ตอนที่ 17 : นามของคุณหนูเฉียว (อ่านฟรี)
แม้ว่าองค์หญิงฟู่ลู่จะอายุสิบเจ็ดแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินเกี่ยวกับกลอุบายสกปรกที่น่ากลัวเช่นนี้
เฉียวหรูหยุนตาแดงและพูดว่า “จินเหนียง สามีของข้าไม่ใช่คนแบบนั้น… เจ้าคิดมากไปหรือเปล่า”
เฉียวจินเหนียงดึงเฉียวหรูหยุนเข้ามาและพูดว่า "ต่อให้ข้าจะคิดมากไปเองจริงๆแต่จวนหวังฉินก็ไม่ใช่สถานที่ที่ดีสำหรับท่านในการพักฟื้น ถ้าท่านยังมัวแต่ลังเล ข้าเกรงว่าท่านอาจจะไม่ได้เจอท่านแม่อีกเลย”
เฉียวจินเหนียงจัดให้เฉียวหรูหยุนอาศัยอยู่ในลานบ้านเก่าของเธอ
คนรับใช้ในจวนหวังต่างตกใจเมื่อรู้ข่าว เฉียวจินเหนียงกล่าวกับพวกเขาว่า “อย่าบอกเรื่องนี้กับใคร ถ้ามันรั่วไหลออกไป ข้าจะไม่ปล่อยคนที่ทำให้รอดออกไปอย่างแน่นอน”
ด้วยเหตุนี้ เฉียวจินเหนียงจึงไปหาท่านย่าของเธอ
ฮูหยินผู้เฒ่ากำลังหลับอยู่ แต่เธอยังคงลุกขึ้นมาสวมเสื้อผ้าหลังจากได้ยินรายงานจากบ่าวของเธอ
เฉียวจินเหนียงคุกเข่าหน้าฮูหยินผู้เฒ่าและพูดว่า “โปรดยกโทษให้หลานในความสะเพร่าด้วยเจ้าค่ะท่านย่า หลานทำอะไรพลการโดยไม่ได้ขออนุญาตจากท่านย่าก่อน”
ฮูหยินผู้เฒ่ารีบให้บ่าวช่วยพยุงเฉียวจินเหนียงขึ้น “ลุกขึ้นเร็วๆ เจ้าไม่ได้ไปที่ภูเขาทางเหนือเพื่อล่าสัตว์ในฤดูใบไม้ผลิเหรอ? เจ้ากลับมาที่นี่ทำไม”
เฉียวจินเหนียงกล่าวว่า "ข้าบังเอิญได้ยินคนรับใช้ของตระกูลฉินรายงานคุณหนูฉินว่าพี่หรูหยุนแท้งลูก ดังนั้นข้าจึงรีบไปที่จวนหวังฉินเจ้าค่ะ แต่กลับพบว่านางซูบผอมลงไปมากและเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดแล้วเจ้าค่ะ ...
“นอกจากนี้บ่าวอุ่นเตียงของพี่เขยก็ยั่วยุนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยจงใจทำให้นางโมโห
“แม่นมของพี่หรูหยุนก็ไร้ความสามารถ พวกสาวใช้ก็หย่อนยาน เปิดหน้าต่างห้องของนางจนกว้าง เมื่อมีลมพัดเข้ามาในห้อง นั่นมันอันตรายมากสำหรับผู้หญิงที่เพิ่งแท้งลูก
“ดังนั้นข้าจึงขอให้เจ้าหญิงฟู่ลู่ช่วยพาพี่หรูหยุนไปที่วังองค์หญิง แล้วค่อยแอบพานางกลับจวนเพื่อพักฟื้นเจ้าค่ะ!”
ฮูหยินผู้เฒ่ากำมือแน่น นางทุบกำปั้นลงบนโต๊ะด้วยความโกรธ “นังแม่มดเฒ่าตระกูลฉินนั่น ต้องการที่จะฆ่าหยุนเอ๋อร์ของข้า!”
ในบรรดาหลานสาวของเธอ ฮูหยินผู้เฒ่าโปรดปรานหรูหยุนเป็นพิเศษ ในฐานะบุตรสาวคนโตของท่านหวัง นางเป็นคนที่ฮูหยินผู้เฒ่าเลี้ยงดูมา
“เด็กดี เจ้าทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว มาเถอะ พาข้าไปหาหรูหยุนที”
เฉียวจินเหนียงกล่าวกับฮูหยินผู้เฒ่าว่า “ท่านย่า ไม่ต้องเป็นกังวลไปเจ้าค่ะ หากมีอะไรเกิดขึ้นกับท่าน พี่หรูหยุนคงจะต้องรู้สึกผิดเป็นแน่ แต่ข้าขอให้ท่านย่าช่วยเกลี้ยกล่อมให้นางกินหรือดื่มอะไรบ้าง มิฉะนั้นนางอาจจะตายได้”
ฮูหยินผู้ฒ่าสั่งให้คนนำเสลี่ยงแบกเธอไปหาเฉียวหรูหยุนพร้อมกับเฉียวจินเหนียง
เฉียวหรูหยุน เธอดูผอมและซีดมากจนน่ากลัว
เมื่อเห็นฮูหยินผู้เฒ่ามา เฉียวหรูหยุนก็พูดว่า “ท่านย่า…”
ทั้งสองร้องไห้ซบกันจนกระทั่งท่านหมอมา
หลังจากตรวจเฉียวหรูหยุนแล้ว ท่านหมอก็กล่าวว่า “นางเพิ่งจะแท้งลูกและมีอาการซึมเศร้า ดังนั้นตอนนี้นางจึงอ่อนแอมาก ถ้านางยังไม่กินหรือดื่มอีก นางอาจจะตายได้ ท่านควรจะดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้”
เฉียวจินเหนียงหยิบเค้กดอกตั๊กแตนที่เธอเพิ่งทำออกมา “พี่สาว นี่คือเค้กตั๊กแตนที่ข้าทำ ท่านลองชิมดูสิเจ้าคะ”
เฉียวหรูหยุน กล่าวว่า "ข้ากินอะไรไม่ลงจริงๆ ตั้งแต่ที่ข้ารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเราในตอนนั้น ความอยากอาหารของข้าก็แย่ลง ข้าอาเจียนทุกครั้งที่ข้ากิน เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านย่าของสามีก็เริ่มไม่ชอบข้าขึ้นเรื่อยๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการอาเจียน ข้าจึงหยุดกิน และท้ายที่สุด ข้าก็ไม่สามารถแม้แต่จะดื่มยาได้อีกต่อไป ตอนนี้ข้าดื่มน้ำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ…”
หมอบอกว่า “นี่คือโรคเบื่ออาหาร!”
เมื่อครั้งที่เฉียวจินเหนียงเปิดร้านอาหาร เธอเคยได้ยินเรื่องโรคเบื่ออาหารมาก่อน “อาการเบื่ออาหารสามารถรักษาให้หายได้
“อย่างไรก็ตามพี่หรูหยุน การอาเจียนควรเป็นอาการของการตั้งครรภ์ แม้ว่าท่านจะไม่รู้ แต่ผู้อาวุโสในจวนฉินจะไม่รู้ได้อย่างไร
“แล้วแม่นมกับสาวใช้ของท่านไม่สังเกตว่าท่านท้องได้อย่างไร? สิ่งนี้ไม่สมเหตุสมผลเลย คำอธิบายเพียงอย่างเดียวคือจวนหวังฉินตั้งใจทำให้ท่านแท้ง!”
เฉียวหรูหยุน ตื่นตระหนกเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ
ฮูหยินผู้เฒ่ามองไปที่เฉียวจินเหนียงอย่างชื่นชม “จินเหนียงพูดถูก หรูหยุน พักผ่อนให้ดีก่อน เมื่อแม่ของเจ้ากลับมา เราจะไปที่จวนหวังฉิน เพื่อชำระบัญชีกับพวกเขา”
เฉียวจินเหนียงพูดกับฮูหยินผู้เฒ่าว่า “ท่านย่า เมื่อก่อนตอนที่ข้าเปิดโรงเตี๊ยมข้าเคยพบผู้ที่เป็นโรคเบื่ออาหาร ขอข้าทำอาหารให้ท่านพี่ได้ไหมเจ้าคะ…”
ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวว่า “เจ้าไม่ต้องทำเองหรอก แค่สั่งให้แม่ครัวทำ เด็กดี จวนหวังแห่งนี้ติดค้างเจ้าอยู่มาก แต่เจ้ากลับไม่ถือสาเลย แถมยังพยายามช่วยพี่สาวของเจ้าอีก”
“ท่านย่า ท่านพ่อท่านแม่บุญธรรมดีกับข้ามาก ข้าไม่สามารถเป็นคนเนรคุณได้เจ้าค่ะ”
เฉียวจินเหนียงกล่าวกับเฉียวหรูหยุนว่า “พี่สาว ท่านไม่ต้องกดดันตัวเองมากเกินไป ข้าไม่เคยต้องทุกข์ใจ แต่ถ้าท่านจากไป สิ่งนี้มีแต่จะสร้างความบาดหมางระหว่างจวนหวังกับข้า”
เฉียวหรูหยุนรับขนมและบังคับตัวเองให้กลืนมันทั้งน้ำตา “จินเหนียง โปรดมั่นใจได้ ข้าจะมีชีวิตที่ดีอย่างแน่นอน”
เฉียวจินเหนียงกล่าวว่า “ไม่ต้องบังคับตัวเองให้ทาน มันจะยิ่งเป็นการทำร้ายร่างกายของท่านมากยิ่งขึ้น อาการเบื่ออาหารจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างช้าๆ”
…
ในพระราชวัง
อ๋องหรงน้อย กำลังพูดถึงผู้หญิงที่เขาเพิ่งพบกับองค์รัชทายาทฯ
“น่าเสียดายที่ข้าไม่รู้ชื่อของนาง นางกล้ามากที่คว้างูตัวยาวขนาดนั้นโดยไม่ละสายตา หากท่านพบนาง โปรดให้รางวัลนางแทนข้าด้วย!”
องค์รัชทายาทพยักหน้า "ตกลง"
“นางปรากฏตัวใต้ต้นตั๊กแตน ถ้านางไม่พูด ข้าคงคิดว่านางเป็นเซียนพฤกษา!”
ฉินชูและฉินเมียวเหมี่ยวนั่งถัดจากอ๋องหรงน้อย
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ฉินเมียวเหมี่ยวกล่าวว่า "อ๋องหรงน้อย ท่านกำลังพูดถึงคุณหนูรองตระกูลเฉียวใช่หรือไม่? นางทำดอกตั๊กแตนทองคำและซุปงูในวันนั้น”
“ใช่ นางบอกว่าสกุลของนางคือเฉียว แต่คุณหนูรองตระกูลเฉียวแต่งออกไปกับตระกูลที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้นานแล้วไม่ใช่หรือ”
ทันทีที่เขาพูดเช่นนั้น คนในตระกูลฉินต่างก็ดูอับอายเล็กน้อย
ฉินชูพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “อันที่จริง ลูกสาวคนโตของตระกูลเฉียวถูกสลับกับลูกสาวของพ่อครัวเมื่อนางเกิด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ที่แท้จริงของตระกูลเฉียวจึงไม่ใช่ภรรยาของกระหม่อมแต่เป็นผู้อื่นพะย่ะค่ะ
“ตระกูลเฉียวรับเธอกลับมาจากหลินอันและให้นางเป็นคุณหนูรองของหวังอันหยวน และภรรยาของกระหม่อมเป็นบุตรสาวคนโต”
เรื่องนี้รู้กันไปทั่วฉางอัน ดังนั้นฉินชูจึงไม่จำเป็นต้องปกปิดเรื่องนี้
อ๋องหรงน้องคลี่พัดพับของเขาแล้วพูดว่า “ดังนั้นนางคือภรรยาของเจ้างั้นหรือ? แต่คุณหนูรองช่างน่าสงสารจริงๆ ด้วยท่าทางที่สง่างามเช่นนี้ปรากฎว่านางได้รับการเลี้ยงดูจากแม่ครัวในเมืองหลินอัน โชคชะตาช่างเล่นตลกเสียจริง!”
ฉินชูกล่าวว่า “หามิได้พะย่ะค่ะอ๋องหรงน้อย ภรรยาของกระหม่อมมิใช่นางแต่เป็นหรูหยุน นางเป็นคนที่หมั้นหมายกับกระหม่อมในวัยเยาว์”
องค์รัชทายาททรงหรี่พระเนตรเข้มลึก “คุณหนูเฉียวมาจากหลินอันหรือ”
ฉินชูพยักหน้า “ใช่พะย่ะค่ะ ดูเหมือนว่านางจะเปิดโรงเตี๊ยมในเมืองหลินอันซึ่งค่อนข้างมีชื่อเสียง กระหม่อมจำได้ว่ามันชื่อว่าโรงเตี๊ยมหมื่นรส…”
องค์รัชทายาทเกือบทำจอกไวน์ในมือหล่น “คุณหนูเฉียวมีนามว่าอะไร”
ฉินชูไม่รู้อย่างแน่นอน ฉินเมียวเหมี่ยวเองก็รู้สึกประหลาดใจที่องค์รัชทายาทถามเรื่องนี้ แต่เธอก็ยังตอบว่า “จินเหนียงเพคะ”
องค์รัชทายาทกวาดสายตามองผู้คนในจวนหวังอันหยวน แต่ไม่เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย “นางไม่ได้มาที่ภูเขาทางเหนือเพื่อการล่าในฤดูใบไม้ผลิเหรอ?”
“ฝ่าบาท พี่สะใภ้ใหญ่ของข้าแท้งลูก นางเป็นห่วงเธอ จึงได้กลับไปที่ฉางอันแล้วเพคะ”
ฉินเมียวเหมี่ยว สังเกตเห็นว่าองค์รัชทายาทดูแปลกไป…
~ สารจากผู้แปล บทนี้มีการแก้ลำดับคุณหนูนิดหน่อยนะคะ ~