ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 83 - ทะลวง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 85 - ชายผมขาว

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 84 - เปิดเผย


กึก! กรึก! แกร๊ก!!

เสียงกระดูกของเขาลั่นเกรียวกราว กล้ามเนื้อกำลังสั่นระริก เอ็นในร่างกายถูกยืดจนสุด แสดงถึงความยืดหยุ่นเป็นอย่างมากของร่างกาย

เดวิดกำหมัดของตัวเองไว้แน่น เกร็งกล้ามเนื้อในตัวจนแน่น สัมผัสกับความรู้สึกสั่นไหวของกล้ามเนื้อ เส้นเลือด หรือแม้กระทั่งรู้สึกลงไปถึงเซลล์ทุกส่วนในร่างกายของตัวเอง ตอนนี้เขาเพิ่งออกมาจากห้องทดลองพลังงาน หลังจากที่ลงไปแช่อยู่ในของเหลวพลังงานเพื่อฟื้นฟูตัวเองอยู่หลายชั่วโมง

ตอนนี้เขามีความรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก รับรู้ถึงการหมุนเวียนของเลือดที่กำลังไหลส่งพลังไปทั่วร่างกายได้อย่างราบรื่น ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของร่างกายจะไม่ได้แข็งแรง หรือถูกเสริมสร้างมากขึ้นจากเดิมมากนัก แต่พลังงานในร่างกายนั้นเต็มเปี่ยมจนล้นออกมา ราวกับว่าพลังงานอันมหาศาลในของเหลวนั้นถูกร่างกายของเขาซึมซับมาได้จนหมดสิ้นแล้ว

เขาเปิดข้อความที่ได้รับตั้งแต่ตอนที่ออกจากถังพลังงานออกดู มันเป็นข้อความที่ถูกส่งมาจากทางสถาบัน ในนั้นระบุให้นักเรียนใหม่รวมตัวกันเป็นกรณีพิเศษในวันพรุ่งนี้ นี่คล้ายกับว่าจะเป็นการรวมตัวฉุกเฉิน เพราะเหตุผลอะไรสักอย่าง

สีหน้าของเดวิดเต็มไปด้วยความครุ่นคิด นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับคำสั่งให้ไปรวมตัวกับนักเรียนใหม่คนอื่น ๆ ทั้งหมด เขาไม่รู้ว่ามันจะเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันแน่ แต่การใช้ความคิด ไม่ใช่จุดเด่นของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว เดวิดตัดสินใจที่จะเลิกสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ และตั้งใจจะไปรับรู้เหตุผลในตอนรวมพลพรุ่งนี้ทีเดียวไปเลย

เขาปิดหน้าต่างโฮโลแกรมของตัวเองลง แล้วก็มุ่งหน้ากลับไปที่ห้องพักอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นาน เสียงกรนของเขาก็ดังขึ้นมาในห้องพักอย่างสนั่นหวั่นไหวทีเดียว

................

ตอนที่เดวิดตื่นขึ้นมาอีกครั้ง มันเป็นเวลาตอนรุ่งเช้า ดวงอาทิตย์กำลังจะโผล่พ้นขึ้นมาจากขอบฟ้า อากาศยังหนาวเย็นอยู่อย่างมาก มีร่องรอยของน้ำค้างแข็งตัวอยู่บนใบหญ้าบางเล็กน้อย ตอนนี้เข้าสู่ฤดูหนาวมานานหลายวันแล้ว แต่ยังไม่มีหิมะ หรือแม้แต่ฝนตกลงมาเลย มันมีแค่ลมที่พัดโชยพาความหนาวมาอย่างต่อเนื่องเท่านั้น

หลังจากทำธุระส่วนตัวทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เดวิดรู้สึกว่าตัวเองนั้นยังเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง ไม่มีความรู้สึกหิว หรืออยากที่จะกินอาหารเช้าเลยแม้แต่นิดเดียว เขาตัดสินใจที่จะออกจากตึกพักไปในทันที อารมณ์ของเขานั้นดีไม่น้อยเลยทีเดียว พยักหน้าทักทายกับทุกคนที่เดินสวนไปตลอดทาง

และในที่สุด เขาก็มองเห็นคนที่คุ้นเคยมาตั้งแต่ไกล เดวิดหยุดจ้องอยู่สักครู่ ก่อนจะตัดสินใจพยักหน้าทักทายออกไป

ไนฮุนเดินยิ้มกว้างมาแต่ไกล “นายชอบรีบหนีกลับตั้งแต่ตอนเลิกเรียนทุกครั้งเลย พวกเราไม่ค่อยได้คุยกันจริงจังเลยนะช่วงหลังมานี่ ทั้ง ๆ ที่เห็นหน้ากันอยู่เกือบทุกวัน” ใบหน้าของเขานั้นยังยิ้มแย้มเป็นอย่างมาก รอยยิ้มนั้นกว้างจนเห็นฟันขาวในปากเกือบครบทุกซี่ รวมทั้งเขี้ยวเล็ก ๆ ที่ดูแหลมคมนั่นด้วย

เดวิดเลิกคิ้วขึ้นสูง ก่อนที่จะกล่าวออกไปเหมือนไม่ได้สนใจอะไรนัก “ยังขยันยิ้มอย่างคนปัญญาอ่อนแบบนี้อยู่อีกหรือ นายไม่เหนื่อยบ้างหรือยังไง?” แล้วเขาก็หันไปมองดูไนฮุนอย่างจริงจัง “แต่ก็ดูเหมือนว่านายจะยังโอเคอยู่นะ พยายามเข้าล่ะ!”

ตัวของไนฮุนเกร็งขึ้นเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด จ้องหน้าของเดวิดกลับเขม็ง เหมือนกับว่าพยายามค้นหาอะไรอยู่ แต่มันก็ยังเป็นเหมือนเดิม สายตาของเดวิดยังเฉยชา สีหน้าท่าทางยังไม่สนโลกเหมือนเดิม พวกเขาทั้งคู่จ้องหน้ากันนิ่ง ๆ อย่างนั้นอยู่สักพักหนึ่งทีเดียว

จนในที่สุด ไนฮุนก็เป็นฝ่ายส่งเสียงหัวเราะออกมาก่อน “เอาล่ะ! ก็ได้ ถือว่านายจับไต๋ฉันได้ก็แล้วกัน” เสียงของเขานั้นยังเหมือนเดิม แต่สีหน้าท่าทางเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว มันไม่ได้มีรอยยิ้มกว้างประดับอยู่บนใบหน้าอีกแล้ว แต่กลายเป็นใบหน้าที่เฉยชา ไม่ได้ต่างจากเดวิดมากนัก

“นายสังเกตได้ตั้งแต่เมื่อไร?” เสียงของเขาเริ่มเย็นชาลงตามสีหน้า มันฟังดูเสียดหูไม่น้อย ไนฮุนคนเดิมเหมือนว่าจะหายไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว

“มันสำคัญด้วยอย่างนั้นหรือ?” เดวิดไม่ได้ใส่ใจกับน้ำเสียงของเขา สีหน้าออกแนวยั่วยุเล็กน้อยเสียด้วยซ้ำ

นั่นทำให้คิ้วของไนฮุนขยับมาชิดกันขึ้นเล็กน้อย เหมือนกับว่าเขาต้องการที่จะยืนยันอะไรบางอย่าง ตาของเขามีประกายปรากฏขึ้นมาแวบหนึ่ง

“คนซื่อบื้ออย่างนาย คงจะเพิ่งรู้ตัวไม่นานนี่เองล่ะมั้ง?” เสียงของเขาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นยั่วยุบ้างแล้วเช่นกัน

เดวิดมองเขาด้วยหางตา ก่อนที่จะเอ่ยปากออกมา “นายไม่ต้องมายั่วฉัน แกล้งหลอกถามอย่างนี้หรอก มันไม่ได้ผล” เสียงของเขาเริ่มออกแนวเยาะเย้ย

“แต่จะบอกให้ก็ได้ ตั้งแต่ตอนที่พวกเราเจอกันครั้งแรกแล้ว แต่ตอนนั้น ฉันยังไม่แน่ใจมากนัก”

คำพูดของเดวิด ทำให้คิ้วของไนฮุนขยับจนชิดกันแน่นแล้ว เขาเถียงออกมา “นั่นเป็นไปไม่ได้แน่!” เขาไม่มีทางเชื่อในสิ่งนี้หรอก

“โอ้! ทำไม่ถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ?” เดวิดหัวเราะออกมาเบา ๆ

“ถ้าอย่างนั้น ทำไมนายถึงไม่พูดอะไรออกมาบ้างเลยล่ะ?” ไนฮุนดูจะสับสนขึ้นมาจริง ๆ แล้ว

เดวิดกล่าวตอบออกมาด้วยเสียงคำรามในลำคอ “ฉันต้องทำอย่างนั้นไปทำไม?” พร้อมกับกล่าวพึมพำต่อไป “แค่จะอ่านคู่มือนักเรียนใหม่ ฉันยังไม่คิดจะทำ นายคิดจริง ๆ หรือว่า ฉันจะมีอารมณ์ไปสนใจกับเรื่องไร้สาระของนาย” สายตาของเขาที่มองไปที่ไนฮุน แสดงถึงความดูถูกเป็นอย่างมาก

ในที่สุด ไนฮุนก็เงียบเสียงลงไป แต่สายตาของเขายังคงมองอยู่ที่เดวิดอย่างตั้งใจสังเกต และหลังจากนั้นไม่นาน สีหน้าท่าทางของเขาก็กลับไปเฉยชาไม่สนโลกเช่นเดียวกับเดวิดในที่สุด

ทั้งคู่เดินไปด้วยกันอย่างเงียบ ๆ ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันอีกเลยตลอดทาง จนในที่สุด พวกเขาก็เดินไปถึงห้องโถงขนาดใหญ่ ที่ใช้เป็นที่รวมตัวของนักเรียนใหม่ในเช้าวันนี้ และเริ่มมีนักเรียนใหม่จำนวนมากเดินทางมาถึงก่อนหน้าพวกเขาทั้ง 2 คนแล้ว

แต่นักเรียนทั้งหมด ยังได้แต่ยืนรออยู่ภายนอกของอาคารที่ใหญ่โต และเก่าแก่อลังการนี้เพียงเท่านั้น ประตูทางเข้ายังไม่ถูกเปิดออก เดวิดกันไนฮุนชักชวนกันไปยืนหลบอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง รอเวลาที่การประชุมจะเริ่มต้นขึ้นเช่นกัน

เมื่อมีคนจำนวนมากมารวมกัน เสียงพูดคุยก็ดังมาให้ได้ยินอยู่ทั่วไป เหล่านักเรียนต่างซุบซิบกันอยู่ถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสถาบันช่วงนี้กันอย่างเมามัน จนในที่สุด เสียงหนึ่งก็ดังจนสะดุดความสนใจขึ้นมา

“นั่นใช่ ‘เนี่ยหมิง’ หรือเปล่า?”

“คนที่อยู่อันดับ 5 ในรายชื่อผู้แข็งแร่งตอนนี้น่ะเหรอ?”

“ใช่ คนนั้นแหละ ฉันได้ยินมาว่าฝ่ามือดาบของเขานั้นคมมากจริง ๆ มันสามารถตัดได้เกือบทุกอย่างเลย”

เด็กหนุ่มวัยรุ่นท่าทางดุร้ายคนหนึ่งเดินฝ่ากลุ่มของฝูงชนที่แหวกเป็นช่องเดินเข้ามา เขาน่าจะมีเชื้อสายชาวจีนอย่างแน่นอน และทักษะการต่อสู้ ‘ฝ่ามือดาบ’ ของเขานั้นฝึกฝนจนสำเร็จอย่างสมบูรณ์แล้ว และใช้มันเอาชนะการประลอง และแย่งอันดับห้าของผู้แข็งแกร่งมาครอบครองได้ในที่สุด

เขาเดินฝ่าฝูงชนอย่างไม่สนใจที่จะทักทายกับนักเรียนคนอื่นเลยแม้แต่น้อย มุ่งหน้าไปจนถึงบริเวณประตูทางเข้า และหาที่ว่างทรุดตัวลงนั่งทำสมาธิทันที

ท่าทีของเขาทำให้เสียงซุบซิบของฝูงชนเงียบลงไปสักพัก เดวิดเองก็มองดูอย่างสังเกตด้วยเช่นกัน แต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น เขาใช้เวลาส่วนใหญ่กับการซึมซับบรรยากาศ และอากาศเย็นในตอนเช้ามากกว่า

เช่นเดียวกันกับไนฮุน ที่สีหน้านั้นไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย ราวกับว่าผู้แข็งแกร่งที่อยู่อันดับ 5 ของนักเรียนใหม่ทั้งหมด ไม่ควรค่าที่จะให้ความสนใจมองแม้แต่นิดเดียว

เสียงที่เงียบลงไปของฝูงชน เริ่มกลับมาส่งเสียงอีกครั้ง คราวนี้ถึงขนาดที่ดังมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย และต้นเหตุของเสียงที่อื้ออึงในครั้งนี้ เป็นเด็กหนุ่มชาวแอฟริกันคนหนึ่ง ที่มีรูปร่างใหญ่โตผิวสีดำเป็นประกาย หน้าตาของเขานั้นดูดีทีเดียว แม้ว่าจะอยู่ในทรงผมสไตล์พังก์ที่ดูแปลก ๆ ไม่น้อย ดวงตาของเขานั้นเป็นสีทองที่เปล่งประกาย มีลายเส้นปรากฏอยู่บนแก้มซ้ายและขวาของเขา ราวกับเป็นรอยสักของชนเผ่า นั่นทำให้เขานั้นมองดูน่าเกรงขามมากยิ่งขึ้นไปอีก

“ราชาสิงโต สเติร์ม!!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด