ตอนที่ 423 ดูดกลืนพลังงาน
ตอนที่ 423 ดูดกลืนพลังงาน
อสูรเกล็ดเงินเป็นสัตว์น้ำที่ดุร้ายและถึงแม้ว่าภายนอกมันจะดูเหมือนงูเหลือม แต่ความจริงแล้วมันเป็นสัตว์ที่แตกต่างจากงูเหลือมอย่างสิ้นเชิง
ร่างของมันมีความยาวมากกว่า 1 กิโลเมตร และเพียงแค่ส่วนที่โผล่พ้นน้ำก็มีความสูงถึง 400 เมตรแล้ว บริเวณปากของมันแยกออกเป็น 6 กลีบ โดยแต่ละกลีบเต็มไปด้วยฟันแหลมสีขาวอัดกันจนแน่น และบริเวณหัวของมันนั้นก็ดูคล้ายจะมีเพียงแค่ปาก คล้ายกับไส้เดือนที่คนมักจะมองไม่ออกว่าอวัยวะส่วนไหนอยู่ตรงไหนของไส้เดือนกันแน่
“ดูเหมือนว่าอสูรเกล็ดเงินตัวนี้จะมีอายุอย่างน้อย 3,000 ปี แล้วมันก็คงจะเอาไปสร้างเป็นลูกแก้วไออุ่นในฤดูหนาวได้แล้ว” อันธกล่าว
“ลูกแก้วไออุ่นที่สามารถควบคุมสภาพอากาศได้น่ะเหรอ?” เซี่ยเฟยกล่าวถาม
“ใช่ การวางลูกแก้วไออุ่นเอาไว้ในห้องไม่เพียงแต่จะทำให้สภาพอากาศภายในห้องคล้ายกับอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิตลอดทั้งปีเท่านั้น แต่มันยังส่งกลิ่นหอมซึ่งมีคุณสมบัติทางยาออกมาอีกด้วย หากว่าสิ่งมีชีวิตชนิดใดได้สูดกลิ่นหอมของลูกแก้วไออุ่นเข้าไปเป็นเวลานาน มันก็จะช่วยทำให้ร่างของคนคนนั้นมีภูมิคุ้มกันต่อพิษชนิดต่าง ๆ และช่วยให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่เหมาะสมสำหรับการฝึกฝนอีกด้วย”
“ในความเป็นจริงมันก็สามารถเอาลูกแก้วไออุ่นไปปรุงเป็นยาได้ด้วยเหมือนกัน แต่การทำแบบนั้นเป็นการใช้ลูกแก้วไออุ่นออกมาได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ เพราะการให้มันค่อย ๆ ปล่อยกลิ่นออกมาให้ร่างกายซึมซับไปอย่างช้า ๆ เป็นการใช้ลูกแก้วไออุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า”
“ท้ายที่สุดลูกแก้วไออุ่นก็สามารถปล่อยกลิ่นออกมาได้นานมากกว่า 100 ปี ดังนั้นการเก็บมันเอาไว้ใช้ในระยะยาวย่อมดีกว่าการนำมันไปปรุงน้ำยาอย่างไม่ต้องสงสัย”
“โอเค ถ้าฉันได้รับลูกแก้วนั่นฉันค่อยเอามันไปวางไว้ในห้องก็แล้วกัน” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
ระหว่างนั้นเซี่ยเฟยก็หันศีรษะไปมองขนอุยที่ยังคงส่งเสียงขู่ใส่ฮาซี่อย่างต่อเนื่อง แต่ชายหนุ่มก็ยังคงทำเป็นหูทวนลมเพราะเขาต้องการที่จะรอดูสถานการณ์ตรงหน้าไปก่อน
ความจริงแล้วสิ่งที่ทำให้ขนอุยมีปฏิกิริยาแบบนี้ นั่นก็เพราะกลิ่นอายติดตัวของฮาซี่ที่เกิดขึ้นมาจากการที่เขาสังหารสัตว์อสูรมากเกินไป ซึ่งกลิ่นอายนี้ทำให้ขนอุยรู้สึกไม่สบายใจจนมีปฏิกิริยาอย่างในปัจจุบัน
พูดตามตรงโดยปกติขนอุยไม่สนใจชีวิตของสัตว์อสูรตัวอื่นด้วยซ้ำ และถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะสังหารสัตว์อสูรใด ๆ ลงไปแต่มันก็แทบที่จะไม่เหลือบสายตามามอง
—
เมื่อถูกต้อนมาจนถึงทางตันอสูรเกล็ดเงินก็ส่งเสียงร้องคำรามดังสนั่น จนทำให้แม่น้ำเกิดคลื่นกระเพื่อมขึ้นมาเป็นชั้น ๆ
ฮาซี่ที่ยืนอยู่ริมแม่น้ำหัวเราะออกมาอย่างพึงพอใจ คล้ายกับว่าท่าทางของอสูรเกล็ดเงินไม่ใช่ภัยคุกคามสำหรับเขาเลย
แต่ในทันใดนั้นเองจู่ ๆ อสูรเกล็ดเงินก็ขดตัวกลับไปพร้อมกับร่างที่สั่นขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งปฏิกิริยานี้ก็ทำให้ฮาซี่รู้สึกประหลาดใจมาก เพราะโดยปกติแล้วสัตว์อสูรมักจะทำการต่อสู้อย่างบ้าคลั่งเมื่อพวกมันตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง และเขาก็ไม่เคยเจออสูรตัวใดแสดงปฏิกิริยาอย่างหวาดกลัวออกมาแบบนี้มาก่อนเลย
—
“ทำไมนายถึงต้องทำให้อสูรเกล็ดเงินรู้สึกกลัวด้วย! ฉันอยากจะดูมันสู้กับฮาซี่นะ เราจะได้สังเกตดูพลังพิเศษของเขาในระหว่างการต่อสู้ด้วย” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาจากในป่าพร้อมกับตบหัวขนอุยที่อยู่บนบ่าเพื่อเป็นการเตือน
ขนอุยแลบลิ้นและส่ายหัวไปมาอย่างไม่พอใจ เพราะเซี่ยเฟยมักจะใช้ความรุนแรงกับมันอยู่เสมอ แต่มันก็รู้สึกเคยชินกับเรื่องนี้มาตั้งนานแล้วมันจึงไม่ได้รู้สึกอะไรจากการตบของเซี่ยเฟยมากนัก
ถ้ามีคนที่รู้จักมารขาวอยู่ที่นี่พวกเขาก็คงจะจ้องมองเซี่ยเฟยด้วยดวงตาอันเบิกกว้าง เพราะท้ายที่สุดสัตว์อสูรที่เซี่ยเฟยเพิ่งตบไปคืออสูรศักดิ์สิทธิ์ที่โด่งดัง และมันก็สามารถทำลายดาวเคราะห์ทั้งดวงได้ด้วยการจู่โจมเพียงแค่ครั้งเดียว
อสูรเกล็ดเงินรับรู้ได้ถึงแรงกดดันจากสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งกว่าตามธรรมชาติ จึงทำให้มันแสดงความหวาดกลัวออกมาในระหว่างเผชิญหน้ากับฮาซี่แบบนี้ แต่หลังจากที่ขนอุยถอนสายตาของมันออกไปอสูรเกล็ดเงินก็กลับมามีปฏิกิริยาตามปกติ แต่ในแววตาของมันก็ยังคงมีความหวาดระแวงอยู่เล็กน้อย
แน่นอนว่าฮาซี่ไม่รู้ว่าห่างไปไม่ไกลมีอสูรศักดิ์สิทธิ์กำลังจับจ้องพวกเขาอยู่ เขาจึงแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าอสูรเกล็ดเงินกำลังแสดงปฏิกิริยาว่ามันรู้สึกหวาดกลัวเขา
ต่อมาเขาก็วาดมือออกไปในอากาศ โดยที่ภายในมือของเขามีเชือกสีดำผูกปลายเป็นโลหะทรงกลวยรูปเพชรคล้ายกับมันเป็นอสรพิษที่เอาไว้ใช้ในการจู่โจมเหยื่อ
“ขอดูดเลือดแก่หน่อยละกัน!”
อสูรเกล็ดเงินสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามครั้งใหญ่ แล้วมันก็จ้องมองไปยังวัตถุในมือของฮาซี่อย่างเกรงกลัว
โฮก!
ทันใดนั้นมันก็ส่งเสียงร้องคำรามและพ่นน้ำสีแดงเข้มออกมาจากปาก โดยน้ำที่มันพ่นออกมามีแรงดันสูงมากจนทำให้สายน้ำนี้มีความคมไม่ต่างไปจากมีดเลเซอร์
แต่ถึงแม้ว่ามันกำลังมีการโจมตีพุ่งเข้ามาฮาซี่ก็ไม่ได้คิดที่จะหลบสายน้ำเลยแม้แต่น้อย และเมื่อสายน้ำได้พุ่งเข้ามาหาฮาซี่ในระยะ 10 เมตร ความเร็วของมันก็ค่อย ๆ ลดลงอย่างต่อเนื่องทำให้มันเปลี่ยนจากสายน้ำแรงดันกลายเป็นเพียงแค่สายน้ำที่แทบจะไม่เหลือแรงดัน
ในที่สุดสายน้ำสีแดงก็ตกกระทบลงบนพื้นห่างจากร่างของฮาซี่ประมาณ 5-6 เมตรคล้ายกับว่ามันมีกำแพงที่มองไม่เห็นครอบร่างของชายคนนี้เอาไว้
“ดูเอาไว้ให้ชัด ๆ นั่นแหละพลังในการดูดกลืนพลังงาน” อันธกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“มันเป็นพลังพิเศษที่น่ากลัวมากจริง ๆ ทันทีที่การโจมตีของอสูรเกล็ดเงินเข้าใกล้ร่างของฮาซี่มันก็เหมือนกับพลังงานในการโจมตีถูกดูดเข้าไปในหลุมดำ ดูเหมือนว่าการโจมตีที่จำเป็นจะต้องพึ่งพาพลังงานคงจะไม่สามารถสร้างอันตรายให้กับฮาซี่ได้สินะ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“มันไม่ใช่แค่นั้นนะ ฉันสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่าสายน้ำที่อสูรเกล็ดเงินพ่นออกมาเกิดจากการบีบรัดอวัยวะในร่างกายไม่ใช่การใช้พลังควบคุมน้ำเพื่อคอยบงการ แต่ถึงกระนั้นพลังพิเศษของเขาก็ยังสามารถสลายพลังกลที่เกิดขึ้นมาจากการเคลื่อนไหวทางกายภาพได้”
“เมื่อการโจมตีของอสูรเข้าใกล้ฮาซี่ในระยะ 50 เมตร พลังงานกลที่สะสมอยู่ในสายน้ำจะค่อย ๆ ถูกลดแรงของมันลงไปเรื่อย ๆ และเมื่อสายน้ำเข้าใกล้ในระยะ 10 เมตรพลังงานกลที่สะสมอยู่ด้านในสายน้ำจะถูกระบายออกมาอย่างบ้าคลั่ง จนทำให้มันไม่เหลือแรงมากพอที่จะสร้างอันตรายได้อีกต่อไป”
“ยิ่งไปกว่านั้นอสูรเกล็ดเงินก็ยังได้รับผลกระทบจากพลังพิเศษของฮาซี่ด้วยเหมือนกันนะ ในตอนนี้พลังงานส่วนใหญ่ในร่างกายของมันก็ถูกระบายออกไปพร้อมกับสายน้ำเมื่อกี้นี้แล้ว”
“นายกำลังบอกว่าสายน้ำที่ถูกยิงออกมากลายเป็นสะพานเชื่อมที่ทำให้ฮาซี่สามารถดูดซับพลังงานจากฝ่ายตรงข้ามจากระยะไกลได้เลยงั้นเหรอ?!” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความตกตะลึง
“ใช่ ถ้าหากว่านายฟันเขาด้วยมีด พลังงานส่วนใหญ่ในระหว่างที่นายโจมตีจะค่อย ๆ ถูกระบายออกไป และในระหว่างที่ใบมีดของนายสัมผัสกับร่างกายของเขา พลังงานทั้งหมดก็จะถูกทำลายในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งมันก็รวมถึงพลังงานที่สะสมอยู่ในร่างกายของนายด้วย”
“แล้วถ้าฉันใช้เซเลสเชียลมูนจู่โจมจากระยะไกลล่ะ?”
“ไม่มีประโยชน์ ถ้านายใช้เซเลสเชียลมูนพลังงานที่ใช้ในการควบคุมก็จะถูกระบายออกไปอยู่ดี ทำให้การโจมตีไม่สามารถที่จะคุกคามชีวิตของเขาได้”
“การโจมตีระยะไกลก็ไม่ได้ผล! การโจมตีระยะใกล้ก็เสี่ยงต่อการถูกดูดซับพลังงาน! แล้วแบบนี้ฉันจะทำยังไงได้บ้างเนี่ย?” เซี่ยเฟยกุมขมับพร้อมกับพึมพำขึ้นมาขณะใช้ความคิด
“นี่คงจะเป็นเหตุผลที่เซิร์กส่วนใหญ่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขา เพราะด้วยพลังพิเศษที่เขาได้ครอบครอง มันก็คงจะไม่มีใครสามารถทำร้ายร่างกายเขาโดยที่ตัวเองไม่ได้รับบาดเจ็บได้” อันธกล่าว
“ตั้งแต่ที่ฉันตัดสินใจเดินทางมาที่นี่ฉันก็คิดวิธีจัดการกับเขาเอาไว้บ้างแล้ว นอกจากนี้ถึงแม้ว่าฉันจะฆ่าเขาในการโจมตีครั้งเดียวไม่ได้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าการโจมตีของฉันจะไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ
—
ในอีกด้านฮาซี่กำลังเผยรอยยิ้มขึ้นมาอย่างชั่วร้าย และเขาก็กำลังหมุนเชือกภายในมือเบา ๆ คล้ายกับท่าทางของพวกคาวบอย
เหตุการณ์นี้ทำให้อสูรเกล็ดเงินรู้สึกกระวนกระวายใจ เพราะพลังงานบางส่วนในร่างกายของมันถูกระบายออกไปในระหว่างที่มันได้ทำการโจมตี มันจึงส่งเสียงร้องคำรามเพื่อพยายามข่มขู่คู่ต่อสู้ แต่ร่างของมันยังคงถอยหลังอย่างต่อเนื่องราวกับว่ามันกำลังหาโอกาสที่จะหลบหนี
แน่นอนว่าฮาซี่ย่อมไม่ปล่อยเหยื่อให้หลบหนีไป เขาจึงทำการสะบัดข้อมืออย่างกะทันหันและทำให้เชือกสีดำพุ่งออกไปด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า
ตูม!
โลหะแหลมที่อยู่ปลายเชือกเจาะเข้าไปในร่างของอสูรเกล็ดเงินอย่างแม่นยำ และเชือกสีดำนี้ก็ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมที่ทำให้ฮาซี่สามารถดูดซับพลังงานจากร่างของอสูรเกล็ดเงินได้โดยตรง
ในเวลาเดียวกันอสูรเกล็ดเงินก็หยุดนิ่งคล้ายกับว่ามันต้องมนต์สะกด ซึ่งในระหว่างที่มันกำลังถูกดูดซับพลังงานออกไปมันก็ไม่สามารถที่จะเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านได้เลย
เชือกเส้นสีดำค่อย ๆ ถูกเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับว่าสีของมันถูกย้อมไปด้วยเลือด ซึ่งในระหว่างนั้นร่างของอสูรเกล็ดเงินก็ค่อย ๆ เหี่ยวเฉาลงจนทำให้มันแทบที่จะไม่เหลือเรี่ยวแรงในการพยุงร่างกายของตัวเองเอาไว้ได้
ในเวลาเดียวกันผิวของฮาซี่ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง แม้แต่กล้ามเนื้อบนร่างกายของเขาก็ดูเหมือนกับจะขยายขนาดมากขึ้นกว่าเดิม โดยในขณะนี้ผลลัพธ์ของการต่อสู้ได้แสดงออกมาแล้ว เพราะอสูรเกล็ดเงินไม่เหลือเรี่ยวแรงเอาไว้ใช้ในการเคลื่อนไหวเลยด้วยซ้ำ
“เชือกสีดำในมือของเขาช่วยให้เขาสามารถดูดซับพลังงานได้อย่างรวดเร็ว และมันก็ดูเหมือนกับว่าเขาจะสามารถดูดเลือดของศัตรูเข้าไปได้ในเวลาเดียวกันด้วย เชือกเส้นนั้นมันคืออาวุธอะไรกันแน่?” อันธอุทานขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว
อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยยังคงเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย ราวกับว่าเขาไม่สนใจฉากที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า
“ทำไมนายถึงไม่ลงมือตอนนี้ล่ะ? ฮาซี่กำลังมุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่อสูรเกล็ดเงิน ถ้าหากว่านายลงมือตอนนี้เขาก็อาจจะไม่ทันได้มีเวลาตั้งตัว” อันธกล่าวแนะนำ
“ไม่ ฉันจะปล่อยให้เขาดูดกลืนพลังงานของอสูรเกล็ดเงินเข้าไป และยิ่งเขาดูดพลังงานเข้าไปมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งเข้าใกล้ความตายมากขึ้นเท่านั้น” เซี่ยเฟยส่ายหัวพร้อมกับกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา
“ทำไมนายถึงทำแบบนั้นล่ะ? ปกติยิ่งฮาซี่ดูดซับพลังงานเข้าไปได้มากเท่าไหร่มันยิ่งทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเดิมนะ” อันธพูดขึ้นมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
เซี่ยเฟยยังคงนิ่งเฉยรอดูสถานการณ์ต่อไป ขณะที่ขนอุยก็ยังคงส่งเสียงขู่คำรามออกมาเบา ๆ เช่นเดิม
ขนอุยไม่ได้สนใจว่าอสูรเกล็ดเงินจะตายหรือเปล่า แต่สิ่งที่มันกำลังสนใจคือกลิ่นอายอันน่าขยะแขยงบนร่างของฮาซี่ที่กำลังเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นมามากขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อเวลาผ่านไปร่างของอสูรเกล็ดเงินก็เหี่ยวเฉาคล้ายกับมันเป็นซากมัมมี่ที่มีความยาวมากกว่า 1 กิโลเมตร
ทันใดนั้นเองชายหนุ่มที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดก็เริ่มทำการเคลื่อนไหว และเวลาที่เขาเลือกลงมือคือช่วงเวลาที่ฮาซี่กำลังดูดซับพลังงานจนเสร็จ ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่เขามีความแข็งแกร่งมากที่สุด
***************