เล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 2 บทที่ 30: เอนเดอร์แมนและเขาวงกตใต้น้ำ
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
เล่มที่ 2 บทที่ 30: เอนเดอร์แมนและเขาวงกตใต้น้ำ
.
.
(
(เกรซ)
)
“เอ่อ...” ในขณะที่มองไปยังกำแพงหินสูงตระหง่านรอบตัว ข้าก็สังเกตเห็นว่าไม่มีฐานที่มั่นที่สามารถใช้เป็นหลักในการกระโดดได้
ข้าเปล่งเสียงออกมาด้วยความไม่พอใจ
เนื่องจากมีน้ำปริมาณมาก เขาวงกตนี้จึงมีความชื้นสูงพอสมควร
เมื่อหายใจเข้าไป ปอดของข้าก็จะรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยเช่นกัน
มันอึดอัดมาก
ข้าเอื้อมมือไปหยิบไม้พายและเริ่มพาย
…เมื่อข้าดึงไม้พาย น้ำบางส่วนบนไม้พายก็กระเด็นขึ้นมาและหยดน้ำสองสามหยดตกลงบนเสื้อผ้าของข้า ทำให้อารมณ์ของข้าแย่ลงไปอีก
“เฮ้ย!! เจ้า! มีกุญแจหรือเปล่า?” ชายคนหนึ่งจ้องมองมาทางข้า
ข้าไม่สนใจเขาและส่งเขาบินไปพร้อมกับระเบิดเวทมนตร์ ทำให้เขาสลบทันที
ฟู้มม
ฟู้มม
ฟู้มม
...พอแล้ว ข้าเกินทนแล้ว ข้าขอใช้วิธีอื่นในการเคลื่อนไหวดีกว่า
ถ้าข้าใช้เวทมนตร์แห่งลมเพื่อบินไปรอบๆ เขาวงกต…. มันคงจะใช้พลังงานเวทย์มนตร์มากเกินไป แถมไม่ได้ผลในระยะยาวด้วย
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าข้าใช้เวทมนตร์ดินแทนล่ะ?
"โอมมม──" ข้าเริ่มร่ายมนต์แห่งดิน แต่ก็หยุดกลางคันเนื่องจากอะไรบางอย่างที่กำลังรบกวนข้า
ข้าหลับตาลงและเขย่า【ดวงตาแห่งจุดจบ】ในมือของข้า - วอลสันบอกว่านี่คือชื่อของดวงตาที่ดูเหมือนอัญมณี
ข้าเห็นโลกที่สร้างจากเวทมนตร์
พลังงานเวทย์มนตร์ในเขาวงกต วิญญาณลอยไปทั่วและพลังงานเวทย์มนตร์ที่อาศัยอยู่ในทุกหนทุกแห่ง
ข้ารู้สึกเสมอว่าโลกที่สร้างจากเวทมนตร์นั้นสวยงามมาก วอลสันบอกว่าสิ่งนี้เรียกว่าโลกภายใน
ธาตุน้ำที่ค่อนข้างน่ารังเกียจเป็นลูกแก้วสีฟ้าเรืองแสงแบะปรากฏขึ้นทุกที่ พวกมันไม่เป็นมิตรกับข้า
ข้ายังคงมองต่อไป จากนั้นข้าก็เห็นเวทย์มนตร์ไหลอยู่บนผนัง
การไหลของพลังเวทย์ที่หนามากจะปกป้องกำแพง และเมื่อข้าพยายามเปลี่ยนมันด้วยเวทมนตร์ดิน การเปลี่ยนแปลงจึงได้ถูกต่อต้านอย่างมาก
…การเปลี่ยนกำแพงด้วยเวทมนตร์ดินใช้มานามากเกินไป…ข้าคงต้องหาแผนที่ดีกว่านี้
"%^*%*^%*&!!"
...น่ารำคาญ
เมื่อข้าอยู่ในสภาพนี้ เสียงของโลกแห่งความเป็นจริงจะสามารถได้ยินได้อย่างคลุมเครือ และมันจะทำให้ข้าปวดหัวมาก
ด้วยการใช้วิสัยทัศน์โลกภายในของข้า ข้าจึงเห็นบางคนเข้ามาใกล้ข้าด้วยเรือของพวกเขา พลังเวทย์มนตร์สีเขียวที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของพวกเขา ข้าเห็นแฟรี่แห่งลมกำลังมอบเวทมนตร์ให้กับพวกเขาอยู่
คงจะเป็น 【ใบมีดลม】 สินะ
…โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก ข้าก็ส่งใบมีดลมคืนกลับไป
ใบมีดลมของข้าฟันเรือของเขาขาดเป็นสองท่อน ทำให้เขาจมลงไปในน้ำและยกเลิกการร่ายเวทมนต์ของเขาทันที
หลังจากนั้น ข้าก็มุ่งความสนใจไปที่สถานการณ์ปัจจุบันของข้าต่อ
ถ้าข้าไม่สามารถใช้เวทมนตร์ดินได้... เอาล่ะ
ไม่มีกฎที่บอกว่าข้าไม่สามารถทำลายเขาวงกตได้สักหน่อยใช่ไหม?
ข้าเอื้อมมือไปแตะกำแพงหิน
ตามมือของข้า เส้นแบ่งที่เปล่งแสงสีม่วงได้แทงเข้าไปในการไหลของเวทมนตร์โดยรอบ
ครืนน!
ในไม่ช้า ข้าก็สามารถบังคับใช้ลูกบาศก์ตัดการไหลของเวทมนตร์ได้
“...” ข้าดึงลูกบาศก์ออกจากผนังและหลังจากห่อพลังเวทของข้า มันก็ลอยอยู่ข้างๆ ตัวข้า
มันยังไม่พอ ข้าต้องตัดมันออกอีกสองสามอัน
ข้าเอามือแตะก้อนหินอีกครั้ง
การไหลของพลังงานเวทย์มนตร์นั้นแข็งแกร่งมาก แต่มันไม่มีความต้านทานต่อพลังของข้าเลย
มันทำให้ข้าสามารถแยกมันออกจากกันได้อย่างอิสระ
นี่คือความสามารถพิเศษของข้า ทักษะที่ข้าได้เรียนรู้เมื่อข้าระดับยี่สิบห้า
【ถือบล็อค】
ข้าสามารถตัดอะไรก็ได้เป็นก้อนๆ ผ่านมือของข้าและพกติดตัวไปด้วยได้
ไม่ว่ามันจะแข็งแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นเพชรหรือดิน มันก็เหมือนกันทุกอย่าง มันจะกลายเป็นลูกบาศก์เมื่อสัมผัสกับ "เส้นตัด" ของข้า
ทุกอย่างเป็นไปได้ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ข้าไม่สามารถเปลี่ยนของเหลวให้เป็นลูกบาศก์ได้ ซึ่งน่าเสียดายนัก
ตอนแรกข้าสามารถพกลูกบาศก์ติดตัวได้ครั้งละหนึ่งลูกบาศก์ แต่หลังจากฝึกมาครึ่งปี ข้าก็สามารถพกได้ประมาณยี่สิบลูกบาศก์
วอลสันเรียกทักษะนี้ของข้าว่า【การยึดครอง】
เมื่อใช้มัน วัตถุจะถูกข้าควบคุมและข้าก็สามารถทำให้มันบินไปรอบๆ ได้ มันเป็นความสามารถที่น่าสนใจนัก
วอลสันกล่าวว่านี่เป็นความสามารถโดยธรรมชาติของเผ่าพันธุ์【เอนเดอร์แมน】ของข้า
...ว่าแต่ทำไมวอลสันถึงรู้มากมายถึงเรื่องเผ่าพันธุ์ที่น่าพิศวงของข้ากัน?
…มันไม่สำคัญหรอก เอาเวลามาตัดเจ้ากำแพงด้านหน้าข้าดีกว่า
สิบห้า
สิบหก
สิบเจ็ด
สิบแปด
สิบเก้า
ยี่สิบ
เรียบร้อย
ลูกบาศก์ยี่สิบก้อนที่สร้างขึ้นจากพลังงานเวทย์มนตร์ลอยอยู่รอบตัวข้า
ข้าใช้เก้าอันในการประกอบเข้าด้วยกันเป็นพื้นเหยียบ
จากนั้นข้าก็กระโดดขึ้นไปบนนั้น
อืม เจ้าสิ่งนี้จะเป็นพาหนะใหม่ของข้า
ปริมาณของธาตุน้ำในเขาวงกตนี้สูงเป็นพิเศษ
ดังนั้นการใช้เวทย์มนตร์ของธาตุอื่นๆ ในที่นี่จะกินมานามากขึ้น
เพื่อเป็นทางเลือกในการโจมตี ข้าจะใช้ลูกบาศก์ที่เหลืออีกสิบเอ็ดลูกที่ข้า【ยึดครอง】เป็นกระสุนปืนใหญ่
ข้าหลับตาลงอีกครั้งและเขย่า 【ดวงตาแห่งจุดจบ】
มีกลุ่มพลังเวทย์มากมายหลายสีอยู่ข้างหน้า
คงมีคนสินะ
หากอยู่ในระยะใกล้ ไม่มีสิ่งใดที่หลุดรอด【ดวงตาแห่งจุดจบ】ได้ วอลสันให้สิ่งที่น่าทึ่งกับข้ามากจริงๆ
ส่วนกุญแจ... อา ข้าเห็นบางอย่างที่มีพลังเวทย์พิเศษห่อหุ้มอยู่ มันถูกแขวนไว้พลังเวทย์กองหนึ่ง
"%$*$&%&*%^!!!"
"%(%^^%^*%*%!!!"
"!!!"
ข้าลืมตาขึ้นมา
จากนั้นข้าก็โยนลูกบาศก์ลอยรอบตัวข้าไปใส่คนที่อยู่ด้านล่าง
เจ้าก้อนสี่เหลี่ยมจัตุรัสนี้ไม่สามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับพวกเขาได้ แต่ก็เพียงพอที่จะทำลายเรือที่พวกเขาใช้อยู่
ลูกไฟและลูกธนูสองสามลูกได้ลอยสวนกลับมา
ข้าใช้ลูกบาศก์พลังงานเวทย์มนตร์ลอยบางส่วนเพื่อป้องกันพวกมัน
หากไม่นับลูกบาศก์สิบเอ็ดลูกที่ต้องใช้เพื่อเคลื่อนที่ ที่เหลือก็มีมากพอจะใช้เป็นเครื่องมือในการโจมตีและป้องกันแล้ว
ปัง!
ทางนั่น ข้าจัดการหนีบคนที่ถือกุญแจไว้ระหว่างสองลูกบาศก์และพานางบินมาหาข้า
"อึกกก... นี่มันเวทมนตร์อะไรกัน?"
“...【 เวทมนตร์บล็อค】”
ข้าเอื้อมมือไปหยิบกุญแจและกำลังจะโยนนางกลับลงไปในน้ำ ทว่าข้าก็ได้ยินเสียงเบื้องล่างอันแสนวุ่นวาย
อา มอนสเตอร์ปลาพวกนั้น
"...ปีนขึ้นไป"
ข้าใช้ลูกบาศก์เพื่อรวบรวมซากเรือทั้งหมดเข้าด้วยกันและเปลี่ยนเป็นฐานที่มั่นให้ทุกคนปีนขึ้นไป
ดูเหมือนว่ามันจะไม่เสถียรนัก ดังนั้นข้าจึงทิ้งสี่เหลี่ยมจัตุรัสทั้งห้าก้อนไว้ที่นี่และรวมมันเข้าด้วยกันกับผนังของเขาวงกต ข้าสามารถตัดลูกบาศก์อีกอันได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
…แถมข้าก็ไม่อยากจะคัดพวกเขาออกจากการแข่งขันด้วย หากพวกเขาถูกคัดออก พวกเขาจะไม่ได้คะแนนหน่วยกิตสำหรับการแข่งขันเลย
ตอนนี้ข้าต้องไปที่แท่นบูชาตรงกลาง
ในการแข่งขันนี้ ผู้เข้าร่วมทุกคนสามารถร่วมมือกันเพื่อเก็บกุญแจได้
ดังนั้นจึงสามารถมีผู้ชนะได้หลายคน
ในการทำเช่นนั้น พวกเขาจะแบ่งหน่วยกิตสำหรับชัยชนะกัน แต่ข้าหาได้สนใจเลย
ข้าแค่อยากจะเอาชนะเมล่อน
ต้องชนะให้ได้ ต้องแสดงให้วอลสันเห็นถึงความแข็งแกร่งของข้า