ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 694 เสียงของผู้ทรงพลัง(ฟรี)
หากมีคนมาได้ยินบทสนทนาในครั้งนี้ พวกเขาคงต้องขนหัวลุกเป็นแน่
เขตแดนตำนานทั้งปฐมตำนานและเหนือตำนานนั้น เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอย่างไร้ข้อสงสัย และพวกเขาได้ปกครองจักรวรรดิเก่าแก่ หรือจักรวรรดิต้นกำเนิด
เป็นตัวตนที่ทรงพลัง แต่ในสายตาของฑูตเหล่านี้ เขตแดนตำนานก็ไม่ต่างจากหมู หมารอโดนฆ่าเท่านั้น การพูดคุยเช่นนี้ก็พอแล้วที่จะทำให้คนหวาดกลัว
ฑูตไป่กล่าวขึ้นอย่างขี้เกียจ
“พวกเหนือตำนานถูกฆ่าไปสามคน อีกสองคนข้ากำลังจับตามองดูอยู่ แต่ข้านั้นรู้แหล่งจุดกำเนิดของพวกมัน อีกทั้งยังรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวพวกมันอีกด้วย และดูเหมือนพวกมันกำลังเตรียมการที่จะตัดขาด ข้าจะรอให้มันทำการตัดขาด แล้วค่อยตัดหัวมันในตอนนั้น”
“ยังมีนิสัยชอบเล่นแบบนี้เหมือนเดิม”
ตัวตนสุดท้ายปรากฏตัวออกมาในชุดสีดำหลวมๆ ขนาดใหญ่ โดยทั้งตัวถูกปิดบังไว้ด้วยม่านสีดำมีเพียงแสงที่ฉายออกมาจากแววตาเท่านั้น และปีกสีดำที่ยื่นออกมา
ฑูตไป่พูดต่อ
“ลั่ว เจ้านะอยากทำอะไรก็ทำ ใครๆ ก็อยากได้หน้าที่ของเจ้าทั้งนั้น แล้วพื้นที่เก่าแก่ทั้งหมดก็อยู่ในการดูแลของเจ้า เจตจำนงของพื้นที่เก่าแก่เองก็น่าลำคาณไม่ใช่น้อยเหมือนกัน”
ฑูตลั่วพยักหน้า
“การตัดขาดจากตัวตนปฐมตำนานนั้นไม่ต่างจากพวกเด็กเหลือขออยากลองของ แม้ว่าพวกมันจะเก่งกาจในการใช้อาคม แต่หากว่ามันคิดจะตัดขาดจริงๆ ก็ไม่มีอาคมหรือเจตจำนงใดปกป้องมันได้อีก ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้าไปจัดการ จริงไหมล่ะ?”
ฑูตลั่วคนนี้ไม่ได้บอกว่าตัวเองฆ่าผู้ที่จะตัดขาดไปกี่คน แต่ทั้งสี่กลับรู้อยู่แก่ใจและไม่ถามออกไป
หน้าที่ของฑูตลั่วคือการหยุดคนที่จะตัดขาด เพียงแค่คิดคนผู้นั้นก็ต้องตาย
ในบรรดาฑูตทั้งห้านั้น เขาเป็นคนเดียวที่สามารถฆ่าใครก็ได้ก่อนที่เจตจำนงของพื้นที่เก่าแก่จะไม่คุ้มครองบุคคลนั้น ดังนั้นมีจ้าวภัยพิบัติมากมายตายใต้ฝ่ามือของเขานับไม่ถ้วน
แล้วตอนนั้นเองที่ฑูตไป่ก็เปลี่ยนเรื่องคุยทันที
“ซือ เจ้าไปสั่งสอนผู้กลับมาเกิดใหม่คนนั้นรึยัง ข้าได้ยินมาว่าการเติบโตของมันเร็วมาก ล่าสุดข้าได้ยินว่ามันอยู่ในเขตแดนโบราณแล้ว ตอนนั้นมันยังอยู่ในสร้างความวุ่นวายในอาณาจักรคลื่นโบราณอยู่เลย”
คำพูดของฑูตไป่นั้นไม่ได้เกินจริง แต่ก็ไม่ได้มีจิตสังหารออกมา
สิ่งที่พวกเขารอคอยในเวลานี้คือช่วงเวลาที่จะได้ลงมือฆ่าซู่เสี่ยวไป่ เพราะยิ่งซู่เสี่ยวไป่แข็งแกร่งและเติบโตได้เร็วแค่ไหน พวกเขาก็ยิ่งอยากจะฆ่าตัวตนนี้มากขึ้น
ฑูตซือเลยบอกกับทุกคนด้วยท่าทางสบายๆ และเล่าการเติบโตของซู่เสี่ยวไป่
ทำให้สีหน้าของทั้งสี่เปลี่ยนไปทันที และทั้งหมดดูจริงจังขึ้น บางคนแสดงออกถึงความสนใจ
“ท่าทางตัวตนนี้จะเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงแล้ว! ต่อจากนี้เราจะต้องจับตาดูมันไว้ให้ดี”
“หากว่ามันคิดหรือทำอะไรเกี่ยวกับการตัดขาดอีกครั้ง ข้าจะลงไปสังหารมันทันที”
ตอนนี้ในสายตาของพวกเขาทั้งห้านั้นมองซู่เสี่ยวไป่เปลี่ยนไปแล้ว และเล็งเห็นว่าตัวตนนี้จะเป็นภัยต่อจักรวาลหลุดพ้น และอาจจะอยู่เหนือการควบคุมของพวกเขา
—---
ตัดมาที่อีกส่วนหนึ่งหลังจากที่เช่อเชียตายลง จักรวรรดิแมงป่องเทพก็ตกอยู่ในความวุ่นวายทันทีแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เช่นเดียวกับตอนที่จักรพรรดินีของจักรวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์เสียชีวิต การตายของจ้าวปกครองสูงสุดนั้นได้สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในหมู่จักรวรรดิระดับสูง เพียงพอแล้วที่จะทำให้เกิดการนองเลือดครั้งใหม่ได้
ด้วยขนาดของจักรวรรดิแมงป่องเทพนั้น จ้าวภัยพิบัติของจักวรรดิเองก็ไม่ได้อยู่ในจุดสูงสุด แต่ก็พอที่จะควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ในตอนแรก
แต่ถึงอย่างงั้นก็ยังเกิดข้อผิดพลาด
พื้นที่พิพากนั้นเกิดการปะทะกันหนักขึ้น จนเกิดเป็นรอยร้าวเล็กๆ ที่ขยายใหญ่ขึ้นจนเกินกว่าที่จะควบคุม
เหล่าผู้ไม่หวังดีได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับอาวุธสะเทือนดินแดนครบมือบุกเข้ามาอย่างต่อเนื่องทำลายทุกอย่างจนราบเป็นหน้ากองโดยใช้เวลาไม่ถึงวัน
ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายก็ทำตัวเช่นเดิม ต้องการจะแบ่งสมบัติของจักรวรรดิแมงป่องเทพ และได้ส่งกองทัพมามากมาย
เมื่อจักรวรรดิแมงป่องเทพสิ้นอำนาจลง มันก็ได้ตกเป็นของอาณานิคมของผู้อื่นโดยทันที และเริ่มแบ่งชิ้นเค้กนี้กันอย่างสนุกสนาน
“จุ๊ๆ ไม่มีเพื่อนคนไหนเข้ามาช่วยเลยสินะ ไม่ต่างกันเลยจริงๆ”
เมื่อเห็นฉากนี้ซู่เสี่ยวไป่ก็อดไม่ได้ที่จะย้อนคิดถึงสมัยที่จักรวรรดิพระแม่ศักดิ์สิทธิ์ล่มสลายลง และภาพนั้นได้เกิดขึ้นกับจักรวรรดิแมงป่องเทพแล้ว
ปัญหาทั้งภายในภายนอกได้รุมเร้าจักวรรดิแมงป่องเทพ อีกทั้งยังมีพวกผู้ฝึกตนกระหายโลภมากบุกมาไม่หยุด ในเวลาแบบนี้ยังถูกจักรวรรดิระดับสูงบุกโจมตีเพื่อแบ่งดินแดนอีก
เพียงดูก็สามารถเข้าใจความรู้สึกของผู้คนในจักรวรรดิแมงป่องเทพ
-ซู่เสี่ยวไป่ไม่มีความคิดที่จะร่วมวงกับ-มหากรรมนี้ด้วย อย่างแรกเขารู้สึกผิดต่อเช่อเชี่ย สองเขาไม่อยากไปเสียเวลากับสงครามระดับนี้อีกแล้ว
หากว่ายังฝึกฝนได้มากกว่านี้ ซู่เสี่ยวไป่จะก้าวข้ามผ่านเขตแดนภัยพิบัติเข้าสู่เขตแดนตำนานได้
……
ในเขตแดนของตำนานแล้วการต่อสู้ระหว่างจักรวรรดิระดับสูงเพื่อแย่งชิงทรัพยากรกัน ไม่ต่างจากมองดูเด็กแย่งขนมกันเอง มันไม่คุ้มค่าที่จะลดตัวลงไปยุ่งด้วย
“เฉี่ยวเห้อ เสริมการป้องกันของอาณาจักรเพิ่มขึ้น หลังจากนี้เราจะเริ่มติดต่อกับสิ่งมีชีวิตระดับสูง”
ซู่เสี่ยวไป่นั้นกำลังจะกลั้นใจ เพื่อจะฝึกฝนเปลี่ยนแปลงตบะบ่มเพาะของเขา และเตรียมที่จะก้าวสู่เขตแดนปฐมตำนาน
ด้วยความมั่งคั่งที่สะสมมาตลอด ได้ถูกระบบเผาผลาญไปจนหมดในคราวเดียว
รวมกับการฝึกฝนวิชาภัยพิบัติทั้งหมดที่มีในมือ ซ่อมแซมศิลาการเวลาทั้ง 98 จุด ซู่เสี่ยวไป่ก็ใกล้จะบรรลุอยู่เหนือเขตแดนจ้าวภัยพิบัติขั้น 10 แล้ว
…..
ขั้นตอนต่อจากนี้คือการทะลวงเขตแดน และเฝ้ารอสู่เขตแดนปฐมตำนาน
เมื่อเทียบกับเรื่องวุ่นวายที่เกิดในพื้นที่เก่าแก่แล้ว อาณาจักรหนึ่งปฐพีนั้นดูเงียบสงบมาก
ไม่ต้องพูดถึงการร้องรำทำเพลงหรืองานเทศกาลในเมือง อย่างน้อยความวุ่นวายที่เกิดขึ้นก็ไม่ประทบอะไรกับ เว้นแต่จะมีจักรวรรดิระดับตำนานจะเข้ามาแทรกแซง แต่โดยพื้นฐานแล้วจักรวรรดิระดับนี้ไม่สนใจเรื่องเล็กแบบนี้อยู่แล้ว
เมื่อทุกคนกำลังสนใจจักรวรรดิแมงป่องเทพ ความสนใจจากตัวตนระดับสูงก็เริ่มหันมามองดินแดนแห่งนี้อย่างเงียบๆ
แล้วตอนนั้นเองที่มีตัวตนที่สูงทรงได้เข้ามายึดทั้งจักวรรดิแมงป่องเทพพร้อมประกาศว่าดินแดนแห่งนี้เป็นของตนอย่างสมบูรณ์
ซู่เสี่ยวไป่ที่มองอยู่ข้างสนามตลอดเวลาก็ถึงกับตกใจ
“เขามาจากที่ไหนกัน เพียงมาถึงได้ไม่นานก็บุกยึดทั้งจักรวรรดิได้อย่างเด็ดขาด เรื่องเล่าของจักรวรรดิระดับตำนานถ้าจะมองข้ามไม่ได้แล้ว”
เดิมที่ซู่เสี่ยวไป่ไม่คิดว่าจักรวรรดิระดับนี้จะกระโดดลงมาเล่นด้วย แต่เวลานี้เขาต้องมองใหม่แล้ว
“ข้าเป็นผู้ส่งสารแห่งจักรวรรดิตำนาน ขอออกคำสั่งให้ทุกคนในดินแดนแห่งนี้ไปเข้าเฝ้าทันที อย่าได้อิดออด”
เสียงนี้ได้ดังก้องกังวาลไปทั่วจักวรรดิระดับสูง และจ้าวปกครองสูงสุดทุกคนต่างได้ยิน แม้แต่ซู่เสี่ยวไป่ที่ปิดอาณาจักรก็ยังได้ยิน เสียงนี้ดูเด็ดขาดและทรราชอย่างมาก จนยากที่จะขัดขืน
กลิ่นไอนั้นรุนแรงเกินกว่าที่จะเป็นจ้าวภัยพิบัติทั่วไป
จำนวนจักรวรรดิระดับสูงทั้งหมดต่างรับรู้ถึงคำประกาศนี้ และได้ส่งตัวแทนไปยังพื้นที่เก่าแก่ทวาทันที เพื่อจัดเตรียมงานประชุมครั้งยิ่งใหญ่ขึ้น!