขาเห็นกล่องอุปกรณ์ตั้งอยู่ทันที
นักเรียนทั้ง 7 ที่มุ่งหน้ามาทิศทางเดียวกับเดวิด มีอยู่ 2 คนที่โดนดีดออกมาจากเก้าอี้ของตัวเองเช่นเดียวกันกับเขาแล้ว ในขณะที่อีก 5 คนยังคงลอยอยู่บนท้องฟ้า แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะเลือกจุดลงพื้นเป็นที่นี่เหมือนกัน แต่การกำหนดจุดผ่านแผนที่ มันมีความคลาดเคลื่อนของระยะทางอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นจุดที่พวกเขาลงพื้น จึงเรียกได้ว่าอยู่ในบริเวณใกล้กันเท่านั้น ไม่ใช่จุดเดียวกัน
เดวิดเคลื่อนตัวจนถึงกล่องใส่อุปกรณ์ และพยายามที่จะเปิดฝาออกสำรวจภายในแล้ว แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ มันถูกล็อกเอาไว้อย่างแน่นหนา เขายืนทำหน้านิ่วอยู่ชั่วครู่ ‘มันต้องไม่ได้เปิดยากนัก คงไม่ต้องไปตามหากุญแจที่อื่นหรอก อืม? ยืนยันตัวตนไง!” แล้วเขาก็นำป้ายประจำตัวที่ฝังอยู่ที่มือซ้ายวางลงไปบนกล่องทันที
และมันประสบความสำเร็จ หลังจากที่มีแสงปรากฏขึ้นมาสแกนป้ายประจำตัวของเขา ฝากล่องก็ถูกเปิดออกได้อย่างง่ายดาย
ในนั้นมีอุปกรณ์วางอยู่ 2 ชิ้น แต่ก่อนที่เดวิดจะได้เอื้อมมือไปหยิบมาได้ เขาก็รู้สึกว่าลมข้างหลังพัดแรงขึ้นเล็กน้อย และพื้นดินก็ไหวตัวเบา ๆ
ตาของเขาเป็นประกายขึ้นมาในทันที และเหมือนกับว่ามีตาหลัง เดวิดหมุนเวียนเลือดในร่างกาย และหมุนตัวกลับไปต่อยอย่างรุนแรง มันเป็นหมัดที่ทั้งรวดเร็วและดุร้ายเป็นอย่างมาก
ปัง!
มันปะทะเข้ากับหมัดของคนที่กำลังลอบโจมตีเขาอย่างแม่นยำ แรงสะท้อนทำให้เดวิดตัวสั่นเล็กน้อย แต่มันส่งผลให้คนที่ลอบโจมตีล้มเหลวนั่น ต้องถอยหลังกลับไปหลายก้าวเลยทีเดียว
และเหมือนว่าเขาจะประเมินความสามารถของเดวิดได้อย่างรวดเร็ว รีบถอยออกไปอีกอย่างรวดเร็ว ซาเวียร์รู้ตัวดีว่า การที่เขากระตุ้นทักษะการต่อสู้เพื่อใช้ลอบโจมตีแล้ว แต่ยังตกอยู่ในสภาพที่เสียเปรียบเมื่อปะทะกับหมัดที่ใช้เพียงแค่พลังของร่างกายเท่านั้น แสดงว่าเขาเจอเข้ากับปัญหาใหญ่แล้ว
เดวิดเอ่ยถามออกไปเรียบ ๆ “นายต้องการอะไรจากฉันอย่างนั้นหรือ?” ในขณะเดียวกันก็ลอบสังเกตฝ่ายตรงข้ามไปในตัว ซาเวียร์เป็นเด็กหนุ่มที่มีบุคลิกสง่าผ่าเผย น่าแปลกใจ ที่ชอบใช้วิธีลอบโจมตีแบบนี้ออกมา
แต่ก็แค่แปลกใจเล็กน้อยเท่านั้น เดวิดไม่ได้ตัดสินใครจากรูปลักษณ์ภายนอกมานานแล้ว โดยเฉพาะกับคนที่อยู่ในสถาบันแห่งนี้ ไม่มีใครเป็นคนที่สัตย์ซื่อไม่มีเล่ห์เลี่ยม หรือเป็นคนดีมีน้ำใจเลย ทุกคนล้วนตีหน้าซื่อใส่กันทั้งนั้น แม้แต่ตัวของเดวิดเอง เขาก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อย...แต่เขาก็พอใจกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้นเหมือนกัน