SGS บทที่ 135 – เทียนเกอร์ที่แตกตื่นล่ะ!
SGS บทที่ 135 – เทียนเกอร์ที่แตกตื่นล่ะ!
เรื่องนี้จะว่าพวกเขาเชื่อคนยากก็ไม่ถูกเสียทีเดียว
ต้องรู้ก่อนว่าการที่เฟยเฟยเป็นแรงค์7ได้ด้วยอายุเพียงเท่านี้ก็เรียกได้ว่ายอดอัยจริยะแล้ว ต่อให้กวาดตามองทั่วทวีปก็ใช่ว่าจะมีอัยจริยะระดับนี้เยอะนัก!
แล้วในเมืองบาฮาลเล็กๆนี่ กว่าที่พวกเขาจะทำใจเชื่อเด็กอายุ20กว่าปีเป็นแรงค์7ได้ก็ยากแล้ว แต่นี่จะบอกว่าสาวน้อยที่ดูยังไงก็ยักเด็กมากๆเป็นแรงค์8?
‘จะเป็นไปได้ยังไง’ ประโยคนี้ลอยขึ้นมาในหัวทุกคนทันที นี่ทำให้วู่หยานกับฮินางิคุยิ้มอย่างแหยๆ
“ทะ...ท่านเฟยเฟยพูดว่าพ..พวกเธอปะ...เป็นผู้เชี่ยวชาญแรงค์8?.....” รอยยิ้มที่ดูอัปลักษณ์แบบสุดๆปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าเทียนเกอร์ เสียงที่ใช้ถามก็ค่อนข้างสั่น
แทบทุกคนต่างเอียงหูรอฟัง ด้วยความกลัวที่ว่าตัวเองจะฟังผิดไปสองสามคำ
เฟยเฟยมองมิโคโตะแล้วหันไปมองอิคารอส แล้วฉีกยิ้มขึ้นมา “การที่สามารป้องกัน ‘จันทราย้อนกลับ’ ของฉัน ขณะที่กำลังปะทะกับวิชาของคนอื่นอยู่ได้ และยังสามารถปลีกตัวมาช่วยฉันกับหยานได้โดยไม่เสียเหงื่อสักหยด นอกจากอาจารย์ฉันแล้ว ฉันก็ไม่เชื่อว่าจะมีแรงค์7คนไหนทำได้!”
คำพูดของเฟยเฟยเรียกได้ว่าชัดมาก ไม่มีแรงค์7คนไหนทำได้แต่อาจารย์เธอทำได้ แต่อาจารย์เธอที่เป็นผู้นำตระกูลโลลิและเป็นผู้เชี่ยวชาญแรงค์8 หรือจะพูดง่ายๆก็คือเฟยเฟยได้ตอบคำถามแบบอ้อมๆไงล่ะ!
สองสาวตรงหน้าพวกเขา เป็นแรงค์8จริงๆ!
ทุกคนสูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บ มองดูวู่หยานแล้วอิคารอสที่ดูอายุเท่าๆกันกับเฟยเฟย และอีกคนที่ยังดูยังก็แค่ยังเป็นเด็กวัยรุ่น มิโคโตะ นี่ทำให้สามัญสํานึกที่รู้มาตลอดชีวิตของพวกเขาพังทลาย
แรงค์8ไม่ใช่ผักปลา! ที่สามรถเห็นได้ตามตลาดทุกวัน! ดูได้จากพ่อของลูลู่ ผู้นำตระกูลตระกูลโลลิยังเป็นแรงค์8 จากจุดนี้จะเห็นได้ว่า แรงค์8สามารถนั่งเก้าอี้ผู้นำตระกูลอันดับหนึ่งของจักรวรรดิได้เลย สามารถจินจนาการได้เลยว่า แรงค์8ในจิตใจผู้คนนั่นยิ่งใหญ่ขนาดไหน
ที่อิคารอสฆ่าแรงค์8สามคนก่อนหน้านี้ ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะพูดว่าแรงค์8ไม่ใช่นั่นหาง่าย พวกนั้นเป็นหนึ่งในคนจำนวนนับไม่ถ้วนที่สามารถก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้ได้โดยพึ่งทั้งโชคและพลัง แล้วยังเห็นได้จากที่ล่าสมบัติจากกองกำลังทั้งหมดยังมีแรงค์8แค่3คนเท่านั้น นี้แหละแรงค์8! หายากและล้ำค่า!
ดังนั้น พวกเขาจึงรู้สึกเหลือเชื่อทำตัวไม่ถูก เพราะตัวตนระดับนั้นตอนนี้มาอยู่ตรงหน้าแล้ว โดยเฉพาะเกรย์กับเทียนเกอร์ที่แขนสั่นพับๆ เห็นได้เลยในใจทั้งสองไม่ได้สงบเลย
คนหนึ่ง รู้สึกภูมิใจที่ผู้เชี่ยวชาญแรงค์8ถึงสองคนได้มาพักที่บ้านตนเองหลายวัน แล้วยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกสาวตัวเองด้วย สวรรค์เอ็นดูตระกูลมิดเดอร์เรียชัดๆ!.......
อีกคนหนึ่ง รู้สึกตื่นกลัว กลัวเพราะก่อนหน้านี้ตนเองได้ปากหมาไป ไม่เพียงแค่คิดจะฆ่าวู่หยาน แต่ยังคิดจะแย่งชิงสาวๆพวกนี้มาเป็นเมียด้วย.......
ผู้หญิงที่ข้าเล็งไว้......เป็นแรงค์8?
คิดถึงตรงนี้ เหงื่อเย็นเยียบก็ได้ไหลเต็มหน้า สำหรับเขานั่นไม่ได้กลัววู่หยานเท่าไหร่ เพราะถึงแม้จะเป็นแรงค์7 แต่เขาสามารถพึ่งใบบุญที่ชื่อตระกูลโลลิได้ แต่ถ้าเป้าหมายเปลี่ยนไปเป็นแรงค์8 แม้แต่คิดตัวมันยังไม่กล้าเลย ต่อให้กล้าตระกูลโลลิก็ไม่มีทางยอมช่วยแน่
ต่อให้เป็นตระกูลอันดับหนึ่งของจักรวรรดิ ตระกูลโลลิก็ยังมีผู้เชี่ยวชาญแรงค์8น้อยชนิดใช้มือข้างเดียวนับยังได้เลย แล้วเพื่อตัวตนระดับเขา ไปยั่วยุแรงค์8 นี่ต่อให้โง่แค่ไหนยังรู้เลยว่าต้องเลือกอะไร
ตัวตันที่แม้แต่ตระกูลอันดับหนึ่งยังไม่ต้องการไปหาเรื่อง แล้วถ้าเขา เทียนเกอร์ ยังกล้านี่....ไม่ใช่เขาเหนื่อยที่จะมีชีวิตหรอกเหรอ?
หวาดกลัว เทียนเกอร์ทำได้แค่พยายามลบตัวตนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่ออีกฝ่ายจะลืมตัวเองไป
นอกจากเขาแล้ว ยังมีอีกคนที่มีความคิดคล้ายๆกัน ฮิวจ์ นั่นเอง!
แน่นอนว่าเขาไม่ได้หวาดกลัว เพราะถึงแม้แรงค์8จะหาเรื่องไม่ได้ก็จริง แต่อีกฝ่ายก็ทำได้อะไรเขาไม่ได้ เพราะเขายังมีบารมีของอาจารย์คุ้มหัวอยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวเลย เขาเพียงแค่อิจฉาสุดๆ.......
ทำไมวะ? ทำไมไอ้ชั้นต่ำนั่นถึงได้รับความรักจากสองสามงามแรงค์8?
มิโคโตะ ถึงแม้จะอายุน้อยกว่าเขา แต่ในด้านเสน่ย์นั่นเรียกได้ว่าเต็มสิบ อีกคนก็แก่กว่าเขาแค่ไม่กี่ปี เมื่อเทียบกับคุณหนูแล้วยังสวยกว่า อิคารอส นี่ทำให้ฮิวจ์อิจฉาอย่างถึงที่สุด
เขาจะมองไม่ออกได้ยังว่า สองสาวแรงค์8มีความรู้สึกที่ไม่ธรรมดากับเจ้าสวะนั่นนะ!
ทำไมผู้หญิงที่ทั้งสวยและทรงพลังถึงได้ชอบมันกัน? ทำไม....ทำไมไม่ใช้ฉันคนนี้?!!
ด้วยความคิดเหล่านี้ ทำให้ความโกรธเกลียดที่มีต่อวู่หยานได้พุ่งปรี๊ดไปถึงระดับใหม่ แน่นอนว่าไม่ว่าเขาจะมีความรู้เกลียดแค่ไหน วู่หยานก็ไม่ได้สนใจเลย........
“แรงค์8?! สุดยอดเลย!” ลูลู่มองมิโคโตะกับอิคารอสด้วยแววตาที่เปร่งประกายวาววับราวดวงดาว เธอไม่ได้มีความคิดซับซ้อนเหมือนคนอื่น เธอเพียงแค่ว่าอีกฝ่ายสุดยอดเท่าพ่อของเธอ!
“เน่ เน่ คุณพี่สาวคนนี้ แล้วก็คุณน้องสาวคนนั้น พวกเธอฝึนฝนกันยังไงเหรอ? คนหนึ่งแก่กว่าฉันนิดหน่อย กับอีกคนยังเด็กน้อยกว่าฉันอีก แต่ตอนนี้พวกเธอกลับสุดยอดขนาดนี้ล่ะ!” ลูลู่ที่นัยน์ตาเต็มไปด้วยดวงตามองไปที่สอง แล้วเอ่ยปากถามรัวๆ
“อะ..ฮะฮ่าฮ่า กะ...ก็แค่ฝึกนิดหน่อยแล้วโชคดีเอง.......”
ถึงแม้จะไม่พอใจเล็กน้อยที่โดนเรียกว่า ‘เด็กน้อย’ แต่ท่าทางของลูลู่ตอนนี้ดันไปดูเหมือนกับคุณรุ่นน้องผมทวินเทลที่ชอบกระโดดเข้ามานอนบนเตียงเธอทุกคืน ทำให้มิโคโตะตัวสั่น มิโคโตะจึงรีบตอบแบบขอไปที
แน่นอนว่าไอ้คำพูดของทำให้ทุกคนที่ได้ยินต่างเผลอยกคิ้วขึ้นกันหมด
เฟยเฟยเองก็รู้สึกสนใจอิคารอสแล้วก็มิโคโตะมาก อีกฝ่ายมีพรสวรรค์ที่เหนือกว่าตน เธอก็ไม่ได้รู้สึกอิจฉาอะไร เธอรู้สึกสนใจสองสามที่สามารถฝึกไปถึงระดับเดียวกับอจารย์ตัวเองก็เท่านั้น
ทว่าเมื่อได้ยินคำถามของลูลู่ แล้วคำตอบของมิโคโตะ เฟยเฟยก็นึกขึ้นมาได้ว่ากับวิธีการฝึกแล้วถือเป็นสุดยอดความลับ แน่นอนว่าย่อมไม่มีทางบอกง่ายๆ ดังนั้นเธอจึงไม่ถามอะไร เพียงแต่ในใจเธอนั้นได้ตัดสินใจแล้วว่า ในอนาคตตัวเองจะตั้งใจฝึกให้มากกว่านี้!
ได้ยินคำตอบของมิโคโตะ ลูลู่ก็ทำได้แค่บุ่ยปากน่ารักของเธอ จากนั้นหันไปมองฮินางิคุที่ยืนใกล้ๆกัน “ใช่แล้ว หยานสุดยอดมาก เด็กน้อยคนนี้ก็สุดยอดเหมือนกัน พี่สาวคนนั้นเองก็สุดยอดสุดๆ งั้นสาวน้อยคนนี้เองก็คงไม่ใช่ว่าเป็นแรงค์8เหรอ?”
คำพูดพวกนี้ เป็นเพียงแค่มุขที่ลูลู่พูดขึ้นมาขำๆ ทว่าแต่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าคำพูดพวกนี้ ทำให้หัวใจของทุกคนที่ฟังกระตุก สายตาที่ใช้มองฮินางิคุก็เริ่มเปลี่ยนไป.......
เห็นแบบนี้ ฮินางิคุทำได้แค่ยิ้มอย่างขมขื่น “ฉันไม่ได้สุดยอดเหมือนมิโคโตะกับอิคารอส ฉันเป็นแค่แรงค์7!”
แรงค์7อีกคน.....
เฟยเฟยยิ้มขมๆ แต่คนอื่นนั้นรู้สึกชาตั้งแต่หัวจรดเท้า เหตุการณ์ในวันนี้ทำให้พวกเขาเริ่มกลับมาคิดว่าชีวิตที่ผ่านมาของตัวเองมันช่างสูญเปล่าดีแท้........
สำหรับเทียนเกอร์กับฮิสจ์ รายนั้นก็อิจฉาตามเคย......
วู่หยานที่นั่งอยู่บนพื้น มองฝูงชนที่ตกตะลึงกับพลังของสาวๆ เขาก็ถอนหายใจปลงๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆว่า
“เอาล่ะๆ เลิกยืนคุยกันได้แล้ว ฉันไม่อยากนั่งคุยกันอยู่ที่นี่นะ.......”
อิคารอสมีปฏิกิริยาขึ้นมาทันที เธอรีบพยุงตัววู่หยาน ฮินางิคุกับมิโคโตะก็รีบเดินมาข้างตัววู่หยาน เห็นแบบนี้ถ้าพวกเขายังไม่รู้ว่าวู่หยานเป็นผู้นำกลุ่ม สมองพวกเขาคงมีปัญหาแล้วล่ะ
นี่ทำให้หัวใจของเทียนเกอร์เย็นเชียบ มองดูคนที่ตนเองคิดจัดการ เทียนเกอร์กลัวหัวหด เขาค่อยๆก้าวเท้าหนีอย่างเงียบๆโดยคิดจะ ‘จากไปโดยไม่บอกใคร’
แต่วู่หยานที่ได้อิคารอสช่วยพยุงดันไปเห็นเข้าพอดี ดังนั้นในหัวเขาจึงคิดขึ้นมาทันที “อ่ะ! ใช่แล้วๆ หัวหน้าเทียนเกอร์ ที่นายอุตสามาถ่อหาพวกเราถึงที่นี่ ไม่ทราบว่ามีอะไรจะชี้แนะเหรอ?”
สายตาทุกคนหันไปมองตัวเทียนเกอร์อย่างพร้อมเพรียง ทำให้เทียนเกอร์ตัวแข็งกึก ภายใต้สายตาของคนนับพัน มันก็ค่อยๆพูดอย่างติดๆขัดๆว่า “มะ...ไม่มี...ไม่มีอะไรละ...เลย แค่มาหะ...หา....”
“แหม แค่มาหาสินร้า~~” รอยยิ้มแปลกๆฉายขึ้นมาบนใบหน้าของวู่หยาน “งั้นฉันคงต้องขอเชิญหัวเทียนเกอร์ มานั่งจับเข่าคุยกันซะหน่อยแล้วสิ!”
“มะ...ไม่ ไม่เป็นไร....พะ...พอดีข้ามีธุระ ขะ...ขอตัวก่อน!!” พูดเสร็จก็หันหลังวิ่งโดยไม่คิดหันกลับมามองเลย.......
วู่หยาน ฮินางิคุ มิโคโตะ ลูลู่ เฟยเฟย แล้วก็ เกรย์ หันมามองหน้ากันจากนั้นก็หัวเราะเสียงดัง