ตอนที่ 6 ความคิดของซู่เฮาเที่ยน
แต่ผู้อาวุโสของตระกูลอย่างซู่เฉิงเฟิงยังคงไม่แสดงท่าทีใดๆและมีสีหน้าที่นิ่งเหมือนกับผิวน้ำ
ซู่เฮาเที่ยนแอบดูกลศึกของซุนวูในขณะที่กำลังฟังคำตอบของซู่ซง
ด้วยความชื่นชมของทุกคนและการท่าทีที่เหมือนจะเห็นด้วยของผู้อาวุโสนั้น ซู่ซงจึงมั่นใจและยืนอย่างภาคภูมิใจ
"ผู้อาวุโสของตระกูลและทุกท่าน ซู่เฮาเที่ยนขอเสนอความคิดบางอย่างได้หรือไม่?"
ขณะที่ซู่ซงกำลังภาคภูมิใจอยู่นั้น เสียงดังก้องของไปทั่วทุ่ง
"ซู่เฮาเที่ยน นอกจากความคิดเรื่องการเป็นขโมยแล้ว อย่าพูดอะไรพล่อยๆออกมาเด็ดขาด!"
เมื่อได้เห็นแบบนี้ ใบหน้าของซู่ซงก็แสดงความเย้ยหยันออกมา
"ซู่เฮาเที่ยนอย่าลังเลที่จะตอบข้าเลย หากเจ้ามีความคิดดีๆบางอย่างจริง และเจ้าเองก็ยังเป็นถึงนายน้อยที่สามของตระกูลซู่ด้วย"
ซู่เฉิงเฟิงชำเลืองมองซู่ซงอย่างรวดเร็วและพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
แม้ว่าภายนอกของซู่หยุนจะสงบ แต่แววตาของเขาก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง
ซู่เฮาเที่ยนเลิกคิ้วลงและจ้องมองไปที่เขาด้วยท่าทีที่เรียบร้อยมาก
"ข้าขอถามเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลทุกท่านว่า ความแข็งแกร่งของตระกูลเป๋ยนั้นแข็งแกร่งมากแค่ไหน?"
“นี่ยังต้องถามอีกงั้นหรือ พวกเขาแข็งแกร่งที่สุดในตระกูลทั้ง 7 แห่งอาณาจักรเที่ยนซวนแล้ว”
ซู่ซงพูดอย่างเร่งรีบ หลังจากที่พูดจบเขาก็จ้องมองไปที่ซู่เฮาเที่ยนด้วยความไม่พอใจในคำถาม
“โฮะโฮ่ พี่สี่ นี่ท่านได้เป็นผู้อาวุโสแล้วงั้นหรือ ข้ายินดีด้วยนะ!”
“เจ้า อย่าเล่นลิ้นกับข้า ข้าไม่ใช่ผู้อาวุโสของตระกูล”
เมื่อซู่ซงได้ยินคำพูดของซู่เฮาเที่ยน สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันทีและเขาก็อธิบายอย่างรวดเร็ว
“แม้ว่าตระกูลเป๋ยจะทรงพลังแต่เขาก็ต้องมีพันธมิตร สิ่งที่ข้าต้องการจะถามคือตระกูลเป๋ยในตอนนี้มีพันธมิตรอยู่กี่ตระกูลงั้นหรือ?”
"เลิกพูดอะไรไร้สาระสักที ข้าบอกไปแล้วว่าตระกูลเป๋ยทรงพลังที่สุดทำไมยังต้องการพันธมิตรอยู่อีก ซู่เฮาเที่ยนนี่เจ้า..."
“พอได้แล้วซู่ซง เจ้าขัดจังหวะข้าครั้งแล้วครั้งเล่า เจ้าไม่รู้หรือว่าข้ากำลังพูดถึงแผนการของตระกูลอยู่ หรือว่าเจ้าไม่เห็นว่าท่านผู้นำ ท่านผู้อาวุโสและทุกคนในตระกูลซู่อยู่ในสายตาของเจ้า?”
เมื่อซู่เฮาเที่ยนเห็นซู่ซงพูดแทรกขึ้นมาอีกครั้ง มุมปากของเขาก็ยกเล็กน้อยจากนั้นเขาก็ตะโกนออกมาเสียงดัง
"นี่เจ้า... ไม่นะ ข้าไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ท่านพ่อข้าไม่ได้...!"
ซู่ซงรีบแก้ตัวทันทีเพราะเขาไมคิดว่าซู่เฮาเที่ยนจะกล้าพูดกับเขาแบบนี้ และเขากำลังจะอธิบายอย่างรวดเร็วต่อหน้าทุกคน
"ซู่ซง แค่นี้เจ้าก็รบกวนคนอื่นมากพอแล้ว หุบปากซะแล้วอยู่เงียบๆก่อนที่ข้าจะหมดความอดทน ถ้าเจ้าอยากจะพูดอะไรก็ค่อยมาพูดกับข้าทีหลัง"
"ซู่เฮาเที่ยนเจ้าพูดต่อได้"
ซู่เฉิงเฟิงโกรธมากเพราะความอาย ก่อนหน้านี้เขาอดทนเพราะเห็นแก่ผู้นำตระกูล แต่การพูดแทรกของลูกชายคนนี้ทำให้เขาหมดความอดทน และเห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในสายตาของเหล่าผู้อาวุโสในตระกูลเลย
ผู้นำตระกูลอย่างซู่หยุนที่นั่งบนเก้าอี้ขนาดใหญ่และไม่ได้ห้ามซู่เฉิงเฟิง ก่อนที่จะเขามองไปที่ซู่เฮาเที่ยนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสนใจม
เปรี๊ยะ!
"โอ๊ย! เจ็บชะมัด!"
“ตระกูลเบ๋ยนั้นมีพันธมิตรเพียงตระกูลเดียวคือตระกูลซุน”
"เมืองซินโจวนั้นถือว่าเป็นประตูเข้าสู่เมืองหยุนโจวซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งและมันทำให้ตระกูลซุนเองก็มีความสำคัญมากยิ่งขึ้นเช่นกัน ข้าเองก็ไม่แน่ใจว่าการวิเคราะห์ของข้านั้นถูกหรือเปล่า?"
"สิ่งที่เจ้าพูดนั้นถูกต้อง"
คำตอบนี้ออกมาจากปากของซู่หยุน
"ถ้าจู่ๆตระกูลซุนถูกโจมตีโดยกองกำลังที่ไม่ทราบชื่อ และทั้งตระกูลกำลังเผชิญวิกฤตในช่วงความเป็นและความตาย รู้หรือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้?"
"ตระกูลเป๋ยจะถอนทัพทหารอย่างไม่ลังเลและพยายามทุกวิธีทางเพื่อช่วยเหลือตระกูลซุน"
หลังจากที่พูดจบ ทั้งซู่เฉิงเฟิงและซู่หยุนรวมถึงผู้อาวุโสอีกสามคนต่างลุกขึ้นเกือบจะพร้อมกัน พวกเขาดูตื่นเต้นที่ซู่เฮาเที่ยนซึ่งยืนอยู่ด้านหน้าฝูงชนนั้นพูดออกมาด้วยสีหน้าที่นิ่งสงบ ทำให้ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
"งั้นรึ! ฮ่าๆๆ ซู่เฮาเที่ยนความคิดของเจ้านั้นยอดมากจริงๆ!"
"เอาล่ะดีมาก ด้วยวิธีการนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยตระกูลฉินได้เท่านั้น แต่ยังใช้โอกาสนี้ตัดแขนข้างหนึ่งของตระกูลเป๋ยออกไปได้อักด้วย ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริงๆ"
"งั้นรึ ช่างเป็นกลยุทธ์ที่ชั่วร้ายจริงๆ! เจ้านั้นไม่ต่างอะไรกับพ่อมดจอมวางแผนและเป็นบุตรชายที่น่าภาคภูมิใจของตระกูลซู่จริงๆ"
“นายน้อยที่สาม ความคิดของเจ้านั้นยอดเยี่ยมจริงๆ!”