[ตอนฟรี] ตอนที่ 52 : สามตระกูลจักรพรรดิ
หลังจากจบเรื่องของจวินว่านจี๋ ข่าวก็แพร่กระจายไปทั่วเมืองหนานเทียน
การลงมือของจวินเซียวเหยาที่สยบลำดับห้าและทำให้เขายอมจำนนถูกสรรเสริญเยินยออย่างกว้างขวาง
แม้นี่จะถือว่าเป็นปัญหาภายในของตระกูลจวิน แต่มันก็เผยให้เห็นเสี้ยวหนึ่งของความแข็งแกร่งของจวินเซียวเหยา
ในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของเมืองหนานเทียน ภายในศาลาอันวิจิตรงดงาม ปรากฏกลุ่มผู้บ่มเพาะรุ่นเยาว์กำลังรวมตัวกัน
คนกลุ่มนี้คือรุ่นเยาว์จากหลากหลายขุมกำลังและกลิ่นอายของพวกเขาไม่อ่อนแอเลย
อย่างไรก็ตามท่ามกลางคนเหล่านั้น ปรากฏชายหนุ่มนั่งอยู่ตรงกลางราวกับดวงดาวที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยดวงจันทร์
ชายหนุ่มคนนี้สวมชุดคลุมทองคำ หน้าตาหล่อเหลา ผิวพรรณผ่องใสราวกับหยก
แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตามากที่สุดคือแขนขวาของเขา ซึ่งดูเหมือนจะมีละอองแสงศักดิ์สิทธิ์พร่างพราว
หากสังเกตอย่างระมัดระวัง จะเห็นได้ว่ามันมีอักขระศักดิ์สิทธิ์ประทับอยู่และหมุนวนบนแขนกระดูกของเขา
ชายหนุ่มคนนี้จะเป็นใครอื่นได้นอกจากจีเสวียน อัจฉริยะอันน่าภาคภูมิแห่งตระกูลโบราณ ตระกูลจี
ในงานเลี้ยงตอนนี้ รุ่นเยาว์คนหนึ่งยิ้มอย่างประจบประแจงจีเสวียน “การเข้าร่วมคลังสมบัติลับจ้าวเทวะหยวนเทียนในยามนี้ ข้าคิดว่าพี่ชายจีเสวียนควรจะได้เป็นผู้นำ”
“ถูกต้อง พี่ชายจีเสวียนมีฉายาว่านักบุญน้อย และยังเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งสถาบันเซิ่งหลิง สถานะของอัจฉริยะคนอื่นเทียบกับท่านไม่ได้เลย”
รุ่นเยาว์หลายคนต่างประสบจบสอพลอ เลียแข้งเลียขา
ลำพังแค่สถานะของจีเสวียน มันก็เพียงพอให้พวกเขาประจบประแจงแล้ว
เพราะจีเสวียนไม่ได้เป็นแค่อัจฉริยะในตระกูลโบราณ ตระกูลจี
แต่เขายังเป็นถึงบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งสถาบันเซิ่งหลิง (วิญญาณศักดิ์สิทธิ์) ด้วยเช่นกัน
สถาบันเซิ่งหลิงคือสถาบันที่มีรากฐานมรดกล้ำลึกในดินแดนอมตะหวงเทียน ซึ่งส่งต่อกันมาเป็นเวลานาน
ชายหนุ่มผู้ภาคภูมิที่จบจากสถาบันนี้ต่างก็กระจัดกระจายไปทั่วขุมกำลังหลักในโลกกว้าง
ถึงขนาดที่ตระกูลโบราณและราชวงศ์อมตะหลายแห่งยังต้องส่งศิษย์รุ่นเยาว์มาฝึกฝนในสถาบันเซิ่งหลิง
ในสถาบันเซิ่งหลิง มีแค่ศิษย์ที่โดดเด่นที่สุดเท่านั้นที่จะได้รับสถานะบุตรศักดิ์สิทธิ์
ความสามารถของจีเสวียนที่ได้รับสถานะนี้ก็เป็นที่ประจักษ์ถึงพรสวรรค์และความแข็งแกร่งอันท่วมท้นกับคนในรุ่นเดียวกันแล้ว
สายตาของรุ่นเยาว์บางคนก็แอบมองที่แขนขวาของจีเสวียนที่กำลังเรืองแสงจางๆ เช่นกัน
ลือกันว่าแขนขวาของจีเสวียนได้ผสานเข้ากับชิ้นส่วนกระดูกมือของราชานักบุญ
ในแดนศักดิ์สิทธิ์ ราชานักบุญนั้นทรงพลังยิ่งกว่านักบุญธรรมดา
เรียกได้ว่าราชานักบุญก็เพียงพอแล้วที่จะดูแคลนคนจากทั่วทุกทิศและแผ่ความน่าเกรงขามไปทั่วโลก
และจีเสวียน ผู้ที่อยู่เพียงขอบเขตหวนคืนหนึ่งเดียว ตอนนี้ถึงกับผสานเข้ากับชิ้นส่วนกระดูกมือของราชานักบุญ
ความแข็งแกร่งของเขายิ่งสุดยอดเพียงไหน
แม้ว่าด้วยระดับตอนนี้ เขาจะยังไม่สามารถดึงพลังจากกระดูกราชานักบุญได้ถึงหนึ่งในสิบ
แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้เขาเฉิดฉายท่ามกลางคนรุ่นเดียวกันแล้ว
และมันก็เพราะชิ้นส่วนกระดูกมือของราชานักบุญนี้เองที่ทำให้เขาได้รับฉายาว่านักบุญน้อย
“แต่ว่า ถ้าพูดถึงเรื่องของสถานะแล้ว มันทำให้ข้านึกถึงบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินเลยแฮะ” รุ่นเยาว์คนหนึ่งเอ่ย
ทันทีที่ประโยคนี้หลุดออกมา งานเลี้ยงอันมีชีวิตชีวาพลันเงียบลง
ร่องรอยบรรยากาศหดหู่เริ่มแผ่ออก
เมื่อพวกเขาเข้าเมืองหนานเทียนทุกวันนี้ พวกเขาจะได้ยินเรื่องระหว่างจวินเซียวเหยากับจวินว่านจี๋ตลอด
สำหรับรุ่นเยาว์เหล่านี้ ไม่ต้องพูดถึงจวินว่านจี๋เลย ลำพังแค่จวินจ้างเจี้ยนก็เป็นตัวตนที่พวกเขาทำได้แค่แหงนหน้ามองแล้ว
และจวินเซียวเหยา ผู้ที่สามารถสยบจวินว่านจี๋ได้อย่างง่ายดาย ราวกับดวงตะวันและจันทราบนฟากฟ้าสำหรับพวกเขา มันสูงเกินจะไขว่คว้า
บางคนแอบสังเกตปฏิกิริยาของจีเสวียน
พวกเขาเพิ่งจะประจบว่าสถานะของจีเสวียนสูงส่งมาก แต่เมื่อเทียบกับจวินเซียวเหยาแล้ว มันไม่เป็นอันใดเลย
สีหน้าของจีเสวียนไม่ได้เปลี่ยนอะไรมาก เขาหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาและจิบช้าๆ แต่ดวงตาของเขากลับแสดงออกอย่างลึกล้ำ
“บุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวิน….” จีเสวียนพึมพำกับตัวเอง
พูดตามตรง เมื่อเขารู้ว่าจวินเซียวเหยาปรากฏตัวในเมืองหนานเทียน จีเสวียนอยากจะประมือกับจวินเซียวเหยาจริงๆ
ไม่ใช่เพื่อสิ่งอื่นใด แต่เพื่อตระกูลเบื้องหลัง
สำหรับตระกูลโบราณแห่งดินแดนอมตะหวงเทียนแล้ว
มีคำกล่าวขานถึง สามตระกูลจักรพรรดิ มาโดยตลอด สิ่งที่เรียกว่าสามตระกูลจักรพรรดิหมายถึงสามตระกูลโบราณที่มีชื่อเสียงเกรียงไกรมากที่สุด เบื้องหลังทรงพลังมากที่สุด และมีผู้สืบทอดโดดเด่นมากที่สุด
ในสามข้อนั้น ศิษย์รุ่นเยาว์คือหนึ่งในตัวแปรที่สำคัญมากที่สุดในการประเมินว่าเป็นหนึ่งในสามตระกูลจักรพรรดิหรือไม่
ท้ายที่สุด เพียงแค่มีผู้สืบทอดที่โดดเด่น มันก็สามารถพาทั้งตระกูลโบราณผ่านการประเมินได้แล้ว
ครั้งหนึ่งตระกูลจีก็เคยเป็นหนึ่งในสามตระกูลจักรพรรดิ แต่ตอนนี้มันได้กลายเป็นตระกูลจวิน ตระกูลเจียงและตระกูลเย่ไปแล้ว
ไม่มีอะไรต้องกล่าวถึงสำหรับตระกูลจวินที่สร้างเหล่าสุดยอดหัวกะทิออกมาในจำนวนมหาศาล ลำพังแค่จวินหวูหุ่ยคนเดียวในรุ่นก่อนหน้าก็พอแล้วที่จะทำให้ตระกูลจวินครอบครองสถานะหนึ่งในสามตระกูลจักรพรรดิ
มันยังมีตัวละครหลักอย่างสิบลำดับในยุคปัจจุบัน รวมถึงพรสวรรค์ระดับปิศาจอย่างจวินเซียวเหยา
สำหรับตระกูลเจียงในตอนนี้ มันก็มีเจียงเซิ่งยีผู้ครอบครองต้นอ่อนเต๋า เจียงลั่วหลีผู้ครอบครองกายาเต๋าหยวนหลิง (ต้นกำเนิดวิญญาณเต๋า) และอัจฉริยะชั้นยอดที่มีกายาราชันอีกมากมาย
สำหรับตระกูลเย่ ไม่ต้องพูดถึงเย่ซิงหยุนและผู้ที่มีกายาราชันคนอื่นอีก ลำพังแค่การฟื้นคืนของเย่กูเฉินหรืออสูรดาบ มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ความโชคดีของตระกูลเย่ขยายยาวออกไปนานนับพันปี
เพราะเหตุนี้เองที่ทำให้จีเสวียนรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
มันไม่มียอดอัจฉริยะคนอื่นในตระกูลจีอีกแล้วหรือ?
แต่จีเสวียนไม่ใช่คนโง่เขลา เขารู้ดีว่าจวินเซียวเหยาไม่ใช่ตัวตนที่รับมือได้ง่ายๆ
แต่เขามีกระดูกของราชานักบุญและเป็นถึงอัจฉริยะระดับต้นๆ ดังนั้นจะบอกตรงๆ ว่าเขากลัวจวินเซียวเหยาก็ไม่ได้
บางคนที่สัมผัสได้ถึงอารมณ์อันไม่ถูกต้องของจีเสวียน พวกเขาจึงฝืนยิ้มและกล่าว “ฮิฮิ บุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินอะไรกันเล่า พี่ชายจีเสวียนต้องยอดเยี่ยมกว่าบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?”
“ใช่แล้ว แถมพี่ใหญ่จีเสวียนก็เป็นคนที่ยอดเยี่ยมกว่าเหล่าลำดับของตระกูลจวินอีกด้วย” ชายหนุ่มคนหนึ่งเลียแข้งเลียขา
พวกเขาไม่ได้พูดไร้สาระ
จริงๆ แล้วครั้งหนึ่งจีเสวียนก็เคยประมือกับจวินจ้างเจี้ยนมาก่อน
ในเวลานั้น เขาอาศัยระดับการบ่มเพาะที่สูงกว่าเล็กน้อยและใช้ประโยชน์จากมัน ถึงจะเอาชนะเล่ห์เหลี่ยมของจวินจ้างเจี้ยนได้
แม้ว่าความแข็งแกร่งของจีเสวียนตอนนี้จะเพิ่มมากขึ้น แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่อีกฝ่ายจะอยู่เฉย
“จวินเซียวเหยา หากเขาไม่เป็นฝ่ายเริ่มยั่วยุข้า ข้าก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปยั่วยุเขาก่อน ยิ่งไปกว่านั้น ข้าได้ค้นพบความลับบางอย่างเกี่ยวกับจ้าวเทวะหยวนเทียนในตำราโบราณที่ฉีกขาดในสถาบันเซิ่งหลิง และสิ่งนั้น...”
จีเสวียนพึมพำในใจ
เขาไม่ได้มาแบบไม่เตรียมพร้อม
เพราะครั้งหนึ่งเขาได้บังเอิญพบเข้ากับตำราโบราณฉบับหนึ่งในหอสมุดคัมภีร์แห่งสถาบันเซิ่งหลิง ซึ่งไม่ได้บรรจุไว้เพียงเหรียญตราจ้าวเทวะหยวนเทียนเท่านั้น แต่มันยังรวมไปถึงเครื่องรางโบราณด้วย
ในตำราโบราณ มีเรื่องราวและความลับของจ้าวเทวะหยวนเทียนบันทึกไว้อย่างคลุมเครือ
ในคลังสมบัติลับของจ้าวเทวะหยวนเทียน มันดูเหมือนจะมีห้องหนึ่งที่เก็บรักษาของหายากเอาไว้
หากค้นพบและได้รับมัน เจ้าจะสามารถสร้างสุดยอดรุ่นเยาว์ไร้เทียมทานขึ้นมาได้
หลังจากที่จีเสวียนได้รับโอกาสนี้ เขาตื่นเต้นอย่างยิ่งและอดทนรอคอยการเปิดออกของคลังสมบัติลับจ้าวเทวะหยวนเทียน
และตอนนี้ เวลาที่รอคอยก็ใกล้มาถึง
“ตราบใดที่ข้าสามารถคว้าโอกาสนี้ได้ ข้า จีเสวียน จะพุ่งทะยานสู่สวรรค์และยืนอยู่บนจุดสูงสุดท่ามกลางเหล่ารุ่นเยาว์ในดินแดนอมตะหวงเทียน”
“เมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะกวาดล้างสุดยอดรุ่นเยาว์แห่งสามตระกูลจักรพรรดิให้หมดด้วยตัวข้าเอง ใครมันจะหยุดข้าได้?”
จินตนาการถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต จีเสวียนสูดหายใจลึก ดวงตาของเขาเป็นประกายโชติช่วง
ในเวลาเดียวกันที่ประตูเมืองหนานเทียน ร่างหนึ่งในผ้าคลุมตัวและหมวกปิดหน้าได้เดินผ่านประตู
ร่างนั้นเงยหน้าเผยให้เห็นความหล่อเหลาอันละเอียดอ่อน เขาคือเซียวเฉิน!
(หากมีคำแนะนำหรือข้อติเตียน สามารถคอมเมนท์เพื่อบอกกล่าวได้นะครับ ^ ^ ขอบพระคุณมากครับที่สละเวลาอ่านจนจบ)