ตอนที่ 10 พลังหมัดซอมบี้อมตะ

พลังแห่งสายเลือดนี้ส่วนใหญ่เป็นคุณสมบัติที่มีมาตั้งแต่เกิด และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฝึกฝนหรือได้มาโดยบังเอิญ

และการมีพลังของสายเลือดบริสุทธิ์นั้นไม่เพียงแค่สามารถพัฒนาพลังการต่อสู้ของการฝึกฝนพลังทางจิตวิญญาณเท่านั้น แต่สายเลือดพิเศษบางชนิดยังสามารถเพิ่มความเร็วในการฝึกฝนได้อย่างไร้ขีดจำกัด

ตรงกันข้าม บางคนไม่ได้เกิดมาพร้อมกับพลังแห่งสายเลือด หรือมีเพียงสายเลือดที่ไร้ประโยชน์นั้น คนกลุ่มนี้อาจไม่สามารถทำการฝึกตนได้เลย หรือมันอาจจจะเป็นเรื่องที่ยากในการได้เป็นผู้ฝึกตนด้านจิตวิญญาณระดับสูง

และแน่นอนว่าร่างเดิมนี้มีสายเลือดที่ไร้ค่ามาก หากไม่ใช่เพราะระบบการอัพเกรดนำโชค ทั้งชีวิตของเขาก็คงต้องเป็นแค่คนธรรมดาเท่านั้น

"ฮ่าๆๆ เจ้าของร่างเดิมเอ๋ยเจ้าโชคดีมากที่ฉันได้มาใช้ร่างนี้ของนาย! ไม่สิ ไม่ใช่แค่โชคดีเท่านั้น ซู่เฮาเที่ยนเอ๋ย ฉันจะทำให้นายเป็นหนึ่งในทวีปซวนหวู่แห่งนี้เอง ฮ่าๆๆๆ"

ซู่เฮาเที่ยนกำลังนั่งไขว่ห้างในห้องฝึกตนและระงับความตื่นเต้นเอาไว้ก่อนจะเริ่มปิดตาและเรียกใช้ทักษะซอมบี้อมตะ เพื่อพัฒนาพลังจิตวิญญาณอย่างรวดเร็ว

หลังจากทำให้ฮั่วเฉิงกลายให้เป็นมนุษย์ธรรมดาแล้ว ซู่เฮาเที่ยนก็เริ่มที่จะฝึกฝนทักษะซอมบี้อมตะระดับสวรรค์ขั้นต่ำ

เพราะนี่คือทักษะระดับสวรรค์ แม้ว่าจะเป็นขั้นต่ำก็จริงแต่เมื่อพิจารณาว่ามีน้อยตระกูลมากในอาณาจักรเที่ยนซวนที่จะมีทักษะระดับสวรรค์ไว้ในครอบครอง เขาจึงไม่กล้าใช้มันออกมาส่งๆ

เฉพาะนิกายใหญ่เท่านั้นที่จะมีทักษะระดับสวรรค์ไว้ในครอบครอง และพวกเขายังไม่คิดจะถ่ายทอดง่ายๆ ทำให้มีเฉพาะศิษย์หลักประจำตระกูลเท่านั้นที่สามารถฝึกฝนได้

"ช่วยไม่ได้นะ ก็ฉันโชคดีนี่นา แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็คงต้องแกล้งว่าไม่มีทักษะระดับสวรรค์นั่นเพื่อไม่ให้เกิดความปั่นป่วนของตระกูล!"

ด้วยพลังจิตวิญญาณที่ล้นเปี่ยมของฮั่วเฉิงนั้นทำให้ ซู่เฮาเที่ยนสามารถพัฒนาทักษะซอมบี้อมตะได้จนไปถึงระดับที่สอง

พลังของทักษะซอมบี้อมตะนั้นมีอยู่สามระดับ พลังในแต่ละระดับนั้นจะมีพลังของซอมบี้สามตัว และเมื่อฝึกฝนทั้งสามระดับเสร็จสิ้น นอกจากระดับจะเพิ่มเป็นระดับผู้ฝึกหัดพลังจิตวิญญาณขั้นที่ 9 แล้ว ก็จะมีพลังที่ไปอัดแน่นอยู่เพื่อรอข้ามขั้นไปอีกระดับด้วย

การรู้สึกถึงพลังจิตวิญญาณที่พลุ่งพล่านในร่างกายของเขาในตอนนี้มันทำให้เขาแทบจะอยากตะโกนออกมาดังๆ

แม่งโคตรเจ๋ง! ฉันรู้สึกว่าร่างกายของฉันเต็มไปด้วยพลังที่ล้นเปี่ยมกำลังไหลผ่านร่างกายของฉัน บางทีฉันคงต้องไปฝึกปล่อยพลังเพื่อควบคุมมันและทำให้ร่างกายเกิดความคุ้นชินสักหน่อยแล้ว

ในตอนนี้ซู่เฮาเที่ยนกำลังยืนอยู่หน้าต้นไม้ใหญ่ด้วยความตื่นเต้น เขาปล่อยหมัดไปข้างหน้าพุ่งที่ต้นไม้ทันที

ทันทีที่เขาปล่อยหมัดออกไป ร่างที่คล้ายมนุษย์ก็ปรากฎขึ้น คนที่หนึ่ง คนที่สอง... ร่างสีดำขนาดใหญ่ทั้งหมดหกร่างได้ปรากฏขึ้น หลังจากนั้นร่างทั้งหกได้ซ้อนทับเข้ากับหมัดของเขาทันที ทำให้พลังของหมัดของซู่เฮาเที่ยนก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง

ตู้มมม!

เปรี๊ยะ!

ด้วยพลังหมัดของซู่เฮาเที่ยนนั้น ต้นไม้สูงใหญ่ต้นนั้นขาดครึ่งในทันทีและกระเด็นออกไปอย่างรวดเร็วไปชนเข้ากับบ้านหลังหนึ่ง ทำให้บ้านหลังนั้นพังทลายลงทันที

“เชี่ยยย แม่งโคตรเจ๋งงง!

“แค่ก แค่ก อะไรวะเนี่ย! ทำไมบ้านของข้าถึงได้พังทลายลงมาแบบนี้”

ทันใดนั้นร่างที่คลานออกมาจากซากบ้านที่พังทลายก็พูดขึ้นพร้อมกับกร่นด่า

“เอ่อ..ข้าขอโทษนะ ข้าแค่กำลังฝึกอยู่แล้วบังเอิญทำต้นไม้กระเด็นไปโดนบ้านของท่านเท่านั้นเอง”

คำพูดของชายคนนั้นทำให้ซู่เฮาเที่ยนฟื้นสติขึ้น ก่อนที่จะกล่าวขอโทษ

หลังจากที่ลองใช้พลังจิตวิญญาณอันรุนแรงในร่างกายของเขา เขาก็สามารถควบคุมมันได้และรวบรวมมันไว้ในเส้นลมปราณของเขา มันทำให้เส้นลมปราณของเขาทั่วร่างกายสามารถรู้สึกได้ถึงพลังจิตวิญญาณอันล้นปรี่ ทำให้ซู่เฮาเที่ยนอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

“นายน้อยที่สาม ท่านกำลังฝึกอะไรอยู่งั้นรึ พลังทำลายล้างของมันสูงมากจนไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ!”

“สุดยอดไปเลยนายน้อยที่สาม”

"ถึงกับทำลายต้นไม้ใหญ่ได้เลยงั้นหรือ นายน้อยที่สามจะทรงพลังเกินไปแล้ว"

ในช่วงเวลาสั้นๆนั้น ซู่เฮาเที่ยนได้ถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนมากมาย นอกจากนี้ยังมีผู้อาวุโสบางคนที่ออกมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกด้วย

"นายน้อยที่สามสุดยอดจริงๆ"

“น้องข้า เจ้าทำแข็งแกร่งมากจริงๆ”

ในตอนนี้นายน้อยหลายคนรวมถึงซู่รุยตะโกนมาที่ซู่เฮาเที่ยนด้วยรอยยิ้มที่ตื่นเต้นบนใบหน้าของเขา

เมื่อเทียบกับซู่ซงแล้ว พวกเขาทั้งหมดเอ็นดูซู่เฮาเที่ยนมากกว่า เพราะซู่เฮาเที่ยนนั้นได้แสดงความไร้เดียงสาออกมาหลังจากที่แสดงพลัง มันจึงทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุขอยู่ในใจ