ตอนที่ 424 สองสายในหนึ่งเดียว
ตอนที่ 424 สองสายในหนึ่งเดียว
ฮาซี่เป็นนักรบที่ทรงพลังอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งเมื่อประมาณ 10 กว่าปีก่อนมันก็เคยมีข่าวลือว่านักรบคนนี้ใกล้ที่จะบรรลุพลังในระดับที่ 6 ซึ่งมีพลังเทียบเท่ากับนักรบระดับอีเทอนิตี้ของพันธมิตรมนุษย์แล้ว
เมื่อเวลาผ่านมามันก็ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าปัจจุบันฮาซี่มีพลังอยู่ในระดับไหน เพราะนักฆ่าสัตว์อสูรคนนี้ไม่ค่อยชอบเข้าสังคมมากนัก ซึ่งกิจวัตรประจำวันของเขาคือการเดินทางไปยังดาวเคราะห์อันห่างไกล เพื่อสรรหาสัตว์อสูรใหม่ ๆ มาถลกหนังกลายเป็นของสะสมของเขา
แน่นอนว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมาชายคนนี้ย่อมมีความแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะพลังพิเศษที่ช่วยให้เขาสามารถดูดกลืนพลังงานจากศัตรูได้ จนทำให้แม้แต่ร่างกายของเขาก็ยังถูกหลอมจนกลายเป็นสีดำ
ด้วยพลังอันน่าหวาดกลัวที่เขาได้ครอบครองอยู่นี่เอง มันจึงมีคำพูดเล่น ๆ ในหมู่นักรบศักดิ์สิทธิ์ ที่พวกเขามักจะพูดติดปากว่า ถ้าหากใครคิดว่าตัวเองเก่งจริงก็ให้นักรบพวกนั้นไปท้าสู้กับฮาซี่
แม้ว่าประโยคนี้จะเป็นบทสนทนาที่เอาไว้แซวกันขำ ๆ แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงการที่นักรบศักดิ์สิทธิ์ให้เกียรติฮาซี่อย่างสูง เพราะมันเป็นประโยคที่หมายความว่าหากใครสักคนจะกลายเป็นนักรบศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดจริง ๆ คนคนนั้นก็จำเป็นจะต้องก้าวข้ามผ่านฮาซี่ขึ้นไปให้ได้
แต่ในตอนนี้นักรบมนุษย์ผู้บังเอิญบุกเข้ามาในดินแดนเซิร์กกลับเลือกที่จะท้าทายฮาซี่จริง ๆ และเขาก็พยายามใช้ความเร็วเพื่อจัดการกับพลังพิเศษดูดกลืนพลังงานที่ได้รับการขนานนามว่ามันเป็นพลังพิเศษที่หาได้ยากมากในจักรวาล
เมื่อฮาซี่ดูดซับพลังงานจากอสูรเกล็ดเงินจนร่างกายของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง มันก็ทำให้เขาอยู่ในช่วงที่กำลังมีความสุขมากที่สุด แต่ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็เริ่มลงมือจู่โจมอย่างกะทันหัน โดยการกระโดดลงมาจากภูเขาและส่งการจู่โจมออกไปอย่างสุดแรง
ในเวลาเดียวกันขนอุยที่อยู่บนไหล่ของเซี่ยเฟยก็กำลังใช้ดวงตาสีแดงจับจ้องมองไปยังฮาซี่อย่างดุเดือด พร้อมกับท้องของมันที่กำลังขยายออกอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสัญญาณว่ามันกำลังสะสมพลังงานที่เอาไว้ใช้ในการจู่โจม
มือขวาของชายหนุ่มโบกสะบัดควบคุมใบมีดเซเลสเชียลมูนแยกจู่โจมเข้าใส่จุดสำคัญจาก 18 ทิศทาง ขณะที่มือซ้ายได้ปล่อยอสรพิษพันธนาการเข้าใส่คู่ต่อสู้
ฮาซี่รู้สึกได้ถึงกระแสลมด้านหลังศีรษะราวกับว่ามันกำลังมีอะไรบางอย่างพุ่งเข้ามาใส่เขา เขาจึงรีบกระทืบเท้าทั้งสองข้างลงไปในทรายและยืนหยัดอยู่ตรงนั้นอย่างมั่นคง
“กลืน!!”
ฮาซี่เงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับส่งเสียงร้องคำราม ซึ่งในเวลานั้นกล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างของเขาก็โป่งพองออกจากเดิมอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเดียวกันคลื่นพลังงานทำลายล้างก็ถูกแผ่ออกไปยังพื้นที่โดยรอบจากทั่วทิศทาง ซึ่งถ้าหากว่ามันมีวัตถุใด ๆ กระทบเข้ากับคลื่นพลังงานนี้ พวกมันก็จะถูกดูดกลืนพลังงานและสูญเสียอำนาจในการทำลายของพวกมันลง
น่าเสียดายที่เซี่ยเฟยสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วมาก ซึ่งหลังจากที่ฮาซี่ได้ปล่อยการโจมตี เขาก็กระโดดหนีโดยรักษาระยะห่างเอาไว้ที่ระยะ 500 เมตรอยู่เสมอ
พลังดูดกลืนพลังงานเป็นพลังพิเศษที่น่ากลัวมาก ซึ่งไม่ว่าใครก็ตามที่เข้าใกล้ฮาซี่จะถูกชายคนนี้ดูดกลืนพลังงานเข้าไปอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ที่สำคัญก็คือตราบใดก็ตามที่ฮาซี่สามารถจับศัตรูเอาไว้ได้ ศัตรูของเขาก็จะไม่สามารถควบคุมพลังงานภายในร่างได้อีกต่อไป แล้วมันก็จะทำให้ร่างของพวกเขาหยุดนิ่งจนกว่าฮาซี่จะดูดพลังงานออกไปอย่างพอใจ
ในเวลาเดียวกันเซี่ยเฟยก็ถอนพลังจิตออกจากการควบคุมเซเลสเชียลมูน เพราะถ้าหากว่าพลังจิตของเขายังคงเชื่อมอยู่กับอาวุธ ฮาซี่ก็สามารถใช้อาวุธเป็นสะพานเชื่อมมาดูดซับพลังงานภายในร่างกายของเขาได้ ดังนั้นชายหนุ่มจึงดึงพลังของเขากลับไปแล้วปล่อยให้ใบมีดทั้ง 18 เล่มพุ่งจู่โจมอย่างไร้การควบคุม
ในเวลาเดียวกันอสรพิษพันธนาการก็พุ่งเข้าไปรัดร่างฮาซี่อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาวุธชิ้นนี้สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างว่องไวมาก มันจึงทำให้ฮาซี่ไม่สามารถที่จะหลบรอดจากการพันธนาการของอาวุธชิ้นนี้ได้
ฮาซี่พยายามดูดซับพลังงานจากอสรพิษพันธนาการอย่างสิ้นหวัง เพื่อพยายามหลุดรอดจากพันธนาการของอาวุธประหลาดโดยเร็วที่สุด แต่อสรพิษพันธนาการเป็นอาวุธที่ใช้หัวใจจักรวาลสีม่วงเป็นแหล่งพลังงาน มันจึงไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถถูกดูดซับพลังงานทั้งหมดเข้าไปได้อย่างรวดเร็ว
ในระหว่างที่ฮาซี่ไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายของตัวเองได้ ใบมีดของเซเลสเชียลมูนก็เคลื่อนที่มาถึงแล้ว
ถึงแม้ว่าความเร็วของเซเลสเชียลมูนจะถูกลดทอนกำลังลงมากกว่าเดิม แต่อสรพิษพันธนาการและเซเลสเชียลมูนต่างก็ถูกจู่โจมออกมาในเวลาพร้อม ๆ กัน ฮาซี่จึงจำเป็นจะต้องแยกสมาธิเพื่อดูดซับพลังงานจากอาวุธทั้งสองชิ้นพร้อม ๆ กันด้วย
ขณะเดียวกันเนื่องจากเขาถูกอสรพิษพันธนาการรัดร่างเอาไว้ มันจึงทำให้เขาจำเป็นจะต้องทุ่มเทสมาธิมากกว่าครึ่งในการดูดซับพลังงานจากอสรพิษพันธนาการโดยเร็วที่สุด มันจึงทำให้ประสิทธิภาพในการดูดกลืนพลังงานจากเซเลสเชียลมูนลดลงจากเดิมเป็นอย่างมาก และทำให้ใบมีดเหล่านี้ยังคงเหลือแรงมากพอที่จะจู่โจมเข้าใส่เขาได้
ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! …
ใบมีดทั้ง 18 เล่มทิ้งรอยแผล 18 รอยเอาไว้บนร่างของฮาซี่ ก่อนที่พวกมันจะกระเด็นกระดอนบนพื้นดินกระจัดกระจายกันไปทั่ว
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ต่างก็อยู่ในแผนการของเซี่ยเฟยตั้งแต่แรกแล้ว เพราะเขาได้คำนวณว่าฮาซี่ไม่สามารถรับมือจากการโจมตีพร้อม ๆ กันจากอาวุธทั้งสองชิ้นได้ เขาจึงใช้อสรพิษพันธนาการเป็นเหยื่อล่อเพื่อใช้เซเลสเชียลมูนในการจู่โจม
น่าเสียดายที่บาดแผลบนร่างกายของฮาซี่ไม่ใช่บาดแผลที่ร้ายแรงนัก และมันยังห่างไกลจากบาดแผลที่สร้างความเสียหายไปจนถึงชั้นกระดูก
เหตุการณ์นี้ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย เพราะมันก็คงจะไม่มีใครรู้จักความคมของเซเลสเชียลมูนได้ดีไปกว่าเขา ท้ายที่สุดเขาก็ใช้อาวุธชิ้นนี้เป็นอาวุธหลักมาแล้วหลายปี และในตอนแรกเขาก็คิดว่าเซเลสเชียลมูนควรจะสร้างความเสียหายให้ฮาซี่จนถึงขั้นบาดเจ็บสาหัส
“แย่แล้ว! ก่อนที่เซเลสเชียลมูนจะสัมผัสเข้ากับร่างกาย ฮาซี่ได้สร้างคลื่นพลังงานออกมาจากร่างกายอย่างกะทันหัน ทำให้ใบมีดของเซเลสเชียลมูนถูกลดทอนพลังโจมตีลงไปมากกว่า 80%” อันธกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
ท้ายที่สุดเขาก็เป็นวิญญาณ มันจึงทำให้เขามีประสาทสัมผัสด้านพลังงานเฉียบคมกว่าในตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นการกระทำของฮาซี่จึงไม่สามารถรอดพ้นไปจากสายตาของอันธได้ เขาจึงพยายามอธิบายสถานการณ์เพื่อให้เซี่ยเฟยใช้เป็นข้อมูลในระหว่างการต่อสู้
เหตุการณ์นี้ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เนื่องจากเขาไม่คิดเลยว่าพลังพิเศษเกี่ยวกับการกลืนกินพลังงานจะสามารถเอามาใช้งานได้อย่างหลากหลายแบบนี้ เพราะมันไม่เพียงแต่จะสามารถดูดซับพลังงานจากฝ่ายตรงข้ามได้เท่านั้น แต่มันยังสามารถสร้างเกราะพลังงานขึ้นมาป้องกันตัวเองได้อีกด้วย
ชายหนุ่มไม่มีข้อมูลเชิงลึกของพลังพิเศษชนิดนี้เลยแม้แต่น้อย ซึ่งในตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นพลังพิเศษสายควบคุมหรือพลังพิเศษสายพลังงาน แต่หลังจากที่เขาได้เห็นมันด้วยตาตัวเอง เขาก็ได้พบว่ามันเป็นพลังพิเศษที่ค่อนข้างจะมีความพิเศษมากพอสมควรเลยทีเดียว
พูดตามตรงแล้วพลังพิเศษของฮาซี่ไม่ควรจะถูกจัดประเภทเป็นพลังพิเศษสายควบคุมหรือพลังพิเศษสายพลังงานด้วยซ้ำ เพราะมันเป็นเหมือนพลังพิเศษกลายพันธุ์ที่รวมพลังพิเศษทั้งสองสายเข้าด้วยกันอย่างแท้จริง
แน่นอนว่าเซี่ยเฟยก็เป็นตัวตนที่มีพลังพิเศษ 2 สายเช่นเดียวกัน เพียงแต่พลังพิเศษของเขาเป็นพลังพิเศษที่แยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง และเขาก็ยังไม่ได้อยู่ในระดับที่จะนำพลังของพวกมันมาใช้ร่วมกันได้อย่างเต็มที่
แต่สำหรับฮาซี่ก็เป็นเรื่องที่แตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง เพราะเขาสามารถที่จะใช้การปล่อยพลังงานและการดูดซับพลังงานได้เหมือนกับพวกมันเป็นพลังเดียว ทำให้ความน่ากลัวของพลังพิเศษชนิดนี้ทวีความโหดร้ายมากขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรก็ตามแววตาของเซี่ยเฟยก็ยังคงเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการสังหาร และมุมปากของเขาก็กำลังเผยรอยยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย
เขาได้วางแผนเตรียมการทุกอย่างเอาไว้แล้วตั้งแต่ก่อนที่เขาจะเลือกลงมือ และถึงแม้ว่าสิ่งต่าง ๆ จะผิดพลาดไปจากสิ่งที่เขาคิดอยู่บ้าง แต่มันก็ยังไม่มากพอที่จะเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ของการต่อสู้ในครั้งนี้ได้
“ขนอุยถึงตานายแล้ว” เซี่ยเฟยตะโกนออกคำสั่งขณะวิ่งวนรอบฮาซี่ด้วยความเร็วประมาณ 30,000 เมตรต่อวินาที
ก่อนหน้านี้ขนอุยก็รู้สึกเกลียดชังฮาซี่ตามสัญชาตญาณอยู่แล้ว และมันก็รอคอยคำสั่งนี้มาเป็นเวลานาน
ถุย!
ลูกบอลพลังงานสีขาวบริสุทธิ์ขนาดประมาณลูกกอล์ฟพุ่งออกจากปากของเจ้าตัวน้อย ซึ่งลูกบอลพลังงานที่มันได้ปลดปล่อยออกมาเป็นพลังงานที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
ลูกบอลพลังงานนี้อัดแน่นไปด้วยพลังงานที่สูงกว่าเดิมมาก และถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ลูกบอลพลังงานลูกเล็ก ๆ แต่พลังงานที่อัดแน่นอยู่ด้านในก็ทำให้มันส่องแสงสว่างเจิดจ้าราวกับว่ามันเป็นดวงอาทิตย์ดวงเล็ก ๆ
“ดีมาก! ดูเหมือนนายจะพัฒนาไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว” เซี่ยเฟยตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
ลูกบอลพลังงานของขนอุยเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว และมันก็ส่องแสงสว่างวาบจนสายตาของผู้คนแทบที่จะไม่สามารถมองตามมันทันได้
การจู่โจมในครั้งนี้ทำให้ฮาซี่ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างหนัก เพราะท้ายที่สุดพลังพิเศษของเขาก็มีความเกี่ยวข้องกับพลังงาน มันจึงทำให้เขาสามารถสัมผัสได้ในทันทีว่าการจัดการกับลูกบอลพลังงานนี้คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขาอย่างแน่นอน
ภายใต้ลูกบอลพลังงานลูกเล็ก ๆ กลับมีพลังงานไหลเวียนอยู่ด้านในอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งถ้าหากว่าเขาจัดการกับมันอย่างไม่ระมัดระวัง พลังงานด้านในก็อาจจะฉีกกระชากร่างของเขาออกเป็นชิ้น ๆ
นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมลูกบอลพลังงานของขนอุยถึงสามารถเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตหรือวัตถุให้กลายเป็นอณูพลังงานทันทีที่สัมผัสกับลูกบอลพลังงานได้ เพราะพลังงานที่อัดแน่นอยู่ภายในลูกบอลพลังงานนี้จะทำปฏิกิริยากับเป้าหมายที่มันสัมผัสในทันที โดยการตัดพลังงานที่เชื่อมโยงโมเลกุลออกจากกัน
การโจมตีในรูปแบบนี้ถือได้ว่าเป็นการโจมตีรูปแบบเฉพาะตัวของสัตว์อสูรมารขาวโดยเฉพาะ และมันก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมมันจึงถูกจัดระดับเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์และถูกตั้งฉายาว่าผู้ทำลายล้างดวงดาว!
หากฮาซี่เป็นผู้ควบคุมพลังงานที่ทรงพลัง อสูรมารขาวก็คงจะเป็นพ่อของผู้ควบคุมพลังงานที่ทรงพลังอีกที!!
“ทำลายมันซะ!”
อ๊าก!
ฮาซี่ตะโกนร้องคำรามอย่างบ้าคลั่งและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อดูดซับพลังงานภายในอสรพิษพันธนาการ
แกร๊ก!
ในที่สุดอสรพิษพันธนาการก็สูญเสียพลังงานของมันไปทั้งหมด และร่วงหล่นลงบนพื้นหินจนไม่สามารถที่จะรัดร่างฮาซี่ให้อยู่นิ่ง ๆ ได้อีกต่อไป
“เอาไอ้นี่ไปซะ!” ฮาซี่ตะโกนเสียงดังพร้อมกับประกบฝ่ามือเข้าด้วยกันและยื่นออกไปด้านหน้า โดยท่าทางที่เขากำลังแสดงออกมานี้คือการใช้พลังออกมาอย่างเต็มที่เพื่อพยายามดูดซับลูกบอลพลังงานของขนอุย
ตูม!
เมื่อลูกบอลพลังงานปะทะเข้ากับฝ่ามือของฮาซี่ พวกมันก็ส่งเสียงเสียดสีขึ้นมาอย่างรุนแรง พร้อมกับแสงสว่างอันเจิดจ้ายิ่งกว่าพระอาทิตย์ในตอนกลางวัน
ในเวลาเดียวกันความสว่างของลูกบอลพลังงานก็ค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ แต่ฮาซี่ก็ยังคงไม่ได้รับอันตรายเลยแม้แต่น้อย
“เขาดูดซับพลังงานของขนอุยได้!” อันธตะโกนขึ้นมาด้วยความตกใจ
อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยกลับเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยพร้อมกับใช้ฝ่ามือตบศีรษะของขนอุยเบา ๆ
“เอาเลย แสดงให้เห็นว่าใครกันแน่คือผู้คุมพลังงานที่แท้จริง”
***************
ถึงเวลาขนอุยโชว์ของสักที!!