ตอนที่ 51 กูเจอตัวมึงแล้ว(อ่านฟรี)
ตอนที่ 51 กูเจอตัวมึงแล้ว
ยามเย็นเริ่มมาเยือน แสงไฟจากในเมืองสาดส่องไปทั่วทุกถนน แต่ในซอยที่หลบมุมมืดอยู่มีรถเก๋งสีดำสองคนจอดอยู่ พร้อมกับกลุ่มคนที่สูบบุหรี่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เพล้ง!
เสียงขวดเบียร์ถูกปาใส่กำแพงจนแตกกระจาย พร้อมกับการเดินอย่างหัวเสียของทริสหนึ่งในสิบสองหัวหน้ากลุ่มมาเฟียของแก๊งวีตัส
“บัดซบ! เกือบครึ่งเดือนแล้วทำไมพวกแกยังหาพวกมันไม่เจออีกหรือว่าไอ้กรูมัสมันจับเด็กสาวนั้นไปแล้ว”
“หัวหน้าช่วยใจเย็น ๆ ก่อน หัวหน้ากรูมัสน่าจะยังไม่ได้ตัวเด็กสาวคนนั้นไป เพราะผมได้ยินว่าเขายังส่งคนไปตามหาอยู่”
“จะให้กูใจเย็นได้ยังไงภายในสิ้นเดือนนี้กูก็จะตายนะ ยาพิษแม่งยังอยู่ในตัวกูอยู่เลย” ทริสตวาดใส่รองหัวหน้าที่พูดขึ้นมา
รองหัวหน้าร่างเล็กไม่กล้าพูดอะไรอีก
“หัวหน้าถ้าคุณกังวลเรื่องยาพิษ เราไปหาเบาะแสเรื่องของคนที่หนีรอดไปดีกว่าไหม ถ้าหัวหน้าใหญ่ได้ตัวคนนั้นมาน่าจะพอใจและมอบยาแก้พิษให้กับหัวหน้าแน่” รองหัวหน้าตัวใหญ่อีกคนกล่าวขึ้นมา
“หึ หัวหน้าใหญ่ฆ่าเจ้าหน้าที่คนนั้นไปแล้ว เพื่อไม่ให้พูดหรือปฏิเสธอะไรได้อีก แสดงว่าเขาก็หมดคงทำใจและโยนความผิดให้กับเจ้าหน้าที่คนนั้น ก่อนจะไปบอกเรื่องทั้งหมดกับใครสักคนที่หัวหน้าใหญ่ติดต่อด้วยแล้ว เอามาอีกขวดสิ” ทริสแย่งเบียร์มาจากในมือของลูกน้องก่อนจะดื่ม
รองหัวหน้ากลุ่มร่างใหญ่ได้ฟังก็มีสีหน้าตกใจ ก่อนจะกล่าวขึ้นมาว่า “ถ้าอย่างนั้นเรื่องที่ให้หัวหน้าไปทำก็แค่ลงโทษให้ตายนะสิ”
“ไอ้เวรเอ๊ย จะพูดทำไมหัวหน้ายิ่งเครียดอยู่” รองหัวหน้าร่างเล็กพูด
“เรื่องที่แม้แต่หัวหน้าใหญ่ยังหาไม่เจอแล้วฉันจะไปเจอได้ยังไง ทางรอดเดียวตอนนี้คือหาเด็กสาวคนสำคัญนั้นให้เจอ”
“พี่ชายเด็กสาวคนนั้นก็ตายไปแล้ว เด็กนั่นไม่น่าจะไปได้ไกล แต่น่าแปลกไม่มีใครรู้ว่าเธอย้ายไปไหน หรือว่ามีคนแอบช่วยเธออยู่”
ตอนนั้นเองก็มีมาเฟียหนุ่มคนหนึ่งที่วิ่งมาด้วยสีหน้าตื่นเต้น ก่อนจะตะโกนเรียกหัวหน้าทริสไม่หยุด
“ตะโกนทำไม มีเรื่องอะไรถึงเรียกชื่อหัวหน้าอยู่ได้” รองหัวหน้าร่างบางหยุดลูกน้องคนนั้น
“ขอ...ขอโทษครับ” มาเฟียหนุ่มพยายามหายใจให้ทั่วท้อง ก่อนจะตั้งสติพูด “หัวหน้าครับ คุณจำได้ไหมว่าให้ผมไปสืบเรื่องกับครูที่โรงเรียนโดยอ้างว่าเป็นพี่ชายเธอ...”
“ครูคนนั้นรู้ที่อยู่เด็กสาวนั้นเหรอ” ทริสหันมาถามอย่างคาดหวัง
“เปล่าครับ” มาเฟียหนุ่มส่ายหัวเบา ๆ
“ไอ้เวรนี่แล้วจะวิ่งมาให้แตกตื่นทำไม” รองหัวหน้าร่างใหญ่ถีบใส่ลูกน้องจนล้มลง
“มีอย่างอื่นอีกใหม่” รองหัวหน้าอีกคนถาม
ลูกน้องมาเฟียหนุ่มไม่กล้าแสดงความโกรธรีบลุกขึ้นมาและเล่าต่ออย่างตะกุกตะกักว่า “ครูคนนั้นไม่รู้ที่อยู่และก็เหมือนจะสงสัยว่าผมเป็นพี่ชายแล้วจะมาถามหาที่อยู่น้องสาวไปทำไม ผมก็เลยตกใจรีบหนีออกมา แต่ว่าผมยังไม่ยอมแพ้พยายามหาเบาะแสในโรงเรียนต่อ แล้วผมก็เจอรูปและชื่อที่ติดประกาศนักเรียนดีเด่นที่บอร์ดเป็นเด็กสาวคนนั้นแน่นอน เธอยังเรียนอยู่ที่โรงเรียนในเขต 5 แถม”
“ยังเรียนอยู่เยี่ยม ยังมีเบาะแสอะไรอีกไหมรีบเล่ามาเร็ว” ทริสแสดงความสนใจและเร่งเร้าให้ลูกน้องเล่าไว ๆ
“มี ๆ ผมถามเด็กคนอื่นๆ พวกเขาบอกว่าเด็กสาวมีเพื่อนอยู่สองคน ผมสืบจนได้รูปมาแล้วนี่หัวหน้าดูสิเด็กสองคนนี้คือเพื่อนสาวของเด็กที่เรากำลังตามหา”
มาเฟียหนุ่มเปิดโทรศัพท์รุ่นจอพับที่ถ่ายรูปมาให้กับหัวหน้าและคนอื่น ๆ ดู
“จอเล็กเป็นบ้าเลย ภาพซ้อนกันไปหมดมองไม่ชัดเลย” ทริสกล่าว
น่าจะเพราะหัวหน้าเมามากกว่า...มาเฟียหนุ่มบนในใจ
“ในเมื่อเด็กสาวสองคนนี้เป็นเพื่อนสนิทของเด็กสาวที่เรากำลังตามหา ถ้าอย่างนั้นก็ไปจับสองคนนี้มาถามด็น่าจะเจอเธอ ยังไงเด็กสาวก็ต้องเล่าเรื่องให้กับเพื่อนสนิทอยู่แล้ว” มาเฟียร่างใหญ่กล่าวด้วยท่าทางมั่นใจ
“ไปจับมันมาเลย บ้านเด็กสองคนนั้นอยู่ไหน” ทริสถามด้วยความร้อนใจ
“หัวหน้าวันนี้มีงานเลี้ยงที่โรงเรียนฉลองการจบการศึกษาของเด็กมัธยมต้น เด็กสองคนนั้นยังอยู่ที่โรงเรียน แต่ประมาณทุ่มหนึ่งเด็ก ๆ น่าจะทยอยกันกลับบ้านพอดี”
“ดีมาก พวกแกสองคนดูไว้ ไอ้หนุ่มทำงานได้ดีกว่าพวกแกสองคนซะอีก ถ้าฉันหาเด็กสาวนั้นเจอและรอดมาได้ แกจะได้รางวัล” ทริสกล่าวชม แต่รองหัวหน้าสองคนจ้องมองมาเฟียหนุ่มด้วยสายตาคมกริบ เพราะคำชมของทริสมันด่าพวกเขาทั้งสองอ้อม ๆ ด้วย
“ไปจับเด็กสาวสองคนนั้นมา”
...
“เคธี่ทำไมเจนถึงไม่มาด้วยละ” ไมซี่ถามด้วยความสงสัย
“เจนบอกว่าไม่ค่อยสบายเลยไม่ได้มา ไว้พรุ่งนี้เราค่อยไปเยี่ยมก็ได้” เคธี่กล่าว ก่อนจะพูดต่อว่า “รีบไปกันเถอะ รถบัสเที่ยวต่อไปกำลังมาแล้ว”
เด็กสาวทั้งสองคนเดินไปตามถนนในซอยที่เป็นที่ตั้งของโรงเรียน เพื่อออกไปยังถนนใหญ่ แต่แล้วในตอนนั้นเองก็มีรถเก๋งสีดำขับเข้ามาจอด ก่อนจะชุดเด็กสาวทั้งสองคนขึ้นรถและขับออกไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางสายตาที่ตกตะลึงของใครหลายคน กว่าที่จะตั้งสติได้รถก็ขับไปไกลแล้ว
เคธี่และไมซี่ร้องด้วยความตื่นกลัวตลอดทาง โดยเคธี่คือคนที่พยายามขัดขืนมากที่สุด จนสุดท้ายเธอโดนต่อยเข้าที่ท้องอย่างแรง เด็กสาวจุกจนน้ำตาไหล
ไมซี่รีบกอดเคธี่ไว้และพูดด้วยความหวาดกลัว
“พวกคุณเป็นใคร จะ...จะทำอะไรพวกนี้”
“นั่งเงียบ ๆ ไม่อย่างนั้นพวกฉันจะจับพวกเธอยัดใส่ท้ายรถ แน่นอนว่าคงต้องตัดแขนขาก่อน”
ไมซี่ได้ยินก็หน้าซีดขาวและสะอื้นในทันที แต่ก็ไม่กล้าขัดขืนอีก
รองหัวหน้าร่างเล็กยิ้มอย่างพอใจที่ข่มขู่เด็กสาวได้
รถเก๋งขับพากลับไปยังซอยเปลี่ยวที่ทริสรออยู่ หลังจากนั้นเด็กสาวทั้งสองคนก็ถูกพาตัวมาโยนลงที่พื้นเปียกแฉะ พวกเธอทั้งสองสั่นด้วยความกลัว เพราะในใจกำลังคิดว่าคนพวกนี้ลักพาตัวเธอมาข่มขืน
เคธี่ที่ฟื้นตัวแล้วกอดไมซี่ไว้แล้วจ้องมองด้วยสายตาดุร้ายไปยังมาเฟีย เธอทำราวกับไมซี่เป็นไข่ที่แม่ไก่พยายามปกป้องสุดชีวิต
ทริสเดินมาก่อนจะนั่งยอง ๆ หน้าเด็กสาวทั้งสองคนและเปิดรูปในมือถือให้ทั้งสองคนดู มันเป็นรูปของเจน
เคธี่ตกใจ แต่พยายามเก็บสีหน้า
“พวกเธอเป็นเพื่อนสนิทกับเด็กสาวคนนี้ใช่ไหม ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน”
“ฉัน...ฉันไม่รู้จักเธอ” เคธี่ค่อนข้างฉลาดและเข้าใจทันทีว่าคนพวกนี้ตามหาเจนอยู่ แม้เคธี่จะไม่รู้ว่าเจนกำลังเจอกับอะไร แต่เธอสังเกตว่าเจนมักจะระวังตัวเสมอ ขนาดที่ว่าตอนขอไปติวหนังสือที่บ้านพวกเธอยังต้องเซ้าซี้เจนอยู่นานกว่าเธอจะยอมพาไปบ้านใหม่
ทริสขมวดคิ้วหันไปมองมาเฟียหนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ไกล
“หัวหน้าพวกเธอน่าจะโกหก”
“โกหก ดีฉันชอบเด็กใจกล้า จับเธอแยกออกมา มาดูกันว่าเพื่อนของเธอจะใจกล้าด้วยไหม” ทริสสั่งรองสองคน
รองหัวหน้าร่างใหญ่เดินไปจิกผมของเคธี่ ก่อนจะลากเธอออกมา
“อ้า!” เคธี่ใช้มือจับแขนรองหัวหน้าร่างใหญ่พยายามจะขัดขืนเพราะเธอเจ็บที่โดนกระชาก
“ไม่นะอย่า ๆ ทำอะไรเพื่อนหนู” ไมซี่พยายามขอร้องทั้งน้ำตา
“ฮ่า ๆ เด็กคนนี้สวยใช้ได้เลย” รองหัวหน้าร่างใหญ่ใช้แขนล็อกคอของเคธี่และยกตัวเธอขึ้นมาจนขาเกือบพ้นจากพื้น เคธี่พยายามดิ้นรน แต่แรงของเด็กสาวก็ยากจะสู้กับผู้ชายโตเต็มวัยได้
เคธี่ฉวยโอกาสกัดไปที่แขนของรองหัวหน้าร่างใหญ่อย่างเต็มแรง
“โอ๊ย ไอ้เด็กเวร” รองหัวหน้าร่างใหญ่ตะโกนด้วยความโมโหโยนเคธี่ออกไป ก่อนจะเข้าไปตบหน้าจนปากเคธี่แตก ก่อนจะเตะซ้ำเข้าไปอีกหลายครั้ง
“ไม่นะ อย่า ๆ อย่าทำเธอ” ไมซี่ร้องไห้พยายามคลานเข้าไปช่วยเพื่อนอย่างสิ้นหวังทั้งน้ำตา
“พอแล้ว” ทริสหันไปกล่าว
“ถุย คอยดูเถอะกูจะทำอะไรกับมึง เด็กเปรต” รองหัวหน้าร่างใหญ่หยุดเตะและถุยน้ำลาย ก่อนจะจับเคธี่ซึ่งสภาพบาดเจ็บขึ้นมาและจับหน้าเธอไว้
ไมซี่มองไปที่เคธี่ด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ต้องมองเธอ มองมาที่ฉันนี่ บ้านของเด็กคนนี้อยู่ไหน ถ้าไม่ยอมบอกฉันจะให้เขาซ้อมเพื่อนเธอจนตาย”
ไมซี่เริ่มร้องไห้ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้นว่า “อยู่...อยู่ที่เขต 4”
ไมซี่บอกไปทั้งน้ำตา พอทริสได้ที่อยู่แล้วก็พยักหน้าด้วยความพอใจ รองหัวหน้าคนนั้นโยนเคธี่กลับไปหาไมซี่ ไมซี่รีบเข้าไปดูอาการของเคธี่ในทันที
“เคธี่เป็นอะไรไหม” ไมซี่พยายามเช็ดเลือดที่ปากและจมูกให้เพื่อน
“พวกคุณทำร้ายพวกเราแบบนี้ตำรวจจะต้องมาจับพวกคุณ”
ทริสแสยะยิ้มมองไปที่เด็กสาวไมซี่ ก่อนจะจับคางเธอ
“ไม่มีใครมาช่วยเธอหรอก โดยเฉพาะตำรวจ ฮ่า ๆ ๆ”
“พวกแก พวกแกมันชั่วคอยดูเถอะพี่ชายเจนจะต้องจัดการพวกแก” เคธี่ฝืนอาการเจ็บพยายามพูดข่มขู่มาเฟียพวกนี้
ทริสที่พึ่งหันหลังให้ รีบหันกลับมาและถามด้วยแววตาเคร่งขรึม “เมื่อกี้เธอบอกว่ายังไงนะ”
“พี่ชายลุคเป็นเหนือมนุษย์ พวกแกปล่อยพวกเราไปซะ ไม่งั้นพี่ลุคต้องจัดการพวกแกแน่” ไมซี่นึกว่ามาเฟียกำลังกลัวที่ได้ยินว่าพวกเธอรู้จักเหนือมนุษย์ จึงพยายามพูดย้ำอีกครั้ง
“พี่ชายไอ้เด็กสาวนั้นมันชื่ออะไร” ทริสหันไปถามลูกน้องมาเฟียของเขา
“น่าจะชื่อลุค แต่ตามข้อมูลพี่ชายมันน่าจะตายไปพร้อมกับเรื่องชิ้นส่วนโลกนั้นแล้วนี่” รองหัวหน้าตัวเล็กกล่าวขึ้นมาด้วยความสงสัย
“หรือว่าเจ้านั้นคือคนที่รอดชีวิต ถ้ากลายเป็นเหนือมนุษย์ก็ไม่แปลกที่จะรอดมาได้ หัวหน้าหรือว่าลุคอะไรนั้นคือคนที่หัวหน้าใหญ่ตามหาแบบนั้นถ้าจับเขาได้หัวหน้าก็จะพ้นโทษ” รองหัวหน้าร่างใหญ่พูดความคิดของตัวเองออกมา
“กูเจอมึงแล้ว” ทริสกล่าวด้วยแววตาเย็นชา
“หัวหน้าถ้าเป็นแบบที่พวกเธอพูด เราจัดการเหนือมนุษย์ไม่ไหวนะครับ”
ทริสยืนขึ้นและคิดด้วยสีหน้าจริงจัง ก่อนจะบอก “เอาโทรศัพท์พวกเธอออกมา ส่งข้อความไปหาเด็กสาวคนนั้น ถามเธอก่อนว่าพี่ชายอยู่ไหม พยายามหลอกเธอออกมาจากบ้าน ขอแค่จับน้องสาวมันไปได้ก็พอ ส่วนพี่ชายเราค่อยให้หัวหน้าใหญ่ตัดสินใจภายหลังได้ แต่ฉันเชื่อว่าหัวหน้าใหญ่น่าจะจัดการมันได้”
“ครับหัวหน้า”