ตอนที่ 425 ลูกแก้วไออุ่น
ตอนที่ 425 ลูกแก้วไออุ่น
ถุย! ถุย! ถุย!
ขนอุยพ่นลูกบอลพลังงานออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยฮาซี่รับการท้าทายของสัตว์อสูรตัวนี้อย่างใจเย็น พร้อมกับดูดซับพลังงานจากขนอุยเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง
ท้ายที่สุดพลังพิเศษของเขาก็คือการดูดกลืนพลังงาน ดังนั้นไม่ว่าการโจมตีของขนอุยจะแปลกประหลาดมากแค่ไหน แต่มันก็ยังคงเป็นพลังงานที่ร่างกายของเขาสามารถดูดซับเข้าไปได้อยู่ดี ดังนั้นหากว่าเขาไม่เคลื่อนไหวโดยประมาทมันก็ไม่มีทางที่ลูกบอลพลังงานพวกนี้จะสามารถทำร้ายร่างกายของเขาได้
เซี่ยเฟยเผยรอยยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมกับเดินวนรอบ ๆ ฮาซี่จากระยะไกล แล้วมันก็ดูเหมือนกับว่าเขาจะไม่ได้รู้สึกลำบากใจแม้ว่าการจู่โจมของขนอุยจะไม่ได้ผลก็ตาม
เหตุการณ์นี้ทำให้อันธรู้สึกสับสนมาก เพราะเซี่ยเฟยได้สูญเสียทั้งอสรพิษพันธนาการและเซเลสเชียลมูนไปถึงสองชิ้นแล้ว ด้วยเหตุนี้อาวุธที่เขายังสามารถใช้ได้ก็เหลือแค่หิมะโปรยเพียงแค่เล่มเดียว
นอกจากนี้เซี่ยเฟยก็ไม่มีโอกาสที่จะโจมตีระยะประชิดเข้าใส่ฮาซี่ได้อย่างแน่นอน เพราะถ้าหากว่าชายหนุ่มลงมือจู่โจมฮาซี่ก็จะใช้อาวุธเป็นสื่อหลักในการดูดซับพลังงานทั้งหมดออกจากร่างของเซี่ยเฟย
ไม่ว่าจะมองยังไงสถานการณ์ในตอนนี้ก็ไม่เอื้ออำนวยต่อเซี่ยเฟยเลยสักนิด แต่ทำไมชายหนุ่มคนนี้ถึงดูไม่ร้อนใจเลยแม้แต่น้อย
ขนอุยยิงลูกบอลพลังงานออกไปทุกวินาที ขณะที่ฮาซี่จดจ่ออยู่กับการดูดซับพลังงาน แต่เนื่องจากปริมาณพลังงานที่มีอยู่มหาศาลมากเกินไป เขาจึงไม่สามารถปลีกตัวมาจัดการกับเซี่ยเฟยได้
ในเวลาเดียวกันการปล่อยการจู่โจมออกไปอย่างต่อเนื่องแบบนี้ก็เริ่มสร้างภาระให้กับร่างกายของขนอุยเช่นเดียวกัน เพราะมันเป็นการยิงพลังงานที่มันได้เก็บสะสมเอาไว้ในร่างกายออกไปเรื่อย ๆ และถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้มันจะได้ดูดซับพลังงานเข้าไปในปริมาณมาก แต่มันก็ไม่ควรปลดปล่อยพลังงานเป็นจำนวนมากออกมาในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ อยู่ดี
“ดีมาก! จู่โจมต่อไป” เซี่ยเฟยคอยให้กำลังใจขนอุยจากด้านข้าง
ขนอุยพยักหน้ารับอย่างจริงจังและถึงแม้ว่าในช่วงเวลาปกติมันจะค่อนข้างมีนิสัยเจ้าเล่ห์และขี้เกียจอยู่บ้าง แต่ในช่วงเวลาของการต่อสู้แล้วมันก็มักจะมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ โดยไม่มีความหย่อนยานปรากฏให้เห็นในระหว่างการต่อสู้เลยแม้แต่นิดเดียว
นิสัยโดยรวมของขนอุยค่อนข้างที่จะคล้ายนิสัยของเซี่ยเฟยมาก เพราะในช่วงเวลาปกติชายหนุ่มกลับเป็นคนที่มีนิสัยร่าเริงและชอบเล่นมุกตลกให้คนอื่นหัวเราะอย่างมีความสุข แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาทำการฝึกฝนหรือทำการต่อสู้เขาจะลงมืออย่างจริงจังทุกครั้ง และเขาก็ไม่คิดที่จะปล่อยให้ศัตรูของเขาหลบหนีไปใช้ชีวิตอย่างสบาย ๆ ไม่ว่าศัตรูคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม
เมื่อร่างกายของฮาซี่ดูดซับพลังงานเข้าไปมากเกินไป กล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างของเขาก็เริ่มโป่งพองขึ้นอย่างน่ากลัวคล้ายกับลูกโป่งที่ถูกสูบน้ำเข้าไปจนใกล้แตก ทำให้สีหน้าของนักรบคนนี้เปลี่ยนไปกลายเป็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียด
แน่นอนว่าทั้งขนอุยและอันธต่างก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของฮาซี่ มันจึงทำให้เจ้าตัวน้อยรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นกว่าเดิม เพราะท้ายที่สุดมันก็เริ่มมองเห็นชัยชนะของมันอยู่ตรงหน้าแล้ว มันจึงเร่งรีบจู่โจมด้วยความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ร่างกายของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดต่างก็มีข้อจำกัดอยู่เสมอ และถึงแม้ว่าร่างกายของฮาซี่จะเปรียบเสมือนบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถดูดซับพลังงานเข้าไปได้เป็นจำนวนมาก แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าบ่อน้ำของเขาจะสามารถรองรับน้ำได้ตลอดไป และเมื่อน้ำในบ่อถูกเติมจนเต็มมันก็จะถึงเวลาที่พลังงานจะล้นออกมาจากร่างกาย
นี่คือแผนการที่เซี่ยเฟยได้วางเอาไว้ตั้งแต่ต้น คือการพยายามทำทุกวิถีทางให้ฮาซี่ดูดซับพลังงานเข้าไปให้ได้มากที่สุด
ครั้งนี้ฮาซี่ดูดซับพลังงานเข้าไปในปริมาณที่เยอะมากแล้ว ตั้งแต่การดูดซับพลังงานจากอสูรเกล็ดเงิน, การดูดซับพลังงานจากอสรพิษพันธนาการ, การดูดซับพลังงานจากเซเลสเชียลมูนและเขายังได้ดูดซับพลังงานจากลูกบอลพลังงานของขนอุยอย่างต่อเนื่อง
เมื่อฮาซี่ได้ดูดซับพลังงานเข้าไปมากขนาดนี้ เขาก็รู้สึกเหมือนกับร่างกายของเขากำลังจะระเบิดออก แล้วมันก็ใกล้จะถึงขีดจำกัดที่เขาไม่สามารถที่จะดูดซับพลังงานเข้าไปภายในร่างได้อีกแล้ว
แต่ถึงกระนั้นขนอุยก็ยังคงจู่โจมเข้าใส่เขาอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด และเพื่อที่จะเอาชีวิตรอดจากลูกบอลพลังงานพวกนี้ ฮาซี่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากจะต้องฝืนดูดซับพลังงานเข้าสู่ร่างกายต่อไป แต่ยิ่งเขาดูดซับพลังงานเข้าไปมากเท่าไหร่เขากลับรู้สึกว่าร่างกายของเขากำลังเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น
นอกจากลูกบอลพลังงานของขนอุยแล้ว ฮาซี่ยังรู้สึกกังวลเซี่ยเฟยที่กำลังจับจ้องมองมาทางเขาด้วยแววตาอันเย็นชา และด้วยประสบการณ์ที่เขาได้พบกับแววตาของสัตว์อสูรมาเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน เขาก็สามารถบอกได้เลยว่าแววตาของศัตรูคนนี้คล้ายกับแววตาของนักล่าที่กำลังรอล่าเหยื่ออย่างอดทน
ในที่สุดฮาซี่ก็ตระหนักแล้วว่าเซี่ยเฟยวางแผนให้เขาดูดซับพลังงานทั้งหมดตั้งแต่ต้น โดยชายคนนี้ได้เตรียมพร้อมเพื่อให้เขาดูดซับพลังงานเข้าไปจนถึงขีดจำกัด ซึ่งมันก็ถือว่าเป็นวิธีการที่โหดร้ายจนยากจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
การพยายามสังหารด้วยวิธีนี้คือการบังคับให้ใครคนหนึ่งกินอาหารเข้าไปอย่างต่อเนื่อง และคนคนนั้นก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธอาหารเลยแม้แต่น้อย ซึ่งไม่ว่าเขาจะยอมฝืนกินอาหารเข้าไปหรือไม่แต่ผลลัพธ์มันก็จะเป็นความตายของเขาอยู่ดี
นี่เป็นวิธีการสังหารที่โหดร้ายมาก!
หากฮาซี่หยุดดูดซับพลังงานในตอนนี้ ลูกบอลพลังงานของขนอุยย่อมทำให้ร่างของเขาแตกออกกลายเป็นอณูพลังงานอย่างแน่นอน แต่ถ้าหากว่าเขาดูดซับพลังงานต่อไปเซี่ยเฟยก็พร้อมที่จะจู่โจมเข้าใส่เขาได้ทุกเวลา และเมื่อเวลาได้เดินทางมาจนถึงช่วงที่เขาไม่สามารถดูดซับพลังงานได้แล้ว ในเวลานั้นมันก็คงจะเป็นเวลาที่เซี่ยเฟยจะเริ่มลงมือ
ยิ่งฮาซี่คิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเท่านั้น และในแววตาของเขามันก็เต็มไปด้วยอารมณ์ที่เกรี้ยวโกรธ
“ถึงจะมาเข้าใจตอนนี้แต่มันก็สายเกินไปแล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างใจเย็น
ฟุบ!
เมื่อถึงเวลาที่รอคอยเซี่ยเฟยก็เริ่มเคลื่อนที่ด้วยความเร็วมากกว่า 30,000 เมตรต่อวินาที แต่เมื่อเขาเข้าใกล้ฮาซี่เขากลับรู้สึกว่าร่างกายกำลังอ่อนแรงลงอย่างฉับพลัน
น่าเสียดายที่ฮาซี่ใกล้ถึงขีดจำกัดที่ร่างกายจะทนรับไหวแล้ว และด้วยร่างกายที่ใกล้จะถึงขีดจำกัดนี่เองมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่ชายคนนี้จะหยุดการลงมือของศัตรู
พริบตาต่อมาเซี่ยเฟยก็หยุดอยู่ห่างจากร่างของฮาซี่เพียงแค่ไม่ไกล โดยภายในมือของเขามีศีรษะที่ผิวหนังถูกเปลี่ยนเป็นสีม่วง เนื่องมาจากเจ้าของศีรษะดูดซับพลังงานเข้าไปมากเกินไป
แววตาของฮาซี่เต็มไปด้วยความอัปยศ แล้วใครมันจะไปคิดว่านักสู้ระดับแนวหน้าอย่างเขาจะต้องมีจุดจบที่น่าอับอายถึงเพียงนี้
ตูม!
ลูกบอลพลังงานของขนอุยกระทบเข้ากับร่างของฮาซี่ที่ยังไม่ล้มลง และทันใดนั้นมันก็มีอณูพลังงานปริมาณมหาศาลกระจัดกระจายไปทั่วทั้งท้องฟ้า ซึ่งไม่ว่าจะเป็นพลังงานจากอสูรเกล็ดเงิน, อสรพิษพันธนาการ, เซเลสเชียลมูน, ลูกบอลพลังงานของขนอุยและพลังงานในร่างของฮาซี่เองต่างก็ถูกระเบิดออกมาในอากาศในคราวเดียว
ขนอุยทำการดูดซับพลังงานในอากาศอย่างตื่นเต้น ซึ่งหลังจากพลังงานพวกนี้ถูกกรองโดยพลังพิเศษของฮาซี่แล้ว มันก็หลงเหลือเพียงแต่พลังงานคุณภาพสูงที่ระเบิดออกมาให้ขนอุยได้ดูดซับ โดยพลังงานพวกนี้ไม่เพียงแต่จะทดแทนพลังงานที่ขนอุยเสียไปได้เท่านั้น แต่มันยังมีพลังงานเหลือมากพอให้มันได้ใช้ในกระบวนการเติบโตอีกด้วย
“นายคิดจริง ๆ เหรอว่าฉันจะให้นายกินอาหารของฉันฟรี ๆ เมื่อถึงเวลาฉันย่อมเก็บกำไรจากอาหารของฉันคืน” เซี่ยเฟยกล่าวออกมาเบา ๆ ระหว่างรอให้ขนอุยดูดซับพลังงาน
—
บริเวณริมฝั่งแม่น้ำสีแดง
เซี่ยเฟยกำลังสูบบุหรี่และรอคอยอยู่อย่างเงียบ ๆ ขณะที่ขนอุยนอนแผ่หลาอยู่บนก้อนหินด้วยท้องที่ปูดโปนราวกับลูกโป่งที่ถูกสูบลมเข้าไปจนเกือบแตก
วาระสุดท้ายของผู้ที่เคยดูดซับพลังงานจากสัตว์อสูรมาเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน กลับต้องมาสิ้นสุดลงด้วยการที่ร่างกายของเขาได้กลายเป็นพลังงานที่ถูกดูดซับโดยขนอุย
“ดูนั่นสิ! ขนของขนอุยเงางามขึ้นกว่าเดิมมาก ฉันคิดว่าครั้งนี้มันคงจะเริ่มพัฒนาความแข็งแกร่งขึ้นไปอีกขั้น” อันธกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ในชีวิตของเขาได้ดูดซับพลังงานของสัตว์อสูรเข้าไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งโครงสร้างของพลังงานจากสัตว์อสูรแตกต่างจากพลังงานจากแร่หรือจากสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาอย่างชัดเจน มันจึงทำให้พลังงานในร่างของเขาเป็นพลังงานชนิดที่เหมาะที่สุดที่ขนอุยจะเก็บเอาไว้ใช้ในระหว่างการเติบโต”
“ฉันคิดว่าขนาดของมันน่าจะขยายขึ้นจากเดิมประมาณ 20% และการดูดซับพลังงานครั้งนี้เพียงแค่ครั้งเดียว มันก็มีประสิทธิภาพมากกว่ามันดูดซับพลังงานจากหัวใจจักรวาลสีม่วง 100 ก้อนเสียอีก” เซี่ยเฟยกล่าว
“พลังพิเศษของฮาซี่เป็นพลังพิเศษที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ ฉันสังเกตเห็นว่าขาของนายสั่นเล็กน้อยในระหว่างที่นายเคลื่อนที่ผ่านร่างเขาไป นี่ถ้าหากว่านายไม่ได้ยัดเหยียดพลังงานให้กับเขามากขนาดนี้ มันก็คงจะเป็นเรื่องยากที่เราจะจัดการกับเขาคนนี้ได้” อันธกล่าว
“ดูเหมือนรอบ ๆ ตัวของเขาจะมีเกราะพลังงานที่มองไม่เห็นห่อหุ้มอยู่ และทันทีที่ฉันเคลื่อนที่เข้าไปในระยะของเกราะพลังงาน มันก็ทำให้พลังงานในร่างของฉันถูกดูดออกไปอย่างรวดเร็ว นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้พบกับคู่ต่อสู้ที่จัดการได้อย่างยากลำบากแบบนี้ ดูเหมือนว่าฉันจะประมาทนักรบศักดิ์สิทธิ์ของเซิร์กไม่ได้เลยสินะ” เซี่ยเฟยกล่าว
“ไม่ว่าฮาซี่จะทรงพลังแค่ไหนแต่ท้ายที่สุดเขาก็ต้องตายเพราะแผนการของนายอยู่ดี นี่ถ้าหากพวกเซิร์กรู้ว่าฮีโร่ของพวกเขาตายแบบนี้จริง ๆ ฉันก็คิดว่าพวกเขาคงจะรู้สึกเกลียดนายจนเข้ากระดูกดำ” อันธกล่าว
“ใครเป็นคนกำหนดล่ะว่านักสู้ไม่สามารถใช้เล่ห์เหลี่ยมในระหว่างเผชิญหน้ากันได้ นอกจากนี้ฉันก็ไม่ได้ใช้เล่ห์เหลี่ยมมากเท่าไหร่เลย ฉันก็แค่ป้อนพลังงานที่เขาต้องการดูดซับให้กับเขาเท่านั้นเอง” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับยักไหล่อย่างไม่แยแส
ในระหว่างที่เขาพูดอยู่นั้นเขาก็เดินไปหยิบเซเลสเชียลมูนกับอสรพิษพันธนาการขึ้นมาจากพื้น
ขณะเดียวกันถึงแม้ว่าร่างของฮาซี่จะแตกสลายกลายเป็นอณูพลังงาน แต่อาวุธประหลาดและแหวนมิติของเขายังคงอยู่
เชือกสีดำที่ฮาซี่เคยใช้เต็มไปด้วยกลิ่นเลือดอันรุนแรง ซึ่งถ้าหากคนปกติได้กลิ่นเลือดพวกนี้เข้าไปพวกเขาก็คงจะรู้สึกสะอิดสะเอียนไปนานหลายวัน
อันธก็ไม่รู้ว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้คืออะไรกันแน่ เซี่ยเฟยจึงเก็บมันเข้าไปไว้ในแหวนมิติแล้วค่อยนำมันออกมาตรวจสอบในภายหลัง
เมื่อเปิดดูของที่เก็บอยู่ภายในแหวนมิติที่ฮาซี่ได้ทิ้งเอาไว้ มันก็ทำให้ชายหนุ่มเบิกตากว้างขึ้นมาด้วยความประหลาดใจมาก
ลูกตากินกลางหิมะ!
เขี้ยวอสรพิษเพลิงสามแฉก!
“โอ้โห! แม้แต่พิษตะขาบหลังเหล็กก็ยังมี วัตถุดิบพวกนี้มันจะสุดยอดมากเกินไปแล้ว”
ฮาซี่ใช้ชีวิตแตกต่างจากคนโดยทั่วไป มันจึงทำให้เขาไม่มีสมบัติหรือข้าวของเครื่องใช้ติดตัวเขามากนัก และแม้แต่แหวนมิติที่เขาใช้ก็ยังเป็นแหวนมิติขนาดเล็กอย่างน่าสมเพช ซึ่งปริมาณด้านในของแหวนมิติก็มีพื้นที่เพียงแค่ 0.5 ลูกบาศก์เมตรเท่านั้น
แต่ถึงกระนั้นในแหวนมิติขนาดเล็กก็ยังเต็มไปด้วยวัตถุดิบล้ำค่า ซึ่งวัตถุดิบแต่ละชิ้นต่างก็ล้วนแล้วแต่จะต้องได้รับมาหลังจากการสังหารสัตว์อสูรระดับสูง
แน่นอนว่าสัตว์อสูรระดับสูงเป็นตัวตนที่หาพบได้ยากอย่างไม่ต้องสงสัย และมันก็ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่คนคนหนึ่งจึงจะสามารถหาวัตถุดิบภายในแหวนได้อีกครั้ง
ด้วยความหายากของวัตถุดิบพวกนี้นี่เองมันจึงทำให้มูลค่าของพวกมันไม่สามารถจะตีตราเทียบชั้นกับมูลค่าของเงินทองได้ นอกจากนี้พวกมันยังเป็นวัตถุดิบปรุงยาที่หาได้ยากมาก และมันก็เป็นการเก็บเกี่ยวที่ดีเยี่ยมที่จะทำให้เขาสามารถประหยัดเวลาหาวัตถุดิบสำหรับการปรุงน้ำยาในอนาคตได้
“นี่มันวัตถุดิบปรุงยาระดับสูงทั้งนั้นเลย” อันธผู้ชื่นชอบศาสตร์การปรุงยามาโดยตลอดอุทานออกมาอย่างตื่นเต้น
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับและเขาก็ต้องยอมรับว่าวัตถุดิบเหล่านี้เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากจริง ๆ
ตอนแรกขนอุยก็ได้ดูดซับพลังงานบริสุทธิ์เข้าไปเป็นจำนวนมาก และในตอนนี้เขายังได้รับวัตถุดิบหายากมากอีกอย่างมากมาย ซึ่งมันก็ทำให้ผลรางวัลจากการเดินทางครั้งนี้โดดเด่นกว่าการเดินทางครั้งที่ผ่าน ๆ มา
“ไปกันเถอะ! เรามาดูกันว่าในหัวของอสูรเกล็ดเงินจะมีลูกแก้วไออุ่นในตำนานอยู่หรือเปล่า?” เซี่ยเฟยกล่าวหลังจากเก็บของทุกอย่างเข้าไปภายในแหวนมิติของเขา
แม้ว่าร่างของอสูรเกล็ดเงินจะเป็นร่างที่เหี่ยวเฉาแต่มันก็ยังคงมีขนาดที่ใหญ่โต ซึ่งในระหว่างนั้นเซี่ยเฟยก็จำเป็นจะต้องพยายามใช้แขนลากศีรษะของอสูรตัวใหญ่ขึ้นจากแม่น้ำเอาไปไว้บริเวณริมฝั่ง
“น้ำในเซลล์ผิวถูกดูดซับออกไปอย่างรวดเร็ว และกล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างกายก็เสื่อมสภาพไปจากเดิมมากเช่นกัน โชคดีที่นายไม่ถูกฮาซี่ดูดซับพลังงานเข้าไป ไม่อย่างนั้นร่างของนายก็คงจะกลายเป็นซอมบี้เหมือนกับสัตว์อสูรตัวนี้” อันธกล่าวด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
หลังจากนั้นชายหนุ่มก็ค่อย ๆ ใช้มีดกรีดผ่านเนื้อหนังเข้าไปอย่างช่ำชอง ซึ่งในเวลาไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็หยิบลูกแก้วขนาดประมาณลูกเทนนิสออกมาจากสมองของอสูรเกล็ดเงิน
“ฉันเดาถูกสินะว่ามันมีลูกแก้วไออุ่นอยู่ในสมองของมันจริง ๆ” อันธกล่าวขึ้นมาด้วยความภาคภูมิใจ
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนที่เขาจะหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดลูกแก้วอย่างระมัดระวัง
***************
ดูดกลืนพลังงานจนตาย! แผนพี่เฟยนี่สุดยอดจริงๆเลยเน๊าะ