เล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 2 บทที่ 35: ความลึกลับในใจข้า
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
เล่มที่ 2 บทที่ 35: ความลึกลับในใจข้า
.
(
(เดริชา เตกิตตัน)
)
'ให้ตายสิ' ข้าคิดว่าความหงุดหงิดและความโกรธเริ่มซึมซาบเข้ามา
'ไอ้เจ้าโง่นั่นหนีไปได้'
ข้าควรจะจับเขาทันทีเมื่อโกเลมน้ำขนาดใหญ่นั้นพ่ายแพ้ แต่เขากลับสามารถใช้เครื่องมือเคลื่อนย้ายหลบหนีไปได้ต่อหน้าข้า
“อย่าเพิ่งคิดว่าเรื่องทุกอย่างจะจบ ข้าไม่มีวันยอมแพ้”
ไปลงนรกซะไอ้เจ้าบ้าอายุสิบห้าที่ไม่รู้จักโต!
ข้าไม่เคยเห็นโกเล็มน้ำที่เขาเรียกมาเลย แต่ครั้งหนึ่งข้าเคยได้ยินจากอาจารย์สอนของข้าว่ามีอารยธรรมโบราณที่ทรงพลังที่ถูกสร้างขึ้นมา มันคือโกเล็มที่สามารถเติบโตได้โดยการดูดซับน้ำ
เพื่อป้องกันไม่ให้โกเล็มน้ำอยู่เหนือการควบคุม อาวุธนี้จึงได้รับการติดตั้งระบบที่จะทำให้มันปิดตัวลงโดยอัตโนมัติ หลังจากผ่านไปสิบชั่วโมง แต่...จากที่เห็นไม่มีทางหรอกที่เราจะทนกันได้ถึงสิบชั่วโมง
ในเวลาเพียงสามชั่วโมง อารยธรรมโบราณคงจะฝังทุกอย่างให้อยู่ใต้น้ำ
แต่อาวุธนี้ได้จมอยู่ในส่วนลึกของเขาวงกตน้ำ กลายเป็นเรื่องราวในหนังสือประวัติศาสตร์ตั้งแต่อดีต
ไม่ว่าอาวุธนี้จะเป็นอาวุธที่ปรากฏในประวัติศาสตร์หรืออาวุธอะไร แต่มันก็น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก
ความสามารถในการดูดซับน้ำและเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งยังฟื้นตัวจากความเสียหาย มันไม่ใช่สิ่งที่โกเล็มพึงจะมี
ว่าแต่เหตุไฉนมันถึงปรากฏขึ้นที่นี่ตอนนี้?
มีคนสร้างมันขึ้นมาใหม่หรือเปล่า? หรือเจ้าสิ่งนี้ถูกกู้ออกมาจากส่วนลึก?
มันเป็นไปได้ยังไงกัน? ความลึกของเขาวงกตน้ำไม่ธรรมดาเลย! ซึ่งตำนานของอาวุธนี้เป็นตำนานที่เล่าขานกันมา ไม่มีใครแน่ใจด้วยซ้ำว่าอารยธรรมโบราณชิ้นนี้เคยมีอยู่จริงหรือไม่... ทว่าดูจากสิ่งที่เกิดขึ้น บางทีคงจำเป็นต้องสืบหาเบื้องลึกเบื้องหลังของเรื่องนี้ต่อ..
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องอื่นด้วย
ใครเป็นคนมอบสิ่งของพวกนั้นให้กับเจ้าโง่ที่อัญเชิญโกเล็มออกมา?
เครื่องมือในการอัญเชิญโกเล็มน้ำ เครื่องมือในการทำลายเครื่องรางเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงและเครื่องมือเคลื่อนย้าย?
การกระทำของมันโง่ยิ่งนัก แต่ถ้ามีแค่คนเดียวคงไม่สามารถก่อให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้
เจ้าโง่นั้นต้องมีคนอยู่เบื้องหลังแน่นอน
ตระกูลเร็กซ์ได้ถูกจัดการแล้ว แต่คนรับใช้ของพวกเขาทั้งหมดได้หายตัวไปอย่างลึกลับ
เหตุการณ์ทั้งหมดที่อยู่เบื้องหลังช่างแปลกประหลาดเกินไป
“องค์หญิงสอง ท่านต้องการกลับไปที่วังหรือไม่ขอรับ?” ชายหัวล้านในชุดสูทกล่าว
บ้าจริง ข้าลืมชื่อพ่อบ้านคนนี้อีกแล้ว
"ไม่ต้องหรอก หัวล้าน แค่ส่งข้อความของข้าถึงท่านพ่อก็แล้วกัน” ข้ากล่าว
“นี่ ตาแก่ นี่ริชา องค์หญิงลำดับสอง ข้าต้องไปหาเงินอีกครั้งเพราะข้าเพิ่งทำลายหอกเขี้ยวเล่มใหม่ที่ข้าซื้อมา ดังนั้นข้าจะไม่กลับไปอีกสักพักนะ”
ข้าเหลือหอกนี้เพียงชิ้นเดียว ดังนั้นข้าคงต้องหยุดใช้เวทมนตร์กับหอกไปอีกสักพักหนึ่ง ข้าเกรงว่าถ้าข้าใช้ทักษะเวทย์มากเกินไป หอกจะระเบิดอีก
“องค์หญิง หากท่านขาดอาวุธ ท่านสามารถให้ฝ่าบาทจัดการปัญหาเรื่องนี้ได้นะ”
"หืม? นี่คือปัญหาของข้าเอง ข้าไม่ต้องการที่จะใช้เงินภาษีจากประเทศ เงินภาษีเป็นเงินที่มาจากประชาชน พวกมันควรจะถูกนำมาใช้เพื่อทำให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้นต่างหาก"
บิดาของข้าจัดการประเทศได้ดีมาก ดังนั้นการใช้ทรัพย์สินของประเทศเพียงเล็กน้อยเพื่อทำหอกให้นางจึงไม่ใช่ปัญหาเลย คงไม่มีประชาชนคนใดจะต่อต้านหรือเอะอะเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ข้าไม่ได้มีส่วนร่วมช่วยเหลือประชาชนและไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้ทรัพย์สินที่พวกเขาได้รับจากการทำงานหนักของพวกเขาเลย
“บางครั้ง ข้าก็รู้สึกจริงๆ ว่าทัศนคติที่เป็นห่วงผู้อื่นขององค์หญิงนั้นเหมาะแก่การเป็นราชินีจริงๆ” เมื่อได้ยินคำพูดของข้า ชายหัวล้านก็กล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม
“ข้าขอปฏิเสธ การจัดการเรื่องทางการมีแต่ทำให้ข้าหัวเสีย แถมข้ายังไม่ฉลาดพอที่จะจัดการเรื่องอาณาจักรเหมือนท่านพ่อของข้า เกรงว่าข้าจะทำให้อาณาจักรล่มสลายไปสู่ซากปรักหักพังแทนเนี่ยสิ”
พอพูดจบ ข้าก็บอกลาหัวล้านและมาถึงจัตุรัส
หลังจาก "พิธีเปิดเทศกาล" สิ้นสุดลง ข้าจะไปที่สมาคมนักผจญภัยเพื่อรับภารกิจ เพื่อที่จะทำเงิน ข้าจำเป็นต้องเปลี่ยนหอกที่เสียหายโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะตอนนี้ข้ามีเหรียญเงินอยู่ในครอบครองเพียงสองเหรียญเท่านั้น
...ตัวข้ามักจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นเสมอ คงจะดีมากถ้าข้ามีอาวุธที่ไม่แตกหัก แต่นั่นคงจะแพงมากน่าดู แม้ว่าสุดท้ายแล้วข้าจะยืมเงินจากราชอาณาจักรโดยใช้สิทธิ์ของข้าในฐานะเจ้าหญิงอันดับสอง แต่ข้าคงจะต้องจ่ายคืนโดยเร็วที่สุด
ด้วยรางวัลจากการทำภารกิจระดับ S ข้าสามารถได้รับเงินหนึ่งพันเหรียญทองด้วยการทำภารกิจเพียงไม่กี่ภารกิจ ข้าก็จะสามารถได้รับหอกเล่มใหม่ได้ในเวลาไม่นาน แต่อาวุธนั่นก็จะหมดสภาพอย่างรวดเร็วเช่นกัน
มีคนจำนวนมากบนจัตุรัส ดังนั้นข้าจึงปีนขึ้นไปบนต้นไม้ใกล้ๆ เพื่อดูสถานการณ์โดยรอบ
ตอนนี้จัตุรัสเต็มไปด้วยฝูงชนที่ครึกครื้น เมล่อนและเพื่อนร่วมทางทั้งสองของนางกำลังจุดไฟศักดิ์สิทธิ์ด้วยกันบนแท่นไฟศักดิ์สิทธิ์
ช่างน่าทึ่งยิ่งนัก ข้าเคยคิดว่าเมล่อนเป็นคนเดียวที่ทรงพลังมาก แต่ข้าไม่ได้คิดเลยว่านางจะมีสหายที่แข็งแกร่งไม่แพ้กัน
ในระหว่างการต่อสู้กับมังกรปฐพี ทำไมนางถึงไปคนเดียวโดยไม่มีสหายกันนะ? ตอนนั้นข้าไม่เห็นเพื่อนของนางเลย
นอกเหนือจากการโจมตีด้วยมือเปล่าที่ทำลายล้างของเมล่อนแล้ว ยังมีนักธนูที่เก่งพอที่จะยิงหนวดทั้งหมดได้อย่างแม่นยำ ซึ่งนางสนับสนุนเมล่อนได้ยอดเยี่ยมมาก
ถึงแม้ว่าพวกนางจะเป็นเพียงแค่นักเรียน แต่พวกนางก็ทรงพลังกันมาก
แม้จะมีการโจมตีของอาวุธโบราณ แต่ก็ไม่มีผู้เสียชีวิตในหมู่ประชาชนเลย มีเพียงสิ่งก่อสร้างเท่านั้นที่เสียหาย
อีกทั้งพวกนางยังสามารถเอาชนะอาวุธโบราณได้อีก ราวกับพวกนางเป็นผู้กล้าก็ไม่ปาน ถ้าเป็นไปได้ ข้าอยากจะเข้าร่วมฝูงชนและจับมือพวกนางจัง
แต่ข้าไม่ควรทำตอนนี้ เพราะฝูงชนด้านล่างกำลังเฉลิมฉลองกันอยู่
เทศกาลนี้จัดขึ้นตามแผนทุกประการ แต่ในปีนี้ไม่ใช่แค่เทศกาลเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น แต่ยังจัดร่วมกับเทศกาลผู้กล้าด้วย
เมื่อมองไปที่คนทั้งสามบนเวที ข้าก็รู้ดีว่ามีคนหายไปหนึ่งคน
มีคนสวมหน้ากากในเมืองตอนนั้น แกว่งใยแมงมุมเพื่อช่วยเหลือผู้คนที่ตกอยู่ในอันตราย
ในตอนที่สายลับทั้งหมดที่ถูกส่งมาจากอาณาจักรบราติโอถูกกำจัดในชั่วข้ามคืน คนที่สวมหน้ากากนั้นก็มีส่วนร่วมในการต่อสู้ด้วย หลักฐานคือใยแมงมุมที่อยู่ตามพื้น
ใช่แล้ว คนพวกนี้ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับร้านบ้านสุนัข กระทั่งเมล่อนเองก็ด้วย
เดี๋ยวก่อนนะ
หนึ่งในนั้นที่กำลังไปจุดไฟศักดิ์สิทธิ์บนเวทีก็มีคนถือธนูด้วยใช่ไหม?
ถ้าอย่างนั้นผู้กล้าพวกนี้ก็เกี่ยวข้องกับร้านบ้านสุนัขงั้นเหรอ?
อืมมมม ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น
หากเป็นเช่นนั้น หมายความว่าทุกคนเกี่ยวข้องกับร้านบ้านสุนัข งั้นข้าคงจะต้องตรวจสอบสักหน่อยแล้ว