ตอนที่ 20 : กลับหลินอัน (อ่านฟรี)
เฉียวจินเหนียง ไม่เคยคิดเลยว่าเวลาครึ่งชั่วยามจะสั้นขนาดนี้
ดูเหมือนเพียงชั่วพริบตา ก่อนที่อ๋องหรงน้อยจะเดินเข้ามา “ได้เวลาที่องค์ชายน้อยต้องกลับไปที่พระราชวังตะวันออกแล้ว”
เฉียวจินเหนียงกอดต้วนเอ๋อร์แน่น แม้ว่านางจะอุ้มเขามาเป็นเวลานานแล้วและแขนของนางก็แทบจะไร้ความรู้สึก แต่นางกลับไม่รู้สึกเหนื่อยเลย
เมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยนี้ นางถามว่า "ท่านเป็นใครกัน"
อ๋องหรงน้อยกล่าวว่า “ข้าคืออ๋องหรงน้อย ขอบใจเจ้าที่ช่วยข้าที่ภูเขาทางเหนือ”
“เนื่องจากเจ้าและองค์รัชทายาทได้พบกันอีกครั้ง คงมีโอกาสมากมายที่พวกเจ้าจะได้พบกันอีก ตอนนี้ก็สายมากแล้ว หากเจ้ายังไม่กลับไป อาจจะทำให้ฮูหยินอันเป็นกังวลได้”
เฉียวจินเหนียงส่งมอบต้วนเอ๋อร์ให้กับอ๋องหรงน้อยอย่างไม่เต็มใจ “ต้วนเอ๋อร์กลับไปก่อน แล้วแม่จะทำเค้กส้มที่เจ้าชอบมาให้ในครั้งหน้า”
ต้วนเอ๋อร์ไม่ต้องการจากเฉียวจินเหนียงไป “ท่านแม่ อยู่กับลูกนะขอรับ”
เฉียวจินเหนียงกำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น และน้ำตาก็เริ่มปรากฏขึ้นในดวงตาของนางอีกครั้ง “ต้วนเอ๋อร์ เป็นเด็กดี แม่จะมาหาเจ้าใหม่พรุ่งนี้”
อ๋องหรงน้อยอุ้มต้วนเอ๋อร์และจากไป แต่เมื่อต้วนเอ๋อร์เห็นว่าท่านแม่ไม่ตามมา เขาก็เริ่มร้องไห้
หัวใจของเฉียวจินเหนียงแตกสลายเมื่อนางได้ยินเสียงเขาร้องไห้ นางรีบเดินไปหาและพูดกับอ๋องหรงน้อย “เดี๋ยวก่อน หม่อมฉันขอกล่อมเขาให้หลับก่อนได้ไหมเพคะ”
นางทนไม่ได้จริงๆที่ได้ยินเสียงร้องไห้ที่โศกเศร้าของต้วนเอ๋อร์
ลูกของเธอเป็นเด็กดีเสมอมาและไม่ค่อยร้องไห้เลยเมื่อตอนที่อยู่กับนาง
เพื่อเฉียวจินเหนียงที่เคยช่วยเขาไว้ อ๋องหรงน้อยจึงส่งต้วนเอ๋อร์กลับไปให้เฉียวจินเหนียง
เธออุ้มต้วนเอ๋อร์ด้วยมือข้างหนึ่งและเช็ดน้ำตาให้
ต้วนเอ๋อร์กุมคอเสื้อของเฉียวจินเหนียงแน่น ด้วยกลัวว่านางจะจากไปอีก
เฉียวจินเหนียงนั่งลงและเริ่มร้องเพลงพื้นเมืองทางใต้เบาๆ ในอดีตต้วนเอ๋อร์จะหลับทันทีเมื่อเขาได้ฟังเพลงนี้
แต่วันนี้ ดวงตาหงส์ที่ชุ่มน้ำของต้วนเอ๋อร์เบิกกว้าง และเขาฮัมเพลงไปพร้อมกับเฉียวจินเหนียงเป็นครั้งคราว
เมื่อเห็นว่าเวลาผ่านไปเกือบจะ 1 ชั่วยามแล้ว อ๋องหรงน้อยก็กลัวว่าประตูพระราชวังจะถูกปิดเสียก่อน “คุณหนูเฉียว สายมากแล้ว…”
เฉียวจินเหนียงพูดกับอ๋องหรงน้อยว่า “หม่อมฉันขอพาเขาไปส่งที่ประตูวังตะวันออกได้ไหมเพคะ”
ขอให้นางได้ใช้เวลากับต้วนเอ๋อร์อีกสักนิดก็ยังดี
อ๋องหรงน้อยพยักหน้าและเรียกคนขับรถม้าขององค์รัชทายาทให้มารับ เมื่อเฉียวจินเหนียงอุ้มต้วนเอ๋อร์เข้าไปข้างใน นางรู้สึกประหลาดใจกับความกว้างขวางเป็นอย่างยิ่ง ซ้ำรถม้ายังทำมาจากต้นหนานมู่เนื้อทองแสนล้ำค่า
ภายในรถมีผ้าห่มไหมอย่างดี ดูหรูหรามาก
มีผลไม้ ขนมอบ และชารสเลิศอยู่ในรถม้า เฉียวจินเหนียงมองไปที่รถม้าที่หรูหรา นางไม่เคยคิดมาก่อนว่าสิ่งของทั้งหมดนี้จะถูกบรรจุไว้ในรถม้านี้ได้
หลังจากขึ้นรถม้าแล้ว ต้วนเอ๋อร์ก็ค่อยๆหลับตาลง
เฉียวจินเหนียงถอนหายใจด้วยความโล่งอก อย่างไรก็ตาม ตำหนักของอ๋องหรงอยู่ไม่ไกลจาก พระราชวังตะวันออก ดังนั้นจึงใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามก็มาถึงประตูของพระราชวังตะวันออก
เมื่อได้ยินเสียงของอ๋องหรงน้อยดังมาจากข้างนอก เฉียวจินเหนียงจึงจูบหน้าผากของต้วนเอ๋อร์อย่างอ่อนโยน แม้ว่าจะต้องทิ้งลูกชายไปด้วยความไม่เต็มใจเพียงใด นางก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องจากไป
เมื่อลงจากรถม้า เฉียวจินเหนียงมองไปที่ประตูพระราชวังอันโอ่อ่า ซึ่งมีการป้องกันอย่างแน่นหนา ดูเคร่งขรึมและน่าเกรงขาม ที่นี่คือวังหลวง…
นั่วหมี่ประคองเฉียวจินเหนียงและพูดว่า “คุณหนู เราจะกลับไปที่จวนหวังเลยหรือไม่เจ้าคะ”
จวนของหวังอันหยวนอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ เฉียวจินเหนียงจึงเลือกที่จะไม่ขึ้นรถม้า แต่เดินกลับจวนแทน
นางจำเป็นต้องปรับอารมณ์ในระหว่างทางก่อนที่จะกลับถึงจวน ท่านแม่ห่วงใยเธอมาก นางต้องสังเกตเห็นว่าอารมณ์ของเธอในตอนนี้ไม่ปกติเป็นแน่
เฉียวจินเหนียงไม่ต้องการให้ผู้คนในจวนหวังรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างนางกับองค์รัชทายาท “นั่วหมี่ ห้ามบอกใครว่าอดีตสามีของข้าคือองค์รัชทายาทโดยเด็ดขาด”
นั่วหมี่พยักหน้าและพูดอย่างขุ่นเคือง “เจ้าค่ะคุณหนู แม้ว่าเขาผู้นั้นจะเป็นถึงองค์รัชทายาท แต่เขาก็ไม่ควรทิ้งภรรยาและพรากคุณชายน้อยไป… เขาทำแบบนี้กับท่านได้อย่างไรเจ้าคะ!”
เล็บของเฉียวจินเหนียงที่ทาด้วยน้ำยาทาเล็บนั้นจิกลึกเข้าไปในฝ่ามือของนาง พระเจ้าช่างเล่นตลกกับนางครั้งแล้วครั้งเล่า
ผู้ชายที่เป็นสามีของนางมาสามปีกลับกลายเป็นว่าเขาดูหมิ่นนาง
ตั้งแต่ตอนที่ลู่เฉินฟื้นความทรงจำ เขาก็ปฏิบัติต่อนางอย่างดูถูกเหยียดหยาม หากเขามีความเสน่หาต่อนางแม้เพียงเล็กน้อย เขาคงไม่ปิดบังตัวตนของเขาจากนางเช่นนี้
ซ้ำเขายังเขียนจดหมายหย่าให้นาง
นอกจากนี้เขาต้องการให้นางเป็นพระสนมเอกของเขาเพียงเพราะเขารู้ว่าแท้จริงแล้วนางคือลูกสาวที่หายสาบสูญไปของหวังอันหยวน
ในสายตาของลู่เฉิน เขาไม่เคยมองนางเป็นภรรยาเลย...
แม้ว่าหัวใจของนางจะเลือดไหล แต่เฉียวจินเหนียงก็ยังพยายามสงบสติอารมณ์
ทันทีที่นางกลับมาที่จวนหวังนางก็ได้ยินเสียงเย้ยหยันของเฉียวหรูฉี
“โอ้ ในที่สุดเจ้าก็กลับมาจากตำหนักของอ๋องหรงได้สักที เฉียวจินเหนียง เจ้านี่ช่างวางแผนเสียจริง เจ้าเพิ่งกลับมาที่ฉางอันได้ไม่กี่วัน แต่เจ้ากล้าวางแผนที่จะขโมยสามีของพี่หรูหยุนเสียแล้ว?”
“ทำทีมาอ้างว่าเจ้าทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของพี่หรูหยุน แต่เจ้าพานางกลับไปที่จวนหวัง ซึ่งมีแต่จะทำให้ตระกูลฉินเกลียดนางมากยิ่งขึ้น ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่ เจ้าแค่ต้องการพาพี่หรูหยุนกลับไปที่จวนหวังฉินเพื่อที่เจ้าจะได้กลายเป็นภรรยาของพี่ฉินชูแทนใช่หรือไม่”
เฉียวหรูฉีจงใจรออยู่ที่ประตูจวน ทั้งท่านย่าและแม่ของนางคิดว่าเฉียวจินเหนียงฉลาด และชมเชยว่านางจัดการกับเรื่องนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แต่นางรู้ว่า มีเพียงนางเท่านั้นที่รู้ว่าเฉียวจินเหนียงกำลังคิดจะทำอะไรอยู่
“เจ้ามันช่างร้ายกาจจริงๆ เพราะการกลับมาของเจ้า พี่หรูหยุนถึงได้แท้งลูก และตอนนี้เจ้ายังต้องการที่จะขโมยสามีของนางอีก!”
เมื่อได้ยินคำพูดที่น่าตกใจเหล่านี้ บ่าวเฝ้าประตูและสาวใช้ต่างก็ก้มศีรษะลงและหวังว่าพวกเขาจะไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
นั่วหมี่หน้าแดงด้วยความโกรธ “คุณหนูสี่ ท่านทำเกินไปแล้ว คุณหนูของข้าไม่เคยไปทำอะไรให้ท่านโกรธเคืองเลย แต่ท่านกลับทำให้นางขายหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า!”
“หญิงสาวผู้มีชื่อเสียงเช่นท่าน กลับมีความคิดที่สกปรกเช่นนี้ได้อย่างไร!”
เฉียวหรูฉีขมวดคิ้ว นางยกมือขึ้นเพื่อที่จะตบสั่งสอนนั่วหมี่ “นังทาสชั้นต่ำ เจ้าไม่มีสิทธิที่จะพูดกับข้า!”
ก่อนที่มือของเฉียวหรูฉีจะมาถึงนั่วหมี่ เฉียวจินเหนียงก็จับมือของนางไว้แน่นแล้วผลักนางลงไปที่พื้น “เจ้าคนงี่เง่า เจ้าคิดว่าเจ้าจะทำให้ข้าขายหน้าได้หรือ?
“จะมีประโยชน์อะไรหากชื่อเสียงของจวนหวังต้องเสื่อมเสีย? ถ้าเจ้าทำลายชื่อเสียงของข้า เจ้าคิดว่ามันจะไม่ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของเจ้าหรือไงกัน?”
เฉียวหรูฉีแสร้งร้องไห้เมื่อนางเหลือบไปเห็นชายกระโปรงผ้าลายเมฆมงคลสีแดง “เจ้ากล้าทุบตีข้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้ยังไง? สาวใช้ของเจ้ามาดูถูกข้าก่อน ไม่น่าเชื่อเลยว่าข้าจะต้องมาถูกรังแกในจวนของตัวเองเช่นนี้ ให้ตายเถอะ!”
ฮูหยินใหญ่เข้ามาและพูดด้วยความโกรธว่า “เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดจึงได้ก่อเรื่องเช่นนี้ที่หน้าประตูจวน”
เฉียวหรูฉีร้องไห้ “ท่านแม่ ท่านก็ลองถามลูกสาวสุดที่รักของท่านดูสิเจ้าคะ ว่านางมีแผนร้ายอะไร หลังจากที่ข้าเปิดโปงนาง นางก็โมโหและพยายามทุบตีข้า ทำไมท่านไม่ส่งคนแบบนี้ออกไปจากจวนล่ะเจ้าคะ การเก็บนางไว้ในจวนหวังรังแต่จะสร้างปัญหาให้พวกเราเท่านั้น!”
ฮูหยินใหญ่สังเกตว่าใบหน้าของเฉียวจินเหนียงซีดเซียว “จินเหนียง เจ้าได้ทำอะไรผิดศีลธรรมที่จวนของอ๋องหรงหรือไม่”
เฉียวจินเหนียงส่ายหัว “ไม่เลยเจ้าค่ะ”
“ท่านแม่ ถ้าน้องหญิงทนลูกไม่ได้จริงๆ ลูกจะกลับไปหลินอันเจ้าค่ะ…”
~ ลำดับคุณหนูตระกูลเฉียวขอแก้ใหม่เป็น
คุณหนูใหญ่ เฉียวหรูหยุน สะใภ้จวนหวังฉิน
คุณหนูรอง เฉียวจินเหนียง นางเอก
คุณหนูสาม ยังไม่ปรากฎชื่อ แต่งออกไปทางตะวันตกเฉียงใต้
คุณหนูสี่ เฉียวหรูฉี
คุณหนูห้า เฉียวหรูอี้
อันนี้เป็นคุณหนูที่เกิดจากหวังอันหยวนนะคะ ไม่รวมญาติสายอื่นๆ ~