ตอนที่ 50 ความจริงของคดี(อ่านฟรี)
ตอนที่ 50 ความจริงของคดี
สำนักงานเหนือมนุษย์แจ้งว่าจะส่งผู้ตรวจสอบและเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษมาหน่วยหนึ่งที่หมู่บ้านผาริมธาร ในระหว่างนั้นลุคก็แจ้งเรื่องภารกิจไล่ล่ากวาดล้างหมูป่าจอมตะกละเสร็จสิ้นกลับไปด้วย
หลังจากรออยู่เกือบ 2 ชั่วโมงเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเหนือมนุษย์ส่งมาก็มาถึง ผู้ตรวจสอบที่ส่งมาทำให้เขาแปลกใจอยู่ไม่น้อย เพราะเธอคือคามิล
คามิลมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยพิเศษ 12 คนพร้อมกับรถหุ้มเกราะที่ใช้ขนส่งนักโทษเหนือมนุษย์โดยเฉพาะ
“นายนั้นเอง” คามิลเผยรอยยิ้มออกมา
“ผมก็ไม่คิดว่าจะเป็นคุณ” ลุคกล่าวและยิ้ม
“ดูพลังนายจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมากนะ แล้วพวกเขาอยู่ที่ไหน”
“พวกเขาอยู่ด้านใน”
“ไปดูพวกเขาก่อน ระหว่างเดินไปช่วยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังหน่อย”
ลุคพยักหน้า ก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่มาที่นี่ จนท่าทางของพวกนั้นที่แยกตัวในตอนทำภารกิจ ก่อนที่เขาจะเจอพวกนั้นที่ถ้ำบอส คำสารภาพที่พวกนั้นพูดว่าตัวเองเป็นอาชญากรและลุคยังบอกเรื่องสมุนไพรวิเศษไปด้วย
ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากปิดบัง ถึงเขาจะไม่เล่า แต่ถ้าคามิลสอบปากคำพวกนั้นก็ต้องรู้อยู่ดี
“สมุนไพรวิเศษ!” คามิลหยุดเดินหันกลับมามองลุคด้วยความตกใจอย่างชัดเจน
“ใช่ เป็นดอกบัววารี”
“นายคิดจะขายไหม”
“ไว้คุยกับคนที่เหลือก่อน”
ลุคไม่รีบตอบตกลงหรือปฏิเสธ
“อือ...” คามิลไม่ถามต่อ ตามกฎแล้วคนที่เจอเป็นคนที่ได้ และถ้าลุคจะแบ่งกับคนในทีมก็เป็นเรื่องของเขา สิ่งที่คามิลและสำนักงานเหนือมนุษย์ทำได้คือการขอซื้อเท่านั้น
คามิลเปิดประตูเข้าไปในห้องที่กริวและฟิวถูกจับมัดไว้ด้วยโซ่ ทั้งสองคนเป็นเหนือมนุษย์จึงมีพละกำลังมากทำให้ต้องใช้โซ่มัด แถมในระหว่างนั้นสองคนก็ตื่นขึ้นมาเป็นระยะ ทำให้ต้องให้บอสตันคอยทุบให้พวกเขาสลบอยู่
บอสตันกำลังใช้หอกทุบกริว แต่พอเห็นคนเข้ามาก็หยุดมือ
“คุณคือ...”
“ฉันเป็นผู้ตรวจสอบที่สำนักงานเหนือมนุษย์ส่งมาจัดการเดียวที่เหลือฉันจัดการต่อเอง” คามิลกล่าว
บอสตันพยักหน้าตกลงถอยออกมายืนอยู่ข้าง ๆ ลุค
คามิลใช้แหวนเครือข่ายไกอาในฟังก์ชันตรวจสอบอาชญากรของเธอที่เชื่อมต่อกับฐานข้อมูลความปลอดภัยของสหพันธรัฐ แหวนสแกนใบหน้าทั้งสองคนก็พบข้อมูลอาชญากรจริง ๆ
“กริวและฟิวสองคู่หูวิปริตที่มีหมายจับ 17 คดีแบ่งเป็นฆาตกรรม 10 คดี ปล้นชิงทรัพย์วัตถุต่างมิติ 7 คดี ไม่ผิดตัวแน่นอน” คามิลโบกมือให้เจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษเข้าไปใส่กุญแจมือทั้งสอง
“จะปลอดภัยเหรอ” บอสตันถามอย่างกังวล
“ไม่ต้องห่วงกุญแจนี่สร้างมาจากวัตถุต่างมิติต่อให้เป็นเหนือมนุษย์คลาส D ก็ทำลายมันไม่ได้” เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยพิเศษที่จับทั้งสองคนใส่กุญแจมืออยู่ตอบกลับบอสตัน
ลุคหันไปบอกเรื่องที่เขาสงสัยกับคามิล “ผมสงสัยว่าทำไมสองคนนี้ถึงลงรับภารกิจและผู้ใหญ่บ้านก็ปล่อยผ่านให้พวกเขามาทำภารกิจได้”
“นายกำลังจะบอกว่าผู้ใหญ่บ้านเป็นพวกเขา” คามิลหันไปถาม
“ผมแค่เดา แต่ยังมีข้อสงสัยอยู่ รถที่ควรจะมารับกลับไม่มา คนที่มารับพวกเราคงเป็นคนของหัวหน้าหมู่บ้านด้วยแต่ทำไมเขาไม่พูดเรื่องนี้”
“ลองดูนี่” คามิลกดเปิดรูปและเลื่อนมาที่เบื้องหน้าของลุค
“ศพ!” ลุคเผยแววตาตื่นตกใจ ก่อนจะขมวดคิ้ว สมองเขาทำงานอย่างรวดเร็วจนได้ข้อสรุป
“ฆ่าสวมรอย”
“อืม” คามิลพยักหน้ายืนยันคำตอบ ก่อนจะอธิบายเพิ่มว่า “ก่อนหน้านั้นประมาณ 1 ชั่วโมงเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่พบศพ 3 ศพและรถอีกคันถูกจอดทิ้งไว้แถวป่าไม่ไกลจากสถานีรถไฟ สองในสามศพเป็นเหนือมนุษย์ เดาว่าสองคนนี้คงฆ่าคนขับรถและฆ่าเหนือมนุษย์สองคนนั้น ก่อนจะสวมรอย”
“แต่แหวนเครือข่ายไกอาปลอมแปลงไม่ได้ไม่ใช่เหรอ” ลุคพูดถึงตอนนี้ก็พึ่งนึกขึ้นได้
“ถูกต้องผู้ใหญ่บ้านไม่ได้เป็นเหนือมนุษย์เขาไม่มีแหวนเครือข่ายไกอา แต่เขาได้รับการแจ้งเรื่องรหัสจากทางการว่าจะมีฮันเตอร์ไปจัดการ พวกเขาคงบังคับเอารหัสกับชื่อมา”
ลุคนึกไปถึงตอนที่มาถึงที่นี่ ผู้ใหญ่บ้านแทบไม่ได้ตรวจสอบอะไรเขามากเลย เพราะกำลังร้อนใจกับเรื่องของหมูป่าจอมตะกละมาก
“แต่ยังไงก็ต้องสอบปากคำผู้ใหญ่บ้าน นายจะไปด้วยไหม”
“คงไม่ ผมยังมีเรื่องต้องไปจัดการ”
“เรื่องภารกิจเดี๋ยวฉันจะส่งคนไปตรวจสอบให้เลย ยังไงซะก็เกี่ยวกับเรื่องคดีของสองอาชญากรนี้พอดี”
“ขอบคุณครับ ถ้างั้นผมขอตัวก่อน”
ลุคกล่าว ก่อนจะขอตัวแยกไปรวมกับบอสตันและเดินไปหาไอกะที่กำลังนั่งเฝ้าน้ำตาวารีและรากบัวไม่ห่างไปไหน เธอกลัวว่าถ้าเผลออาจจะมีคนขโมยมันไป
“มันไม่หายไปหรอก” ลุคกล่าวกับเธอ
“ไม่...ถ้ามันหายไปฉันคงรับผิดชอบไม่ไหว” ไอกะรีบตอบ เธอไม่ได้ร่ำรวยดังนั้นถ้าหายขึ้นมาต่อให้ขายตัวเธอก็คงไม่พอชดใช้
“ก็จริง ถ้าหายไปพวกคุณคงจะเสียใจแย่ที่พลาดเงินมากขนาดนั้น” ลุคกล่าวก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้
“ก็จริง” บอสตันเดินมานั่งข้าง ๆ แต่ก็ต้องดีดตัวยืนขึ้นเพราะตกใจกับคำพูดของลุค ไอกะเองก็ยืนด้วยความตกใจเช่นกัน สายตาของทั้งสองมองไปที่ลุค
“มีอะไรเหรอ”
“นายบอกว่าของเรา มัน...มันหมายถึง...พวกนี้เหรอ”
“เปล่า ผมเป็นคนเก็บได้ แต่ยังไงพวกคุณก็เป็นคนในทีมและครั้งนี้ก็เสี่ยงอันตราย เพราะภารกิจที่ยากกว่าเดิม ดังนั้นผมจะแบ่งน้ำตาวารีให้คนละ 1 หยด”
“1 หยด เท่ากับ 15 ล้าน พูดจริง...จริงใช่ไหม” ไอกะถามด้วยเสียงสั่น
“อืม แต่ว่าในอนาคตผมอาจจะชวนพวกคุณมาตั้งทีม หวังว่า...”
“ตกลงฉันตกลง” ไอกะตอบทันควัน
“ผมก็ไม่มีปัญหา” บอสตันตอบรับด้วยความตื่นเต้นเหมือนกัน
ลุคเผยรอยยิ้มออกมา ถึงน้ำตาวารี 1 หยดจะมีค่าเท่ากับ 15 ล้านเครดิต หรือเท่ากับ 30 ล้านเครดิตที่เขามอบให้กับทั้งสองคน เขาไม่ได้รู้สึกเสียดาย เพราะสิ่งที่ได้รับกลับมามันคุ้มค่ากว่านั้น
ไอกะเป็นเหนือมนุษย์ที่มีพลังพรสวรรค์ ลุคเชื่อว่าถ้ากิลด์ในเมืองรู้ข้อมูลเธอเมื่อไหร่จะต้องพากันเสนอสัญญาให้เข้าร่วมกับกิลด์และเสนอสัญญาที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านเครดิตแน่นอน
ส่วนบอสตันเขาเป็นเหนือมนุษย์ที่จัดเป็นตัวชนที่แข็งแกร่งได้แน่นอน
การที่ลุคยอมให้น้ำตาหยดวารีกับทั้งสองเพราะต้องการซื้อใจและชวนพวกเขาเข้าทีมไว้ก่อน เขามีความคิดในการตั้งทีมตั้งแต่เข้าไปในชิ้นส่วนโลกต่างมิติเมื่อครั้งก่อน ถ้ามีทีมเขาจะสามารถซื้อชิ้นส่วนและเก็บทุกอย่างไว้ได้
แต่นี่เป็นแผนในมุมสว่างของเขาเท่านั้น
“ฮือ...”
แต่แล้วอยู่ ๆ ไอกะก็ร้องไห้ออกมาทำเอาลุคและบอสตันตกใจมองหน้ากันทันที
“เป็นอะไรไหม” ลุคถามเธอ
“เปล่า ฉันก็แค่..แค่ดีใจเท่านั้น เงิน 15 ล้านมันจะช่วยให้ฉันจ่ายหนี้บ้านที่กำลังจะโดนยึดได้” ไอกะเริ่มเล่าเรื่องของเธอ
หลังจากที่สามีเสียชีวิตลงจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอคือคนที่รอดมาได้เพราะโชคดีปลุกพลังเหนือมนุษย์ขึ้นมาได้ ซึ่งเป็นผลมาจากการฉีดยากระตุ้นเมื่อนานมาแล้ว
แต่ถึงจะรอดมาได้เธอก็ต้องชดใช้ค่าเสียหายจำนวนมากให้กับทางคู่กรณี จนต้องจำนองบ้านกับธนาคาร แถมเธอยังกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องเลี้ยงลูกอีกสองคน เธอต้องดินรนทุกอย่าง สุดท้ายก็ตัดสินใจมาเป็นเหนือมนุษย์หวังล่ามอนสเตอร์หาเงินจ่ายค่าบ้านและเลี้ยงลูก
ลุคถอนหายใจที่ได้ฟังเรื่องของเธอ
‘ทุกคนมีปัญหาของตัวเองทั้งนั้น’ ลุคกล่าวในใจ
บอสตันไม่ได้มีท่าทางแปลกใจ เพราะเขารู้เรื่องพวกนี้อยู่ก่อนแล้ว
“ติดต่อพวกคุณหน้าก่อน เนื้อมอนสเตอร์ที่พวกคุณฆ่าอยู่ที่ริมลำธาร ให้พวกเขามาขนมันไปก่อนมืดเถอะ แล้วก็น้ำตาหยดวารี ถ้าคุณไม่ได้คิดจะใช้มันก็ขายมันให้กับทางนายหน้าไปเลยก็ได้ ราคามันสูงอีกหน่อยคงมีคนรู้เรื่องของมันมากขึ้น มันอาจจะนำอันตรายมาได้” ลุคแนะนำเพิ่มเติม
“อืม” ไอกะตอบตกลง
“แล้วซากมอนสเตอร์ของคุณละ” บอสตันสอบถาม
“ไม่มี” ลุคตอบสั้น ๆ ก่อนจะกลับเดินออกมา แต่เขาก็นึกขึ้นได้ “พวกคุณมีรถใช่ไหม”
“ใช่” บอสตันพยักหน้า
“ผมติดรถไปลงที่สถานีรถไฟด้วยได้ไหม”
“ที่จริงพวกเราจะต้องเอารถไปคืนร้านเช่าด้วย เรากลับรถไฟไปพร้อมกันเลยไหม”
“ก็ดีเหมือนกัน” ลุคพยักหน้าตกลง
พวกเขารอให้นายหน้าของหอการค้าหีบสมบัติในพื้นที่มาถึงบอสตันและไอกะก็ขายซากมอนสเตอร์ทั้งหมดให้กับนายหน้า ไอกะยังขายหยดน้ำตาไปด้วยในราคา 17.5 ล้านเครดิต ซึ่งสูงกว่าราคาปกติ 2.5 ล้านเครดิต
นับว่าเป็นเงินที่มหาศาลมากสำหรับเธอ
หลังจากนั้นพวกเขาก็ออกจากหมูบ้านผาริมธาร ซึ่งตอนที่ออกมาว่าค่อนข้างวุ่นวายมาก เพราะพวกนักข่าวหูตาว่องไวที่ได้กลิ่นข่าวใหญ่ก็พากันแห่มาที่หมู่บ้านผาริมธารเป็นจำนวนมาก
แสงสีจากรถทำตรวจและไฟรถสาดไปทั่วทั้งหมู่บ้านทำเอาบรรยากาศเงียบเหงาในหมู่บ้านกลายเป็นคึกคักจนชาวบ้านก็พากันออกมานอกบ้านเพื่อรวมสนุกกับความวุ่นวายนี้ด้วย
ระหว่างที่รถผ่านทุ่งนาทั้งสองฝั่ง ลุคที่นั่งอยู่เพราะหน้าหันกลับไปมองป้ายหมู่บ้านที่เคยเห็นตอนขามา แสงอาทิตย์ยามเย็นสาดส่องลงมาทำให้วิวที่นี่สวยงามมาก
ถ้าไม่มีอันตรายจากมอนสเตอร์บุกโจมตี พื้นที่ชนบทถือว่าเป็นสิ่งที่น่าอยู่อาศัยมากที่สุดสำหรับลุคเลยก็ว่าได้
กว่าพวกเขาจะไปถึงสถานีท้องฟ้าก็มืดแล้ว บอสตันเอารถไปคืน ส่วนไอกะกับลุคไปซื้อตัวของตนเองและให้บอสตัน จากนั้นพวกเขาก็ไปนั่งรอรถที่ชานชาลาไม่นานรถไฟความเร็วสูงที่วิ่งมาจากสถานีนอกเมืองก็วิ่งเข้ามา ทั้งสามขึ้นรถไฟและกลับเข้าไปในเมืองปลายฝนอีกครั้ง
“มืดจนได้ เจนกินอะไรหรือยัง” ลุคหยิบโทรศัพท์ตัวเองออกมาโทรไปหาน้องสาวด้วยความเป็นห่วง แต่หลังจากโทรติดแล้วกลับไม่มีใครรับสาย จนกระทั่งสายตัดไปเอง
ลุคมองดูหน้าจอโทรศัพท์ของเขา ก่อนจะขมวดคิ้วชนกันด้วยสีหน้ากังวล