ตอนที่ 12 ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลซู่
แต่อย่างนั้นเขาก็ยังฝืนความอยากรู้ของเขาเอาไว้ก่อนที่เขาจะทำความเคารพซู่เฮาเที่ยนอย่างรวดเร็วและพูดออกมาเสียงดังๆ
“นายน้อยที่สาม ท่านผู้นำสั่งให้นายน้อยไปพบท่านเดี๋ยวนี้”
"โอ้ พวกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านี่ทำให้คนอื่นๆรู้สึกกดดันหนักจริงๆแฮะ แม้ว่าระดับของพวกเขาจะค่อนข้างคลุมเครือแต่ก็คงไม่ธรรมดาแน่ๆ ดูเหมือนว่าตระกูลซู่จะแข็งแกร่งกว่าที่ฉันคิดแฮะ"
"เอาเถอะตอนนี้ก็คงต้องตามน้ำไปก่อน ส่วนภารกิจรองค่อยทำก็ได้ และหลังจากที่ทำภารกิจรองสำเร็จแต้มการเติบโตสามพันแต้มและอัญเชิญผู้คุ้มครองระดับทมิฬจะต้องเป็นของฉัน ฉันแทบจะรอได้รับรางวัลพวกนั้นไม่ไหวแล้ว!
"นำทางไปได้"
ซู่เฮาเที่ยนยิ้มเล็กน้อยและพูดเบาๆ
“พี่สาม ระวังตัวด้วยน้ะ!”
เมื่อมองไปที่ด้านหลังของซู่เฮาเที่ยนนั้น ซู่รุยกำลังอวยพรซู่เฮาเที่ยนในใจอย่างเงียบๆ
ที่ตั้งของที่ประชุมของตระกูลซู่นั้นเป็นความลับอย่างยิ่ง จากความทรงจำเดิมของเจ้าของร่างเดิมนั้น เขาเคยได้ยินมาก่อนแต่ไม่เคยได้ไปที่นั่นเลยสักครั้ง
นี่คือสถานที่ที่บุคคลสำคัญในตระกูลเท่านั้นที่จะเข้าไปได้ แม้ว่าซู่ซงจะอยู่ในขั้นที่เก้าของระดับผู้เชี่ยวชาญพลังจิตวิญญาณ แต่เขาก็ยังไม่เคยได้เข้าไป จึงมีเพียงพี่ชายต่างแม่ของเขาเท่านั้นที่เคยมาที่นี่
และนั่นเป็นตอนที่ผู้นำของนิกายยู่ไห่รับเขาเข้าเป็นศิษย์หลัก “ตั้งแต่วันนั้นก็ผ่านไปสิบปีแล้ว และฉันก็ไม่รู้พี่ชายของฉันตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง..”
ขณะที่ซู่เฮาเที่ยนกำลังเดินตามหน่วยคุ้มครองช้าๆ เขาก็คิดกับตัวเอง
หลังจากที่หน่วยคุ้มครองพาซู่เฮาเที่ยนเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา เข้าข้ามประตูผ่านทางเข้าสามด้าน ในที่สุดเขาก็มาหยุดอยู่ที่หน้าห้องภายใต้หลังคาสองชั้น
จากนั้นเขาก็โค้งคำนับไปที่ประตูที่ปิดอยู่และพูดว่า "ท่านผู้นำ นายน้อยที่สามซู่เฮาเที่ยนมาถึงแล้วขอรับ"
"เข้ามา"
เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของซู่หยุนดังขึ้นมาจากหลังประตู
“เชิญขอรับนายน้อยที่สาม” หัวหน้าของหน่วยคุ้มครองก้มหัวให้กับซู่เฮาเที่ยนที่ยืนอยู่ข้างๆ
เมื่อเห็นแบบนี้ ซู่เฮาเที่ยนจึงพยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่เขาจะเปิดประตูอย่างใจเย็นและเดินเข้าไป
แต่ในขณะที่เขาเดินเข้าไปจู่ๆก็มีลมแรงพัดมาที่หน้าประตูของเขา
ซู่เฮาเที่ยนถึงกับตกตะลึงกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้ ทำให้เขาปล่อยหมัดซอมบี้ออกมาโดยไม่ลังเล
ตู้มม!
พลังที่ท่วมท้นพุ่งออกมาจากหมัดของซู่เฮาเที่ยนพร้อมกับพลังทางจิตวิญญาณที่รุนแรงก็โหมกระหน่ำ ไม่เพียงแค่ทำให้ลมที่พัดมาให้กระจายออกไปเท่านั้น แม้แต่ร่างของซู่เฮาเที่ยนที่ปล่อยหมัดออกมาก็กระเด็นถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว
“โฮ่ๆ น่าสนใจจริงๆ ถ้าหากเจ้ากับข้าอยู่ใกล้กันกว่านี้ ข้าคงกลายเป็นต้นไม้ต้นที่สองไปแล้วแน่ๆ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ซู่เฮาเที่ยนจึงรีบกำหมัดแน่นและลุกขึ้นมายืนก่อนจะมองไปรอบๆ
แต่เขากลับเห็นชายชราเคราสีขาวร่างสูงยืนห่างออกไปสี่ถึงห้าเมตรกำลังมองเขาด้วยแววตาที่สดใสพร้อมกับซู่หยุน ซู่เฉิงเฟิงและสมาชิกตระกูลซู่ระดับสูงคนอื่นๆ รวมถึงบางคนที่เขาไม่รู้จักกำลังนั่งอยู่ทั้งสองด้านของห้องโถงพร้อมกับอ้าปากกว้างมองมาที่เขาด้วยความตกใจ
“เอ่อ เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือท่านพ่อ?”
ซู่เฮาเที่ยนรู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้กำลังทำการทดสอบตัวของเขาเองอยู่
"ฮ่าๆๆ ดีมากเจ้าลูกชายแห่งตระกูลซู่ ทั้งห้าคนนั่นคงบอกเขาแล้วสินะว่าชายชราคนนี้เป็นใคร ลูกชายของเจ้านั่นยอดมากและชายชราคนนี้ก็ชอบเขามากๆด้วย"
ชายชราเคราสีขาวหัวเราะชอบใจก่อนที่จะนั่งลงบนเก้าอี้เคลือบสีทองในห้องโถงใหญ่
เมื่อได้เห็นแบบนี้ ดวงตาของซู่เฮาเที่ยนก็เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยและเขาก็กำลังจะบอกว่าชายชราคนนี้เป็นใคร
"เอาล่ะนะเที่ยนเอ๋อ เขาคือหนึ่งในสามผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลซู่ของเรา ผู้อาวุโสซู่หรือเรียกท่านว่าผู้อาวุโสที่สามก็ได้"
"ติ๊ง! ท่านจำเป็นต้องสร้างความประทับใจและประจบผู้อาวุโสที่อยู่ในะดับผู้ใช้พลังจิตวิญญาณสวรรค์ให้ได้มากที่สุด หากทำสำเร็จจะได้รับรางวัลพิเศษสำหรับการจับฉลากรางวัลแบบสุ่ม"
"เป็นไปไม่ได้! ระดับผู้ใช้พลังจิตวิญญาณสวรรค์นั้นแข็งแกร่งมาก และฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนที่แข็งแกร่งขนาดนั้นอยู่ในตระกูลซู่ด้วย ฉันจะต้องประจบเขาให้ดีๆ!"
ซู่หยุนโบกมือให้ซู่เฮาเที่ยนและแนะนำชายชราที่นั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่ให้ซู่เฮาเที่ยนได้รู้จักด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
"ข้านายน้อยที่สามซู่เฮาเที่ยนเป็นเกรียติที่ได้พบกับกับผู้อาวุโสลำดับสามมาก ข้าขอให้ท่านมีอายุยืนยาว มีชีวิตที่อ่อนกว่าวัยของท่าน"
“ฮ่าๆๆ เจ้าเด็กนี่ร้ายนัก ปากหวานแบบนี้คนแก่อย่างข้าก็ชอบน่ะสิ มานั่งข้างๆข้านี่มา อ้อ จริงสิต้องจุดธูปไหว้บรรพบุรุษด้วยล่ะ”